
ตลอดการดำเนินงานกว่า 3 เดือน หลังจากการกลับมาจากค่าย โครงการเยาวชนเศรษฐกิจพอเพียงในวันที่ 13-16 มิถุนายนที่ผ่านมา พวกเราได้เริ่มการดำเนินงานกันอย่างต่อเนื่องโดยการยึดหลักคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มาเป็นแนวทางหลักในการดำเนินงานในเรื่องต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการวางแผนอย่างรอบคอบและมีเหตุผล การพอประมาณต่อสิ่งที่พวกเรานั้นมีอยู่ การมีความรู้และการศึกษาสิ่งต่างๆรอบตัวอยู่เสมอ และที่สำคัญที่สุดคือการดำเนินการแก้ไขปัญหาในการดำเนินการต่างๆ โดนตลอดระยะเวลาการทำงาน และการดำการต่างๆของพวกเรากลุ่มเยาวชนจิตอาสา เราได้พบเจอกับปัญหามากมาย ที่เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็น เรื่องของ น้ำท้วม ซึ่งมีผลกระทบต่อการทำโครงการของพวกเราอย่างเด่นชัด การจัดเวลาที่พวกเรามีไม่ค่อยตรงกันซะเป็นส่วนใหญ่ และการได้มิตรภาพในการทำงานอีกมากมายกับกลุ่มแกนนำการทำโครงการที่เข้ามาสมัครเป็นจิตอาสาทำให้โครงการของพวกเรานั้นดำเนินการมาได้จนถึงขั้นตอนการสรุปงาน จากผลการประชุมในที่ประชุมพวกเราได้ข้อสรุปที่แน่ชัดว่า เราควรสรุปผลการดำเนินงานจากกลุ่มนักเรียนในโรงเรียนมากกว่าการที่พวกเรานั้นสรุปกันเองในไม่กี่คน ดังนั้นพวกเราจึงได้คิดกันว่าเรานั้นจะทำออกมาในรูปแบบใดจึงจะมีความสะดวก และดูไม่เป็นทางการมากจนเกินไปจึงได้ จัดทำแบบ check in ความรู้สึก ขึ้นซึ่งเป็นการนำแนวคิดมาจากการไปเข้าค่ายของพวกเรามาปรับใช้ โดยการแจกเป็นใบเล็กๆซึ่งเหมาะกับการการแจกได้ในทุกๆที่ และมีการทำการสัมภาษณ์ความรู้สึกกับพี่ๆ น้องๆ ภาคในโรงเรียนเพื่อให้เราได้ข้อมูลที่หลากหลายรูปแบบ และชัดเจนมากที่สุด
จากการทำงานที่ผ่านมาเราได้รับความร่วมมือจากหลายๆฝ่ายที่คอยให้การสนับสนุนเสมอมาจึงทำให้โครงการของพวกเรานั้นสามารถสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ในบางครั้งถึงแม้ว่าจะมีอุปสรรคมากมายมาทำให้เราได้ฝ่าฝัน แต่เมื่อพวกเราคิดและวางแผนร่วมกันเป็นทีม การทำงานของพวกเราก็สำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณ คุณครูปรารถนา ศรีวิศาลศักดิ์ ที่คอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการทำโครงการ การน้อมนำหลักคิดอย่างมีเหตุผลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมาเป็นหลักคิดในการทำงาน ขอขอบคุณท่านวิทยากรทั้งสองท่านของเราคือ นายรัฐศักดิ์ สันตานนท์ และนายอลงกรณ์ ช่างประดิษฐ์ ที่มาให้ความรู้ในการดำเนินการทำน้ำหมักชีวะภาพให้ได้สูตรที่เหมาะต่อการดำเนินโครงการของเรามากที่สุด และที่ขาดไม่ได้คือมูลนิธิสยามกัมมาจล ที่ให้โอกาสพวกเราแกนนำจิตอาสาได้เข้าไปทำการเรียนรู้การเป็นจิตอาสาที่ดี พร้อมกับการนำหลักคิดต่างๆของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการทำโครงการให้ประสบผลสำเร็จ
ณ ปัจจุบันการทำโครงการของพวกเราได้ดำเนินการมาจนกระทั้งถึงขั้นตอนของการสรุปผลการดำเนินงานจากการทำโครงการที่พวกเราได้ทำการดำเนินการมาตลอดในหลายๆเดือน ที่ผ่านมาเราจึงทำการ check in ความรู้สึก จากผู้ที่เข้ามาใช้ห้องน้ำในแต่ละวัน เพื่อเป็นการหาข้อมูลในการสรุปผลการดำเนินงานการทำโครงการซึ่งสิ่ง สิ่งนี้ทำให้เรานั้นได้ทราบถึงความพึงพอใจจากผู้ที่ใช้ห้องน้ำได้ว่าจากผู้ที่ที่เราได้ทำการดำเนินการสำรวจนักเรียนกว่า 1028 คน จากนักเรียน 1500 คนภายในโรงเรียนลาซาลจันทบุรี (มารดาพิทักษ์) ซึ่งเป็นสถานที่ในการดำเนินโครงการของพวกเราเเกนนำจิตอาสาชีวะภาพดับกลิ่น จึงได้ข้อสรุปจากแบบประเมินความพึงพอใจได้ดังนี้ว่า
-ดีมาก 506 คน (คิดเป็น49.2%)
- ดี 313 คน (คิดเป็น30.45%)
- พอใช้ 141 คน (คิดเป็น13.72%)
- ปรับปรุง 47 คน (คิดเป็น4.57%)
- แย่มาก 21คน (คิดเป็น2.04%)
ซึ่งเป็นการสรุปผลการดำเนินการที่ทำใจพวกเราแกนนำจิตอาสามีความพึงพอใจเป็นอย่างมากเพราะจาการการดำเนินการ การทำโครงการที่ผ่านมาเรามีการเปรียบเทียบความรู้สึกของผู้ที่ใช้ห้องน้ำทั้งก่อนและหลังการทำโครงการจากการทำการสำรวจทั้งก่อนและหลังทำให้เราทราบถึงความเปลี่ยนแปลงจากก่อนการทำน้ำหมักและหลังจากการทำน้ำหมักได้อย่างชัดเจน