อภิสิทธิ์ ยอมใหญ่ : บทสัมภาษณ์เยาวชนเด่น โครงการเรือพลีส เรือเร็วแห่งสายน้ำ

นายอภิสิทธิ์ ยอมใหญ่ (บอย) อายุ 22 ปี

เคยเรียนที่โรงเรียนแสงธรรมวิทยาตรังมูลนิธิ

อาชีพ: ก่อสร้าง

ตำแหน่ง: สมาชิก ช่างภาพ ตัดต่อวิดีโอ

โครงการเรือพลีส เรือเร็วแห่งสายน้ำ

­­

ถาม ขอให้แนะนำตัวเอง

ตอบ ผมชื่อบอย นายอภิสิทธิ์ ยอมใหญ่ ตอนนี้ทำงานก่อสร้าง อยู่โครงการเรือพลีส เรือเร็วแห่งสายน้ำ


ถาม ให้บอยเล่าถึงตัวเองความสนใจนิสัยพฤติกรรมของเราเป็นอย่างไร

ตอบ เมื่อก่อนผมเป็นคนที่ขี้โมโหมาก ใครเถียงมาผมก็เถียงกลับ เป็นคนอารมณ์ร้อน มีเรื่องชกต่อยบ้าง ตามประสาวัยรุ่น


ถาม ช่วยเล่าตอนที่เราเข้าสู่วงการมอเตอร์ไซค์

ตอบ ตอนนั้นกลับมาไม่มีอะไรทำก็เลยรวมตัวกัน กับเพื่อน ๆ ไปแว้นกันตอนกลางคืนในหมู่บ้าน ตอนนั้นรู้สึกสนุกและรู้สึกว่าสุดยอดแล้ว ความสนุกอยู่ที่ความเร็วรถว่าของใครแรงกว่าถือว่าเจ๋ง ท่อของใครดังกว่าถือว่าสุดยอดแล้ว ผมเป็นคนไม่ชอบเรียนจบแค่ ม. 3 ที่โรงเรียนแสงธรรมวิทยาตรังมูลนิธิ จากนั้นก็มาเรียนต่อที่บ้าน ตอนนั้นเป็นช่วงวัยรุ่นสนใจการเที่ยวมากกว่า เพื่อนไปไหนผมไปด้วยกลางคืนก็เที่ยวกลางวันก็เที่ยว พ่อแม่ก็ให้กลับมาอยู่บ้านผมติดเพื่อนชอบอยู่กับเพื่อนมากกว่า เพราะสนุกเป็นกันเอง จะพูดอะไรก็พูดได้ กลับมาอยู่บ้านได้ 4 - 5 ปี แล้วตอนนี้ทำงานก่อสร้าง


ถาม ก่อนหน้านี้ตอนไปเรียนไปอยู่ที่ไหน

ตอบ อยู่ที่เกาะลิง เป็นโรงเรียนปอเนาะ เป็นโรงเรียนสอนศาสนา ที่นาป้อทับเที่ยงในเมือง กลับมาอยู่บ้านทำงานก่อสร้างตอนเย็นเลิกงานก็ไปแว้นกับเพื่อน เป็นประจำ ชอบแต่งรถของใครสวยก็ว่าเจ๋งในกลุ่มของผมเพื่อนก็แต่งรถกันทุกคน ในกลุ่มของพวกผมไม่มั่วสุมเรื่องน้ำท่อม (น้ำต้มใบกระท่อม) ถ้ากินน้ำท่อมฉี่สีม่วง ก็ไม่ได้เที่ยว


ถาม บอยเข้ามาทำงานโครงการนี้ได้อย่างไรก่อนหน้านี้เคยทำงานชุมชนมาก่อนไหม

ตอบ ก่อนหน้านี้ถ้ามีงานอะไรในชุมชนผมก็ไปช่วย เข้ามาโครงการนี้เพราะจ๊ะจิ๋มชวน ทำงานช่วยชุมชนเป็นงานอาสาสมัคร เช่น เก็บขยะ พ่อของผมเป็นผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านพอมีงานชุมชนอะไรผมก็ไปช่วยทำ


ถาม ให้ช่วยเล่าเรื่องของต้นตระกูลของเราที่ทำเรื่องการต่อเรือ ว่าเป็นมาอย่างไร

ตอบ ตระกูลของผมเป็นช่างต่อเรือมาตั้งแต่รุ่นของปู่ ตาผมเป็นช่างต่อเรือชื่อนายสิน ช่วงนั้นราคาเรือลำละ 2 - 3 พันบาท ราคานี้ถือว่าแพง พี่ของผมหัดทำเรือพลีส พี่ของผมชื่อนายเสรี ลู่เด็นบุตร ได้หัดทำและดัดแปลงเรือพลีสให้เป็นทรงที่ใหญ่กว่า เร็วกว่า พี่ผมเป็นนักแข่งเรือ เป็นแช้มป์ปีล่าสุด ผมอยากเป็นเหมือนพี่ จึงหัดทำเรือพลีสจำลอง


ถาม แสดงว่า ผีมือช่างและความสนใจในเรือพลีส ส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่นและความสนใจของเด็กแต่ละรุ่นด้วยใช่ไหม

ตอบ ใช่ครับ 


ถาม ถ้าเราเป็นคนในตระกูลแต่ไม่สนใจเรือพลีส ได้ไหม

ตอบ ได้ครับอยู่ที่ความชอบ อยู่ที่ว่าแต่ละรุ่นว่าจะทำอย่างไรให้เรืออย่างไรให้สวย


ถาม ตอนที่จ๊ะจิ๋มชวน ทำไมเราตัดสินใจที่จะทำโครงการนี้

ตอบ ผมเห็นน้อง ๆ มาสอบถามพี่ของผมความเป็นมาและการทำเรือพลีส และผมทำเป็นอยู่แล้ว ผมอยากช่วยน้อง ๆ จึงเข้าร่วมมาในกลุ่มด้วย


ถาม แสดงว่าพี่เราเป็นผู้รู้ในชุมชน เด็ก ๆ ที่ทำโครงการนี้ไปถาม เราอยู่ในเหตุการณ์ จึงสนใจ ทำไมถึงน่าสนใจในสิ่งที่น้อง ๆ อยากรู้

ตอบ ผมอยากบอกน้อง ในสิ่งที่ผมรู้แต่น้องไม่รู้ ให้ความรู้น้องไป น้องเขาอยากรู้ว่าความเป็นมาของเรือพลีส ผมก็บอกให้น้องเขาได้รู้


ถาม เราทำหน้าที่อะไร

ตอบ สมาชิก ผมเข้ามาไม่นานนี้ เข้ามาตอนค่ายที่ภูผายอด ครับ


ถาม ความเปลี่ยนแปลงของบอย เปรียบเทียบก่อนและหลังร่วมโครงการเป็นอย่างไร

ตอบ ผมเปลี่ยนเมื่อมาคบกับน้อง ๆ เพื่อน ๆ ในกลุ่มช่วยบอกผมว่า “ช่วยเบาอารมณ์ลงหน่อย” ผมก็ลดอารมณ์ของตัวเองลง พอมาอยู่กับน้อง ๆ ต้องใจเย็นลงน้องเขาเด็กกว่า ผมเป็นรุ่นพี่ต้องเป็นตัวอย่างให้กับเขา แรก ๆ ผมเข้ามา ผมเป็นคนแรง ๆ ใครทำอะไรผิดผมก็ด่าอย่างเดียว ตอนที่ผมด่าเขา น้องคงเสียใจ พอเขาพูดขึ้นผมก็ฟังออก ผมฟังและกลับมาคิดที่บ้านว่า น่าจะจริงเพราะผมเป็นคนอารมณ์ร้อน วันหลังผมก็พูดจาให้ดีขึ้น


ถามทำไมถึงเปลี่ยน บอยรู้สึกอย่างไรในตอนนั้น

ตอบ เมื่อผมด่าน้อง ๆ เขาน้ำตาซึมก็มีเพราะผมด่าแรง ผมด่าแล้วน้องร้องไห้ ผมก็ว่าน้องหยาบมาก ประมาณว่า ไอ้สัตว์ ไอ้เหี้ย หลายอย่าง บางครั้งถึงขั้นด่าพ่อแม่ก็มี ผมรู้สึกไม่สบายใจ


ถาม บอยเปลี่ยนวิธีพูดใหม่อย่างไร

ตอบ ผมเป็นคนอารมณ์ร้อนและมักใช้คำหยาบ พ่อแม่ที่บ้านก็บอกด้วยว่า อย่าใช้คำหยาบกับลูกคนอื่นเขา เพราะจะทำให้น้องเขาเสียใจ ผมกลับไปขอโทษและเปลี่ยนพูดดีกับน้อง น้องก็ดีใจ หลังจากนั้นผมก็ปรับอารมณ์ร้อนให้น้อยลง ช่วงนี้ผมดีขึ้นมากครับ ผมได้พบเพื่อนนอกหมู่บ้าน เขาพูดดีมีมารยาท เขามีความน่ารักพูดสุภาพ มีน้ำใจ ในสิ่งที่ผมไม่รู้เขาก็บอกผมหลายอย่าง ผมอยู่ในหมู่บ้านผมรู้สึกว่าผมพูดหยาบ พอออกมานอกหมู่บ้านเห็นเพื่อนเขาพูดเพราะ พูดเก่ง เห็นเพื่อนแล้วผมก็นำมาปฏิบัติกับตัวเองให้ดีขึ้น วางตัวและปรับตัวให้เขากับคนอื่น

เมื่อก่อนผมไม่กล้าแสดงออก ผมไม่ชอบถือไมค์ อายคน เพื่อน ๆ หัดผมให้กล้าแสดงออก กล้าจับไมค์ พูดออกเวที ทำบ่อยๆ เกิดความเคยชินก็กล้าขึ้น ตอนที่ไปดูงานในชุมชนของเพื่อน บ้านมดตะนอย ช่วงพักเที่ยงเขาให้ทุกคนแบ่งกลุ่มกัน แล้วให้ตัวแทนกลุ่มออกมาเล่าแนะนำว่าในหมู่บ้านมีอะไรบ้าง ผมเป็นตัวแทนในวันนั้น ผมเล่าว่าหมู่บ้านผม มีที่ท่องเที่ยว มีตลาด มีกุ้ง หอย ปู ปลามากมาย จากนั้นเลยกล้าพูดกล้าแสดงออก จากช่วงแรกที่ผมสั่น


ถามการเปลี่ยนแปลงในระดับโครงการของเรือพลีสทำให้เรามีกิจกรรมยามว่าง เห็นคุณค่าเรือพลีสในชุมชน และไม่ขี่รถมอเตอร์ไซด์ เป็นอย่างไร

ตอบ ก่อนหน้านี้เวลาว่าผมก็แว้น ซิ่งรถในหมู่บ้าน ตอนนี้พวกผมมีกิจกรรมมากขึ้น ไม่มีเวลาว่างไปซิ่งรถ เอาเวลามาทำเรือพลีสจำลองไว้ เพื่อขายคนที่มาซื้อในเพจ เมื่อก่อนแว้นไปวัน ๆ ให้ชาวบ้านได้ด่าก็สบายใจแล้ว


ถาม ตอนที่ทำเรือพลีสจำลอง รู้สึกอย่างไร

ตอบ เป็นความชอบส่วนตัว ผมนั่งทำได้ทั้งวัน ในสิ่งที่ผมชอบ ผมมีความสุข ตอนไปก็คิดไปว่าจะทำทรงแบบไหนให้สวยกว่าเดิม คิดไปได้เรื่อย ๆ


ถาม การทำเรือพลีส ช่วยสร้างความคิดสร้างสรรค์

ตอบ ครับ ผมดูเรือพลีสของคนอื่นจาก Facebook ลายและการลงสีของพวกเขาสวยกว่าของผม เวลาที่นั่งทำเรือพลีส ผมก็คิดว่าจะทำให้สวยเหมือนของเขาอย่างไร ผมก็ทำเรือพลีสขึ้นมาอีกลำหนึ่งทำสุด ๆ ก็ยังได้เท่านี้ แต่เรือลำต่อ ๆ ไป น่าจะดีขึ้นกว่านี้ ผมก็คิดไปเรื่อย ๆ ลำใหม่ยังไม่เสร็จ แต่ใหญ่กว่าเดิม


ถามอะไรที่ดึงดูดให้ทำได้ทั้งวัน

ตอบ เป็นเรื่องทำให้เพลิน กลุ่มเพื่อนผมทำแล้วเพลิน นั่งทำแล้วก็พูดคุยกันไปได้ทั้งวันเรื่องเรือพลัส นั่งคิดว่าจะทำทรงแบบไหน ใครจะทำออกมาดูดีกว่า แลกเปลี่ยนกับเพื่อน ต้องมีความตั้งใจ ต้องมีสมาธิตอนทาสี


ถาม สำนึกพลเมืองของเราเป็นอย่างไรบ้าง จากตอนที่ฟังตาเล่า หรือเห็นคนต่อเรือ

ตอบ ตอนประถมที่ผมทำอยู่ ผมทำเรือพลีสแต่ทรงไม่สวย ตอนนั้นผมยังทำกับปู่สองคน พี่ผมยังไม่ได้เริ่มทำ พอผมทำไปสักพักปู่ทำต่อไม่ไหว พี่ของผมมาทำต่อ พี่ของผมคิดแหวกแนวคิดว่าทำอย่างไรให้สวยกว่าเดิม มีรายละเอียดของการระบายสี ผมได้ฝึกทำกับพี่ของผมที่บ้าน พี่คอยสอนวิธีการทำเรือ ผมนั่งคิดว่า ผมจะได้ไหม ผมมานั่งทำที่บ้านแต่ทำไม่ได้ ออกมาไม่สวย พี่ผมจึงแนะนำเรือก็ออกมาพอดูได้ หัดทำฝีมือก็ดีขึ้นจนถึงปัจจุบัน


ถาม มุมมองที่เปลี่ยนไปจากตอนประถมไหม จากที่ได้ฟังเรื่องราวจากปู่หรือตอนที่พี่สอน

ตอบเห็นตอนที่ปู่บอกเรื่องความเป็นมาของเรือพลีสว่ายากขนาดไหน กว่าจะได้มาหนึ่งลำในตอนนั้น ผมรู้สึกว่าอยากสืบต่อให้น้อง ๆ ได้ดูว่าเรือพลีสเป็นมาอย่างไร กว่าจะได้มาใช้หนึ่งลำ ไม่ง่ายอย่างที่คิด


ถาม ทำไมน้องถึงต้องรู้เรื่องนี้

ตอบ ผมอยากรู้เรื่องเรือพลีส เมื่อก่อนผมไม่รู้ พอผมนั่งฟังปู่เล่าตอนที่ทำเรือพลีส ผมได้ถามปู่ว่าความเป็นมาเป็นอย่างไร ปู่เล่าก็ให้ฟัง ผมคิดว่าต้องทำเรือให้เป็นให้น้อง ๆ ได้ดูในยุคหลัง ที่นี่ส่วนใหญ่เขาใช้เรือพลีสทำมาหากิน จึงอยากให้น้อง ๆ ได้รู้ ความเป็นมา


ถาม บอยรักหมู่บ้านนี้ขึ้นไหม อย่างไร

ตอบรักมากขึ้น ในความสุขที่คนในชุมชนเขามอบให้พวกผม การอยู่ทำมาหากินในหมู่บ้านนี้มีความเป็นธรรมชาติดี มีเพื่อนที่อยู่ร่วมกัน


ถาม เรื่องราวที่ประทับใจในโครงการนี้มีอะไรบ้าง

ตอบ มีเพื่อนมาเที่ยวในหมู่บ้าน ผมก็ดีใจ เพื่อนจากบ้านปากแจ่ม ตะเหมก ผมพาไปลองคลองหากุ้ง เคย พาไปตลาดให้เห็นรอยยิ้มของเพื่อน ๆ มีความสุขในการท่องเที่ยวผมก็ดีใจ เพื่อนบอกว่าหมู่บ้านผมเป็นธรรมชาติ คนในหมู่บ้านพูดจาเป็นมิตร ผมรู้สึกภูมิใจในสิ่งที่มีอยู่ในหมู่บ้านของตัวเอง


ถาม ปัญหาอุปสรรคที่เจอมีอะไรบ้าง

ตอบ อุปสรรคเวลาที่เรานัดรวมตัวทำเรือพลีส บางคนทำงาน ไม่มีเวลา บางคนไม่ว่าง มาทีบางวันมาสองสามคน เพราะทำงานคนละอย่างกัน ในการทำเรือมาไม่พร้อม ผมแบ่งหน้าที่ไว้ ว่าใครทำอะไร พอมาไม่พร้อมกันก็ทำให้ทำงานได้ช้าลง ทำไม่ได้ ผมแก้ปัญหาโดยนัดล่วงหน้า เพื่อน ๆ จะได้บอกพี่ ๆ ว่าจะทำเรือ หาวันว่างให้ตรงกัน เรื่องอื่น ๆ พวกผมก็ทำกันดี ไม่อะไร


ถาม เรื่องยากของบอยสำหรับตัวเองในการทำโครงการนี้

ตอบ การทำงานเป็นทีม ต้องช่วยเหลือกันในทีม แบ่งหน้าที่ บางคนทำบ้างไม่ทำบ้าง ผมรู้สึกน้อยใจในบางครั้ง เห็นใจเพื่อนที่เขาทำ บางคนพูดแล้วก็นั่งเฉย นั่งเล่นโทรศัทพ์ ตอนนี้ดีขึ้นแล้ว แก้ปัญหาคือตอนนั้นเพื่อนนั่งเล่นโทรศัพท์ผมก็เดินเข้าไป ไม่พูดอะไร เอาโทรศัพท์ของเพื่อนมา บอกว่าไปทำงานก่อนเล่นโทรศัทพ์ ผมพูดดี ๆ เขาก็มองหน้า และไม่เป็นไร เพื่อนกันพูดกันรู้เรื่อง ผมบอกเขาว่าให้เป็นเวลา ทำงานก็ทำงาน เล่นก็คือเล่น พอดีว่าผมเป็นพี่ใหญ่ในทีมพูดอะไรเขาค่อนข้างจะเชื่อผม


ถาม จากการทำโครงการนี้มีการเรียนรู้เรื่องอะไรบ้าง

ตอบ เรื่องการรับผิดชอบมากขึ้น เมื่อก่อนผมไม่รับผิดชอบได้งานมาทำบ้างไม่ทำบ้าง โยนให้เพื่อน พอเข้ามาในกลุ่ม ผมเป็นพี่ต้องรับผิดชอบเอง โยนให้น้องไม่ได้ ก็มีความตั้งใจและรับผิดชอบมากขึ้น ในการทำเรือพลีส คอยสอนน้อง สิ่งที่น้องไม่รู้ ผมก็อธิบายให้น้องฟัง ผมรู้ขั้นตอนทั้งหมด ผมเปลี่ยนตอนที่อยู่ในกลุ่ม เขามอบงานมา ผมเป็นคนที่รับผิดชอบในกลุ่ม แบ่งหน้าที่ให้น้อง ๆ ทำให้เสร็จ ถ้าไม่เสร็จ ผมพูดสองสามคำงานก็เสร็จ ผมไม่ทิ้งไป เพราะพอเราอายุมากขึ้นก็มีความคิดมากขึ้น ผมก็ช่วยหลาย ๆ อย่าง ได้งานอะไรมาผมไม่เกี่ยง


ถาม เกิดจากการที่เราโตสุด รู้เรื่องเรือเยอะสุด และรักอยากทำให้สำเร็จใช่ไหม

ตอบ ครับ ผมได้เรียนรู้ในเรื่องความสามัคคี การช่วยเหลือกันในทีม ในกลุ่มผมแบ่งงาน ทุกคนทำงานดี ไม่เล่นทำในสิ่งที่ผมมอบให้จนเสร็จ เขามีความพยายามสูง พูดจากันดี ไม่เกี่ยงกัน ทำงานให้เสร็จ ผมต้องแนะนำในสิ่งที่ผมรู้ให้น้อง ๆ ทำงานจนจบ

ฝึกเป็นผู้นำกลุ่ม สิ่งที่เขาทำไม่ไหว เมื่อผมมอบงานให้เขาในชิ้นงานนั้น ผมก็ต้องช่วยกัน บางคนทำไม่เสร็จผมก็ต้องไปช่วยเขาทำให้เสร็จ เช่น ทาสี บางคนทำไม่เสร็จ ผมก็เลยทาสีให้เสร็จดูดีขึ้น บางคนมือยังไม่นิ่ง ผมก็ต้องทำให้เสร็จ


ถาม บอยมีความรับผิดชอบ จากที่เล่า มีความรู้อะไรที่เพิ่มขึ้นบ้าง หรือค้นพบอะไรในตัวเองเพิ่มบ้าง

ตอบ ผมมีความใจเย็นลงมาก เพื่อนในกลุ่มทำงานพูดจาไม่สุภาพ บางคนมาพูดให้ผมฟัง ผมใจเย็นลงมากถ้าเป็นเมื่อก่อนมาพูดแบบนี้ก็โดนไปแล้วครับ เก็บอาการเวลาที่คนอื่นพูด ผมก็อยู่เฉย ๆ เก็บอาการเอาไว้ เวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น


ถาม ถ้ามีใครมาพูดไม่ดี แบบอารมณ์เสีย พูดกับเราหรือพูดถึงน้องในกลุ่ม เป็นเมื่อก่อนเราจะเถียง มีเรื่อง ตอนนี้เราเลือกวิธีการนิ่งเฉย

ตอบ เก็บเอามาคิด


ถาม พอเปลี่ยนแบบนี้เรารู้สึกอย่างไร

ตอบ รู้สึกมีเพื่อนมากขึ้น เมื่อก่อนไม่มีใครคบผม เพราะผมเป็นคนชอบด่า ตอนนี้ผมมีเพื่อนมากขึ้น เมื่อก่อนใครทำมาทำกลับ แต่ตอนนี้เป็นคนใจเย็น และเก็บเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็อยู่เฉย ๆ กลับมาบอกเพื่อน บอกพ่อบอกแม่ดีกว่า


ถาม บอยชอบตัวเองที่เป็นแบบนี้

ตอบ ชอบครับ เมื่อก่อนก็ชอบตัวเองเหมือนกัน แบบแนวเด็กอารมณ์ร้อน ตัวเองก็เจ๋ง สุดยอดแล้ว แต่พอโตขึ้น ความคิดเปลี่ยนไป เมื่อก่อนไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้ ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้ว


ถาม อยากบอกอะไรกับตัวเองตอนเด็กที่ยังเป็นคนอารมณ์ร้อน

ตอบ ถ้าอยากบอกอยากบอกให้อย่าใช้อารมณ์มากเกินไป พูดอะไรให้ฟังไว้ ไม่ต้องตอกกลับเพราะบางคนอายุมากกว่าเรา ทำให้เราดูไม่ดี


ถาม ชอบขั้นตอน หรือ กิจกรรมช่วงไหนที่สุด

ตอบ ชอบกิจกรรม ได้ร่วมมือกันทำกิจกรรมในทีม และร่วมกิจกรรมกับเพื่อน ๆ ภายนอก


ถาม ความเป็นทีมสำคัญอย่างไรกับเรา

ตอบ สำคัญเพราะว่า พวกเรา ถ้าแบกคนเดียวยากในสิ่งที่ผมรู้ ยังมีสิ่งที่ผมไม่รู้ เพื่อนรู้ก็บอกผม ในสิ่งที่เพื่อนไม่รู้ผมก็บอกเพื่อน นี่คือทำงานเป็นทีม เป็นการแลกเปลี่ยนความรู้กัน


ถาม เราถาม ปรึกษาจ๊ะจิ๋ม เรื่องอะไรบ้าง

ตอบ เรื่องการทำงาน สิ่งที่ผมไม่รู้ ก็ไปถามพี่ ๆ เช่น เรื่องไม่เข้าใจงานเก็บข้อมูลที่เขาให้มา ก็ถามพี่เลี้ยงว่ามีขั้นตอนทำงานอย่างไร ไปถามว่า “พี่เลี้ยงจะให้เก็บข้อมูลอะไรบ้าง”


ถาม เวลาที่มีปัญหาในกลุ่ม ปรึกษาใครบ้าง

ตอบ พี่เลี้ยง เพื่อน


ถาม พี่เลี้ยงช่วยอย่างไรบ้าง

ตอบ ช่วยเรียบเรียงงาน สิ่งที่ผมทำไม่เป็นก็ไปถามพี่เลี้ยงว่าทำอย่างไร จ๊ะจิ๋มก็แนะนำมา บางงานผมเรียงลำดับไม่ถูกก็ไปถาม


ถาม จ๊ะจิ๋มเล่าว่าทำงานกับกลุ่มเด็กผู้ชาย ว่าให้อิสระไม่ตามงาน วิธีการนีดีไหมหรืออย่างไร

ตอบ วิธีนี้ดี เป็นกันเองเพิ่มมากขึ้น พวกผมไม่ชอบให้ใครบังคับในสิ่งที่ทำอยู่ ทำแบบนี้ก็จะไปเรื่อย ๆ งานก็ทำกันเอง พอมีคนมาบังคับจะกดดัน อย่างไรก็ไม่รู้ วิธีนี้ทำให้พวกผมมีความรับผิดชอบมากขึ้น


ถาม วิธีการที่จ๊ะจิ๋มทำกับพวกเราทำให้เรามีความกระตือรือล้น และรับผิดชอบด้วยตัวเอง ทำด้วยตัวเองได้

ตอบในบางสิ่งผมก็ถามพี่เลี้ยงบ้าง

ถาม บอยคิดว่าเรามีคุณสมบัติอะไรในตัวเองเพิ่มขึ้น

ตอบ สังคมยอมรับสิ่งที่ผมทำมากขึ้น ในการทำงานร่วมกัน ยอมรับซึ่งกันและกันมากขึ้นในกลุ่ม มีความคิดสร้างสรรค์เพิ่มขึ้นในการทำเรือ ผมออกแบบให้สวยขึ้น วิ่งเร็วขึ้น ตอนนี้ผมกำลังออกแบบใช้มอเตอร์ในการวิ่งให้เร็วขึ้น กำลังคิดอยู่ การเป็นผู้รู้เรื่องเรือ ผมอยากทำแบบนั้นแต่ต้องศึกษาไปอีก สิ่งที่ไม่รู้ผมต้องไปถามพี่ ๆ อีก


ถาม ตอนที่เราเป็นเด็กเรามีความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้วใช่ไหม

ตอบ มีครับ ชอบทำอะไรที่แหวกแนวกว่าคนอื่น


ถาม พอมาทำโครงการนี้ทำให้บอย เจอคุณสมบัตินี้ที่ชอบทำอะไรแตกต่าง มีความคิดสร้างสรรค์ แบบนี้ใช่ไหม

ตอบ ครับ


ถาม อนาคตอยากทำอะไร

ตอบ อยากเป็นช่างต่อเรือ เพราะผมชอบสิ่งนี้อยากสืบทอดให้น้อง ๆ ได้ดูไว้ ทำเรือแข่ง ทำเรือขาย สร้างรายได้ให้ครอบครัว


ถาม ก่อนหน้านี้เคยคิดเรื่องนี้ไหม

ตอบ ผมคิดมาตั้งแต่เด็กแล้วครับ ผมชอบตั้งแต่เด็ก


ถาม ตอนนี้เรารู้สึกว่าอยากต่อเรือ และส่งต่อความรู้เรื่องต่อเรือให้น้อง ๆ ทำไมถึงอยากเป็นช่างต่อเรือ

ตอบ ชอบครับ ความชอบ เป็นความฝันของผม แต่ยังเป็นไม่ได้เพราะว่าฝีมือยังไม่ถึง ยังต้องถามพี่ ๆ


ถาม คิดว่าคุณสมบัติ ความคิดสร้างสรรค์ และการเรียนรู้ รับผิดชอบ ยอมรับฟังผู้อื่นมากขึ้นด้วย มีสมาธิ สิ่งที่บอยมีจะช่วยส่งเสริมอาชีพช่างต่อเรือของบอยไหม

ตอบ ส่งเสริมเรื่องการต่อเรือมากขึ้น ต้องใช้สมาธิสูง ต้องใจเย็น ไม้ต่อเรือหลายแบบต้องใจเย็น ใจร้อนไม่ได้ ใช้เวลา


ถาม อนาคตอยากทำอะไรที่เกี่ยวกับเรือพลีสต่อ

ตอบ อยากเปิดห้องสักห้องเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้เรื่องเรือพลีสให้กับคนข้างนอก ว่าความเป็นมาของเรือพลีสเป็นอย่างไร ใครนำเรือพลีสเข้ามา


ถาม บอยอยากสอนใคร

ตอบ เพื่อน ๆ น้อง ๆ นอกหมู่บ้านที่เขาอยากรู้ แต่ยังไม่กล้าถาม


ถาม สินค้าโอทอป ที่จะทำเรือแข่งติดมอเตอร์ การแข่งเรือ เรายังทำอยู่ไหม เรือพลีสจะสร้างรายได้อย่างไร

ตอบ กำลังคิดเรื่องติดมอเตอร์ให้เรือแข่งในหมู่บ้านตัวเองก่อน ทดลองว่าจะวิ่งได้เร็วจริงไหม ถ้าวิ่งได้จริง ผมคิดว่าจะจัดแข่งเป็นงานประจำปี เพราะจังหวัดตรังมีงานแข่งเรือประจำปีหลายที่ เช่น หาดสำราญ


ถาม บอยจะสร้างเรือเล็กติดมอเตอร์ หรือเรือใหญ่ที่มีการแข่งขัน

ตอบ ตอนนี้ผมจะทำเรือเล็กก่อน เป็นเรือจำลองเล็กแล้วก็ติดมอเตอร์ มือบังคับ


ถาม จะขยายต่อเป็นรายได้ไหมหลังจากเราสร้างเสร็จ

ตอบ สร้างรายได้ให้ครอบครัวและหมู่บ้าน เพราะคนจะรู้จักหมู่บ้านผมมากขึ้น ว่าใครเป็นเด็กที่ไหนทำ


ถาม ชาวบ้านหมู่บ้านเปลี่ยนมุมมองต่อพวกเรา มองวัยรุ่นชื่นชมที่มาสนใจเรื่องเรือพลีส พอชาวบ้านพูดอย่างนี้รู้สึกอย่างไร

ตอบ ชาวบ้านกลุ่มนี้เมื่อก่อนเขาตำหนิในสิ่งที่พวกผมทำ เขาตำหนิเพื่อให้พวกผมดีขึ้น รู้สึกดีที่ชาวบ้านเขาได้พูด ได้ทำให้ผมมีวันนี้ ถ้าเขาไม่ตำหนิผมก็ยังเป็นแบบนั้น ไม่รับผิดชอบอะไร


ถาม แสดงว่าคำตำหนิของชาวบ้าน เป็นแรงผลักดันให้บอยมาทำโครงการนี้

ตอบ ประมาณนั้น และความชอบของผมเองในเรื่องเรือพลีส


ถาม เราทำเรือพลีสเกิดประโยชน์ เปลี่ยนแปลงตัวเอง และได้พิสูจน์ให้ชาวบ้านเห็นว่า เราทำตัวเป็นประโยชน์ได้

ตอบ ครับ


ถาม ถ้ามองบอยในอดีตที่ขับรถเป็นวัยรุ่นหัวร้อนกับบอยที่รับผิดชอบไม่เกี่ยงงานแบบนี้ เป็นพี่ใหญ่ดูแลและสอนน้อง ๆ มองตัวเองในอดีตอย่างไร

ตอบ ในอดีตเป็นคนไม่ดี เป็นตามประสาวัยรุ่น ช่วงนั้นผมอยากลองทุกสิ่งว่าจะสนุกท้าทายไหม ตอนนี้อายุมากขึ้นคิดได้ในสิ่งที่เขาพูด สิ่งที่เขาด่าเราเอามาปฏิบัติให้ดีขึ้น เมื่อก่อนเขาด่าเรามาด่ากลับ ตอนนั้นคิดว่าดีแล้ว พอโตขึ้นก็คิดว่าไม่น่าทำแบบนั้นกับผู้ใหญ่


ถาม อยากชวนน้อง ๆ ในวัยนั้นเข้ามาทำกิจกรรมไหม

ตอบ อยากชวนเขามาทำกิจกรรม ทำให้รู้ว่าเป็นการพัฒนาตัวเองในสิ่งที่ไม่รู้เพื่อนก็ช่วยบอกให้รู้