งานพัฒนาศักยภาพภาคี เรื่อง ทักษะกระบวนกรพัฒนาเยาวชน
วัตถุประสงค์
- เพื่อพัฒนาทักษะพื้นฐานการเป็นโค้ช การออกแบบการเรียนรู้ การถอดบทเรียนการเรียนรู้ สำหรับเจ้าหน้าที่โครงการ
- เพื่อเปิดพื้นที่ (platform) ในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้จากการปฏิบัติจริงของเจ้าหน้าที่โครงการ ที่ทำหน้าที่ Coach
ระยะเวลาในการอบรม 4 ครั้ง (เมษายน - กันยายน 2558)
ครั้งที่ 1 งานพลังกลุ่มและความสุข (วันที่ 28 - 30 เมษายน 2558)
- การสื่อสาร การฟัง พื้นฐานด้านจิตใจและโลกทัศน์ของกระบวนกร
- การทำงานเป็นทีม
- การเป็นผู้นำ ผู้ตาม
ครั้งที่ 2 ทักษะพื้นฐานกระบวนกร (วันที่ 26 - 29 พฤษภาคม 2558)
- การตั้งคำถามกระตุ้นคิดอย่างลึกซึ้ง การฟังด้วยหัวใจ
- การจับประเด็น
- การดำเนินการจัดประชุมแบบมีส่วนร่วม
- อุปสรรค และแนวทางแก้ไขการจัดประชุม
ครั้งที่ 3 ทักษะการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ (วันที่ 22 - 25 กรกฎาคม 2558)
- ทักษะ และกรอบวิธีคิดในการออกแบบให้เข้าถึงเนื้อหา
- การเรียนรู้เพื่อการเปลี่ยนแปลงภายใน
- ฝึกนำกระบวนการ และสรุปบทเรียนครบกระบวนการ
ครั้งที่ 4 ทักษะการสรุปบทเรียน (วันที่ 7 - 10 กันยายน 2558)
- การสรุปบทเรียนการทำงานของเยาวชน
- การตั้งคำถาม - การฟัง - การจับประเด็น
วิทยากร ทีมเสมสิกขาลัย
สรุปการอบรม
การฝึกทักษะกระบวนกรขั้น 2 : การออกแบบกระบวนการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม
สำหรับภาคีเครือข่ายผู้ขับเคลื่อนงานด้านเด็กและเยาวชน (Active Citizen)
สนับสนุนโดยมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)
วันที่ 22 - 25 กรกฎาคม 2558
ณ เรือนร้อยฉนำ กรุงเทพมหานคร
วันที่ 22 กรกฎาคม 2558
แนะนำตัว
- ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น
- สุข ทุกข์ของชีวิตในช่วงเดือนที่ผ่านมา
- ความรู้สึกที่ได้มาอบรม (เฉพาะผู้มาใหม่)
สุข ทุกข์ของชีวิตในช่วงเดือนที่ผ่านมา
- กังวลเรื่องสุขภาพ
- สุขจากประสบการณ์การได้ไปเที่ยวพักผ่อนไปต่างจังหวัด
- โดยภาพรวมมีความสุข
- ทุกข์เกี่ยวกับการเดินทางไปทำงานบ่อย
- กังวลเรื่องการบ้านของการอบรมฯ
- ทุกข์/หงุดหงิด จากการกระทำและคำพูดของตนเอง
- สุขที่ได้กลับบ้าน ได้อยู่บ้าน
- เหนื่อย/กดดันจากการทำงาน แต่ก็มีความสุข
- สุขที่ได้เรียนรู้ ได้ทำสิ่งใหม่ๆ
- มีความสุข/สนุกกับการทำงานและการลงพื้นที่
- สุขที่ได้เจอเพื่อนในเครือข่าย
- สุขที่ได้เห็นผลงานจากการทำงานเห็นความร่วมมือของทีมงาน
- กังวลเกี่ยวกับเรื่องงาน
- ได้เรียนรู้จากทั้งความสุขและความทุกข์
- ได้นำสิ่งที่เรียนรู้ในการอบรมครั้งก่อนไปใช้
- หลังจากมาอบรมครั้งที่แล้วรู้สึกมีความมั่นใจในการทำกิจกรรมมากขึ้น
- สุขที่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้ มีความสามารถมากขึ้น
ความรู้สึกที่ได้มาอบรม (เฉพาะผู้มาใหม่)
- ดีใจที่ได้เข้าร่วม
- รู้สึกดีที่ได้มานิ่งเพื่อมองตัวเองอีกครั้ง
- ตื่นเต้น
- ดีใจที่ได้มาเรียนรู้สิ่งใหม่ เพื่อเอาไปปรับใช้
ข้อตกลงร่วมกัน
- อยู่ร่วมอบรมอย่างต่อเนื่อง
- รับฟังกันอย่างใส่ใจ
- ปิดเสียงโทรศัทพ์มือถือ งดการใช้เครื่องมือสื่อสารระหว่างอบรม
- สะท้อนกันอย่างตรงไปตรงมา ด้วยท่าทีที่เป็นมิตร
- ใจกว้างกับตนเองและเพื่อนในการฝึกและสะท้อนกัน
เนื้อหาในการอบรมครั้งนี้ (TOT#2)
- เป้าหมายการเรียนรู้ / องค์ประกอบของการเรียนรู้
- การออกแบบการเรียนรู้
- กิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรง การถอดทบเรียนเพื่อการเรียนรู้ร่วมกัน
- ศิลปะในการสะท้อนการทำงาน
กิจกรรม สั่งฆ่า
โจทย์ : วางกลยุทธเพื่อสั่งฆ่าทีมตรงข้ามให้ได้มากที่สุด
กติกา : ให้ทั้งสองทีมเขียนชื่อเล่นของตัวเอง แล้วสลับรายชื่อกับอีกทีมหนึ่ง ให้ทีมใดทีมหนึ่งเริ่มส่งรายชื่อของคนที่ต้องการสั่งฆ่าให้กับผู้นำกิจกรรม หากรอบต่อไปผู้ที่ถูกทีมตรงกันข้ามสั่งฆ่านั้นเป็นผู้ออกมาส่งรายชื่อก็จะถูกเก็บ (ต้องออกจากการเล่น) มีเวลารอบละ 3 วินาที สามารถส่งรายชื่อซ้ำได้
เป้าหมายการเรียนรู้ สิ่งที่เราอยากให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลง คือ
- ความคิด ความเชื่อ มุมมองใหม่ๆ ทัศนคติ ความรู้
- พฤติกรรม การแสดงออก การกระทำ เปลี่ยนไปจนกลายเป็นนิสัยจนเกิดร่องพฤติกรรมใหม่
- ทักษะ ความสามารถ ทำจนคุ้นเคยและเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆอาชีพ การใช้ชีวิต
- ไหวพริบปฏิภาณ
- เกิดมโนธรรม สำนึกทางสังคม
- รู้จักตนเอง เห็นศักยภาพ
- เข้าใจจิตใจ รู้เท่าทันอารมณ์ ความรู้สึก มีความมั่นคงภายใน มีจิตใจที่เข้มแข็งสามารถกับการเผชิญกับความผันแปรของโลกภายนอก
- เกิดความเปลี่ยนแปลงทางด้านปัญญาที่ลุ่มลึก รู้เท่าทันความจริง ไม่ยึดมั่นถือมั่น
ปัจจัยที่สำคัญในการสร้างกระบวนการเรียนรู้
- ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน
- กำหนดเนื้อหาที่จำเป็น สำหรับใช้ในการเรียนรู้ร่วมกัน
- กระบวนการเรียนรู้แบบผ่านประสบการณ์ตรง กิจกรรม วิธีการสอน
- การสรุปบทเรียน ถอดบทเรียน การแลกเปลี่ยนจนเกิดความรู้มวลรวมของกลุ่ม
- บรรยากาศการเรียนรู้
- เป็นพื้นที่ที่รู้สึกปลอดภัย ไม่เสี่ยง มีเสรีภาพในการแสดงออก
- สถานที่พร้อม ไม่มีอุปสรรคต่อการแลกเปลี่ยน สอดคล้องกับเป้าหมายการเรียนรู้/เนื้อหา
- กลุ่มเป้าหมาย / ผู้เรียน
- ควรทราบพื้นฐาน / ความหลากหลายของผู้เรียน
- รู้จุดมุ่งหมาย ความต้องการของผู้เรียน
- ความเชื่อมโยงระหว่างผู้เรียนกับกระบวนกร ลดช่องว่างระหว่างกัน
- คุณสมบัติของผู้จัดการเรียนรู้ / กระบวนกร
- กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ภายใน
- มีทักษะพื้นฐาน เช่น การตั้งคำถาม การฟัง
- มีความมั่นคงภายใน ลดตัวตน
- เชื่อมั่นในศักยภาพของผู้เรียน เข้าใจความหลากหลายในการเรียนรู้ เห็นช่องทางในการเรียนรู้ของแต่ละคน
- มีพื้นที่ปฏิบัติจริงหลังการเรียนรู้ เนื้อหากระบวนการควรนำไปใช้จริงได้ เชื่อมโยงกับชีวิตจริง
- จัดเวลาให้เหมาะสมกับผู้เรียน มีอุปกรณ์เครื่องมือช่วยในการเรียนรู้
วิธีการออกแบบการเรียนรู้
- เข้าใจเบื้องลึกของเป้าหมาย และแยกองค์ประกอบของเนื้อหา
- ใช้กระบวนการผ่านประสบการณ์ตรงที่สอดคล้องกับเนื้อหา
- เห็นเงื่อนไข เบื้องหลังของกิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรงนั้นๆ
ลักษณะของกระบวนการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง (กิจกรรม)
- กิจกรรมที่ได้เห็น ได้ลงมือทำเอง และทำให้เราเข้าใจบทเรียนด้วยตัวเอง (ต่างจากการรับจากประสบการณ์มือสองของกระบวนกร) มีรูปแบบกิจกรรมคือ
- เกมส์ สถานการณ์จำลอง
- การลงพื้นที่ การทำงานจิตอาสา
- การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจใหม่ๆ (ขึ้นอยู่กับเนื้อหาและวัตถุประสงค์การพูดคุย)
- การลงมือทำโครงการ
- ศิลปกรรม
- บทบาทสมมติ
- การสัมผัสกับธรรมชาติ เดินป่า ธรรมยาตรา
ความสำคัญของการเรียนรู้ผ่านประสบการณ์
- ทำให้ทราบว่าตนเองทำดีหรือไม่ อย่างไร ควรปรับปรุงอะไร
- ผู้เรียนเข้าใจง่ายขึ้น เข้าถึงเร็วขึ้น
- มีความรู้บางอย่าง ความจริงบางชุดที่ไม่สามารถอธิบายผ่านภาษาพูดหรือภาษาเขียนได้ กิจกรรมผ่านประสบการณ์ช่วยให้เรียนรู้ได้ เช่น ประสบการณ์การรู้ธรรมบางอย่าง
- เมื่อเรียนรู้ผ่านประสบการณ์ตรง ทำให้เกิดการเรียนรู้ที่ลึกซึ้งยั้งยืน เพราะนำไปเชื่อมโยงกับตนเอง และเนื่องจากมีการเปิดประตูการเรียนรู้ที่มากกว่าเพียงแค่การฟัง (เปิดประสาทสัมผัสหลายมิติ)
- เกิดการเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคนตั้งแต่ความคิดไปจนถึงพฤติกรรม
- เกิดบรรยากาศการเรียนรู้ที่ไม่น่าเบื่อ
- เกิดทักษะที่สามารถนำไปใช้ได้จริง จากการลงมือทำหรือฝึกฝน
- ทำให้ก้าวข้ามข้อจำกัดของตนเอง ขยายพื้นที่การเรียนรู้
- ได้เรียรู้ที่จะเผชิญกับอัตตา (ตัวตน) ของตอนเองอย่างชัดเจน และเกิดการสั้นสะเทือนตัวตน ลดความยึดมั่นถือมั่น
ลักษณะของกิจกรรมที่ดี
- สัมพันธ์กับเป้าหมายที่ตั้งไว้ สัมพันธ์กับเนื้อหา
- ง่ายต่อความเข้าใจของผู้เรียน ตัวกิจกรรมไม่ซับซ้อน
- รูปแบบของกิจกรรมสัมพันธ์กับกลุ่มเป้าหมาย ทั้งวัย ความหลายหลาย ความต้องการ และข้อจำกัดของกลุ่ม
- วางเงื่อนไขให้มีความสัมพันธ์กับชีวิตจริง เมื่อทำแล้วสามารถนำไปใช้ในชีวิตจริงได้ (โดยผ่านการสังเกตเงื่อนไขในชีวิตจริงบ่อยๆ)
- มีความเสี่ยงในระดับหนึ่งทำให้ผู้เรียนออกจากพื้นที่คุ้นเคย (comfort zone) ที่เอื้อให้เกิดภาวะท้าทายในการเรียนรู้ (Learning Zone) แต่ต้องไม่ถึงกับเป็นพื้นที่อันตราย (alarm zone)
- ผู้เรียนได้ลงมือทำจริง มีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อน เชื่อมโยงกับตนเอง เรียนรู้ผ่านหลายช่องทาง
- มีหลุมพรางแห่งการเรียนรู้ ที่ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนภายในตัวผู้เรียน
วิธีการออกแบบกิจกรรม
ผู้ออกแบบกิจกรรมควรตื่นตัวต่อการเรียนรู้ หมั่นสงสัยใคร่รู้ จับบริบทและเงื่อนไขของเนื้อหานั้นในชีวิตจริง โดยใช้วิธีคิดแตกองค์ประกอบ
วิธีที่ 1 ใช้เป้าหมายและเนื้อหาเป็นตัวตั้ง (ผูกโจทย์ &เงื่อนไข เข้ากับเนื้อหา) : คิดใหม่
- แตกเนื้อหาที่ต้องการให้เกิดการเรียนรู้
- คิดเงื่อนไขที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ : ต้องหมั่นสังเกต วิเคราะห์ เชื่อมโยงกับชีวิตจริง
- ทดลองทำในกลุ่มกระบวนกร รับฟังข้อคิดเห็น ปรับแก้ไขจนลงตัว
- ทำจริงกับผู้เรียน หมั่นสังเกต เก็บข้อมูลเพื่อนำมาปรับพัฒนา
ปัจจัยเสริม
- หมั่นสังเกตการจัดกิจกรรมของกระบวนกรท่านอื่นนำมาวิเคราะห์ ทบทวน
- ซักถามข้อสงสัย เรียนรู้เพิ่มเติม จากกระบวนกรท่านอื่น
- หมั่นดูกระบวนการจากสื่อต่างๆ นำมาวิเคราะห์ ผูกโยง ปรับ เป็นกิจกรรมใหม่
- มีคลังข้อมูลเรื่องการออกแบบกิจกรรม
- เปิดพื้นที่การเรียนรู้ของตนเองให้หลากหลาย
วิธีที่ 2 พัฒนาจากกิจกรรมเดิม (Copy & Development)
- ต้องรู้ว่ากิจกรรมนำไปสู่เรื่องอะไร (สังเกตผลจากพฤติกรรมผู้เรียน)
- ทราบโจทย์ วิธีการ กติกาอย่างแม่นยำ
- เห็นเงื่อนไขสำคัญของกิจกรรมว่าส่งผลให้เกิดอะไร
- ปรับเงื่อนไขของกิจกรรมให้เหมาะสมกับเป้าหมาย เนื้อหาที่เราต้องการ
- ทดลองทำ ตั้งข้อสังเกตปรับปรุงจนลงตัว
โจทย์(การบ้าน)
- ออกแบบกระบวนการ โดยให้เนื้อหา เป้าหมาย เป็นตัวตั้ง
- เวลาทำกิจกรรม 25 นาที
- กลุ่มช่วยสะท้อนกระบวนการ 30 นาที
วันที่ 23 กรกฎาคม 2558
กิจกรรม ฝึกออกแบบกระบวนการใหม่ (รอบที่ 1)
- ให้แบ่งกลุ่มย่อย 3 กลุ่ม
- โดยให้แต่ละคู่ ฝึกออกแบบกระบวนการ คนละ 25 นาที เพื่อนสะท้อน 30 นาที
หมายเหตุ รายละเอียดกิจกรรมอยู่ในภาคผนวก
คำถามเกี่ยวกับการฝึกออกแบบกิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรง
- ถาม จำเป็นหรือไม่ที่กิจกรรมต้องมีเป้าหมาย / เนื้อหาการเรียนรู้เพียง 1 อย่าง
- ตอบ การออกแบบจำเป็นต้อง
- เข้าใจกระบวนการนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ
- มีการทดลองทำกิจกรรม เฝ้าสังเกต และนำข้อมูลจากกลุ่มเป้าหมายมาปรับแก้ไข และพัฒนาตลอดเวลา
- จัดวางเงื่อนไขในกิจกรรมให้นำไปสู่บทเรียนที่ต้องการ
- จำกัดขอบเขตของเนื้อหาชัดเจน
- เข้าใจขอบเขตและความเชื่อมโยงของเนื้อหาชัดเจน
- การมีเป้าหมายน้อย ทำให้ง่ายต่อการสรุปบทเรียนและเกิดการเรียนรู้ต่อผู้เรียน
- มีเป้าหมายชัดเจน (ต้องแตกเนื้อหา)
- เข้าใจธรรมชาติของกิจกรรมนั้นๆ
- ถาม มีเกณฑ์ในการพิจารณาว่ากิจกรรมนำไปสู่บทเรียนได้อย่างแท้จริงหรือไม่
- ตอบ สังเกตขณะทำกิจกรรม สังเกตจากข้อมูลการสรุปกิจกรรมของกลุ่ม รับฟังเสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วม
- ถาม ผู้เข้าร่วมควรเกิดการเรียนรู้ ตอนไหนจึงจะเป็นกิจกรรมที่ดี (กระบวนกรควรบอกว่าจะได้รียนรู้อะไรก่อนการทำกิจกรรมหรือไม่)
- ตอบ ในช่วงที่ทำกิจกรรม ควรสร้างความสั่นสะเทือนภายใน เชื่อมโยงจนนำไปสู่การเรียนรู้ภายในตน (เกิดการเรียนรู้ที่สดใหม่ขณะทำกิจกรรม)
- ถาม เวลาที่เหมาะสมในการทำกิจกรรมที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้
- ตอบ ไม่มีระยะเวลาตายตัว ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของกิจกรรม , เนื้อหาที่ต้องการให้เกิดการเรียนรู้ และการตอบสนองของผู้เรียน จึงต้องมั่นสังเกตกระบวนการ และปรับให้เหมาะสม
- ถาม เกณฑ์ในการรักษากติกา
- ตอบ ถ้าเป็นเงื่อนไขสำคัญที่ก่อให้เกิดการเรียนรู้ ต้องรักษาอย่างเคร่งครัด
ข้อสังเกต
- สามารถที่จะจัดกิจกรรมไปพร้อมกับการพูดคุยแลกเปลี่ยนเป็นระยะได้ เพื่อเป็นวิธีการหนึ่งในการเข้าสู่เนื้อหา (ไม่จำเป็นต้องสรุปบทเรียนหลังจากทำกิจกรรมเสร็จเสมอไป)
- การหล่อเลี้ยงจินตนาการ
- คนเรามีความคิดสร้างสรรค์อยู่แล้ว แต่มันจะตกร่องความคิดแบบกลไก ที่มักจะทำลายจินตนาการ ลองจินตนาการในเรื่องที่ดูเป็นไปไม่ได้ คิดออกจากกรอบเดิม
- หมั่นมีวินัยในการสร้างจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์
- จับสังเกตสิ่งรอบตัว เอามาคิดต่อ
โจทย์ (การบ้าน)
- คิดกระบวนการเรียนรู้จะเป็นกิจกรรมใหม่ หรือปรับปรุงจากกิจกรรมเดิมหรือไม่
- ใช้เวลาในการทำกิจกรรม และถอดบทเรียน ๕๐ นาทีพร้อมทั้งออกแบบแนวคำถามมาไว้ล่วงหน้าด้วย
วันที่ 24 กรกฎาคม 2558
การสรุปบทเรียน คือ
- การทบทวนภายในจากสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต เพื่อเรียนรู้จากสิ่งนั้นๆ (จากเหตุการณ์ จากผู้คน จากความผิดพลาด ฯลฯ) และนำไปใช้ในอนาคต
- เราสามารถสรุปบทเรียนได้จาก กิจกรรม การทำงาน บุคคล ประวัติศาสตร์
การสรุปบทเรียนจากกิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรง
ประโยชน์และความสำคัญ
- เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนระหว่างกันทำให้ ความคิดชัดขึ้น เห็นมุมมองที่หลากหลาย
- เพื่อให้เกิดการทบทวนตรวจสอบทบเรียนภายใน เกิดการเรียนรู้ร่วมกันระหว่างผู้เรียน นำไปสู่การต่อยอดทางความคิด
- เกิดการตรวจสอบกับข้อมูลความรู้ หรือมุมมองในอดีต นำไปสู่การปรับความคิด ทัศนคติ (ตอกย้ำความถูกต้อง หรือเห็นความผิดพลาดเพื่อมองหาลู่ทางใหม่ๆ)
ปัจจัยที่ช่วยในการสรุปบทเรียน
- จุดประสงค์ของกิจกรรมที่จัด
- ความเข้าใจในสาระสำคัญของเนื่องหาการเรียนรู้เงื่อนไขของกิจกรรม
- มีวิธีคิดที่ชัดเจน คือ
- การจัดเรียนเนื้อหาหรือความคิดที่กระจัดกระจายให้เป็นลำดับ ขั้นตอน
- สิ่งที่ช่วยให้ความคิดเป็นระบบ
ตัวอย่างวิธีคิด
- การแยกแยะองค์ประกอบเพื่อให้เข้าใจ เข้าถึงสิ่งนั้น อย่างแยกแยะและเห็นความเชื่อมโยง คำถาม “มันประกอบไปด้วยอะไร?”
- สืบสาวหาเหตุ ใช้เพื่อค้นหาที่มาของปัญหา หรือสภาพที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน คำถาม “มันเกิดจากอะไร”
- อริยสัจสี่ เพื่อวิเคราะห์การแก้ปัญหา
- สภาพปัญหา (ทุกข์)
- แยกแยะองค์ประกอบคำถาม “มีสภาพเป็นอย่างไร” “อาการเป็นอย่างไร” (เพื่อสกัดสภาพปัญหา ให้เข้าใจปัญหาอย่างแท้จริง)
- สาเหตุ (สมุทัย)
- สืบสาวหาเหตุ คำถาม “เกิดจากอะไร”
- เป้าหมาย (วิโรจน์) หรือสภาพที่ปัญหาลดลง
- แยกแยะองค์ประกอบ
- แนวมางแก้ไข (มรรค) ทางออก วิธีการ
ตัวอย่างขั้นตอนของการสุปทบเรียน หลังกิจกรรมผ่านประสบการณ์ตรง
ปัจจุบัน ประสบการณ์ที่เกิดขึ้นสดๆในกิจกรรม (สิ่งที่เกิดขึ้น , ความรู้สึก)
คำถาม “รู้สึกอย่างไร”
“เพราะอะไรจึงรู้สึกเช่นนั้น?” (เพื่อสะท้อนตัวตน ทำให้เห็นตนเองภายใน)
“แบ่งปันประสบการณ์ที่เกิดขึ้นในกิจกรรม”
อดีต เทียบเคียงประสบการจากอดีต หรือเห็นเชื่อมโยงกับอดีตที่ผ่านมา
คำถาม “จากกิจกรรมเหมือนหรือต่างจากอดีตที่ผ่านมา”
“เพราะเหตุใดจึงเป็นเช่นนั้น”
อนาคต นำบทเรียนไปปรับใช้ในชีวิตจริง
คำถาม “จะทำอย่างไรให้สิ่งที่เกิดขึ้นในกิจกรรมเกิดขึ้นในชีวิตจริง”
กิจกรรม ฝึกออกแบบกระบวนการใหม่ (รอบที่ 2)
- ทำกิจกรรม 20-25 นาที
- ถอดบทเรียน 25-30 นาที
- สะท้อนการฝึก 40 นาที
25 กรกฎาคม 2558
คำถามเกี่ยวกับการสรุปบทเรียน
- ถาม มีวิธีตั้งคำถามอย่างไรให้ไปถึงเนื้อหา การเรียนรู้ที่วางไว้
- ตอบ โดยใช้วิธีคิด
- แตกเนื้อหาให้ชัดเจน, สรุปบทเรียนหลังจัดกระบวนการ
- เห็นความเชื่อมโยงเนื้อหา
- ทดลองตั้งคำถาม (ลองถาม - ตอบกันดู)
- ถาม เราตั้งคำถามเรื่องความรู้สึกเพื่ออะไร
- ตอบ ตรวจสอบความรู้สึกของผู้เล่น
เป็นการเชื่อมโยงกับผู้เล่นและกิจกรรม
เป็นช่องทางให้กระบวนกรเห็นแนวโน้มว่าได้เนื้อหาตามที่ต้องการหรือไม่
สะท้อนการเรียนรู้ผ่านฐานใจ ทำใก้เกิดการสั่นสะเทือนภายใน
- ถาม กิจกรรมแบบไหนที่ไม่ต้องถามความรู้สึก
- ตอบ ในกรณีที่กิจกรรมเน้นการเรียนรู้ฐานหัว (เช่น ต้องการให้เรียนรู้ว่าอะไรที่ทำให้เราพลาด)
แต่ถ้ามีกรณีที่เกิดอารมณ์ความรู้สึกระหว่างทำกิจกรรมก็ควรถาม
ดังนั้นขึ้นอยู่กับการจับสังเกตของกระบวนกร ไม่มีกฎตายตัว
- ถาม การออกแบบกิจกรรมเพื่อให้สอดคล้องกับเนื้อหาที่ตั้งไว้ จะทำอย่างไรให้เกิดการเรียนรู้ที่ตรงตามเนื้อหา
- ตอบ ถ้ามีหลายกิจกรรมควรทดลองเพื่อเปรียบเทียบ
ถ้ากิจกรรมไม่สามารถพาไปสู่เนื้อหาที่ตั้งไว้ ควรเปลี่ยนกิจกรรม
กระบวนกรต้องหมั่นสังเกตกระบวนการ มีคลังกิจกรรม และเนื้อหาของกิจกรรมนั้น
ข้อเสนอ
- หมั่นสังเกตคำถามของเรา ที่ใช้ในการสรุปทบเรียน ต้องถามตัวเองว่า เราถามคำถามนี้ไปเพื่ออะไร
- จับสังเกตปรากฎการณ์ เงื่อนไขต่างๆที่เกิดขึ้นในชีวิตจริงในสื่อ เพื่อเอามาเป็นเงื่อนไขในการจัดกิจกรรม
ความในใจที่อยากบอกกล่าว : เรื่องที่จะจดจำไปได้อีก 6 เดือน
- เรื่องประสบการณ์ตรงจากการลองออกแบบกิจกรรม
- ยิ่งเป็นกิจกรรมที่เสี่ยงก็ยิ่งได้เรียนรู้เยอะ
- การได้เล่นเกมส์ที่ยากๆ ท้าทาย ทำให้จำฝังใจ
- รู้สึกดีที่ได้ออกแบบกิจกรรมใหม่ ทำให้คนอื่นได้เรียนรู้ได้
- ภาพที่ตื่นเต้นในขณะทำกิจกรรม
- เงื่อนไขกิจกรรมต้องสัมพันธ์กับการเรียนรู้และการตั้งคำถาม
- การสังเกตสิ่งรอบตัวมาใช้ในการออกแบบกิจกรรม
- จดจำเกมส์ของตัวเอง ที่คิดเองตั้งแต่ต้นจนจบ จะเอาไปปรับปรุงจนกว่าจะสมบูรณ์
- สิ่งที่เรียนรู้ใหม่ๆ และได้แรงบันดาลใจในการปรับปรุงในอนาคต
- เสียดายความผิดพลาดในกิจกรรม และอยากเอาไปปรับปรุงเรื่องความมั่นคงภายในตนเอง
- ในกระบวนการออกแบบกิจกรรมต้องเกิดการแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ
- การควบคุมอารมณ์ของตนเองให้มากขึ้น
- ประสบการณ์ตรงที่ได้เรียนรู้จากกลุ่มในฐานะกระบวนกรและการออกแบบกิจกรรม (เป็นวิศวกรการเรียนรู้)
- การถามตัวเองว่าเราเข้าใจเป้าหมายของเราอย่างแท้จริงหรือไม่
- ทำเป้าหมายของตัวเองให้ชัด และทำให้ผู้เข้าร่วมรู้สึดชัดเช่นเดียวกับเรา
- เรียนรู้ว่าการออกแบบกิจกรรมเป็นสิ่งที่ยากสำหรับตัวเอง และจะพยายามสังเกตและทดลองต่อไป
- พยายามจำทุกเรื่องราวแล้วเอามาร้อยเรียงในการทำงานจริง
- จบการอบรม -