นโยบายสิทธิส่วนบุคคล

ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Notice) มูลนิธิสยามกัมมาจล

ฉบับเดือนมิถุนายน 2565


มูลนิธิสยามกัมมาจล (“มูลนิธิ”) ใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของท่าน จึงจัดให้มีประกาศนโยบายความ เป็นส่วนตัวนี้เพื่อให้ท่านได้รับทราบถึงนโยบายของมูลนิธิเกี่ยวกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูล

ส่วนบุคคลของบุคคลธรรมดา ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 (“พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) กฎหมาย และกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง โดยประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้จะแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการที่มูลนิธิเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ประเภทข้อมูล และวัตถุประสงค์ในการดำเนินการดังกล่าว รวมถึงรายละเอียดเกี่ยวกับระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บุคคลภายนอก สิทธิของท่าน การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อมูลนิธิ


ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ใช้สำหรับบุคคลที่เข้าร่วมกิจกรรมกับมูลนิธิ ไม่ว่าจะเป็นการอบรม การสัมมนา การศึกษา สันทนาการ กิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่นใดที่จัดขึ้น ดำเนิน การ หรือประสานงานโดยมูลนิธิ วิทยากร ผู้ติดต่อประสานงาน ผู้สนับสนุนกิจกรรม ผู้บริจาค สื่อมวลชน บุคคลที่เข้าชมเว็บไซต์และที่เป็นสมาชิกเว็บไซต์ของมูลนิธิ บุคคลที่เข้าติดต่อที่สำนักงานของมูลนิธิ รวมถึงบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานของมูลนิธิ อาทิ คณะกรรมการของมูลนิธิ ผู้บริหาร ที่ปรึกษาด้านวิชาชีพ ผู้ให้บริการด้านต่างๆ ตลอดจนตัวแทนโดยชอบด้วยกฎหมายของบุคคลดังกล่าว และบุคคลใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับมูลนิธิ


ทั้งนี้ โปรดทราบว่าลิงก์ที่ปรากฏบนแพลตฟอร์มของมูลนิธิสามารถนำท่านเข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคล ภายนอกได้ ซึ่งหากท่านได้เข้าสู่แพลตฟอร์มของบุคคลภายนอกแล้วการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นทั้งสิ้น ด้วยเหตุนี้ มูลนิธิขอแนะนำให้ท่านอ่านและทำความเข้าใจนโยบายความเป็นส่วนตัวของบุคคลภายนอกนั้นเมื่อท่านเข้าใช้แพลตฟอร์มนั้นๆ


1. มูลนิธิเก็บรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร

มูลนิธิจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเท่านั้น ซึ่งรวมถึงกรณีการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย การปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับมูลนิธิ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิ การดำเนินการตามความยินยอมของท่าน และ/หรือ

ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นๆ โดยวัตถุประสงค์ในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของมูลนิธิ ดังต่อไปนี้

1.1 ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของมูลนิธิ

เนื่องจากมูลนิธิต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง มูลนิธิจึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และที่ได้แก้ไขเพิ่มเติม
  2. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง และ/หรือ
  3. เพื่อปฏิบัติตามกฎระเบียบ และ/หรือ คำสั่งของผู้มีอำนาจ (เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานทางการ หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ)

1.2 สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับมูลนิธิ

มูลนิธิจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามคำขอ และ/หรือ ข้อตกลงที่ท่านได้ทำไว้กับมูลนิธิ ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. ดำเนินการตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญาหรือเพื่อปฏิบัติตามสัญญาระหว่างท่านกับมูลนิธิ รวมถึงการดำเนินการใดๆ ของมูลนิธิ ซึ่งหากไม่ได้ดำเนินการแล้วจะกระทบต่อการดำเนินการหรือการให้บริการของมูลนิธิ (เช่น การลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม การเตรียมการและการจัดกิจกรรม การเข้าร่วมกิจกรรม การใช้บริการเว็บไซต์ของมูลนิธิ การให้ทุนการศึกษา การดำเนินการเกี่ยวกับการรับบริจาค) และ/หรือ
  2. บังคับสิทธิตามกฎหมายหรือตามสัญญาของมูลนิธิ

1.3 ประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิ

มูลนิธิจะอ้างอิงฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายโดยคำนึงถึงประโยชน์ของมูลนิธิหรือของบุคคลอื่นกับสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มูลนิธิจะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. บริหารกิจการของมูลนิธิ (เช่น กำกับตรวจสอบ บริหารจัดการความเสี่ยง บริหารการเงินและการบัญชี ตรวจสอบบัญชี บริหารจัดการภายในองค์กร ป้องกันและตรวจสอบการทุจริต)
  2. บริหารจัดการความสัมพันธ์ระหว่างมูลนิธิและท่าน (เช่น ดูแลและอำนวยความสะดวกในการเข้าร่วมกิจกรรมของมูลนิธิให้แก่ท่าน) รวมถึงติดต่อท่านก่อนที่ท่านจะเข้าทำสัญญากับมูลนิธิ
  3. รักษาความปลอดภัย (เช่น บันทึกภาพ CCTV แลกบัตรและ/หรือบันทึกภาพผู้ติดต่อก่อนเข้าบริเวณสถานที่ของมูลนิธิ ดูแลการเข้าร่วมกิจกรรมและ/หรือการเข้าถึงสถานที่จัดกิจกรรม)
  4. พัฒนาและปรับปรุงการจัดและการดำเนินกิจกรรม วิจัยและวิเคราะห์ข้อมูล (เช่น การวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติ การประเมิน การสอบถามและจัดทำรายงานเกี่ยวกับการจัดกิจกรรมของมูลนิธิ) ตลอดจนสื่อสารประชาสัมพันธ์กิจกรรมของมูลนิธิ โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานในข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน
  5. บันทึกภาพและ/หรือเสียงเกี่ยวกับการจัดการอบรม การสัมมนา การศึกษา สันทนาการกิจกรรมเพื่อสังคม กิจกรรมชุมชนสัมพันธ์ หรือกิจกรรมอื่นใด รวมถึงจัดทำสื่อ เผยแพร่ข้อมูลและสื่อสารประชาสัมพันธ์ต่อบุคคลภายนอก
  6. ดำเนินการเพื่อความต่อเนื่องทางธุรกิจของมูลนิธิ
  7. จัดการข้อเรียกร้องและข้อพิพาท ฟ้องร้องดำเนินคดีและดำเนินกระบวนการทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
  8. ป้องกันความเสี่ยงด้านความปลอดภัยของข้อมูล (เช่น การดำเนินการตรวจสอบเกี่ยวกับความปลอดภัยของข้อมูล และการป้องกันอื่นใดต่อการกระทำที่ประสงค์ร้าย หลอกลวง ฉ้อฉล หรือไม่ชอบด้วยกฎหมาย)
  9. ปฏิบัติตามกฎหมายต่างประเทศที่ใช้บังคับ
  10. อำนวยความสะดวกแก่การตรวจสอบทางบัญชีซึ่งกระทำโดยผู้สอบบัญชี และ/หรือ
  11. รับบริการจากที่ปรึกษากฎหมาย ที่ปรึกษาทางการเงิน และ/หรือที่ปรึกษาอื่นใด ซึ่งแต่งตั้งโดยท่านหรือมูลนิธิ

1.4 ความยินยอมของท่าน

ในบางกรณี มูลนิธิอาจมีการขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อให้ท่านได้รับประโยชน์ และ/หรือ เพื่อให้มูลนิธิสามารถให้บริการที่ตอบสนองต่อความต้องการของท่าน ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) (เช่น ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชนของท่าน (ซึ่งในบัตรดังกล่าวจะมีข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหวของท่าน ได้แก่ ศาสนา และ/หรือกรุ๊ปเลือดอยู่) ในการยืนยันตัวตนของท่านก่อนการเข้ารวมกิจกรรม)
  2. ติดต่อท่านเพื่อให้ข้อมูล ประสานงาน อำนวยความสะดวกให้แก่ท่าน และ/หรือสัมภาษณ์เกี่ยวกับกิจกรรมของมูลนิธิ รวมถึงเผยแพร่ข้อมูลและสื่อสารประชาสัมพันธ์ต่อบุคคลภายนอก (ในกรณีที่ต้องได้รับความยินยอมตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)
  3. ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว (sensitive personal data) ของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอ (เว้นแต่เป็นกรณีที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้ภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ หรือโดยไม่ต้องได้รับความยินยอม)
  4. กรณีท่านเป็นผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ คนเสมือนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี) (เว้นแต่เป็นกรณีที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดให้สามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอม) และ/หรือ
  5. การดำเนินการอื่นที่มูลนิธิต้องได้รับความยินยอมของท่าน

1.5 ฐานทางกฎหมายอื่นๆ

นอกเหนือไปจากฐานทางกฎหมายข้างต้น มูลนิธิอาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นดังต่อไปนี้

  1. จัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ
  2. ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล (เช่น การติดต่อในกรณีฉุกเฉิน) และ/หรือ
  3. เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่

หากข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวมจากท่านมีความจำเป็นสำหรับการปฏิบัติตามกฎหมายของมูลนิธิ หรือเพื่อการเข้าทำสัญญากับท่าน มูลนิธิอาจจะไม่สามารถให้บริการ (หรือดำเนินการเพื่อให้บริการต่อไป) แก่ท่านได้ หากท่านไม่ได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลเหล่านั้นแก่มูลนิธิเมื่อมูลนิธิร้องขอ


2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับขอบเขตและประเภทธุรกรรมที่ท่านเข้าทำกับมูลนิธิ โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูล ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล
รายละเอียดส่วนบุคคล
  • คำนำหน้าชื่อ
  • ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, นามแฝง (หากมี)
  • เพศ
  • วันเดือนปีเกิด, อายุ
รายละเอียดการติดต่อ
  • ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์
  • ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์
  • หมายเลขโทรศัพท์, หมายเลขโทรศัพท์มือถือ, หมายเลขโทรสาร
  • ข้อมูลการติดต่อของตัวแทนหรือผู้มีอำนาจกระทำการแทนในนามของลูกค้า (เช่น ชื่อ หมายเลขโทรศัพท์ ที่อยู่อิเล็กทรอนิกส์)
  • ที่อยู่และหมายเลขโทรศัพท์สำหรับการติดต่อทางธุรกิจ
รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน
  • ภาพถ่าย
  • ภาพถ่ายบัตรประจำตัวประชาชน
  • เลขประจำตัวประชาชน
  • ลายมือชื่อ
  • หมายเลขประจำตัวผู้เสียภาษี
  • ทะเบียนบ้าน
รายละเอียดการศึกษาการทำงาน
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษา (เช่น สถาบันการศึกษา)
  • ข้อมูลเกี่ยวกับอาชีพ (เช่น อาชีพ สถานที่ทำงาน ประวัติการทำงาน)
รายละเอียดทางการเงิน
  • ข้อมูลบัญชีเงินฝาก
ข้อมูลเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของท่านกับมูลนิธิ
  • กิจกรรมที่ท่านเข้าร่วม ช่องทางและวิธิการที่ท่านปฏิสัมพันธ์กับมูลนิธิ
  • การสำรวจความคิดเห็น การสัมภาษณ์
  • การสื่อสารที่ท่านต้องการ และรายละเอียดหรือเนื้อหาของการสื่อสารระหว่างท่านกับมูลนิธิ
ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์ของท่านและรายละเอียดทางเทคนิค
  • หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP address)
  • ข้อกำหนดเฉพาะทางเทคนิคและข้อมูลเฉพาะที่ใช้ระบุตัวตน (เช่น สถานที่ตั้ง เว็บบีคอน (web beacon) ล็อก (Log) ไอดีอุปกรณ์ (Device ID) และประเภทของอุปกรณ์ เครือข่าย ข้อมูล การเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง วันและเวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้งาน คุกกี้ ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู
ข้อมูลการเข้าใช้ การขอใช้บริการและรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้
  • ข้อมูลการเข้าใช้งานเว็ปไซต์ของมูลนิธิ
  • ชื่อบัญชีผู้ใช้ รหัสผ่านและรหัสการยืนยันตัวตนอื่น
  • ความสนใจ ความต้องการ และกิจกรรมการใช้งาน (รวมถึงเนื้อหาที่ท่านเข้าชม ลิงก์ที่กดเข้าชม และฟังก์ชันที่ท่านใช้)
ข้อมูลของครอบครัวของท่าน (เช่น บิดา มารดา พี่น้อง)
  • คำนำหน้าชื่อ
  • ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล
  • อายุ
  • ความสัมพันธ์
ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัย
  • ภาพถ่าย
  • การตรวจพบข้อสงสัยหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ
  • ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
ข้อมูลส่วนบุคคลอ่อนไหว
  • ศาสนาหรือกรุ๊ปเลือดตามที่ปรากฏบนบัตรประจำตัวประชาชน
ข้อมูลอื่นๆ
  • บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับมูลนิธิ ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียงโทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media)
  • ข้อมูลที่ท่านให้ใว้กับมูลนิธิไม่ว่าผ่านช่องทางใดๆ

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

โดยทั่วไปแล้วมูลนิธิจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง แต่ในบางกรณีมูลนิธิอาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น ซึ่งมูลนิธิจะดำเนินการให้เป็นไปตามที่ พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนดข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่น อาจรวมถึงแต่ไม่จำกัดเฉพาะข้อมูลดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลที่มูลนิธิได้รับจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่มูลนิธิมีนิติสัมพันธ์ด้วย
  2. ข้อมูลที่มูลนิธิได้รับจากบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่องกับท่าน (เช่น ครอบครัวของท่าน เพื่อน นายจ้าง)
  3. ข้อมูลที่มูลนิธิได้รับจากองค์กรธุรกิจ ในฐานะที่ท่านเป็นกรรมการ ผู้มีอำนาจกระทำการแทน ตัวแทนผู้ที่ได้รับมอบหมาย หรือผู้ติดต่อ และ/หรือ
  4. ข้อมูลที่มูลนิธิได้รับจากหน่วยงานราชการ หน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย และ/หรือ ผู้ให้บริการภายนอกในกรณีที่ท่านได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นแก่มูลนิธิในการทำธุรกรรมกับมูลนิธิหรือในกรณีอื่นใด ท่านจะต้องแจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้ด้วย รวมทั้งท่านจะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลดังกล่าว (หากจำเป็น) หรืออาศัยฐานทางกฎหมายอื่นในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลแก่มูลนิธิ

4. สิทธิตามกฎหมายของท่าน

พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่ในความควบคุมของท่านได้มากขึ้น โดยท่านสามารถใช้สิทธิของท่านตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ ตามช่องทางที่มูลนิธิกำหนด

  1. สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มูลนิธิมีอยู่ เว้นแต่กรณีที่มูลนิธิมีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  2. สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้มูลนิธิทำการแก้ไข หรือปรับปรุงข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ครบถ้วน
  3. สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้มูลนิธิลบหรือทำลายข้อมูลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่กรณีที่มูลนิธิจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
  4. สิทธิในการขอให้ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้มูลนิธิระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี (เช่น มูลนิธิอยู่ระหว่างการตรวจสอบคำขอใช้สิทธิแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลหรือคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือท่านขอให้มูลนิธิระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลแทนการลบหรือ ทำลายข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไปเนื่องจากท่านมีความจำเป็นต้องขอให้มูลนิธิเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อใช้ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย)
  5. สิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่มูลนิธิ ดำเนินการภายใต้ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย หรือเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรงหรือการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีที่มูลนิธิมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย (เช่น มูลนิธิสามารถแสดงให้เห็นว่าการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายยิ่งกว่า หรือเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะของมูลนิธิ)
  6. สิทธิในการขอรับหรือขอให้ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่มูลนิธิสามารถทำให้ข้อมูลนั้นอยู่ในรูปแบบที่สามารถอ่านหรือใช้งานได้โดยทั่วไปด้วยเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่ทำงานได้โดยอัตโนมัติและสามารถใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ รวมทั้งมีสิทธิขอให้มูลนิธิส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือขอรับข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิได้ส่งหรือโอนไปยังบุคคลภายนอก เว้นแต่มูลนิธิไม่สามารถทำได้โดยสภาพทางเทคนิค หรือมูลนิธิมีเหตุในการปฏิเสธคำขอของท่านโดยชอบด้วยกฎหมาย
  7. สิทธิในการขอถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับมูลนิธิเมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่มูลนิธิกำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการถอนความยินยอมดังกล่าว
  8. สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากมูลนิธิกระทำการอันเป็นการไม่ปฏิบัติตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

มูลนิธิอาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่มูลนิธิมีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของมูลนิธิ และ/หรือ ของบุคคลดังกล่าว
  2. หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ หน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมาย
  3. คู่ค้า ตัวแทน หรือองค์กรอื่น (เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ) ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมาย และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
  4. บุคคลภายนอกที่ให้บริการต่างๆ แก่มูลนิธิ (เช่น ผู้ให้บริการด้าน IT ผู้ให้บริการ cloud computing)
  5. ผู้ให้บริการด้านสื่อสังคมออนไลน์ (ในรูปแบบที่ปลอดภัย) หรือบริษัทโฆษณาภายนอก เพื่อแสดงข้อความให้แก่ท่าน โดยบุคคลดังกล่าวอาจเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลประวัติกิจกรรมออนไลน์ของท่านเพื่อจัดสรรการโฆษณาที่ท่านอาจสนใจ ซึ่งอยู่ภายใต้ข้อตกลงระหว่างท่านกับบุคคลดังกล่าวและ/หรือ
  6. ผู้รับมอบอำนาจ ผู้รับมอบอำนาจช่วง ตัวแทน หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่านที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ

6. การส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

ในบางครั้งมูลนิธิจำเป็นต้องส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ (เช่น การส่งข้อมูลไป จัดเก็บที่ cloud server ในต่างประเทศเพื่อการให้บริการ) ในกรณีนี้มูลนิธิจะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังผู้รับข้อมูลของมูลนิธิที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในกรณีที่ประเทศปลายทางมีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลไม่เพียงพอ มูลนิธิจะดำเนินการส่ง หรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลให้เป็นไปตามที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด และจะดำเนินการให้มีมาตรการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามที่จำเป็นและเหมาะสม

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านเข้าร่วมกิจกรรมและ/หรือใช้บริการของมูลนิธิ และเมื่อท่านสิ้นสุดความสัมพันธ์กับมูลนิธิ (เช่น ท่านขอยกเลิกการเป็นสมาชิกเว็บไซต์ของมูลนิธิ) มูลนิธิจะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและวัตถุประสงค์ตามที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ซึ่งเป็นจะเป็นไปตามอายุความหรือระยะเวลาที่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกำหนด ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ นอกจากนี้ มูลนิธิอาจจะจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานของมูลนิธิและ/หรือการบันทึกเสียงเพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัย รวมถึงตรวจสอบธุรกรรมต้องสงสัยที่ท่านหรือบุคคลที่เกี่ยวข้องอาจแจ้งมายังมูลนิธิ

8. การใช้คุกกี้

มูลนิธิอาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านใช้บริการเว็บไซต์ของมูลนิธิทั้งนี้ การเก็บรวบรวมคุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยให้มูลนิธิสามารถจดจำท่าน ทราบถึงความชื่นชอบของท่าน และปรับปรุงวิธีการที่มูลนิธิจะให้บริการให้แก่ท่าน มูลนิธิอาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่างๆ (เช่น ให้ฟังก์ชันพื้นฐานสามารถทำงานได้ ช่วยให้มูลนิธิเข้าใจวิธีการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิ ช่วยให้มูลนิธิสามารถมอบประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์หรือการติดต่อสื่อสารกับท่านได้ดียิ่งขึ้น) รายละเอียดโปรดดู นโยบายการใช้คุกกี้

9. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

มูลนิธิมีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มูลนิธิได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้มูลนิธิเก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวต่อไป ท่านสามารถแจ้งมูลนิธิเพื่อขอถอนความยินยอมของท่านเมื่อใดก็ได้

10. การรักษาความปลอดภัย

มูลนิธิมีการใช้มาตรการรักษาความปลอดภัยภายในมูลนิธิและการใช้บังคับนโยบายอย่างเข้มงวดในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งรวมถึงการเข้ารหัสข้อมูล และมาตรการป้องกันการเข้าถึงข้อมูล โดยมูลนิธิกำหนดให้บุคลากรของมูลนิธิและผู้รับจ้างภายนอกจะต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม รวมถึงจะต้องจัดให้มีการดูแลรักษาข้อมูลและมีมาตรการที่เหมาะสมในการใช้หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

11. วิธีการติดต่อมูลนิธิ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของมูลนิธิ โปรดติดต่อมูลนิธิตามช่องทางดังต่อไปนี้

  1. มูลนิธิสยามกัมมาจล สำนักงานใหญ่ของมูลนิธิตั้งอยู่ที่อาคาร SCB Park Plaza ฝั่งพลาซ่าอีสท์ เลขที่ 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
  2. เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล อีเมล PDPA@scbf.or.th หรือตามที่อยู่ของมูลนิธิมูลนิธิข้างต้น หากท่านต้องการขอใช้สิทธิตามพรบ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โปรดติดต่อมูลนิธิผ่านอีเมล PDPA@scbf.or.th หรือตามที่อยู่ของมูลนิธิข้างต้น

12. การเปลี่ยนแปลงประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัว

มูลนิธิอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวนี้เป็นครั้งคราว โดยมูลนิธิจะแจ้งประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับปัจจุบันไว้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธิ www.scbfoundation.com




ข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์

ฉบับเดือนมิถุนายน 2565


โปรดอ่านข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากข้อตกลงต่อไปนี้มีผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างท่านและมูลนิธิสยามกัมมาจล (“มูลนิธิ”) และใช้บังคับกับการใช้งานเว็บไซต์นี้และข้อมูลที่ระบุไว้ในเว็บไซต์นี้ การใช้งานเว็บไซต์นี้ ท่านรับทราบว่าท่านได้อ่านและเข้าใจข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้และท่านตกลงที่จะผูกพันและปฏิบัติตามข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้ โปรดอย่าใช้งานเว็บไซต์นี้หากท่านไม่ตกลงที่จะผูกพันตามข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้

1. ข้อตกลงระหว่างท่านและมูลนิธิ

เว็บไซต์ของมูลนิธิอาจประกอบด้วยเว็บเพจต่างๆ ที่ดำเนินการโดยมูลนิธิ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่ อาคาร SCB Park Plaza ฝั่งพลาซ่าอีสท์ เลขที่ 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900 (เว็บไซต์และเว็บเพจทั้งหมดนี้จะรวมเรียกว่า "เว็บไซต์ของมูลนิธิ") การใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิอยู่ภายใต้เงื่อนไขว่าท่านจะต้องตกลงและยอมรับข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้ โดยไม่แก้ไขประการใดทั้งสิ้น การที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิย่อมก่อให้เกิดความผูกพันทางกฎหมายตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์ หากท่านไม่ตกลงที่จะผูกพันตามข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้ โปรดอย่าใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิ

2. การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้

มูลนิธิขอสงวนสิทธิ์ที่จะแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อตกลงการใช้งานที่ระบุไว้ในเว็บไซต์นี้ ท่านมีหน้าที่ตรวจสอบข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้ รวมถึงข้อกำหนดเพิ่มเติมใดๆ ที่ระบุไว้ในเว็บไซต์ของมูลนิธิอย่างสม่ำเสมอ การที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิอย่างต่อเนื่องย่อมถือว่าท่านรับทราบและตกลงตามข้อตกลงการใช้งานที่ได้แก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงนั้นแล้ว

3. การเก็บรวบรวม ใช้และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ในการใช้บริการกับมูลนิธิ มูลนิธิจะมีการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านและ/หรือของบุคคลอื่นใดที่ท่านได้ให้ข้อมูลไว้แก่มูลนิธิ เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้บริการและเพื่อวัตถุประสงค์ตามที่ระบุในประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวของมูลนิธิ โดยท่านสามารถอ่านเพิ่มเติมเพื่อเข้าใจถึงวิธีการที่มูลนิธิเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิประกาศผ่านทางเว็บไซต์ของมูลนิธิที่ www.scbfoundation.com และ/หรือ ช่องทางที่มูลนิธิกำหนด หรือตามที่มูลนิธิ
จะเปลี่ยนแปลงในภายหน้าและแจ้งให้ท่านทราบโดยประกาศในเว็บไซต์ดังกล่าว และ/หรือ ช่องทางที่มูลนิธิกำหนด ทั้งนี้ ในกรณีที่ท่านได้มีการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่น ท่านมีหน้าที่แจ้งให้บุคคลดังกล่าวทราบถึงรายละเอียดการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลและสิทธิตามประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวดังกล่าวด้วย

4. การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ

มูลนิธิอาจเชื่อมต่อเว็บไซต์นี้กับเว็บไซต์อื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ภายใต้การควบคุมดูแลของมูลนิธิเพื่อให้ข้อมูลและอำนวยความสะดวกแก่ท่านเท่านั้น การที่ท่านเข้าสู่เว็บไซต์เหล่านั้นย่อมเป็นความเสี่ยงของท่านและมูลนิธิจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของท่านที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล ข่าวสาร บทความ สินค้า หรือบริการที่แสดงหรือเสนอบนเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกใดๆ ที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของมูลนิธิ ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น ทั้งนี้ มูลนิธิไม่ให้คำรับประกัน คำรับรองหรือคำแนะนำใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับข้อมูล ข่าวสาร บทความ สินค้าหรือบริการใดๆ ที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของบุคคลภายนอกดังกล่าว และมูลนิธิจะไม่รับผิดชอบต่อความบกพร่องหรือการผิดสัญญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้า หรือบริการใดๆ ที่ปรากฏหรือโฆษณาบนเว็บไซต์เหล่านั้น มูลนิธิไม่มีข้อตกลงหรือสัญญาใดๆ กับเว็บไซต์อื่นดังกล่าวที่เกี่ยวข้องกับข้อตกลงของท่านกับเว็บไซต์อื่นดังกล่าวนั้น การเชื่อมต่อกับเว็บไซต์อื่นๆ เพื่อดาวน์โหลดซอฟต์แวร์ใดๆ ที่มูลนิธิจัดให้มีเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ท่านเท่านั้น มูลนิธิจะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดต่อความผิดพลาดหรือการทำงานผิดปกติที่เกิดจากหรือเป็นผลมาจากซอฟต์แวร์ที่ท่านได้ดาวน์โหลด ไม่ว่าในกรณีใดๆ ทั้งสิ้น โปรดตระหนักด้วยว่าการใช้ซอฟต์แวร์ที่ท่านได้ดาวน์โหลดจะต้องเป็นไปตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิที่เกี่ยวข้อง หากท่านไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาอนุญาตให้ใช้สิทธิดังกล่าวได้ ท่านอาจถูกถือว่าเป็นผู้ละเมิดลิขสิทธิ์หรือสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอื่นของผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ดังกล่าว ในกรณีเช่นว่านั้น มูลนิธิจะไม่รับผิดชอบต่อความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้นแก่ท่านไม่ว่าในกรณีใด โปรดทราบว่าเมื่อท่านได้เชื่อมต่อไปยังเว็บไซต์อื่นใดดังกล่าวแล้ว ท่านจะต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด เงื่อนไขและนโยบายการใช้บริการเว็บไซต์ที่ท่านได้เข้าไปเยี่ยมชม

5. การชดใช้ค่าเสียหาย

ท่านตกลงว่าจะชดใช้ค่าเสียหายให้แก่มูลนิธิสำหรับข้อเรียกร้อง ความสูญเสีย ค่าใช้จ่าย และความเสียหายใดๆ (รวมถึงค่าธรรมเนียมทางกฎหมายและค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับศาล) ที่มูลนิธิต้องรับภาระหรือเกิดขึ้นแก่มูลนิธิ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ท่านใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิโดยไม่ถูกต้องเหมาะสมหรือไม่เป็นไปตามข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้

6. เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ลิขสิทธิ์ และสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ

ข้อมูล ภาพ เสียง เนื้อหา ส่วนประกอบใดๆ ที่ระบุหรือแสดงอยู่บนเว็บไซต์ของมูลนิธิ เป็นทรัพย์สินของมูลนิธิและของบุคคลภายนอก (แล้วแต่กรณี) เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ ชื่อทางการค้า และสัญลักษณ์ทั้งหมดที่อ้างอิงหรือแสดงอยู่บนเว็บไซต์ของมูลนิธิ (รวมเรียกว่า "เครื่องหมายการค้า") ให้หมายความรวมถึงเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ และสัญลักษณ์ใดๆ ของมูลนิธิและของบุคคลภายนอก โดยไม่จำต้องคำนึงถึงว่าเครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ และสัญลักษณ์ดังกล่าวได้มีการจดทะเบียนไว้แล้วหรือไม่ ไม่มีส่วนหนึ่งส่วนใดของข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้จะถือว่าเป็นการอนุญาตหรือการให้สิทธิในการใช้เครื่องหมายการค้าดังกล่าว มูลนิธิขอสงวนสิทธิ์ทั้งหมดที่มูลนิธิอาจมีอันเกี่ยวข้องกับเว็บไซต์นี้ มูลนิธิไม่อนุญาตหรือให้สิทธิในการใช้ข้อมูลและเครื่องหมายการค้าใดๆ ที่กล่าวข้างต้น เว้นแต่จะได้รับความยินยอมล่วงหน้าเป็นลายลักษณ์อักษรจากมูลนิธิหรือจากบุคคลภายนอก (แล้วแต่กรณี) เว็บไซต์ของมูลนิธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายลิขสิทธิ์ และไม่อาจถูกแก้ไข ทำซ้ำ ทำสำเนา ดาวน์โหลด ส่งผ่าน (ไม่ว่าในรูปแบบใดหรือโดยวิธีการใด) หรือใช้ในลักษณะใดก็ตาม เพื่อวัตถุประสงค์ในทางการค้า เว้นแต่จะได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจากมูลนิธิก่อน

7. การบอกเลิกข้อตกลง การจำกัดการเข้าใช้งาน และการห้ามใช้งาน

มูลนิธิขอสงวนสิทธิ์ในการบอกเลิกข้อตกลงนี้ หรือการยกเลิกการเข้าใช้งานของท่านในเว็บไซต์ของมูลนิธิ รวมทั้งบริการที่เกี่ยวข้องเมื่อใดก็ได้ โดยไม่ต้องมีการแจ้งล่วงหน้า หากท่านไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้หรือด้วยเหตุอื่นใดตามที่มูลนิธิเห็นสมควรท่านจะต้องไม่ใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิเพื่อวัตถุประสงค์ใดที่ผิดกฎหมายหรือต้องห้ามตามข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้ และต้องไม่ใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิในลักษณะใดๆ ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหาย ไม่สามารถใช้การได้ หรือเกิดความบกพร่องแก่เว็บไซต์ของมูลนิธิหรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของมูลนิธิ ท่านจะต้องไม่รบกวนการใช้งานเว็บไซต์ของมูลนิธิหรือของบุคคลอื่นใด และต้องไม่พยายามเข้าสู่เว็บไซต์ของมูลนิธิ บัญชีผู้ใช้ ระบบคอมพิวเตอร์ หรือเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับเว็บไซต์ของมูลนิธิ โดยไม่ได้รับอนุญาต ไม่ว่าด้วยวิธีการเจาะฐานข้อมูล (hacking) ทำลายรหัสผ่าน (password mining) หรือวิธีการอื่นใด

8. ข้อสงวนสิทธิ์ในความรับผิด

ข้อมูล ข่าวสาร บทความ หรือบริการที่รวมอยู่ในหรือที่มีอยู่บนเว็บไซต์ของมูลนิธิอาจไม่ถูกต้องหรือมีความผิดพลาดในการแสดงรายละเอียด มูลนิธิขอสงวนสิทธิ์ในการแก้ไขเปลี่ยนแปลงเว็บไซต์ของมูลนิธิและข้อมูลที่ระบุบนเว็บไซต์โดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า การตัดสินใจไม่ว่าในกรณีใดๆไม่ควรขึ้นอยู่กับข้อมูลที่ท่านได้รับทางเว็บไซต์ของมูลนิธิ ท่านควรปรึกษาผู้ที่มีความเชี่ยวชาญเพื่อขอคำแนะนำที่เหมาะสมกับสถานการณ์ของท่านมูลนิธิไม่รับรองหรือรับประกันไม่ว่ากรณีใด ไม่ว่าโดยชัดแจ้งหรือโดยปริยาย เกี่ยวกับความเหมาะสม ความน่าเชื่อถือ ความพร้อม และเวลาที่เหมาะสมการไม่มีไวรัสหรือสิ่งอื่นใดที่เป็นอันตราย รวมทั้งความถูกต้องของ ข้อมูล ซอฟต์แวร์ สินค้าและภาพกราฟฟิกที่เกี่ยวข้องที่ปรากฏอยู่บนเว็บไซต์ของมูลนิธิ ไม่ว่าเพื่อวัตถุประสงค์ใดๆ มูลนิธิจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียหรือความเสียหายใดๆ ที่เกิดขึ้น ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม (รวมทั้งความสูญเสียหรือความเสียหายพิเศษ หรือที่เกิดขึ้นต่อเนื่อง) จากการที่ท่านใช้เว็บไซต์ของมูลนิธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่งมูลนิธิจะไม่รับประกันว่าข้อมูลหรือข่าวสาร บทความใดๆ เป็นข้อมูลที่ถูกต้อง ครบถ้วนหรือเป็นปัจจุบันท่านตกลงว่ามูลนิธิจะไม่ต้องรับผิดชอบหรือรับผิดต่อการเข้าถึงข้อมูลของท่านบนเว็บไซต์ของมูลนิธิโดยไม่ได้รับอนุญาต

9. กฎหมายที่ใช้บังคับ

ข้อตกลงการใช้งานเว็บไซต์นี้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทย และข้อพิพาทใดๆ จะอยู่ภายใต้เขตอำนาจศาลไทย ท่านตกลงว่าความสัมพันธ์ที่มีอยู่ระหว่างท่านกับมูลนิธิอันเป็นผลมาจากข้อตกลงนี้หรือการใช้เว็บไซต์ของมูลนิธิของท่านนี้ไม่ถือว่าเป็นกิจการร่วมค้า หุ้นส่วน การจ้างงาน หรือตัวแทนระหว่างท่านและมูลนิธิแต่อย่างใด




นโยบายความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้างทำงาน ผู้เข้าทำสัญญา หรือผู้เข้าร่วมกิจกรรมหรือโครงการ ของมูลนิธิสยามกัมมาจล

ฉบับลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2565


มูลนิธิสยามกัมมาจล(“มูลนิธิฯ”) ใส่ใจในความเป็นส่วนตัวของพนักงาน ลูกจ้าง ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้างของมูลนิธิฯ (“ท่าน”) จึงจัดให้มีนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ขึ้นตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 (“พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล”) เพื่อแจ้งให้ท่านทราบถึงวิธีการ วัตถุประสงค์ รายละเอียดของข้อมูลที่มูลนิธิฯ เก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูล การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล สิทธิของท่านในฐานะเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล การรักษาความลับและความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล และวิธีการที่ท่านสามารถติดต่อกับมูลนิธิฯ

นโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ใช้สำหรับบุคคลธรรมดาดังต่อไปนี้

  1. พนักงานหรือลูกจ้างของมูลนิธิฯ ตามสัญญาจ้างแรงงาน
  2. ผู้ให้บริการหรือผู้รับจ้างทำงานให้แก่มูลนิธิฯ ตามสัญญาประเภทอื่น เช่น สัญญาให้บริการ สัญญาจ้างทำของ สัญญานายหน้า เป็นต้น รวมถึงลูกจ้างหรือเจ้าหน้าที่ของผู้ให้บริการหรือผู้รับจ้างตามสัญญาดังกล่าว
  3. ผู้สมัครงานกับมูลนิธิฯ ไม่ว่าจะสมัครโดยตรง หรือสมัครผ่านตัวแทนจัดหางานหรือบุคคลอื่น
  4. อดีตพนักงานหรือลูกจ้างซึ่งมูลนิธิฯ มีหน้าที่ต้องเก็บหรือใช้ข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนด
  5. บุพการี ผู้สืบสันดาน เครือญาติ คู่สมรส และผู้รับประโยชน์ของพนักงาน
  6. ผู้ค้ำประกันของพนักงาน ลูกจ้าง ผู้ให้บริการ หรือผู้รับจ้าง ตามสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาให้บริการ สัญญาจ้างทำของ สัญญานายหน้า หรือสัญญาประเภทอื่นที่มีกับมูลนิธิฯ
  7. วิทยากรและผู้บรรยายในการจัดฝึกอบรมของมูลนิธิฯ
  8. ผู้เข้ารับฝึกอบรมหรือเข้าร่วมโครงการหรือกิจกรรมที่มูลนิธิฯ จัดขึ้นหรือมีส่วนร่วม
  9. กรรมการ ที่ปรึกษา หรือผู้รับมอบอำนาจของมูลนิธิฯ
  10. พนักงานของบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์
  11. บุคคลอ้างอิงในใบสมัครงานหรือสัญญาที่ทำกับมูลนิธิฯ
  12. นักศึกษาฝึกงาน นักเรียนทุนของมูลนิธิฯ รวมถึงผู้ค้ำประกัน หรือ บุคคลอื่นที่เกี่ยวข้อง
  13. บุคคลธรรมดาที่เข้าทำสัญญา หรือร่วมกิจกรรมกับมูลนิธิฯ ไม่ว่าทางตรงหรือทางอ้อม ตามวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้

1. มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมและนำข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปใช้หรือเปิดเผยอย่างไร

มูลนิธิฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเฉพาะกรณีที่จำเป็นหรือมีฐานทางกฎหมายเท่านั้น ซึ่งรวมถึงการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล (ก) ตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย (ข) ตามสัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับมูลนิธิฯ (ค) เพื่อประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิฯ 
(ง) ตามความยินยอมของท่าน และ/หรือ (จ) ตามฐานทางกฎหมายอื่น โดยวัตถุประสงค์ในเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลของมูลนิธิฯ มีดังต่อไปนี้

1.1 ภาระหน้าที่ตามกฎหมายของมูลนิธิฯ

เนื่องจากมูลนิธิฯ อยู่ภายใต้การกำกับดูแล และต้องดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง มูลนิธิฯ จึงมีความจำเป็นจะต้องเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายและกฎระเบียบของหน่วยงานรัฐที่กำหนดอย่างน้อยดังต่อไปนี้

  1. พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
  2. ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์, พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน, พระราชบัญญัติแรงงานสัมพันธ์ รวมถึงกฎหมายแรงงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
  3. พระราชบัญญัติประกันสังคม, พระราชบัญญัติกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ, พระราชบัญญัติเงินทดแทน, พระราชบัญญัติการฌาปนกิจสงเคราะห์ หรือกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสวัสดิการให้แก่พนักงานหรือลูกจ้าง
  4. พระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ พระราชบัญญัติส่งเสริมการพัฒนาฝีมือแรงงาน และหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง
  5. ประมวลรัษฎากร หรือกฎหมายภาษีอากรอื่น ๆ
  6. ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎระเบียบต่าง ๆ เช่น คำสั่งศาล คำสั่งของหน่วยงานรัฐ หน่วยงานควบคุมดูแล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ
  7. เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการปราบปรามการฟอกเงินและปราบปรามการสนับสนุนให้เงินทุนเพื่อก่อการร้าย (AML/CFT)
  8. การตรวจสอบประวัติ ทรัพย์สิน หรือการถือหลักทรัพย์ของพนักงานตามกฎหมาย รวมถึงการรายงานต่อหน่วยงานกำกับดูแล หรือหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง
  9. การตรวจสอบประวัติ และคุณสมบัติเพื่อแต่งตั้งผู้บริหาร หรือตำแหน่งที่สำคัญอื่น ๆ ตามกฎเกณฑ์ของหน่วยงานกำกับดูแล หรือกฎหมายอื่น ๆ เกี่ยวข้อง

1.2 สัญญาที่ท่านได้ทำไว้กับบริษัท

มูลนิธิฯ จะเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ตามเอกสารคำขอ ข้อตกลง หรือสัญญาที่ท่านทำไว้กับมูลนิธิฯ และเพื่อวัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ในเอกสารดังต่อไปนี้

  1. การสมัครงาน การสรรหาบุคลากร การสัมภาษณ์ การทำแบบทดสอบ และการประเมินความสามารถของผู้สมัคร
  2. การจ้างงาน การเจรจา การอนุมัติการจ้าง การจัดทำ แก้ไข เปลี่ยนแปลง ต่ออายุ หรือการดำเนินการอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับสัญญาจ้าง สัญญานายหน้า รวมถึงการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง
  3. การจัดทำทะเบียนลูกจ้าง การจัดเก็บทะเบียนข้อมูลในระบบของมูลนิธิฯ ซึ่งรวมถึงการสร้าง ลบ แก้ไขเปลี่ยนแปลง ข้อมูลพนักงาน และการให้ หรือเพิกถอนสิทธิ์ของพนักงาน
  4. การจัดเตรียมทะเบียนเงินเดือน การคำนวณค่าจ้าง เงินเดือน หรือค่าตอบแทนที่มูลนิธิจ่ายให้แก่ท่าน รวมถึงการทำจ่าย หรือการตั้งเงินสำรองค่าตอบแทนพนักงาน
  5. การดำเนินการเกี่ยวกับจัดสวัสดิการ สิทธิประโยชน์ การเบิกจ่ายเงิน การกู้เงิน การให้สินเชื่อ และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับสวัสดิการที่มูลนิธิฯ ให้แก่ท่าน
  6. การจัดทำ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกประกันสุขภาพ ประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ หรือประกันภัยประเภทอื่น ๆ
  7. การให้ การอนุญาต หรือเปลี่ยนแปลง ลบ และควบคุมสิทธิการเข้าถึงหรือใช้งานทรัพย์สินหรือระบบของมูลนิธิฯ
  8. การจัดเตรียมอุปกรณ์สำหรับการทำงานของพนักงานและนายหน้า เช่น การเตรียมเครื่องแบบ (Uniform) การจัดทำนามบัตร การสั่งทำป้าย สิทธิการใช้งาน (License) การแจกจ่ายคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ และการจัดทำบัตรพนักงานหรือบัตรนายหน้า รวมถึงการเรียกคืนอุปกรณ์ดังกล่าวเมื่อสัญญาจ้างพนักงานหรือสัญญาการเป็นนายหน้าสิ้นสุดลง
  9. การตรวจสอบ และประเมินเพื่อแต่งตั้งผู้บริหาร หรือตำแหน่งที่สำคัญอื่น ๆ
  10. การปฏิบัติตามสัญญาจ้าง ข้อบังคับเกี่ยวกับการทำงาน ระเบียบ คำสั่งของมูลนิธิฯ
  11. การบันทึกและจัดทำข้อมูลเกี่ยวกับวันลาของพนักงาน
  12. การทบทวนและการประเมินผลการทำงาน
  13. การให้ทุนการศึกษา และการฝึกงาน
  14. การดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการสิ้นสุดสัญญาจ้าง หรือการสิ้นสุดสัญญาระหว่างท่านกับมูลนิธิฯ รวมถึงการเกษียณอายุ
  15. การจัดกิจกรรมภายในองค์กร โดยบุคลากรทั้งภายใน และภายนอกองค์กร
  16. การจัดฝึกอบรม การสอบเพื่อรับใบอนุญาต หรือการเข้าร่วมโครงการ หรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพัฒนาความสามารถของพนักงาน หรือนายหน้า ไม่ว่าภายในหรือภายนอกมูลนิธิฯ รวมถึงการจัดให้มีใบรับรอง หรือใบอนุญาตของการฝึกอบรมและการสอบดังกล่าว
  17. การสื่อสารและประชาสัมพันธ์กับพนักงานอันเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าที่ตามสัญญา ไม่ว่าในช่องทางใด ๆ
  18. การจัดทำหนังสือมอบอำนาจ
  19. การจัดทำหนังสือรับรองเงินเดือน หนังสือรับรองรายได้ หนังสือรับรองการผ่านงาน หรือหนังสือรับรองเกี่ยวกับการจ้างงาน การจ้างนายหน้า หรือสัญญาจ้างประเภทอื่น ๆ

1.3 ประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายของมูลนิธิฯ

มูลนิธิฯ จะใช้หลักสิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย โดยการเปรียบเทียบความสำคัญระหว่างลักษณะข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯ เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย กับสิ่งที่ท่านคาดว่าจะได้รับโดยปกติ 
โดยมูลนิธิฯ จะให้การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับสิทธิและเสรีภาพพื้นฐานของท่าน ทั้งนี้ การเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายนี้
จะเป็นไปเพื่อวัตถุประสงค์ดังต่อไปนี้

  1. การใช้ข้อมูลของบุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้สมัครงาน ในขั้นตอนการสรรหาบุคลากร การสัมภาษณ์ และการประเมินผู้สมัคร รวมถึงการจัดเก็บข้อมูลของผู้ได้รับผลประโยชน์ของพนักงาน
  2. การดำเนินการในกรณีที่ข้อมูลของท่านมีความจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างมูลนิธิฯ และบุคคลอื่น ซึ่งท่านไม่ได้เป็นคู่สัญญาด้วย
  3. การดำเนินการเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูล และระบบการจัดเก็บข้อมูลภายในของมูลนิธิฯ
  4. การดำเนินการเกี่ยวกับการอบรม การพัฒนาความรู้ หรือความสามารถของบุคคลากร รวมถึงการบริหารและวางแผนที่เกี่ยวข้องกับโครงสร้างองค์กร
  5. การดำเนินการเกี่ยวกับความปลอดภัยและความต่อเนื่องทางธุรกิจ รวมถึงการบริหารจัดการความเสี่ยงภายในของมูลนิธิฯ การรายงานเหตุการณ์ผิดปกติจากการดำเนินงาน
  6. การตรวจสอบประวัติพนักงานหรือนายหน้าของมูลนิธิฯ
  7. การดำเนินการทางด้านบัญชี การเงิน หรือการบริหารงานภายในอื่นๆ ของมูลนิธิฯ
  8. การเฝ้าระวัง ป้องกัน ตรวจสอบ รับเรื่องร้องเรียนการสืบสวน สอบสวนพฤติกรรมที่ต้องสงสัย หรือพฤติกรรมการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้าย การประพฤติโดยมิชอบ อาชญากรรม รวมทั้งการดำเนินการเพื่อป้องกันเหตุดังกล่าว
  9. การพิจารณาโทษทางวินัย การบันทึกประวัติการลงโทษ การแจ้งความ ร้องทุกข์ กล่าวโทษ ให้ถ้อยคำ เบิกความ ต่อเจ้าพนักงาน ตำรวจ ศาล และหน่วยงานทางราชการที่เกี่ยวข้อง
  10. การดำเนินการเกี่ยวกับข้อพิพาท รวมทั้งการแก้ปัญหาข้อพิพาท การก่อตั้งสิทธิเรียกร้องการปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
  11. การให้ข้อมูลเกี่ยวกับการจ้างงานพนักงาน การเปิดเผยสถานะการเป็นพนักงานแก่บุคคลภายนอก เช่น บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์
  12. การจัดทำรายงานต่างๆ ให้หน่วยงานภายในของมูลนิธิฯ รวมถึงการทำแบบสอบถามหรือ การเก็บ และการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อสนับสนุนการทำงานภายในองค์กร
  13. การจัดการเดินทาง หรือที่พัก หรือการอำนวยความสะดวกด้านอื่น ๆ ให้แก่พนักงาน เช่น การจองบัตรโดยสาร, การจองห้องพักโรงแรม หรือการจัดอาหารให้แก่พนักงาน
  14. การสื่อสารและประชาสัมพันธ์กับพนักงาน ไม่ว่าในช่องทางใด ๆ
  15. การดำเนินการเกี่ยวกับสมาชิกสหกรณ์ และกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์

1.4 ความยินยอมของท่าน

โดยทั่วไปแล้วมูลนิธิฯ จะไม่เก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หากมูลนิธิฯ ไม่มีฐานทางกฎหมายในการดำเนินการดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่จำเป็น มูลนิธิฯ จะขอความยินยอมจากท่านในการเก็บรวบรวมใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อประโยชน์ของตัวท่านเอง ในกรณีต่าง ๆ ดังต่อไปนี้

  1. มูลนิธิฯ มีความจำเป็นต้องเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว (Sensitive Data) เช่น เพื่อใช้ในการยืนยันตัวบุคคล (Authentication) ในการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม หรือในการจัดสิทธิประโยชน์สวัสดิการเกี่ยวกับสุขภาพให้แก่พนักงาน
  2. มูลนิธิฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ ซึ่งอาจมีมาตรฐานในการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ต่ำกว่าประเทศไทย
  3. กรณีที่เจ้าของข้อมูลเป็นผู้เยาว์ คนเสมือนไร้ความสามารถ คนไร้ความสามารถ ซึ่งต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดา ผู้ปกครอง ผู้อนุบาล หรือผู้พิทักษ์ (แล้วแต่กรณี)

1.5 ฐานทางกฎหมายอื่น ๆ

นอกจากฐานทางกฎหมายข้างต้น มูลนิธิฯ อาจเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านภายใต้ฐานทางกฎหมายอื่นดังนี้

  1. เมื่อจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุเพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือที่เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยหรือสถิติ
  2. เมื่อมูลนิธิฯ เชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล
  3. เมื่อมูลนิธิฯ เชื่อว่าการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติหน้าที่ในการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะหรือเพื่อการใช้อำนาจของพนักงานเจ้าหน้าที่

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯ เก็บรวบรวม

ประเภทของข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และความจำเป็น โดยมีทั้งข้อมูลส่วนบุคคลทั่วไปและข้อมูลส่วนบุคคลที่อ่อนไหว

ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มูลนิธิฯ ประมวลผลอาจประกอบไปด้วยข้อมูลดังต่อไปนี้

ประเภทข้อมูล ตัวอย่างข้อมูลส่วนบุคคล
รายละเอียดส่วนบุคคล
  • ชื่อ, ชื่อกลาง, นามสกุล, นามแฝง (หากมี)
  • เพศ
  • วันเดือนปีเกิด และอายุ
  • สถานภาพสมรส
  • สัญชาติ
  • ประวัติการศึกษา
  • ประวัติการทำงาน
ที่อยู่ติดต่อ
  • ที่อยู่ติดต่อทางไปรษณีย์
  • ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน
  • อีเมล
  • หมายเลขโทรศัพท์
  • หมายเลขโทรสาร
  • บัญชี Social Media
รายละเอียดที่ใช้ในการระบุตัวตนและการยืนยันตัวตน
  • ภาพถ่ายบนบัตรประจำตัวประชาชนหรือบัตรประจำตัวพนักงาน หรือนายหน้า
  • หมายเลขบัตรประชาชน
  • ข้อมูลหนังสือเดินทาง
  • ใบอนุญาตขับรถ
  • ลายมือชื่อ
รายละเอียดการทำงาน
  • ตำแหน่ง และหน้าที่ความรับผิดชอบ
  • เงินเดือน และค่าตอบแทน
  • ประวัติการลา หรือขาดงาน
  • ผลการประเมินการทำงาน
  • ผลการทำแบบทดสอบ หรือแบบประเมินต่างๆ
  • ข้อมูลการเบิกจ่ายเงิน และการใช้สวัสดิการ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการกระทำผิดวินัย หรือระเบียบของบริษัท
สิทธิประโยชน์ สวัสดิการ
  • ข้อมูลด้านการเงินและภาษีอากร
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และประกันภัย
  • ข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ
  • ข้อมูลเกี่ยวกับการฌาปนกิจสงเคราะห์
  • ข้อมูลสินเชื่อ หรือหนี้สิน
  • ข้อมูลการศึกษาของบุตรพนักงาน
ข้อมูลทางภูมิศาสตร์และข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของท่าน
  • ตำแหน่งจีพีเอสของท่าน
  • หมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์(IP Address)
  • ข้อกำหนดเฉพาะทางเทคนิคและข้อมูลเฉพาะที่ใช้ระบุตัวตน
ข้อมูลเพื่อการตรวจสอบ
  • การตรวจสอบประวัติ การฟอกเงิน และต่อต้านการก่อการร้าย
  • การให้ความยินยอมและข้อมูลที่บอกรายละเอียดของข้อมูล (Metadata) ที่เกี่ยวข้อง ที่แลกเปลี่ยนระหว่างบุคคล และ/หรือองค์กร รวมถึง อีเมล ข้อความเสียง และการสนทนาแบบ live chat
ข้อมูลการเข้าใช้งานระบบของบริษัท
  • ข้อมูลการเข้าใช้ระบบคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์ ของบริษัท รวมถึงประวัติการเข้าใช้อินเตอร์เน็ต
ข้อมูลเกี่ยวกับความปลอดภัยและข้อมูลที่จำเป็นเพื่อมูลนิธิฯ ดำเนินการตามภาระหน้าที่ตามกฎหมาย
  • รูปภาพ
  • ลักษณะรูปพรรณสัณฐานบุคคล
  • การตรวจพบข้อสงสัยหรือกิจกรรมที่ผิดปกติ
  • ภาพถ่ายหรือภาพเคลื่อนไหวผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิด
  • บันทึกวีดีโอ
ข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว
  • เชื้อชาติ
  • ศาสนา
  • ข้อมูลสุขภาพ อาทิ หมู่โลหิต ผลการตรวจสุขภาพ
  • ข้อมูลอัตลักษณ์ทางชีวภาพ (Biometric) เช่น การจดจำใบหน้า ลายนิ้วมือ ม่านตา
  • ประวัติอาชญากรรม
  • ข้อมูลเกี่ยวกับสหภาพแรงงาน
  • ความพิการ หรือความบกพร่องทางด้านร่างกาย
ข้อมูลอื่นๆ
  • บันทึกการโต้ตอบและการสื่อสารระหว่างท่านกับบริษัท ไม่ว่าจะในรูปแบบหรือวิธีใดๆ ก็ตาม เช่น โทรศัพท์ อีเมล ข้อความสนทนา และการสื่อสารทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) เป็นต้น
  • ข้อมูลที่ท่านให้ไว้กับบริษัทโดยการกรอกแบบฟอร์ม ช่องทางสื่อสารอื่นๆ เช่น การสนทนาต่อหน้า ทางโทรศัพท์ อีเมล หรือช่องทางอิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ

3. แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

โดยทั่วไปแล้วมูลนิธิฯ จะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลจากท่านโดยตรง แต่ในบางกรณีมูลนิธิฯ อาจได้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านมาจากแหล่งอื่น ซึ่งมูลนิธิฯ จะดำเนินการให้เป็นไปตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ข้อมูลส่วนบุคคลที่มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นอาจมีดังต่อไปนี้

  1. ข้อมูลที่ท่านขอให้มูลนิธิฯ เก็บรวบรวมให้แก่ท่าน เช่น ข้อมูลบัญชีของท่าน หรือข้อมูลการถือครองสินทรัพย์ในบริษัทอื่น รวมทั้งข้อมูลทางธุรกรรมต่าง ๆ
  2. ข้อมูลของบุคคลที่มีความเกี่ยวเนื่องกับท่าน (เช่น ครอบครัวของท่าน เครือญาติ ผู้ค้ำประกันการทำงาน ผู้ค้ำประกันการรับทุนเป็นต้น) ในกรณีที่จำเป็นเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการจ้างงาน หรือการจัดสิทธิประโยชน์และสวัสดิการที่เกี่ยวข้อง
  3. ข้อมูลที่มาจากผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก และ/หรือหน่วยงานราชการ เช่น ข้อมูลที่จะช่วยให้มูลนิธิฯ สามารถป้องกันการทุจริต หรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมของท่าน (รวมทั้งการสื่อสารของท่านทางสื่อสังคม ระหว่างบุคคล องค์กร ผู้ดูแลและผู้มีส่วนได้เสียอื่นซึ่งได้มาจากบริษัทต่าง ๆ ที่มีการเก็บรวบรวมข้อมูล)
  4. ข้อมูลจากหุ้นส่วนทางธุรกิจที่บริษัทไว้วางใจ หรือบุคคลภายนอกอื่นใดที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกรรมของท่าน
  5. หากข้อมูลมีขึ้นมาจากกรมธรรม์ประกันภัยหรือการเรียกร้องสินไหมทดแทน ทางมูลนิธิฯ อาจมีการเก็บรวบรวมข้อมูลดังต่อไปนี้เพิ่มเติม
    1. ข้อมูลการรักษาพยาบาล โดยมีข้อตกลงหรือได้รับความยินยอมจากท่าน
    2. ข้อมูลเกี่ยวกับประวัติการเรียกร้องสินไหมทดแทน
    3. ข้อมูลจากบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องกับกรมธรรม์ประกันภัยหรือการเรียกร้องสินไหมทดแทนของท่าน
    4. ข้อมูลที่มาจากแหล่งข้อมูลสาธารณะ
  6. ข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิด และอุปกรณ์ความปลอดภัย
  7. ข้อมูลที่มาจากบริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำงาน หรือมีความสัมพันธ์กับท่าน

นอกจากนี้มูลนิธิฯ อาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลอื่นดังต่อไปนี้จากท่าน

  • บุคคลที่สามารถติดต่อได้ในกรณีฉุกเฉิน
  • บุคคลที่อยู่ในอุปการะ บุคคลในครอบครัว หรือบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับท่าน
  • ผู้ที่มีสิทธิได้รับผลประโยชน์จากการจัดสวัสดิการต่าง ๆ ของมูลนิธิฯ
  • บุคคลที่ท่านอ้างอิงถึงในในใบสมัครงาน หรือสัญญาที่ท่านทำไว้กับมูลนิธิฯ

ในการให้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลเหล่านี้ให้กับมูลนิธิฯ ท่านมีหน้าที่ในการแจ้งให้เจ้าของข้อมูลทราบถึงรายละเอียดในการเก็บ รวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลของมูลนิธิฯ

4. สิทธิของท่าน

พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ท่านสามารถควบคุมการใช้มูลส่วนบุคคลได้มากขึ้น โดยท่านมีสิทธิตามกฎหมายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลดังต่อไปนี้

  • สิทธิในการเข้าถึงและขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิเข้าถึงและได้รับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มูลนิธิฯ มีอยู่ เว้นแต่ในกรณีที่มูลนิธิฯ มีสิทธิปฏิเสธคำขอของท่านตามกฎหมายหรือคำสั่งศาล หรือในกรณีที่คำขอของท่านจะมีผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น
  • สิทธิในการขอแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้มูลนิธิฯ ปรับปรุงแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้เป็นปัจจุบัน ครบถ้วน ถูกต้อง ซึ่งท่านสามารถใช้สิทธิดังกล่าวนี้ได้ตลอดเวลา
  • สิทธิในการขอให้ลบข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้มูลนิธิฯ ลบ หรือทำลายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือทำให้ข้อมูลของท่านเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวตนของท่านได้ เว้นแต่ในกรณีที่บริษัทจะมีเหตุอันชอบด้วยกฎหมายในการปฏิเสธคำขอของท่าน
  • สิทธิในการขอให้จำกัดการดำเนินการหรือประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิขอให้มูลนิธิฯ งดประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในบางกรณี เช่น ในระหว่างการตรวจสอบเพื่อแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือเมื่อมูลนิธิฯ ไม่มีความจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอีกต่อไป
  • สิทธิในการคัดค้านการประมวลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิคัดค้านการดำเนินการหรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เว้นแต่กรณีที่มูลนิธิฯ มีเหตุในการปฏิเสธตามกฎหมาย หรือเมื่อการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเป็นไปเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย เพื่อใช้หรือปกป้องสิทธิเรียกร้องทางกฎหมาย หรือการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลจำเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สาธารณะ
  • สิทธิในการโอนย้ายข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ท่านมีสิทธิร้องขอให้มูลนิธิฯ โอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอก หรือสามารถขอรับข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มูลนิธิฯ ได้โอนไปยังบุคคลภายนอก ทั้งนี้ เฉพาะในกรณีที่มูลนิธิฯ สามารถดำเนินการได้ทางเทคนิคเท่านั้น
  • สิทธิในการขอเพิกถอนความยินยอม ท่านมีสิทธิขอเพิกถอนความยินยอมที่ท่านได้ให้ไว้กับมูลนิธิฯ เมื่อใดก็ได้ ตามขั้นตอนและวิธีการที่มูลนิธิฯ กำหนด เว้นแต่โดยสภาพไม่สามารถถอนความยินยอมได้ ทั้งนี้ การเพิกถอนความยินยอมของท่านจะไม่ส่งผลกระทบต่อการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้ให้ความยินยอมไปแล้วโดยชอบ ก่อนการเพิกถอนความยินยอมดังกล่าว
  • สิทธิในการร้องเรียน ท่านมีสิทธิยื่นข้อร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อให้ได้รับการเยียวยาอย่างเป็นธรรม

5. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

มูลนิธิฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อบุคคลหรือองค์กรดังต่อไปนี้ ภายใต้หลักเกณฑ์ของพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

  1. บริษัทในกลุ่มธุรกิจการเงินเอสซีบี เอกซ์ พันธมิตรทางธุรกิจ และ/หรือ บุคคลอื่นใดที่มูลนิธิฯ มีนิติสัมพันธ์ด้วย รวมถึงกรรมการ ผู้บริหาร พนักงาน ลูกจ้าง ผู้รับจ้าง ตัวแทน ที่ปรึกษาของบุคคลดังกล่าว
  2. ลูกค้า หรือผู้รับบริการของมูลนิธิฯ ซึ่งการเปิดเผยเป็นไปโดยความจำเป็นที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของท่าน หรือโดยมีฐานทางกฎหมายอื่นรองรับ
  3. คู่ค้า ตัวแทน ผู้ให้บริการภายนอก หรือองค์กรอื่น (เช่น ผู้ตรวจสอบบัญชีอิสระ คลังเก็บเอกสาร ผู้ให้บริการระบบสารสนเทศ) ซึ่งการเปิดเผยข้อมูลบุคคลส่วนบุคคลของท่านจะมีวัตถุประสงค์โดยเฉพาะเจาะจง ภายใต้ฐานทางกฎหมายรองรับ และมาตรการความปลอดภัยที่เหมาะสม
  4. บุคคลที่เกี่ยวข้องในกรณี การขาย สิทธิเรียกร้อง และ/หรือ ทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร หรือการควบรวมกิจการของมูลนิธิฯ ซึ่งมูลนิธิฯ อาจต้องมีการโอนสิทธิไปยังกิจการดังกล่าว รวมถึงบุคคลต่าง ๆ ที่มูลนิธิฯ จำเป็นต้องแบ่งปันข้อมูลเพื่อการขาย สิทธิเรียกร้อง และ/หรือทรัพย์สิน การปรับโครงสร้างองค์กร การโอนกิจการ ข้อตกลงทางการเงิน การจำหน่ายทรัพย์สิน หรือธุรกรรมอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับกิจการ และ/หรือ ทรัพย์สินที่ใช้ในการดำเนินกิจการของมูลนิธิฯ
  5. ที่ปรึกษากฎหมาย ทนายความ หน่วยงานป้องกันการทุจริต ศาล หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ บุคคลใด ๆ ที่บริษัทถูกกำหนดหรืออนุญาตตามกฎหมาย กฎระเบียบที่เกี่ยวข้อง คำสั่งศาลหรือพนักงานเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ให้ต้องเปิดเผยข้อมูล
  6. ผู้ค้ำประกันที่เป็นบุคคลภายนอกหรือบุคคลอื่นใดที่ให้ผลประโยชน์หรือให้บริการแก่ท่าน เช่น บริษัทประกันภัย ที่เกี่ยวข้องกับการทำงาน ผลิตภัณฑ์ หรือบริการ
  7. ผู้รับมอบอำนาจ หรือผู้แทนโดยชอบธรรมของท่าน หรือ ผู้รับมอบอำนาจช่วง หรือตัวแทนอื่นที่มีอำนาจตามกฎหมายโดยชอบ หรือมีสิทธิใช้บัญชีของท่าน
  8. ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ ซึ่งเกี่ยวข้องกับการเปิดเผยข้อมูลของท่านตามกฎหมาย และ/หรือ หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแลบริษัท (เช่น กรมสวัสดิการคุ้มครองแรงงาน กรมบังคับคดี กองทุนให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เป็นต้น)

6. การโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ

ในกรณีที่มูลนิธิฯ มีความจำเป็นต้องโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ มูลนิธิฯ จะใช้ความพยายามอย่างดีที่สุดในการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังพันธมิตรทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ หรือผู้รับข้อมูลของมูลนิธิฯ ที่มีความน่าเชื่อถือด้วยวิธีการที่ปลอดภัยที่สุดเพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ซึ่งรวมถึงกรณีดังต่อไปนี้

  1. เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย
  2. มูลนิธิฯ ได้แจ้งให้ท่านทราบถึงมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่เพียงพอของประเทศปลายทาง และได้รับความยินยอมจากท่าน
  3. ปฏิบัติตามสัญญาที่ท่านทำไว้กับมูลนิธิฯ หรือตามคำขอของท่านก่อนการเข้าทำสัญญา
  4. ปฏิบัติตามสัญญาระหว่างมูลนิธิฯ กับบุคคลหรือนิติบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์ของท่าน
  5. ป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของท่านหรือบุคคลอื่น เมื่อท่านไม่สามารถให้ความยินยอมในขณะนั้นได้
  6. ดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะที่สำคัญ

7. ระยะเวลาในการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ จะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในระหว่างที่ท่านยังมีสถานภาพเป็นพนักงาน ลูกจ้าง ผู้ให้บริการ ผู้รับจ้าง หรือมีความสัมพันธ์ตามสัญญาจ้างแรงงาน สัญญาให้บริการ สัญญาจ้างทำของ สัญญานายหน้า หรือสัญญาอื่นในทำนองเดียวกันที่ท่านทำไว้กับมูลนิธิฯ และเมื่อสัญญาดังกล่าวสิ้นสุดลง มูลนิธิฯ จะเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ตามระยะเวลาเท่าที่เหมาะสมและจำเป็นสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลแต่ละประเภทและแต่ละวัตถุประสงค์ตามที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด

ระยะเวลาที่มูลนิธิฯ เก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะเป็นไปตามอายุความหรือระยะเวลา
ในการบังคับใช้กฎหมาย อย่างไรก็ตาม หลังจากสิ้นสุดระยะเวลาดังกล่าว มูลนิธิฯ อาจเก็บรักษาข้อมูลดังกล่าวต่อไปอีกหากมีภาระหน้าที่ต้องปฏิบัติตามกฎหมาย หรือในกรณีที่มีการใช้สิทธิเรียกร้องบางประการหรือมีข้อร้องเรียนที่ทำให้บริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือ ด้วยเหตุผลทางกฎระเบียบหรือทางเทคนิค ซึ่งหากบริษัทจำเป็นต้องเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลทางของท่าน
เป็นระยะเวลานานกว่าที่กล่าวมานี้ มูลนิธิฯ จะยังคงปกป้องคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไป

นอกจากนี้ มูลนิธิฯ อาจจำเป็นต้องเก็บบันทึกข้อมูลจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดที่สำนักงานและ สถานประกอบธุรกิจของมูลนิธิฯ และบันทึกบุคคลผู้เข้าถึงพื้นที่ของมูลนิธิฯ เพื่อป้องกันเหตุทุจริตและการรักษาความปลอดภัยของลูกค้าหรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง

8. คุกกี้

มูลนิธิฯ อาจเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกัน เมื่อท่านเข้าใช้ระบบ ผลิตภัณฑ์ หรือบริการของมูลนิธิฯ รวมถึงการใช้เว็บไซต์ ระบบที่ใช้สำหรับการทำงานและการให้บริการของมูลนิธิฯ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ การทำธุรกรรมทางการเงินผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต และแอพพลิเคชั่น ของมูลนิธิฯ

การเก็บรวบรวมและใช้คุกกี้และเทคโนโลยีในลักษณะเดียวกันดังกล่าวจะช่วยให้มูลนิธิฯ สามารถจดจำท่าน ทราบถึงการทำงานและความชื่นชอบของท่าน และปรับปรุงวิธีการที่บริษัทจะนำเสนอระบบผลิตภัณฑ์ หรือบริการให้ตรงกับความต้องการของท่าน มูลนิธิฯ อาจใช้คุกกี้เพื่อวัตถุประสงค์ต่าง ๆ เช่น ปรับปรุงหรือพัฒนารูปแบบและวิธีการทำงาน ปรับปรุงให้ท่านได้รับประสบการณ์ออนไลน์ที่ดีขึ้น ช่วยให้มูลนิธิฯ เข้าใจวิธีการในการโต้ตอบกับท่านผ่านอีเมลของมูลนิธิฯ ได้ดีขึ้น ช่วยให้บริษัทปรับปรุงการสื่อสารกับท่าน และเพื่อให้มั่นใจว่าสื่อโฆษณาออนไลน์ที่ได้แสดงแก่ท่านนั้นมีความเกี่ยวข้องกับท่านและความสนใจของท่าน

9. การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลตามวัตถุประสงค์เดิม

มูลนิธิฯ มีสิทธิในการเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่มูลนิธิฯ ได้เก็บรวบรวมไว้ก่อนวันที่พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเก็บรวบรวม การใช้ และการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลมีผลใช้บังคับต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิม หากท่านไม่ประสงค์ที่จะให้มูลนิธิฯ เก็บรวมรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว โปรดแจ้งการถอนความยินยอมของท่านให้มูลนิธิฯ ทราบในเวลาใดก็ได้

10. การรักษาความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

มูลนิธิฯ มีการใช้มาตรการต่าง ๆ ในเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้ปลอดภัย ซึ่งอาจรวมถึงเข้ารหัส (Encryption) และการรักษาความปลอดภัยในรูปแบบอื่น ๆ นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังได้กำหนดให้บุคลากรของมูลนิธิฯ และบุคคลภายนอกที่ดำเนินการในนามของมูลนิธิฯ ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานและนโยบายความเป็นส่วนบุคคลที่เหมาะสม ซึ่งรวมถึงการใช้ความระมัดระวังและมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษาความปลอดภัยในการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

11. วิธีการติดต่อ

หากท่านมีข้อสงสัยหรือต้องการสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายความเป็นส่วนตัวของมูลนิธิฯ หรือต้องการขอใช้สิทธิของท่าน โปรดติดต่อมูลนิธิฯ ผ่านหน่วยงาน ทรัพยากรบุคคล People Strategic Partner 2 โทร 065-934-2555 และ 095-368-8487

นอกจากนี้ ท่านสามารถติดต่อเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยติดต่ออีเมล PDPA@scbf.or.th หรือติดต่อสำนักงานใหญ่ของมูลนิธิสยามกัมมาจล เลขที่ 19 ถนนรัชดาภิเษก แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900

12. การแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัว

มูลนิธิฯ อาจแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายความเป็นส่วนตัวฉบับนี้ได้เป็นครั้งคราว โดยจะแจ้งหรือประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวที่แก้ไขเพิ่มเติมนั้นไว้ที่เว็บไซต์ของมูลนิธิฯ