ในระยะที่โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา และโครงการจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนาเยาวชนได้ดำเนินโครงการไปได้ระยะหนึ่ง หลังจากที่ผ่านการพัฒนาเยาวชนในการพัฒนาข้อเสนอโครงการ มาสู่การติดตาม และ Coach เยาวชนระหว่างการทำโครงการ มูลนิธิฯ ได้จัดเวทีเพื่อให้เจ้าหน้าที่ 2 โครงการได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้การออกแบบ และเทคนิคการติดตามและ Coach เยาวชน โดยมีโครงการต้นกล้าในป่าใหญ่ ที่ดำเนินการโดย RECOFTC มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ด้วย พร้อมทั้ง 3 โครงการได้ร่วมกันลงมือติดตาม และ Coach เยาวชนโครงการศึกษาป่าสนธรรมชาติบริเวณแหลมสนอ่อน ภายใต้โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลาเพื่อฝึก และใช้ความถนัดของแต่ละโครงการมาร่วม Coach เยาวชน เรื่องการสำรวจและประเมินทรัพยากรป่าอีกด้วย โดยจัดขึ้นในวันที่ 4-5 ก.พ. พ.ศ. 2556 ณ สงขลาฟอรั่ม จ.สงขลา
เป้าหมาย
- เพื่อเสริมศักยภาพในการติดตาม และ Coach เยาวชนระหว่างการทำโครงการผ่านการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่างเจ้าหน้าที่โครงการพลังพลเมืองเยาวชน สงขลา และโครงการจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนาเยาวชน และโครงการต้นกล้าในป่าใหญ่
- เพื่อทบทวน และสกัดความรู้เรื่องการติดตาม และ Coach เยาวชนในการทำโครงการ community project จากทั้ง 3 โครงการ นำไปสู่การทบทวนสำหรับการดำเนินโครงการในปีต่อไป และเผยแพร่เพื่อการใช้ประโยชน์สำหรับผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป
ผลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เครื่องมือติดตามและพัฒนาเยาวชน
เจ้าหน้าที่โครงการพลังพลเมืองเยาวชนสงขลา โครงการจัดตั้งกองทุนสิ่งแวดล้อมเพื่อพัฒนาเยาวชน และโครงการต้นกล้าในป่าใหญ่ ได้ร่วมกันคิดในทีมของตนเองภายใต้โจทย์วิธีการดำเนินงานพัฒนาศักยภาพเยาวชน (Coach) ในช่วงก่อน ระหว่าง และหลังการลงพื้นที่ติดตามเยาวชน ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 โครงการ ได้แผนการทำงาน วิธีการเทคนิคและเครื่องมือที่ใช้ มาแลกเปลี่ยนระหว่างกัน
เสียงสะท้อนจากผู้เข้าร่วมเวที
ลัดดา วิไลศรี (มูลนิธิกองทุนไทย) "จากการแลกเปลี่ยนในเวที ได้เห็นเครื่องมือ เห็นระบบงานที่ชัดเจน ระบบเรื่องการเก็บข้อมูลในคอมพิวเตอร์ อย่างตอนนี้ก็เก็บเป็นของแต่ละคนอยู่ ก็น่าจะดีที่นำมาฝากที่คนๆหนึ่งที่เป็นข้อมูลที่สมบูรณ์แล้ว เวลาเรียกใช้งาน สามารถเอาไปใช้ได้เลย ถ้าเราไม่อยู่ เพื่อนอีกคนก็เอาข้อมูลไปใช้ได้
เรื่องการแบ่งฝ่ายการทำงานก่อนลงพื้นที่ กองทุนไทยเพิ่งเริ่มทำงานแบบนี้เป็นครั้งแรก ระบบการทำงานอาจจะยังไม่คงที่ ยังไม่มีการแบ่งงานว่าใครจด ใครคุย ใครถ่ายรูป บางทีเวลาลงพื้นที่ก็ทำให้กังวล ก็จะเอาสิ่งที่ได้เขียนมาไปปรับใช้ในโครงการ มันเห็นภาพตั้งแต่เริ่มจนจบโครงการ
หลังจากที่คิดหรือทำกันเองแค่กลุ่มโครงการเราแค่โครงการเดียว บางทีมันหาทางไปต่อไม่ได้ เพราะเราเองหรือพี่แอ๋วก็ไม่มีทักษะ หรือว่าได้เรียนมา หรือทำอะไรแบบนี้ ก็จะไม่มีความรู้เท่าไร คือที่ผ่านมาปฏิบัติอย่างเดียว พอมีทฤษฎีและกระบวนการทำงานที่ชัดเจนก็ช่วยได้เยอะ"
รัตติกา เพชรทองมา (มูลนิธิกองทุนไทย) "มันทำให้เห็นจริงๆว่าคนทำงาน จำนวนคน ทักษะของคนที่แตกต่างกันไปมาช่วยกันทำงานเป็นสิ่งสำคัญเหมือนกัน พอมาเทียบกับเราเองที่ทำทุกอย่างคนเดียวซึ่งมันเป็นไปไม่ได้ เราต้องพัฒนาเด็ก ฉะนั้นเราต้องมีอะไรที่มากกว่าเด็ก จุดเด่นของเราคือมีทักษะ กระบวนการที่จะเติมเต็มให้เด็กด้านสิ่งแวดล้อม เรื่องการจัดการเราพอทำได้ แต่พอคนหนึ่งต้องมารับผิดชอบเรื่องงานพัฒนา วางแผน หรือประเมินการพัฒนาเด็กไปพร้อมกันด้วย มันทำให้เสียเวลาในเรื่องการมาเรียนรู้ด้วยตนเอง เรื่องทฤษฎีพอมีคนที่ถนัดมาช่วยหนุนจะทำให้วางระบบได้เร็วขึ้น เช่น รู้ว่าต้องสังเกต แต่ไม่รู้ว่าต้องสังเกตอะไร ซึ่งบางครั้งต้องอิงทฤษฎีเพื่อการประเมิน แปลผล จึงเป็นข้อจำกัดของจำนวนคนที่น้อย หลายๆอย่างก็นำเอาไปใช้ได้ เห็นภาพของระบบที่เอาไปใช้ได้จริงๆ"
สุภาภรณ์ ปันวารี (RECOFTC) "หนึ่ง เรื่องความโปร่งใสที่จำนำไปใช้กับโครงการ และปลูกฝังในตัวน้อง สอง การที่มีเวลาที่จะใส่ใจรายละเอียดของตัวโครงการทั้งของเรา และของน้อง อีกอันหนึ่งคือแบบบันทึกพฤติกรรม ส่วนตัวใช้วิธีจำ เวลาถามกฌจะนึกเอาว่าน้องคนนี้เป็นอย่างไร แต่ว่าไม่ถึงกับมาจดบันทึก ซึ่งคิดว่าดี เพราะนานไปเราก็จะลืมถ้าเราไม่บันทึกว่าน้องเป็นอย่างไร น่าสนใจที่จะเอาไปใช้ได้ และมีแบบฟอร์มอะไรหลายๆอย่างๆที่ชัดเจน อีกเรื่องคือ ดีตรงที่มีการมีคนมา Coach เราอีกชั้น ซึ่งเราต้องเป็นคนไป Coach น้อง และช่วยเราสื่อสารเผยแพร่ไปสู่คนข้างนอก"
จากการแลกเปลี่ยนเครื่องมือขององค์กรภาคีและขั้นตอนการดำเนินงานในการติดตาม และเสริมศักยภาพเยาวชน (Coach) นำไปสู่การสรุปปัจจัยความสำเร็จ ในการ Coach เพื่อเป็นฐานข้อมูล สร้างการเรียนรู้ และนำการเรียนรู้นั้นมาเผยแพร่ และประเมินผล ดังนี้