โครงการปลูกใจ รักษ์โลก กองทุนสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาเยาวชน
โครงการปลูกใจ รักษ์โลก กองทุนสิ่งแวดล้อมเพื่อการพัฒนาเยาวชน
กิจกรรมขับเคลื่อนโครงการ
ลงพื้นที่ติดตามโครงการป่าสัญจร รอนแรมในป่าใหญ่ กลุ่มเยาวชนก่อการดี จ.เลย 13-16 มี.ค. 2557
ความเป็นมา วัตถุประสงค์

การลงพื้นที่ติดตามโครงการาสัญจร รอนแรมในป่าใหญ่ ของกลุ่มเยาวชนก่อการดี จ.เลย ในครั้งนี้เพื่อลงไปชวนคุย ชวนคิด ทำความเข้าร่วมกัน และดูการทำกิจกรรมของกลุ่มที่ได้จัดค่าย“นอนกลางดิน กินกลางป่า”ขึ้น โดยมีน้องๆเยาวชน ม.1-3 โรงเรียนบ้านโป่งศรีโทน เข้าร่วม ระหว่างวันที่ 14-16 มีนาคม 2557

กำหนดการและรายงานผล
ทำเนียบผู้เข้าร่วมกิจกรรม
สรุปผลกิจกรรม/บันทึกการทำงาน

การลงพื้นที่ติดตามโครงการป่าสัญจร รอนแรมในป่าใหญ่

กลุ่ม เยาวชนก่อการดี จ.เลย

วันที่ 13-16 มี.ค. 2557

13 มี.ค.2557 วันนี้ทางทีมงานเดินทางไปถึงหมู่บ้านในช่วงเช้า และนัดคุยกับแกนนำกลุ่มเยาวชนในช่วงบ่าย เนื่องจากช่วงเช้า แกนนำกลุ่มเยาวชนหลายๆคน ต้องไปดูผลการเรียนที่โรงเรียน ในช่วงบ่ายทีมงาน ไปพบน้องๆที่ห้องสมุดชุมชน ต.เอราวัณ ซึ่งเป็นที่ทำการของกลุ่มเยาวชนก่อการดี มีน้องๆแกนนำจำนวน 7 คนและพี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชนก่อการดี 3 คน อยู่ที่นั่น ประกอบด้วย ฝน,ก้อย,เบญ,ปริม,นุ่น,โฟม,กอล์ฟ,พี่เปเล่,พี่นก,พี่ไก่ กำลังช่วยกันจัดเตรียมเอกสาร อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องใช้ในค่าย “นอนกลางดิน กินกลางป่า” ครั้งนี้ พอไปถึงก็ได้ชวนน้องๆแกนนำและทีมพี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชน คุยถึงกำหนดการค่าย มีกิจกรรมอะไรบ้าง โดยน้องฝน เป็นคนเล่ากำหนดการคร่าวๆให้เราฟัง ในระหว่างที่เล่ากำหนดการให้เราฟัง ทางกลุ่มเยาวชนก็มีการปรับกิจกรรมบางส่วนด้วย เนื่องจากสมาชิกกลุ่มหลายคนไม่สามารถมาได้ จึงต้องปรับกิจกรรมให้สอดคล้องกับจำนวนคนทำงาน และมีการลงรายละเอียดกิจกรรมบางกิจกรรมให้ชัดเจนขึ้น โดยน้องฝน น้องก้อย น้องเบญ และน้องปริม จะมีบทบาทในการแสดงความคิดเห็นและช่วยกันกำหนดกิจกรรมที่จะเกิดขึ้นในค่าย ส่วนทีมพี่เลี้ยงจะคอยสอบถามรายละเอียดต่างๆเพื่อให้กลุ่มเยาวชนลงรายละเอียดกิจกรรมให้ชัดเจนและเข้าใจ รวมถึงเสนอแนะในบางประเด็นด้วย หลังจากบอกเล่ากำหนดการเบื้องต้นให้ทีมงานฟังแล้ว ก็ได้มีการชวนน้องๆแกนนำทบทวนเป้าหมายของการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งน้องฝนได้บอกเล่าถึงเป้าหมายในการจัดกิจกรรม ค่าย “นอนกลางดิน กินกลางป่า” ว่า เพื่อให้เด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้เรียนรู้เรื่องประโยชน์ และการพึ่งพิงป่าของชาวบ้าน และภูมิปัญญาต่างๆ ในชุมชน โดยเรียนรู้ผ่านคนรุ่นก่อน ผู้เฒ่าผู้แก่ในหมู่บ้าน เด็กที่มาเข้าค่ายสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อมในพื้นที่มากขึ้น และเข้าร่วมเป็นอาสาในกลุ่มเยาวชนก่อการดี ซึ่งกลุ่มเป้าหมายก็คือ น้องๆ ม.1-3 โรงเรียนบ้านโป่งศรีโทน ที่เป็นเด็กในพื้นที่ติดกับถูกระแต ต่อจากนั้นเราชวนน้องๆแกนนำกลุ่มและพี่เลี้ยงกลุ่มแต่ละคน บอกเล่าบทบาทหน้าที่ที่ตนเองได้รับในค่ายครั้งนี้ โดย ฝน >> เป็นแกนนำหลักของกลุ่ม วางแผนกิจกรรม เป็นพี่เลี้ยงกลุ่ม และเป็นผู้ประสานงานกับผู้รู้ในชุมชน ไปหาผู้รู้ในชุมชน ชี้แจงเรื่องกิจกรรมที่กลุ่มเยาวชนจะทำ ขอความร่วมมือผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน ได้รับความร่วมมือจากผู้เฒ่าผู้แก่เป็นอย่างดี เบญ>> เป็นแกนนำหลักของกลุ่ม วางแผนกิจกรรม เป็นพี่เลี้ยงกลุ่มในค่าย รับผิดชอบกิจกรรมในค่าย เช่น กิจกรรมเนื้อหาทางวิชาการ กิจกรรมการเตรียมความพร้อมของสมาชิกค่าย เกมส์ ร้องเพลงค่าย สันทนาการอื่นๆ จัดเตรียมอุปกรณ์ ก้อย>>เป็นแกนนำหลักของกลุ่ม วางแผนการทำกิจกรรม เป็นพี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชนในค่าย เป็นประชาสัมพันธ์ของค่าย ประชาสัมพันธ์กับทางโรงเรียนและชาวบ้านในชุมชนให้รับรู้ว่ากลุ่มเยาวชนจะทำกิจกรรมอะไร จดบันทึกการประชุมและสรุปข้อมูลให้กับสมาชิกกลุ่มคนอื่นๆ ทำบัญชีค่าย-กลุ่ม ปริม>>เป็นสมาชิกกลุ่ม เป็นพี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชนในค่าย จัดเตรียมอุปกรณ์โฟม>>เป็นพี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชนในค่าย ช่วยขนอุปกรณ์ค่าย ตีกลองและดีดกีต้าร์ในค่ายกอล์ฟ>> เป็นพี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชนในค่าย ช่วยเตรียม/ขนอุปกรณ์ เป็นทีมตัวอย่างเต้นเพลงต่างๆ นุ่น>>เป็นทีมพี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชน เตรียมอุปกรณ์

­

พี่เลี้ยงกลุ่มเยาวชน

พี่เปเล่>> ช่วยดูกระบวนการในค่าย ชวนน้องๆคิดน้องๆคุย และเพิ่มเติมประเด็นบางประเด็นที่น้องๆยังขาดไป และช่วยประสานงานกับหน่วยงานต่างๆเบื้องต้นให้กับกลุ่มเยาวชน และค่อยให้กลุ่มเยาวชนประสานงานต่อ

พี่นก>> รู้จักปราชญ์หรือผู้รู้ในชุมชน พาน้องๆลงพื้นที่ประสานงานกับกลุ่มผู้เฒ่าผู้แก่ในชุมชน ประสานงานกับชาวบ้านในชุมชนเบื้องต้นให้กับกลุ่มเด็กๆ

พี่ไก่>>ดูแลเรื่องสวัสดิการค่าย ประสานงานกับอาหารให้กับกลุ่มเยาชน ช่วยเติมส่วนที่ขาด

หลังจากให้น้องๆบอกเล่าบทบาทหน้าที่ของแต่ละคนที่ได้รับให้ทีมงานฟังแล้ว ในระหว่างนี้ ก็มีทีมเครือข่ายของกลุ่มเยาวชนก่อการดี มาจากโครงการฮักบ้านเกิด(ความสุขอยู่ที่บ้านเรา) มาร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย หลังจากที่ได้พูดคุยกันพอสมควรแล้ว น้องๆก็ช่วยกันเก็บและขนอุปกรณ์ต่างๆที่ต้องใช้ในค่ายไปไว้ที่โรงเรียนบ้านโป่งศรีโทน สำหรับค่ายในวันพรุ่งนี้

­

ภาพรวมค่าย “นอนกลางดิน กินกลางป่า” (14-16 มีนาคม 2557)


14/3/57 วันนี้เป็นวันแรกของค่าย น้องๆแต่ละคนช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์ต่างๆและใบลงทะเบียนเพื่อรอสมาชิกค่ายที่จะมาลงทะเบียน ตอนสายๆน้องๆ ม.1-3 ของโรงเรียนบ้านโป่งศรีโทน เริ่มทยอยกันมาลงทะเบียน บ้างก็มาเป็นกลุ่ม บ้างก็มาเป็นคู่ เวลาประมาณ 10.30 น. ก็เป็นการเริ่มกิจกรรม ตั้งแต่การกล่าวเล่าถึงที่มาที่ไปของการจัดกิจกรรมนี้ และการกล่าวเปิดค่าย “นอนกลางดิน กินกลางป่า”โดยกำนันประจำตำบลเอราวัณ “นายแดง วงษา” จากนั้นก็เป็นกิจกรรมการละลายพฤติกรรมของสมาชิกค่าย โดยวันนี้มีสมาชิกมาเข้าร่วมทั้งหมดประมาณ 55 คน พอละลายพฤติกรรม และสมาชิกค่ายเริ่มคุ้นเคยกันแล้ว ก็เป็นกิจกรรมใบไม้หนึ่งใบ โดยให้น้องๆไปเก็บใบไม้มา 1 ใบ และวาดรูปใบไม้ 1 รูป หลังจากนั้นให้ใส่จินตนาการหรือความคิดสร้างสรรค์ลงไปในรูปใบไม้อีก 1 รูป ซึ่งน้องๆแต่ละคนก็ได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์ของตนเองอย่างเต็มที่ บางคนก็วาดเป็นรูปปลาหมึก รูปไอศครีม รูปการ์ตูน เป็นต้น พักรับประทานอาหารกลางวัน ในช่วงบ่าย น้องฝนและน้องเบญ ชวนสมาชิกค่ายร่วมกันแสดงความคิดเห็นเรื่องความคาดหวังที่น้องๆแต่ละคนอยากได้จากค่ายครั้งนี้ น้องๆหลายคนก็เขียนสิ่งที่ตนเองอยากได้ อาทิ อยากได้ผักหวานกับเห็ด อยากได้ความสนุกสนาน อยากได้ความรู้เรื่องป่า เป็นต้น และชวนน้องตั้งกฏกติกาการอยู่ร่วมกันในค่าย ตลอดระยะเวลา 3 วัน 2 คืนนี้ และแบ่งเวรกันทำความสะอาดสถานที่ต่างๆ ห้องน้ำ โรงอาหาร และห้องประชุม กิจกรรมต่อมาเป็นการให้น้องๆแบ่งกลุ่มกัน แล้ววาดรูปภูกระแต ตามความคิดของน้อง ว่าภายในภูกระแตมีอาหาร พืช ผัก หรือสัตว์ชนิดใดบ้าง และให้น้องๆส่งตัวแทนออกมานำเสนอรูปภูกระแตในความคิดของน้องๆให้เพื่อนๆกลุ่มอื่นๆฟัง ทำการจับฉลากบัดดี้ จากนั้นก็ปล่อยให้น้องๆกลับไปเอาเสื้อผ้า ของใช้ เพื่อกลับมานอนที่โรงเรียน และรับประทานอาหารเย็น ช่วงค่ำ เป็นการเชิญผู้รู้หรือปราชญ์ชาวบ้านที่อยู่ในชุมชน มาบอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ “ป่าภูกระแต” ที่ชาวบ้านใช้ประโยชน์และพึ่งพิงตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ให้น้องสมาชิกค่ายได้รับฟังข้อมูลของภูกระแตก่อนที่จะได้ไปลงพื้นที่จริงในวันพรุ่งนี้ แยกย้ายกันนอน

­

15/3/57 เช้าวันนี้เริ่มต้นด้วยการให้น้องแยกย้ายกันไปทำความสะอาดตามเวรที่ตนเองได้รับ หลังจากนั้นให้น้องๆเข้าห้องประชุม ชี้แจงหัวข้อที่น้องๆในกลุ่มจะต้องไปเก็บข้อมูลและแบ่งบทบาทหน้าที่ของสมาชิกแต่ละคนในกลุ่ม เมื่อแบ่งบทบาทเสร็จแล้ว ให้ “คุณตาวุฒิ แก้วก่ำ” อธิบายถึงคติหรือข้อห้ามที่ไม่ควรทำในระหว่างการเข้าป่า หลังจากนั้นก็ให้น้องๆไปขึ้นรถ เพื่อไปยังจุดเริ่มต้นในการเข้าป่า โดยวันนี้ได้รับความร่วมมือจากกรมป่าไม้ส่งเจ้าหน้าที่มาให้ความรู้และรถสำหรับรับ-ส่งน้องๆขึ้นป่าภูกระแตด้วย การขึ้นป่าภูกระแตแบ่งให้น้องๆขึ้นทีละกลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะมีพี่เลี้ยงกลุ่มและผู้รู้ในกลุ่มด้วย กลุ่มของเราเป็นกลุ่มที่ 4 มีพี่จากกรมป่าไม้และลุงกำนันเป็นผู้รู้ประจำกลุ่ม ในการขึ้นภูมีการแบ่งหน้าที่กันเรียบร้อยและน้องๆแต่ละคนก็ทำตามหน้าที่ของตนเองได้เป็นอย่างดี แต่พอเดินทางไปได้ซักระยะหนึ่ง ทีมพี่เลี้ยงในกลุ่มและผู้รู้ในกลุ่มก็เริ่มลังเลกับเส้นทาง เนื่องจากทีมพี่เลี้ยงในกลุ่มได้เข้ามาเดินสำรวจป่าเพียงครั้งเดียวจึงไม่ชำนาญทาง และพี่จากกรมป่าไม้ก็พึ่งย้ายมาใหม่ ไม่รู้เส้นทาง ส่วนลุงกำนันก็ไม่ค่อยได้เข้าป่า ไม่มั่นใจในเส้นทางเหมือนกัน เราก็เลยเดินแบบคลำๆทางไป อาศัยความจำของพี่เลี้ยงกลุ่มด้วย และอาศัยการติดต่อสื่อสารกันของพี่จากกรมป่าไม้ด้วย ในที่สุดกลุ่มของเราก็มาถึงปลายทาง โดยที่ไม่ได้ผ่านจุดที่ทางกลุ่มกำหนดไว้เลย พักเที่ยงกินข้าวใกล้ๆกับบ่อขยะ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าภูกระแต เป็นพื้นที่ทิ้งขยะของ 2 ตำบล มีขยะเต็มไปหมด และมีควันไฟขึ้นอยู่ตลอดเวลา พาน้องๆเดินทางผ่านบ่อขยะ เพื่อสำผัสและสูดกลิ่นขยะ ไปยังรถของพี่ ๆจากกรมป่าไม้ที่รออยู่ตรงทางขึ้นภูกระแตอีกด้านหนึ่ง กลับมาถึงโรงเรียนประมาณ 14.00 น. ให้เวลาน้องๆพักเหนื่อย หลังจากนั้นให้น้องๆสรุปข้อมูลต่างๆที่ได้เรียนรู้มาจากป่าภูกระแต ลงในกระดาษฟลิบชาร์ต โดยแบ่งออกเป็น 5 หัวข้อ คือ 1.แผนที่การเดินทางบนภูกระแต และจุดที่มีพืช ผัก สมุนไพร 2. รายชื่อต้นไม้ สรรพคุณ ฤดูที่พบ 3.ปัญหาที่พบในป่าภูกระแต 4. ข้อห้ามหรือความเชื่อในการเข้าป่า 5. รูปถ่ายระหว่างการเดินทางเข้าป่าภูกระแต ซึ่งน้องๆแต่ละกลุ่มตั้งใจทำและช่วยกันอย่างเต็มที่ มีเพียงบางคนเท่านั้น ที่เล่นกันกับเพื่อน เมื่อน้องๆแต่ละกลุ่มสรุปสรุปข้อมูลเรียบร้อยแล้ว ก็ให้แต่ละกลุ่มออกมานำเสนอข้อมูลของตนเอง บางกลุ่มก็สามารถนำเสนอได้ดี แบ่งบทบาทของผู้นำเสนอไว้แล้ว แต่บางกลุ่มก็มีการเกี่ยงกันออกมานำเสนอ หลังจากนั้น เราก็ให้โจทย์การแสดง โดยให้แต่ละกลุ่มคิดการแสดงมา 1 เรื่อง เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับป่าภูกระแต และก็ใหเวลาน้องคิดการและซ้อมการแสดงประมาณ 2 ชั่วโมง ในช่วงเย็นก็เป็นการให้กลุ่มน้องๆทำความสะอาดตามเวรที่ได้รับ กินข้าวเย็น และเริ่มกิจกรรมในตอนเย็นด้วยกิจกรรมบันเทิง ร้องเพลง เล่นเกมส์ ต่างๆ และเริ่มการแสดงของน้องๆแต่ละกลุ่ม ซึ่งแต่ละกลุ่มสามารถแสดงละครและให้ข้อคิดออกมาได้เป็นอย่างดี เรื่องของการอนุรักษ์ผืนป่าภูกระแต ปิดท้ายการแสดงของน้องๆด้วยการแสดงของกลุ่มแกนนำพี่เลี้ยง ซึ่งสามารถแสดงละครออกมาได้ดี สมบทบาทที่ได้รับ เพราะน้องหลายๆคนมีทักษะเรื่องการแสดงบทบาทสมมุติอยู่แล้ว ปิดท้ายกิจกรรมในช่วงค่ำของวันนื้ด้วย การร้องเพลงซึ่งๆร่วมกันระหว่างพี่ๆน้องๆในค่าย

­

16/3/57 เช้าวันนี้เริ่มต้นด้วยกิจกรรมทำความสะอาดตามเวณที่ได้รับมอบหมายของน้องๆสมาชิกค่าย รับประทานอาหารเช้า เริ่มกิจกรรมด้วยการเล่นเกมส์ต่างๆ และเข้าสู่เนื้อหา โดยให้น้องๆรวมกลุ่มกัน นำปัญหาบนภูกระแตที่แต่ละกลุ่มนำเสนอมาอธิบาย และเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่น้องๆเลือก โดยมีเงื่อนไขว่าต้องเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่น้องๆทำได้จริง สามารถเกิดขึ้นได้จริง เมื่อน้องๆระดมความคิดกันเสร็จก็ให้แต่กลุ่มออกมานำเสนอ ซึ่งหลายๆกลุ่มก็นำเสนออกมาคล้ายๆกัน ว่าต้องช่วยกันอนุรักษ์และปลูกต้นไม้บนป่าภูกระแต หลังจากนั้นเป็นกิจกรรมการหาอาสาสมัครเพาะพันธุ์ต้นกล้า โดยทางกลุ่มเยาวชนจะมีทุนให้คนละ 1,000 บาท ในการจัดการเพาะพันธุ์ต้นกล้าไม้ชนิดต่างๆ และถ้าหากมีกิจกรรมภายในตำบลเกี่ยวกับการปลูกป่า ทางกลุ่มเยาวชนก่อการดีก็จะติดต่อให้มาซื้อกล้าไม้กับกลุ่มน้องๆอาสา เพื่อให้น้องๆอาสาเพาะกล้าไม้ได้เรียนรู้เรื่องการเพาะพันธ์กล้าไม้และมีรายได้ไว้เป็นทุนการศึกษาด้วย ซึ่งน้องๆสมาชิกค่ายๆหลายๆคนก็สนใจกิจกรรมนี้และลงชื่อเป็นอาสาสมัครเพาะพันธ์กล้าไม้ กิจกรรมสุดท้ายของค่ายเป็นการเฉลยบัดดี้ที่ดูแลกันตลอดค่าย หลายๆคนได้บัดดี้เป็นคนที่ไม่คาดคิด เป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง ที่อยู่ด้วยกัน ต่างคนต่างโดนทาแป้งขาวโพลน สุดท้ายเป็นการสรุปบทเรียนในค่ายว่าตลอดระยะเวลา 3 คืน 2 วัน ปิดค่าย (เก็บกระเป๋า..กลับบ้าน)

"ขออภัย"
ยังไม่มีเนื้อหาข้อมูลในส่วนนี้
ภาพกิจกรรม
วิดีโอแนบ
ไฟล์แนบ