เรียนรู้จากค่ายสร้างความมั่นใจให้ “การ์ตูน”

เรียนรู้จากค่ายสร้างความมั่นใจให้ “การ์ตูน”

............................................

การเรียนรู้นอกห้องเรียนสำคัญอย่างไร สำหรับเด็กหญิงตัวเล็กๆ เช่น น้องการ์ตูน หรือ เด็กหญิงบุญญารัตน์ ส่องาม วัย 11 ปี ขณะนี้เรียนอยู่ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านทำนบ ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 4 ตำบลกันตวจระมวล อำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ (เป็นน้องสาวของเด็กหญิงกัลยา ส่องามที่มาเข้าค่ายนี้เพร้อมกัน) การต้องอยู่ในค่ายเป็นเวลา 10 วัน “น้องการ์ตูน” ได้ตอบคำถามสิ่งที่ได้เรียนรู้อะไรจากค่ายครั้งนี้ได้อย่างน่าสนใจ เรามาทำความรู้จักกับกระบวนการคิดของเด็กหญิงคนนี้กัน

เรียนรู้เรื่องการรู้จักตนเอง

ได้รู้ข้อเสียของตัวเอง คือ การไม่ชอบให้คนอื่นสั่ง ส่วนข้อดีคือเป็นคนร่าเริง

­

การเรียนรู้เรื่องการรู้จักภาวะการนำของตนเองและการทำงานเป็นทีม

ได้ฝึกความมั่นใจในตนเองเช่น การให้กำลังใจตัวเอง การให้อภัยตนเองเวลาที่ทำผิด การรู้จักอดทนต่อสิ่งนั้นๆ ต้องเรียนรู้ตนเองและคนอื่น ต้องเรียนรู้การเป็นผู้นำแบบมีส่วนร่วมคือ เพื่อนจะต้องมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นร่วมกับผู้นำ

การเรียนรู้เรื่องการรู้จักสังคม

ได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในหมู่บ้านว่าหมู่บ้านเรามีขยะเยอะมาก

­

การเรียนรู้เรื่องการรู้จักเศรษฐกิจ

ได้เรียนรู้เรื่องการทำธุรกิจต่างๆ ได้รู้จักการวางแผนคือ การที่เราจะทำอะไรต้องวางแผนก่อนค่อยทำ และรู้จักการจ่ายตลาด คือ การที่เราทำเป็นประจำทุกวัน เช่น การซื้อของ

­

การเรียนรู้เรื่องการรู้จักสิ่งแวดล้อม

ได้เกิดการแลกเปลี่ยนปัญหาสิ่งแวดล้อมคือ คนที่มาจากชุมชนอื่นได้นำปัญหาของตนเองมาแลกเปลี่ยนกับปัญหาของชุมชนเรา ซึ่งเราควรเคารพกฎของชุมชนเช่น การไม่ตัดไม้ทำลายป่า เพราะว่าถ้าเราตัดไม้จนหมด ก็จะไม่มีอากาศหายใจ และในการปลูกพืชหลายชนิดเราก็ไม่ควรนำปุ๋ยเคมีมาใส่ เพราะอาจทำให้ดินเสื่อม

การเรียนรู้เรื่องการรู้จักการทำสมาธิและการเข้าใจพระพุทธศาสนา

การสวดมนตาภาวนาทุกวันทำให้ได้รู้จักพระพุทธศาสนามากขึ้น และในการฝึกสมาธิ รวมถึงการเดินจงกรมทำให้จิตใจสงบ โดยการเดินจงกรมทุกครั้งเราต้องพูดว่า ขวาย่างหนอ ซ้ายย่างหนอ และการตักบาตรตอนเช้าทุกวันทำให้ได้แผ่ส่วนบุญส่วนกุศลให้แก่สัตว์ทั้งหลายอีกด้วย

การเรียนรู้เรื่องการรู้จักเครื่องมือในการเรียนรู้

ด้เรียนรู้การฝึกทักษะการพูด คือ ทำให้เรามีความกล้าแสดงออก และต้องเป็นผู้ฟังที่ดีด้ว โดยเราต้องรู้สึกตามไปด้วยเวลาฟัง ส่วนที่ได้จากการดูก็นำมาถอดบทเรียน และจากการกล้าแสดงออกก็สามารถนำไปพุดในที่สาธารณะและจับใจความสำคัญได้ เป็นการฝึกการตั้งคำถามอีกทางหนึ่ง


กิจกรรมที่ชอบในค่ายครั้งนี้

ชอบการเล่นและการถอดบทเรียน ชอบกิจกรรมแม่น้ำพิษ เพราะต้องใช้ความอดทน โดยเราต้องอัดกัน เพื่อนำแผ่นสี่เหลี่ยมข้างหลังมาอยู่ข้างหน้าให้ได้ อยากไปให้ถึงเป้าหมาย


โตขึ้นอยากเป็นอะไร เพราะอะไร

อยากเป็นเภสัชกร เพราะการจ่ายยารู้สึกว่าง่ายดี


จะกลับไปทำอะไรให้กับที่บ้าน หรือชุมชนของตนเอง 

กลับไปพัฒนาชุมชน โดยจะไปปลูกป่า ไปช่วยพัฒนาชุมชน ไปช่วยกันถางหญ้า



การเปลี่ยนแปลงตัวเองหลังจากเข้าค่ายมีหรือไม่ / ยกตัวอย่าง

มีค่ะ ตัวอย่างเวลาแม่ใช้ให้ไปล้างห้องน้ำ แต่ก่อนจะบอกว่าเดี๋ยวทำ แต่ตอนนี้กลับไปไม่ต้องบอกก็จะทำค่ะหน้าที่หนูที่อยู่บ้านคือต้องล้างจาน ล้างห้องน้ำ กวาดบ้าน ถูบ้าน การช่วยงานบ้านเหมือนเป็นการทดแทนบุญคุณของแม่ที่แม่เลี้ยงเรามา


อยากให้บอกเพื่อนๆ ว่ามาเข้าค่ายนี้ดีอย่างไร

อยากให้เป็นเพื่อนทุกคนมาเข้าค่าย เพราะให้ความรู้มากมายกลับไป ซึ่งครูไม่ได้สอนในห้องเรียน แต่เราสามารถมาเรียนรู้นอกห้องเรียน เช่น แนวคิดเรื่องธุรกิจที่คุณครูไม่ได้สอน


ถอดบทเรียน จากค่ายพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนสู่การเป็นพลเมืองรุ่นใหม่ที่สามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมารับใช้ชุมชนสังคมอย่างสร้างสรรค์ ภายใต้โครงการพัฒนาเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น (4 ภาค) ระยะที่ 3 การขับเคลื่อนกลไกพัฒนาเยาวชนด้วยการจัดการความรู้และกระบวนวิจัยเพื่อท้องถิ่น ครั้งที่ 2 วันที่ 30 เมษายน-11 พฤษภาคม 2561ณ ศูนย์ปราชญ์พ่อคำเดื่อง ภาษี บ้านโนนเขา หมู่ 8 ตำบล หัวฝาย อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์ สนับสนุนโดย มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย สถาบันยุวโพธิชน มูลนิธิสัมมาชีพ สํานักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย (สกว.) ฝ่ายวิจัยเพื่อท้องถิ่น สถาบันเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อชุมชนเป็นสุข (สรส.) ธนาคาร ไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) มูลนิธิสยามกัมมาจล