ธนภัทร ใจทัน : บทสัมภาษณ์เยาวชนเด่นโครงการปลูกผักปลอดภัยไร้สารเคมี

บทสัมภาษณ์เยาวชนเด่น โครงการปลูกผักปลอดภัยไร้สารเคมี

บ้านห้วยโป่งสามัคคี หมู่ 11 ตำบลแม่ตืน อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน


ผู้ให้สัมภาษณ์

ธนภัทร ใจทัน ชื่อเล่น ลีโอ

อายุ 17 ปี การศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนจักรคำคณาทร จังหวัดลำพูน



ปกติลีโอชอบทำอะไรบ้างในแต่ละวัน งานอดิเรก มีความชอบอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่เล่นเกม ดูยูทูบ อ่านการ์ตูน


มีความสามารพิเศษไหม สำหรับตัวเอง กีฬา ดนตรี

เล่นดนตรีพื้นเมืองตามโครงการของปีที่แล้ว


เป็นดนตรีพื้นเมือง ตอนนั้นเล่นเกี่ยวกับอะไร ที่เราถนัด

เล่นสะล้อครับ


อันนี้เป็นผลพวงจากโครงการปีที่แล้ว ทำให้เราเล่นดนตรีได้

ครับ


หรือว่าเล่นเป็นอยู่แล้ว

เล่นเป็นอยู่แล้ว ครูสอนมาตั้งแต่สมัยประถมครับ


แล้วเรามีความสนใจอะไรเป็นพิเศษไหม ที่ชอบมาก ๆ เลย

ยังไม่มีเป็นพิเศษครับ


อย่างดูยูทูบที่เราบอก ส่วนใหญ่เราดูช่องอะไร

น่าจะเป็นรับทราบโปรดักชัน แล้วก็เป็นเสือร้องไห้


เสือร้องไห้ ทำไมถึงชอบดูสองช่องนี้

มันสร้างสรรค์ แล้วแต่ละช่องก็มีรายการที่ค่อนข้างหลากหลายอยู่พอสมควร


อันนี้เราดูไปเพื่ออะไร ชอบส่วนตัว หรือว่าอยากที่จะทำเหมือนเขา

ชอบส่วนตัว ดูเพื่อความบันเทิง


เคยคิดไหมว่าอยากจะทำช่องยูทูบแบบเขา

ไม่เคยครับ มันไม่ได้เป็นแบบเหมือนเขา อยากทำเป็นช่องเกี่ยวกับเกมมากกว่า


เพราะว่าเราชอบเกมเนอะ

ครับ ชอบเกมในระดับหนึ่ง


อย่างเกม ปกติเล่นเกมอะไร

ส่วนใหญ่ก็เป็น ROV แล้วก็เป็นคุกกี้รัน


มีคุกกี้รันด้วย แล้วถามหน่อยสิ ว่าถ้าย้อนกลับไปก่อนที่จะเข้าโครงการปีที่หนึ่ง ปกติลีโอเคยทำงาน หรือว่าเคยมีส่วนร่วมอะไรกับชุมชนบ้างไหม

ไม่ค่อยมีครับ ถ้าจะมีก็คงเป็นเล่นดนตรีของโรงเรียนนิดหน่อย


เล่นดนตรีของโรงเรียนนี่คือ เล่นภายในโรงเรียน หรือว่าออกมาเล่นข้างนอกด้วย

ครูหางานมาให้ เราก็ไปตามที่ครูเขารับงานมาครับ


ไปเล่นทั้งในชุมชนและก็แล้วแต่ว่าเขาจะหางานมาให้ใช่ไหม

ครับ


แล้วแบบนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับคนในชุมชนเป็นอย่างไรบ้าง ก่อนหน้านี้

ก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ปกติทั่วไป


รู้จักคนในชุมชนมากน้อยแค่ไหน ถ้าเทียบก่อนหน้านี้ที่ยังไม่ได้ทำโครงการ

ก็รู้จักพอสมควร


ที่รู้จักพอสมควรนี่เป็นเพราะอะไร เพราะเราชอบไปตามบ้านเพื่อน ๆ หรือว่าอย่างไร เราถึงได้รู้จัก

พ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านครับ ก็เลยรู้จักอยู่พอสมควร


พ่อเป็นผู้ใหญ่บ้านแล้วเราได้ไปช่วยทำอะไรบ้างไหม เวลาพ่อมีงานหรือมีกิจกรรม

ไม่ค่อยได้ช่วยเท่าไร


ส่วนใหญ่ก็จะเรียนอย่างเดียวเนอะ

ครับ


แล้วเราเคยทำโครงการอะไรพวกนี้มาก่อนไหม ถ้าไม่รวมโครงการปีที่แล้ว

ไม่น่ามีครับ


แล้วถ้าเป็นโครการไปเข้าค่าย มีบ้างไหม กิจกรรมวันเดียวจบ

เข้าค่าย ที่ไปเข้าร่วมอย่างเดียวหรือเปล่าครับ เอ่อ... ส่วนใหญ่จะเป็นเข้าค่ายของโรงเรียน แล้วตอนประถมเคยมีอยู่ครับ


ก็จะเป็นประมาณนี้ใช่ไหม

ครับ


ถ้าในโรงเรียน เราเป็นเด็กกิจกรรมไหม

ถ้าตอนประถมก็ค่อนข้างเป็นเด็กกิจกรรมพอตัว ขึ้นมามัธยมก็ไม่ค่อยได้เข้าร่วมกิจกรรมเยอะแล้วครับ  ตอนมัธยมฯ ต้น แทบไม่ได้ทำกิจกรรมเลยครับ แต่มัธยมก็มีกิจกรรมของห้อง บ้างครับ


อยากให้เราลองย้อนกลับไปตอนโครงการปีแรก ลองเล่าให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม ว่าเรามาเข้าร่วมโครงการแอคทีฟของจังหวัดลำพูนได้อย่างไร ใครเป็นคนชวน

ตอนนั้นถ้าจำไม่ผิด แม่ครูดีเอาโครงการมาถาม แล้วก็จัดตั้งกลุ่มเยาวชนขึ้นมา จากนั้นเลือกว่าจะทำโครงการอะไร จึงเลือกทำโครงการดนตรีพื้นเมือง เพราะผมมีความสามารถด้านนี้อยู่แล้วครับ


แม่ครูดีมาชวนเราโดยตรง หรือว่าเพื่อน ๆ มาชวนเราอีกทีตอนนั้น

ตอนนั้นน่าจะเป็นแม่ครูดีมาโดยตรงครับ


มาชวนลีโอโดยตรงเลย ลีโอตอนนั้นทำไมถึงตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ มีคำพูดอะไร หรือว่าเราเห็นภาพอะไร เราถึงตัดสินใจเข้าร่วมในปีแรก

ปีแรกคือโดนพ่อบังคับ


โดนพ่อบังคับ?

ครับ โดนพ่อบังคับไปเข้าร่วมกิจกรรมในวันที่มีการเลือกสภาเยาวชนในหมู่บ้าน แล้วก็โดนเลือกเป็นรองประธาน หลังจากนั้นก็เลยได้มาเข้าร่วม


ถ้าเป็นปีหนึ่ง เริ่มต้นจากโดนพ่อบังคับ แล้วเราปฏิเสธได้ไหม เราไม่อยากทำอะไรแบบนี้

ถามว่าปฏิเสธได้ไหม ก็อาจจะได้แต่ไม่ได้ปฏิเสธไป


ตอนที่เรารู้ครั้งแรกว่าเราจะทำโครงการนี้ ในหัวเรา เราคิดว่าเป็นโครงการแบบไหนอย่างไร เรามีในหัวไหม

ไม่มีเลยครับ


คือเขาให้ทำก็ทำ

ครับ


แล้วรู้หรือเปล่า ว่าเป็นโครงการระยะยาว ทำเกือบปีเลย

ตอนนั้นก็ไม่รู้ครับ ตอนแรกคิดว่าน่าจะสามเดือนหกเดือนน่าจะจบแล้ว


แล้วพอมาทำยาว ๆ เรารู้สึกอย่างไร เบื่อไหม อยากให้จบไหม

ช่วงแรก ๆ มีความรู้สึกว่าอยากทำโครงการให้จบๆ ไปแต่พอทำ ๆ ไปได้เกินครึ่งทาง รู้สึกว่ามันสนุกดีเพราะได้อยู่กับเพื่อน ปกติอยู่บ้าน ไม่ค่อยได้เจอเพื่อน


แสดงว่าก่อนหน้านี้เราไม่ค่อยได้ออกไปไหนใช่ไหม อยู่แต่ในห้องเล่นเกม

ครับ ส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้าน


พอมาทำโครงการในปีแรก เราก็ได้เจอเพื่อน เลยรู้สึกว่ามันสนุกดีใช่ไหม เลยไม่อยากให้โครงการมันจบ

ครับ


ตอนทำโครงการปีแรก ทำไปแล้วหนึ่งปี เฉพาะปีแรกนะ เราคิดว่าเราเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง

รู้สึกว่าตัวเองแอคทีฟขึ้น ออกมาเข้าสังคมมากขึ้น แล้วก็คิดในแง่บวกมากขึ้น


คิดในแง่บวกมากขึ้น หมายความว่าก่อนหน้านี้เราเป็นอย่างไร

เป็นคนที่ไม่ได้คิดแง่บวกอะไรขนาดนั้น มีความคิดอคติกับหลาย ๆ อย่าง หลังจากทำโครงการได้สักพักหนึ่ง ความคิดอคติก็เริ่มหาย ๆ ไปบ้าง


ยกตัวอย่างให้ฟังได้ไหม ว่าที่เราอคติ มีอคติกับเรื่องอะไรบ้าง

เมื่อก่อนผมมีความคิดอคติกับหลาย ๆ อย่าง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องนิสัยของคนหรือพฤติกรรมสักอย่างของเพื่อน หลังจากทำงานด้วยกันสักพัก ผมเข้าใจคนอื่นมากขึ้น เข้าใจว่าเขาก็ทำไปอย่างนั้น เขาไม่ได้คิด ผมก็เลยมองเขาในแง่บวกมากขึ้น


ออกมาเข้าสังคมมากขึ้น ยกตัวอย่างให้ฟังหน่อยได้ไหม ก่อนหน้านี้กับเราทำโครงการในปีแรก มันเปลี่ยนแปลงอย่างไร

ค่อนข้างเก็บตัว ส่วนใหญ่อยู่แต่ในบ้าน หลังจากทำปีแรกก็ออกมาทำโครงการ หรือออกไปทำอย่างอื่นกับเพื่อนมากขึ้น


ปกติเราเป็นคนกล้าพูดไหม หรือเป็นคนเงียบ ๆ

ถ้าอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องพูดเลยก็พูดได้ครับ แต่ถ้าไม่จำเป็นต้องพูดก็ไม่พูดดีกว่า


สถานการณ์ไหนบ้างที่แบบฉันต้องพูดแล้ว

ถ้ามีไมค์มาคือพูดได้เลยครับ


ถ้ามีไมค์มาจ่อก็พูดได้ แต่ถ้าให้เลือกว่าใครเป็นคนพูด อันนี้ก็คิดดูก่อนแบบนี้หรือเปล่า

ครับ ถ้าไม่มีจริง ๆ ก็พูดได้ครับ


เคยจับไมค์นำเสนองานไหม

ส่วนใหญ่เป็นคนพูดในโครงการอยู่แล้วครับ


โครงการปีแรกจบไปแล้ว โดนพ่อบังคับ ถูกต้องไหม แล้วพอมาปีสอง ทำไมเราถึงยังทำโครงการนี้ต่อ

ปีที่สองอยากทำต่อก็เพราะว่ามันยังสนุกอยู่ แล้วผมก็ย้ายโรงเรียน มาห่างไกลกับเพื่อน เวลาทำโครงการผมจะได้ไปหาเพื่อน ง่าย ๆ คือผมอยากเจอเพื่อน


อยากให้โครงการนี้เป็นตัวเชื่อมจะได้ไปเจอเพื่อน ๆ

ครับ


อย่างปีที่สอง ใครเป็นคนชวนให้เราเข้าร่วมโครงการ

เหมือนเดิมครับ ครูดีอยากให้เยาวชนมาทำ ด้วยความที่ว่าปีที่สอง ผมก็ได้รับเลือกอยู่ตำแหน่งเดิม ให้เป็นรองหัวหน้าโครงการ ผมก็เลยได้มาทำเหมือนเดิม


รองหัวหน้าโครงการของลีโอ มีบทบาทหน้าที่ทำอะไรบ้าง

ส่วนใหญ่เป็นงานนำเสนอ แล้วก็ทำข้อมูลเอกสารนิด ๆ หน่อย ๆ ครับ


อย่างงานนำเสนอ เราอาสา หรือว่าเพื่อน ๆ ให้ลีโอคอยนำเสนอโครงการ

ส่วนหนึ่งผมก็อาสาเอง บางทีเพื่อน ๆ เขาทำไม่ได้


มันมีกิจกรรมไหนบ้าง เวทีไหนบ้าง ที่เราอาสานำเสนอโครงการเอง

ถ้าจำไม่ผิด อันที่ขอขึ้นไปนำเสนอเองก็เป็นเวทีสุดท้ายที่เพิ่งผ่านมา


มหกรรมเหรอ ใช่ไหม

ครับ


เวทีมหกรรม อันนี้ขึ้นไปนำเสนอโครงการตัวเองเหรอ

ครับผม


แล้วได้เป็นพิธีกรบนเวทีไหม

ไม่ได้เป็นครับ


ปีที่สอง ตัดสินใจที่จะทำโครงการ เพราะอยากเจอเพื่อน ๆ อยู่ แล้วทำไมถึงมาเป็นโครงการปลูกผักปลอดภัย ใครเป็นคนนำเสนอให้เป็นโครงการนี้ เล่าให้ฟังหน่อย

คนนำเสนอเป็นนัทครับ ตอนแรกก็คิดว่าบ้านเรามีอย่างนี้ โครงการแรกผมก็นำเสนอเรื่องของดนตรีพื้นเมืองไปแล้ว ผมก็เลยคิดว่ายังเหลืออะไรอีก บ้านห้วยโป่งก็อยู่ติดกับดอย ผมก็คิดว่าจะทำเกี่ยวกับป่าดีไหม นัทก็เสนอว่าปลูกผักไหม เพราะว่าคนในชุมชนก็มีหลายคนที่ปลูกผักอยู่ สุดท้ายก็ตกลงกันได้ว่าปลูกผักครับ


ทำไมเราถึงไม่ทำโครงการเป็นดนตรีไทยต่อ

ส่วนหนึ่งก็เพราะว่ามันเริ่มเบื่อแล้ว ดนตรีพื้นเมืองผมก็จับตั้งแต่อนุบาล ประถม แล้วมันก็ลากยาวมาถึง ม. 3 มันก็เลยเริ่มเบื่อ ๆ อยากทำกิจกรรมที่มันแอคทีฟมากกว่าเดิมนิดหนึ่ง


อยากทำอะไรที่มันแอคทีฟกว่าเดิม แล้วปลูกผักมันแอคทีฟกว่าเดิมอย่างไร

ปลูกผักเริ่มต้นขั้นตอนที่เหนื่อยที่สุด คือ ผมต้องมาทำแปลงผัก จะต้องใช้แรงกาย แล้วช่วงนั้นทำกันเป็นช่วงแล้ง น้ำน้อย ผมก็ต้องดูแลผักเป็นพิเศษ


ตอนกิจกรรมปีสอง มีสมาชิกทั้งหมดกี่คน

มีประมาณ 6 – 7 คน


เป็นผู้ชายทั้งหมดหรือว่าคละกัน

ประมาณครึ่ง ๆ ครับ


ส่วนใหญ่เป็นเด็กเก่าหรือว่ามีเด็กใหม่มาด้วยที่มาทำโครงการ

ส่วนใหญ่เป็นเด็กเก่า แล้วก็มีเด็กใหม่มาหนึ่งคน เด็กใหม่ก็มีทำในปีแรกบ้าง ทำบ้างไม่ได้ทำบ้าง


ถือเสียว่าส่วนใหญ่เป็นเด็กเก่าหมดเนอะ ทำไมเขาถึงอยากทำกันอยู่ เด็กเก่า ถามกันไหม พูดคุยกันไหม

ไม่ได้ถามครับ


แต่พอบอกว่ามีกิจกรรม มีโครงการนี้ต่อในปีที่สองก็มาทำกันเลย

ครับ


ที่บอกว่าคนในชุมชนปลูกผักกันเยอะ ส่วนใหญ่เป็นผักอะไรคะ

ส่วนใหญ่เป็นผักที่เอาไว้กินและทำง่าย ๆ ในครัวเรือน เช่น กะเพรา ผักกาด ผักบุ้ง


เป็นผักสวนครัวทั่วไปเนอะ แล้วคนในชุมชนปลูกใช้สารเคมีไหม

คนในชุมชนมีโครงการปลูกผักปลอดภัยของเขาอยู่แล้วครับ เลยเอามาประสานกันได้อยู่


บอกพี่หน่อยได้ไหม ว่าโครงการปลูกผักปลอดภัยไร้สารเคมีของเรา เรามีเป้าหมายในการทำโครงการนี้เพื่ออะไร

จริง ๆ ก็เพื่อลดการกินผักที่มีสารเคมี


มีเป้าหมายเดียวเนอะ แล้วกลุ่มเป้าหมายที่เราจะไปให้เขาลดการกินผักนี่เป็นใคร

น่าจะเป็นผู้สูงอายุครับ


กลุ่มเป้าหมายของเราเป็นผู้สูงอายุ ในชุมชนใช่ไหม

ครับ


ทำไมเราถึงเลือกเป็นผู้สูงอายุในชุมชน ทำไมเราถึงไม่เลือกเด็กและเยาวชน

โครงการนี้มีผู้สูงอายุเป็นเป้าหมายเนื่องมาจากโครงการปีที่แล้ว ผู้รู้ที่เล่นดนตรีพื้นเมืองได้มีอยู่ไม่กี่คน พวกเราเล็งเห็นว่าร่างกายเขาไม่ค่อยแข็งแรงเท่าไร สาเหตุก็มาจากการกินผักที่มีสารเคมี พวกเราเห็นว่าในชุมชนมีคนที่มีสารเคมีตกค้างในร่างกายหลายคน เลยคิดทำโครงการนี้เผื่อว่าถ้าเราปลูกผักไร้สารเคมีให้คนในชุมชมได้บริโภค ผู้รู้ที่เล่นดนตรีพื้นเมืองจะได้มีสุขภาพที่แข็งแรงขึ้นด้วย


ที่เราบอกว่าเราไปดูข้อมูลที่ศูนย์สุขภาพ คือเราไปดูก่อนที่เราจะมากำหนดกลุ่มเป้าหมายใช่ไหม หรือว่าเราไปดูระหว่างที่เราทำโครงการอยู่

ตอนแรกกำหนดว่าจะทำเป็นรวม ๆ ของคนในชุมชน แล้วผมก็ไปเห็นกลุ่มเป้าหมาย ผมก็เลยเจาะจงมาที่ผู้สูงอายุ


คือกลุ่มเป้าหมายเราเปลี่ยนไป หลังจากที่เราไปดูข้อมูลใช่ไหม

ครับ


พอรู้ที่มาที่ไปของการทำโครงการ รู้กลุ่มเป้าหมายแล้ว เรามาเจาะเกี่ยวกับกิจกรรมในโครงการของเรา ให้ลีโอค่อย ๆ ไล่กิจกรรมให้พี่ฟังหน่อยได้ไหม เอาเป็นกิจกรรมหลัก ๆ ก็ได้ที่เราทำเกี่ยวกับเรื่องผักปลอดสารเคมี เราทำอะไรบ้าง

ช่วงแรกนัดกันว่าจะทำอะไรกันดี ถัดไปเป็นช่วงที่ไปดูงานของครูดีครับ แต่ตอนนั้นผมไม่ได้ไปด้วย เพราะว่าอยู่ที่โรงเรียน เพื่อนๆ ไปดูงาน แล้วหลังจากนั้นก็จำไม่ได้ เพราะไม่ได้อยู่ด้วย เขาเริ่มทำแปลง ครูดีเลยไปจ้างใครสักคนมาเคลียร์พื้นที่ที่จะทำโครงการ หลังจากนั้นนัทก็ไปเริ่มขึ้นแปลง แล้วก็มีเพื่อนอีกคนหนึ่งกับผมไปด้วยทีหลัง หลังจากขึ้นแปลงแล้วก็ดูแลไปเรื่อย ๆ สักพัก น้ำไม่พอ พืชเลยเหี่ยว ผมก็เลยไปขอให้แม่ของนัทมาช่วย พอขึ้นแปลง พืชก็ออกอยู่ พ่อกับแม่นัทมาช่วยรีโนเวตในแปลงให้พัฒนาขึ้น ก็ดูแลแปลงมาเรื่อย ๆ จนจบโครงการ


อย่างตอนวางแผนในทีม เราวางแผนกันเองหรือว่ามีพี่เลี้ยงเข้ามาช่วยด้วย

ตอนนั้นน่าจะมีครูดีอยู่


ครูดีจะมาชวนคุยหรือว่าอย่างไร ลองเล่าบรรยากาศให้ฟังหน่อยได้ไหม จำได้ไหม

ตอนนั้นครูดีก็นัดมาคุยกัน แล้วก็เริ่มมาวางแผนกัน ใช้เวลาประมาณหนึ่งวัน


พอเราได้โครงการเสร็จแล้ว เราใช้ระยะเวลานานไหม กว่าที่เราจะลงไปดูงานครูดี

อันนี้ไม่แน่ใจครับ ไม่รู้ว่าไปกันตอนไหน


เพราะว่าลีโอไม่ได้ไปใช่ไหม

ครับ


ทำไมลีโอถึงไม่ได้ไปตอนนั้น

ช่วงนั้นจะติดเรียนหรือกิจกรรมอะไรสักอย่าง


แล้วพอจะรู้ไหม ว่าที่ไปดูงานของสวนครูดี ประชุมกันก่อนไหม ว่าเราจะไปดูอะไรบ้าง

ตอนนั้นไม่รู้เลยครับ มารู้ทีหลัง


คือเขาไปทำอะไรกันในตอนนั้น ลีโอไม่รู้อะไรเลยเนอะ เพราะเราไม่ได้ไปร่วมด้วย

ครับ


แล้วที่บอกว่ามารู้ทีหลัง คือมีข้อมูลอะไรบ้าง หลังจากที่เขาลงไปแล้ว

คือมาเห็นภาพว่าเขาไปทำที่สวนครูดี ไปดูว่าครูดีทำแปลงแบบไหนอย่างไรครับ


แล้วตอนนั้นทำไมถึงต้องเลือกไปดูที่สวนครูดีด้วย เพราะว่าอะไร

เพราะว่าครูดีเป็นพี่เลี้ยง แล้วครูดีก็ปลูกผักไร้สารเคมีอยู่แล้ว มันเป็นอะไรที่หาดูง่ายครับ เลยเลือกไปสวนครูดีกัน


แล้วเพื่อน ๆ มีจดข้อมูลอะไรมาพูดคุยกับเราหลังจากลงพื้นที่ไปไหม

ไม่น่ามีครับ


ไปจดเสร็จก็แค่นั้น ไม่ได้เอามาคุยอะไรให้ลีโอฟังใช่ไหม

ครับ


แล้วลีโอถามไหม ว่าไปทำอะไรกันมา

ไม่ได้ถามเลยครับ เพราะว่าผมไม่รู้เลยครับว่าเขาไปทำ จะรู้ก็ตอนที่มานั่งทำข้อมูล คือผ่านมาพอสมควร


อ๋อ โอเค คือเราไม่ได้รู้อะไรเลย แล้วอย่างตอนกิจกรรมขึ้นแปลง อันนี้ลีโอไปอยู่ด้วยไหม

ไปครับ


ไปขึ้นแปลง ใช้พื้นที่ของที่ไหนในการขึ้นแปลง

พื้นที่คือ บ้านห้วยโป่งมีพื้นที่ศูนย์เรียนรู้อยู่ ตอนแรกผู้ใหญ่ในชุมชนทำแปลงผัก แล้วเขาก็ปล่อยร้าง พวกผมเลยมาทำต่อครับ


แล้วเราต้องไปขอพื้นที่กับใครไหม

ครูดีน่าจะเป็นคนไปขอ


คือครูดีเป็นคนไปประสานให้

ครับ


แล้วอย่างนี้เรามีหน้าที่ คือในทีมมีบทบาทหน้าที่ทำอะไรบ้างในกิจกรรมนี้

ไปช่วยขึ้นแปลงแล้วก็ปลูก แล้วก็รดน้ำเช้าเย็นครับ


อย่างตอนขึ้นแปลง เราเชิญคนในชุมชนมาให้ความรู้ไหม หรือเป็นครูดี

ขึ้นแปลงวันแรก มีครูดีแค่คนเดียว


ลองเล่าให้ฟังหน่อยได้ไหม ว่าบรรยากาศตอนขึ้นแปลงมีปัญหาติดขัดอะไรไหม อุปกรณ์ไม่ครบ อะไรแบบนี้ มีบ้างไหม

ขึ้นแปลงในช่วงที่มันร้อน แล้วก็มีแมลง ส่วนใหญ่ก็ไม่มีปัญหา มีปัญหาก็หลังจากทำแปลงแล้ว


เราไปขึ้นแปลงช่วงไหน เช้า กลางวัน เย็น ที่อากาศร้อน ๆ

ช่วงสาย ๆ แล้วก็บ่าย ๆ เกือบเย็น ประมาณนั้นครับ


ขึ้นแปลงอย่างเดียวไหม หรือว่าทำอะไรบ้าง

หลังจากขึ้นแปลงเสร็จก็ปลูกเลยครับ


ทิ้งระยะนานไหม หรือว่าพอขึ้นแปลงเสร็จก็ปลูกเลย

ขึ้นแปลงเสร็จ ถ้าจำไม่ผิดก็น่าจะปลูกเลย หรืออาจจะทิ้งไว้สักสองวันแล้วค่อยมาลงเมล็ดอีกที


ลองเล่าให้ฟังได้ไหม ว่าขั้นตอนการปลูกมันมีวิธีการอย่างไรบ้าง พอขึ้นแปลงเสร็จแล้ว ทำอย่างไรต่อ

เราก็ไปพรวนดิน แล้วเอาปุ๋ยหมักที่เขาหมักไว้อยู่แล้วมาใส่ แล้วก็พรวนอีกรอบหนึ่ง รดน้ำ รดน้ำเสร็จแล้วค่อยลงเมล็ดครับ


ที่บอกไปเอาปุ๋ยหมักมา เป็นคนในชุมชนเหรอ หรือว่าอย่างไร

เป็นของชุมชน ผมก็เลยไปเอามาสองสามกระสอบ


แล้วบรรยากาศตอนนั้นก็มีเยาวชนประมาณหกถึงเจ็ดคนใช่ไหม ไปพรวนดิน ไปขึ้นแปลง คนในชุมชนเขาให้ความสนใจไหม เขาเห็นไหม เขาถามไหม

เป็นคนที่อยู่ในละแวกนั้นครับ เขามาถามว่าทำอะไรกัน ผมก็บอกว่าปลูกผัก


แล้วเขาว่าอะไรต่อไหม

เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร เขามาสนใจอีกทีหลังจากที่พ่อกับแม่นัทมาช่วยทำเพิ่ม เขาก็เริ่มมาสนใจ


ขั้นตอนนี้ก็ดูจะราบรื่นดีเนอะ แล้วที่เราบอกว่าเราเจอปัญหา ปัญหาที่ว่านี้มันคือปัญหาอะไร

ตอนนั้นอยู่ในช่วงที่มันแล้ง ๆ น้ำก็ไม่ค่อยมี เพราะปกติเขาใช้น้ำบาดาล ช่วงแล้งน้ำก็แห้ง เลยสูบน้ำได้ไม่ค่อยเยอะ


พอเราเจอปัญหานั้น มันต้องถึงขั้นไหน เราถึงไปขอความช่วยเหลือจากพ่อแม่นัท

ไปได้สักพักหนึ่ง ผักเริ่มเหี่ยวแล้วก็ตายไป พวกผมเลยไปขอให้พ่อแม่ของนัทมาช่วย


เหมือนกับว่าพอเราเห็นปัญหา ผักมันเริ่มเหี่ยวเริ่มตาย เราก็เริ่มมาประชุมทีมหรือเปล่า

หลังจากเห็นแล้ว พ่อแม่นัทก็มาดู ก็มาช่วย


แสดงว่าระหว่างที่เราหมั่นมารดน้ำมาดูแลแปลงผัก พ่อแม่นัทก็มาดูตลอดเหรอ

ครับ ก็มีมาเป็นช่วง ๆ ครับ


ตอนที่เราเจอปัญหานี้ น้ำไม่พอ ผักเริ่มเหี่ยว เริ่มตาย ตอนนั้นตัวลีโอเองรู้สึกอย่างไรบ้าง

รู้สึกว่าไปตามผู้ใหญ่มาช่วยดีไหม คือเขาต่อแป๊ปจากแท็งก์เก็บน้ำที่อยู่ด้านบนมา


อันนี้คือเราคิดของเราคนเดียว หรือว่าเราก็มาหารือกับเพื่อน ๆ ด้วย

อันนี้ก็บอกเขาไปนิดหน่อย


แล้วเพื่อน ๆ เป็นอย่างไรบ้าง เขาตอบรับอย่างไร

เขาก็บอกว่าแท็งก์นั้น ถ้าจำไม่ผิดแท็งก์มันแห้งครับ ก็เลยไม่ได้ไปต่อ


แล้วที่เราบอกพ่อแม่นัทมาช่วย เขามาช่วยอย่างไร

พ่อแม่นัทมาช่วยหลายอย่างเลยครับ มารีโนเวตแปลง แม่นัทมาขุดบ่อปลาดุก แล้วก็เลี้ยงกบ ที่พวกเราเพาะเห็ดไว้ ผ่านไปได้สักพักมันก็ไม่เวิร์ก เลยรื้อเห็ดออกไปเพาะใหม่ เปลี่ยนเป็นที่ปลูกบวบ ฟักทอง ไม้เลื้อย


แสดงว่าในสวนที่เราทำแปลงผัก เราไม่ได้ปลูกแค่ผักอย่างเดียวใช่ไหม

ครับ ไม่ได้มีแค่ผักอย่างเดียว


ถ้าอย่างนั้นลองเล่าให้พี่เห็นภาพได้ไหม ว่าแปลงผักที่เราทำตอนนั้น เราปลูกอะไรบ้างในพื้นที่

หลังจากรีโนเวตแล้วใช่ไหมครับ


เอาก่อนรีโนเวต มีอะไรบ้าง

ก่อนรีโนเวตมีผักบุ้ง พริก ผักชี มีประมาณสี่ถึงห้าอย่าง


คือเน้นปลูกผักอย่างเดียวเลย สี่ถึงห้าอย่าง

ครับ


อันนี้ที่เราเลือกปลูกผักสี่ถึงห้าอย่าง เราประชุมหรือพูดคุยกันในทีมไหม ว่าเอาผักอะไรบ้าง

มีอยู่ครับ เลือกผักที่มันออกง่าย ดูแลง่าย เป็นของที่กินบ่อยอยู่


โอเค คือก่อนหน้ารีโนเวตที่เราตัดสินใจปลูกกันเอง จะเน้นพวกผักสวนครัว ประมาณสี่ห้าอย่าง

ครับ


พอมาเจอปัญหาน้ำไม่พอ พ่อกับแม่นัทก็เลยรีโนเวตใหม่

ครับ


ทำไมเขาต้องมารีโนเวตใหม่ เขาให้เหตุผลอะไรไหม พ่อกับแม่เขาบอกอย่างไรบ้าง

น่าจะบอกกับนัทกับครูดีมากกว่า


แสดงว่าพ่อกับแม่นัทเขาปลูกผักใช่ไหม

ทำสวนมั้งครับ ไม่ได้ไปถามอะไรขนาดนั้น


ลองเล่าบรรยากาศให้ฟังหน่อยได้ไหม ว่าตอนนั้นพ่อกับแม่เขามาทำอะไรบ้าง

อย่างที่บอกตอนแรก ว่าทำโรงเพาะเห็ด แล้วมันไม่เวิร์ก พ่อกับแม่นัทก็เลยมาช่วย หลังจากช่วย เห็ดก็เพาะได้ แล้วมันก็เวิร์ก ก็เลยรีโนเวตไปเลย


แสดงว่าก่อนหน้านี้มีโรงเพาะเห็ดอยู่แล้วด้วย นอกจากผักสวนครัว

ครับ


พอพ่อกับแม่นัทมารีโนเวตนี่เขาทำอย่างไรบ้าง

ขยายพื้นที่ออกไปอีกนิดหน่อย แล้วไปทำแปลงผักเอาผักอย่างอื่นมาปลูกแทน แล้วก็ขุดบ่อปลาดุก เลี้ยงกบไว้ แล้วพื้นที่โล่งอีกนิดหนึ่งก็จะทำเป็นที่เลี้ยงไก่


แล้วที่รีโนเวตใหม่ทั้งหมด พวกเราเยาวชนทั้งหกเจ็ดคนมีบทบาททำอะไรกันบ้าง อย่างลีโอ ลีโอทำอะไร

ก่อนรีโนเวตใหม่ก็อยู่แค่ตอนทำโรงเพาะเห็ดใหม่ เพราะว่ามันเริ่มมีโควิดมาแล้ว เขาก็เริ่มประกาศล็อกดาวน์แล้ว เลยทำได้แค่นั้น จากนั้นพ่อแม่ของนัทแล้วนัทมาช่วยกัน ผมก็มีไปช่วยบ้างนิดหน่อย


แสดงว่าช่วงหลังจากรีโนเวตใหม่ กิจกรรมส่วนใหญ่ หน้าที่ส่วนใหญ่จะอยู่ที่นัทใช่ไหม

ครับ


ช่วงรีโนเวต

ผมก็ไปช่วงที่ทำโรงเพาะเห็ดใหม่ หลังจากเพาะได้สักพักก็ไม่ได้เพาะเห็ด เลยรื้อโรงเพาะเห็ด ตรงนั้นก็เลยไปปลูกพวกบวบ ฟักทอง แล้วขยายด้านหลังออกไป พื้นที่โล่งก็ทำอย่างอื่นแทน


เราเจอสถานการณ์น้ำไม่พอ พ่อกับแม่นัทใช้วิธีการแก้ไขอย่างไร น้ำถึงพอ ผักถึงโตขึ้นมาใหม่

ตอนนั้นพ่อกับแม่นัทน่าจะไปต่อวาล์วของที่อื่นมาครับ


ปกติเรารดน้ำด้วยอะไร จากอะไร

จะมีน้ำบาดาล มีเครื่องปั๊ม ช่วงหน้าแล้ง น้ำบาดาลก็น้อยอยู่ ผมก็เลยรดได้แค่เช้าเย็น ปล่อยน้ำผ่านสปริงเกอร์ไปเลย


อย่างปัญหาเรื่องน้ำไม่พอ ผักเหี่ยว ผักตาย มาเจอสถานการณ์โควิดอีก ทำให้ลีโอรู้สึกท้อไหม หรือว่าหมดกำลังใจไหม

ตอนนั้นก็ไม่ได้รู้สึกว่าท้ออะไร เพราะว่าผมก็ดูแลอยู่ ส่วนใหญ่ก็อยู่แทบทั้งวันเลย มารดน้ำตอนเช้า แล้วก็ไปพักนิดหน่อย ตอนบ่าย ๆ ก็กลับมาอยู่เฝ้าที่นั่น


มีจัดเวรกันไหม ใครเป็นคนไปดูตอนเช้า ใครไปดูตอนเย็น

ส่วนใหญ่จะเป็นผมกับนัทไปดู ก็คือนัดกันออกไปเลย


ดูที่ว่าเราไปดูอะไรบ้าง

ดูว่าน้ำขึ้นมาหรือยัง รดน้ำได้หรือยัง แล้วก็ดูว่ามีหมามาขุดเข้าไปไหม


นานไหมกว่าผักจะโต กว่าจะเก็บได้

ถ้าเป็นผักบุ้งไม่ค่อยนาน ผักบุ้งโตเร็ว แต่ผักอย่างอื่นมันนานอยู่


กิจกรรมหลัก ๆ จะเป็นการดูแลแปลงผักใช่ไหม

ครับ


แล้วอย่างที่เราบอก กลุ่มเป้าหมายของเราเปลี่ยนไป จากตอนแรกที่เป็นคนทั่วไปในชุมชน มาเป็นผู้สูงอายุ มันไปเปลี่ยนในช่วงไหน ที่เราเล่ามา เหตุการณ์ไหนที่ทำให้เราเปลี่ยน

จริง ๆ มันก็ไม่ได้เปลี่ยนชัดเจนขนาดนั้น แต่ผมเจาะจงไปที่ผู้สูงอายุมากกว่ากลุ่มอื่นนิดหนึ่ง เพราะตอนแรก ๆ ก็อย่างที่บอกว่าผมกำหนดมากว้าง ๆ ทุกคนในชุมชน แต่หลังจากไปอ่านไปเห็นข้อมูลก็เลยมุ่งเป้าไปที่ผู้สูงอายุมากกว่ากลุ่มอื่น


ที่บอกว่าไปเห็นข้อมูลเนี่ย คือมันอยู่ในแผนกิจกรรมของเราไหม หรือว่าเราบังเอิญไปเห็นข้อมูลของเราเอง

น่าจะบังเอิญครับ


แล้วเราเก็บข้อมูลอะไรบ้างไหมในชุมชน หรือหลัก ๆ ก็จะเป็นดูแลแปลงผักอย่างเดียวเลย

ดูแลแปลงผักมากกว่าครับ


ก็ไม่ได้เก็บข้อมูลอะไร มีการเก็บข้อมูลไหม ว่าคนในชุมชนทานผักอะไรเป็นพิเศษ อะไรแบบนี้มีไหม

อันนั้นไม่ได้เจาะเข้าไป


แล้วมันเป็นอย่างที่เราคิดไหม มันสนุกเหมือนกับโครงการปีที่หนึ่งไหม

มันก็คนละแบบครับ อย่างโครงการปีแรกของผม มันเป็นดนตรี มันสนุกที่ผมได้เล่น ได้เล่นอยู่กับเพื่อน แล้วก็ได้หัด แต่อันนี้เป็นสนุกอีกแบบหนึ่ง คือผมลงมือทำแปลงของผมขึ้นมาเอง แล้วผมก็ดูแลมันเอง


เราแบ่งไหม ว่าแปลงนี้ลีโอดู แปลงนี้นัทดู แปลงนี้อีกคนหนึ่งดู หรือว่าช่วยกันดูทั้งหมด

ช่วยกันดูครับ


มีไหมที่บางวันเพื่อนคนนี้ไม่มา คนนี้ไม่มา

ส่วนใหญ่ไม่มีครับ ปกติจะเป็นผมกับนัทไปดูกันสองคน คือนัดไปพร้อมกัน


แล้วเพื่อน ๆ อีกสี่ห้าคนไปไหน ทำไมเขาถึงไม่ค่อยมาดู

มันเป็นช่วงที่เริ่มล็อกดาวน์จากโควิด-19 คนหนึ่งเขาก็ไปอยู่ต่างจังหวัด กลับมาไม่ได้ อีกคนก็ไปอยู่ต่างจังหวัดเหมือนกันแต่ไปแค่เชียงใหม่ ส่วนอีกสองคนก็ติดงานสวนที่บ้าน เขาก็เลยไม่ค่อยว่างมา


เหมือนเป็นช่วงสถานการณ์โควิดด้วย ก็เลยเหลือแค่นัทกับลีโอสองคนใช่ไหม

ครับ


เรารู้สึกว่างานมันหนักเกินไปที่เราไหม

ตอนแรกก็รู้สึกว่ามันหนักเกินไปที่เรา เพราะว่าบางคนเขาก็ไม่ค่อยได้ช่วย แล้วก็ทำกันอยู่แค่ไม่กี่คน


แล้ววิธีการจัดการความคิดตรงนั้น มันผ่านไปได้อย่างไร เราถึงทำงานกันต่อ

ผมก็ไปบอกกับเขา บอกผ่านประธานโครงการ เพราะว่าเขาดูเกรงใจคนอื่นมากกว่า ให้ประธานพูดน่าจะดีที่สุดแล้วคนอื่นไป ถ้าผมพูดเองก็กลัวว่ามันจะแรงเกินไป


ประธานไปพูดอะไรอย่างไรบ้าง

ก็คงประมาณว่าไม่ช่วยงาน เดี๋ยวเงินที่หารได้ออกมา ไม่ต้องรับนะ ก็เป็นเหตุผลที่เขาต้องยอมรับแหละ เพราะเขาไม่ค่อยได้ทำงาน


ในเมื่อเพื่อน ๆ อีกสี่ห้าคนเขาไม่ทำ ทำไมลีโอถึงยังไปทำต่อ

อันนี้คือผมก็อยากดูแลผัก ผมก็ทำมาสักพักหนึ่งแล้ว จะปล่อยมันทิ้งไปเลยก็ดูจะน่าเสียดาย ผมก็เลยดูแลต่อก็ได้ อีกไม่นานก็จะจบโครงการแล้ว


อย่างตอนรีโนเวต ใครไปทำบ้าง หรือมีแค่พ่อแม่นัทแล้วก็ลีโอแล้วก็นัททำ หรือทำกันทั้งทีม ตอนรีโนเวต

ประมาณสามคนเองครับ อย่างที่บอกว่าเขาติดอยู่ต่างจังหวัด


เราคิดว่าสถานการณ์โควิด เป็นปัญหาสำหรับเราไหม ในการทำโครงการ

มันก็เป็นปัญหาระดับหนึ่ง อย่างเพื่อนที่ไปต่างจังหวัด ถ้าไม่มีโควิด-19 เขาก็กลับมาได้เร็ว มาช่วยงานได้ต่อ แต่พอมีโควิดมันก็ไปแล้วก็ติดอยู่ตรงนั้นเป็นเดือน ๆ กว่าจะกลับมาก็ต้องมากักตัวอีก มันนานครับ


แล้วเพื่อนที่เขาไปกักตัวไปอยู่ต่างจังหวัด เขามีมาถามไถ่เราบ้างไหม ว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผักโตหรือยัง

ตอนแรกเพื่อนที่ไปอยู่ต่างจังหวัด เขาบอกว่าอาจจะไม่ได้ทำแล้ว ติดอยู่ต่างจังหวัด สุดท้ายก็กลับมาทัน ก็เลยมาช่วยกันช่วงท้าย ๆ


ตอนที่เพื่อนบอกว่าอาจจะไม่ได้ทำต่อแล้วนะ เพราะกลับมาไม่ทัน ตอนนั้นความรู้สึกของเราที่ได้ฟัง เรารู้สึกอย่างไรไหม

มันก็รู้สึกแบบเสียคนไปเลยนะ คนช่วยงานก็ดูน้อยลง เราจะเหนื่อยขึ้นหรือเปล่า แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นความคิดที่แบบ เอ๊ะ ตัวหารเงินก็ลดลง


หารเงินที่ว่านี่หารเงินอะไร ที่ปลูกผักได้ใช่ไหม

ครับ มันจะมีเงินที่ปลูกผักได้ แล้วก็มีเงินจากโครงการนิดหน่อย


แต่สุดท้ายเพื่อนก็กลับมาช่วยทันเนอะ ตอนที่เราบอกว่าช่วงที่พ่อแม่ของนัทเริ่มเข้ามาช่วย คนในชุมชนเขาเริ่มสนใจมากขึ้นไหม เอ๊ะ เด็กพวกนี้มาทำอะไร เพิ่มขึ้นไหม

เขาเริ่มสนใจมากขึ้นครับ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกนั้นเขาก็สนใจมากขึ้นในระดับหนึ่งครับ


ที่บอกว่าเขาสนใจมากขึ้น เราสังเกตจากอะไร

เขาก็มาหาผมบ่อยขึ้น แล้วก็มาอยู่ที่แปลงผักบ่อยขึ้น


มาช่วยดูแปลงผักเราด้วยใช่ไหม

ครับ


มาช่วยอย่างไร คอยแนะนำ ให้ข้อมูลแบบนี้เหรอ

มาเฝ้าเฉย ๆ ครับ


เฝ้าพวกไก่พวกหมาแบบนี้เหรอ

ครับ ละแวกนี้จะมีบ้านที่เลี้ยงหมาอยู่ มีอยู่ครั้งหนึ่งมันเข้ามาในแปลง แล้วมันก็ขุดแปลงเสียหายไปประมาณหนึ่ง


ตอนนั้นรู้สึกอย่างไร โมโหไหม

โมโหหมา ก็หาทางแก้ด้วยการหาอะไรมาอุดประตูให้แน่นขึ้น


ตอนก่อนทำโครงการ เรามีไปพูดคุยกับคนในชุมชนไหม ว่าเราจะทำโครงการนี้

มีคุยครับ


แล้วตอนที่เราไปบอกตอนนั้น ชาวบ้านมีผลตอบรับอย่างไรบ้าง หรือเขาแค่รับฟังเฉย ๆ

เขาก็รับฟังในระดับหนึ่งครับ


ตั้งแต่วางแผนในทีม เริ่มทำกิจกรรม เจอปัญหาบ้างนู่นนี่นั่น เราคิดว่า มันมีอะไรใหม่ ๆ บ้างไหม ที่เราไม่เคยทำแล้วเราได้ทำจากการทำโครงการนี้

ช่วงที่ทำโรงเพาะเห็ด ยากกว่าการปลูกผักธรรมดาเยอะมาก ๆ ไม่เคยทำมาก่อนเลย เวลาเพาะเห็ดมันต้องดูแลเป็นพิเศษมากกว่าผัก ความชื้นจะมากเกินไปก็ไม่ได้ อบอ้าวเกินไปก็ไม่ได้ เห็ดจะขึ้นเป็นราดำ แล้วขายไม่ได้


แล้วเราคิดว่ามันมีปัญหาอะไรบ้างไหม ที่มันเป็นเรื่องที่หนักใจสำหรับเรามาก ๆ เลยในการทำโครงการนี้

ช่วงที่เกิดโควิดแล้วเขามาช่วยงานไม่ได้ น่าจะมีแค่นี้


อันนั้นคือช่วงที่เรารู้สึกว่าเราหนักใจใช่ไหม แล้วเราแก้ปัญหาความรู้สึกตรงนั้นของเราให้มันผ่านไปได้อย่างไร

ตอนนั้นผมก็ไม่ได้แย่ ผมก็เป็นคนง่าย ๆ อยู่พอสมควร ไม่ทำเหรอ โอเค ตอนจบเงินที่หารกันไม่เท่ากันนะ ผมก็คิดว่าผมก็ได้เงินเยอะกว่าเขา ผมก็โอเค ก็แค่นั้น


สุดท้ายการทำโครงการของเรา มันเกิดผลอะไรกับตัวเรา เกิดผลอะไรกับชุมชนบ้างไหม ผักปลอดสาร

เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ทำให้เห็นว่าหารายได้ได้เยอะขึ้น ผมคิดว่าถ้าปลูกผักได้ที่บ้าน ก็นำไปขายที่ตลาดชุมชนได้ ตลาดในชุมชนก็จะมีผักเยอะขึ้น ผักบางอย่างไม่คิดว่าจะปลูกได้ที่บ้านเรา ก็ปลูกได้ เช่น กระเจี๊ยบเขียว ปกติที่ตลาดแถวบ้านไม่มีใครขายเลย ตลาดที่อื่นมีมาขาย อร่อยดี


แล้วเราได้เอาผักที่เราปลูกแบบปลอดสารเคมีพวกนี้ไปให้กลุ่มผู้สูงอายุ ปราชญ์ผู้รู้ที่เคยเล่นดนตรีมาก่อนของปีหนึ่งให้เขาได้ลองทานไหม

ส่วนใหญ่แม่นัทเอาไปขาย แล้วดูเหมือนจะขายได้ดีด้วย เพราะหมดตลอด


ส่วนใหญ่ผักที่ปลูกได้จะเอาไปขายมากกว่า เก็บไปฝากพ่ออุ๊ยแม่อุ๊ยบ้างไหม

น่าจะต้องถามนัท ก็มีแจกจ่ายบ้างอยู่แล้วครับ คนในละแวกนั้นก็น่าจะเอาไปแจกจ่าย


ถ้าอย่างนั้น นอกจากพ่อแม่นัทแล้ว คนในชุมชนบ้างประปรายที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือ มีคนอื่น ๆ อีกบ้างไหม ที่มาให้การสนับสนุนเรา

พ่อผมครับ ผู้ใหญ่บ้านไปดูแลบ้างประปราย ถ้าพ่อว่าง ๆ ในช่วงกลางวันก็จะไปอยู่


มีพ่อเราอีกคนใช่ไหม ที่คอยช่วยดูแล

ครับ


มีประโยชน์อย่างไร กระเจี๊ยบเขียว

อันนี้จำไม่ได้ครับ


แล้วปกติเราชอบกินผักไหม โดยส่วนตัว

ปกติจะกินผักกับน้ำพริก ผักลวกกินกับน้ำพริก


เมนูโปรดเลยหรือเปล่า

บางทีก็เป็นเมนูโปรด


แล้วเราเก็บผักไปกินในบ้านเราไหม ในครัวเราไหม ผักที่เราปลูก

ครับ ก็มีเอามา ก็เป็นพวกกระเจี๊ยบ


ก็มีเอาไปกินกับที่บ้านบ้าง เขาว่าอย่างไรบ้างไหม พ่อกับแม่กินผักที่เราปลูกเองกับมือ เขาชมไหม หรือพูดว่าอย่างไรบ้าง

ก็ใช้ได้


ก็อร่อยดี

ครับ


เรานำเสนอไหม เป็นผักที่ลีโอปลูกเองกับมือ ปลอดสารพิษ มีไหม

ไม่มี


พี่อยากให้ลีโอลองนึกย้อนกลับไป ภาพของตัวเอง ตอนแรกที่ลีโอบอกว่า ตอนทำงานปีหนึ่ง เราก็เห็นแล้วว่าเราแอคทีฟมากขึ้น เรากล้าแสดงออกมากขึ้น แล้วก็กล้าเข้าสังคมมากขึ้น แล้วพอมาทำปีสอง เรื่องพวกนี้ที่บอกว่าพัฒนาเพิ่มมากขึ้น มันเพิ่มขึ้นกว่าเก่าไหม

ความกล้าแสดงเพิ่มขึ้นมากกว่าเก่าในระดับหนึ่ง


ในระดับหนึ่งของเรา มันเอาอะไรเป็นตัววัด ลองยกตัวอย่างให้ฟังได้ไหม

ในช่วงที่นำเสนอโครงการในปีแรก เป็นอะไรที่ตื่นเต้นมาก ขาสั่น แต่พอมาปีนี้ก็ไม่ได้สั่นขนาดนั้นแล้ว


เราคิดว่าเพราะอะไร เราถึงรู้สึกว่าเราไม่ได้ตื่นเต้นเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว

คงเพราะว่าเคยทำมาแล้วรอบหนึ่ง อาจจะเกิดความเคยชินมากขึ้น ผมก็ปรับตัวได้เร็วขึ้น ปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ได้ดีขึ้น


แล้วมีอะไรอีกบ้างไหม ที่เรารู้สึกว่าพัฒนาขึ้นกว่าเดิมอีก

มันไม่ค่อยมีแล้ว ส่วนใหญ่เป็นเรื่องกล้าแสดงออกที่เพิ่มมากขึ้น


ที่เราเห็นชัด ๆ เลย แล้วอย่างเรื่องความรู้สึกที่มีต่อชุมชนนี่มันเปลี่ยนไปไหม

ชุมชนของผมมีอะไรหลายอย่างที่ผมไม่รู้เยอะ ก่อนเริ่มทำโครงการปีที่หนึ่งกับปีที่สอง ผมก็ไม่รู้ว่ามีแบบนี้ด้วย


เช่น อะไรบ้าง ที่บอกว่ามีแบบนั้นด้วยเหรอ แบบนี้ด้วยเหรอ

ส่วนใหญ่ก็คงเป็นที่เกี่ยวกับโครงการของผม คือ คนเขาปลูกผัก ตอนแรกก็คิดว่ามันเป็นโครงการเงียบ ๆ เพราะว่าไม่ได้เห็นคนเขาทำกันขนาดนั้น แต่หลังจากที่ผมเริ่มทำ ผมก็เห็นว่าเขาก็มีคนที่สนับสนุนเยอะเหมือนกัน มีคนมาเข้าร่วมอยู่หลายคนเหมือนกัน


ขอย้อนกลับไปอีกนิดหนึ่ง ที่เราบอกว่า โครงการนี้ หลัก ๆ ที่เราเห็นว่าเราเปลี่ยนไป คือเรื่องความกล้าแสดงออก เราคิดว่ามันเป็นเวทีไหน หรือสถานการณ์ไหนที่เรารู้สึกว่าเราทำได้ดี เรานำเสนอได้ดี เรารู้สึกประทับใจมาก

ตอนนำเสนอปิดโครงการปีแรก ผมตื่นเต้นมาก ตื่นเต้นจนขาสั่น แต่ในปีนี้หลาย ๆ เวที ผมไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้นแล้ว ผมรู้สึกว่าผมพูดได้ ตื่นเต้นก็ทำใจให้สงบ


ถ้าช่วงที่เราตื่นเต้น เรามีวิธีการรับมือกับมันอย่างไร จนเราผ่านมันไปได้

ตอนนั้นผมพยายามเรียบเรียงสิ่งที่จะพูดออกมา แล้วพูดออกไปช้า ๆ เนิบ ๆ มันช่วยให้หายตื่นเต้นได้นิดหน่อย มองคนที่ผมจะนำเสนอ หรือคนที่เขาจะถามเรา ไม่ได้มองในมุมที่เขามากดดันเรา มองว่าเขามาให้กำลังใจเราดีกว่า ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ประมาณนี้ครับ


อันนี้ก็เป็นเทคนิคของเราเนอะ แล้วเรามีความสามารถอะไรไหม ระหว่างทำโครงการมาปีหนึ่งปีสอง เราค้นพบตัวเอง ค้นพบความสามารถใหม่ ๆ ไหม ที่เรารู้สึกว่าเราทำได้นี่หว่า มีบ้างไหม

ก็คงเป็นความสามารถที่น่าจะกึ่ง ๆ เป็นพิธีกร คือผมสามารถเป็นพิธีกรได้เหมือนกัน


แล้วเราเคยเป็นไหม ในโครงการนี้

ไม่เคย แต่ผมคิดว่าผมก็อยากเป็นเหมือนกันนะ


ช่วงไหนเหรอ ที่ทำให้เรารู้สึกว่าเราก็อยากไปพิธีกรเหมือนกันนะ

ก็คงเป็นตอนที่ผมเริ่มจับไมค์ แล้วผมก็พูดกับผู้ใหญ่ แล้วผมก็ตื่นเต้นครับ น่าจะเป็นช่วงนั้น


ก่อนหน้านั้นเราเคยคิดไหม ว่าเราจะกลายเป็นคนที่กล้าพูดกล้าจับไมค์แบบนี้

ไม่ได้คิดครับ


ปกติก็เหมือนที่บอกว่าถ้าไม่จับไมค์ ถ้าเป็นไปได้ก็จะไม่พูดใช่ไหม

ครับ


ถ้าจะลองให้คะแนนตัวเอง อาจจะเป็นสิบคะแนนก็ได้ ก่อนและหลัง เราคิดว่าเราจะให้คะแนนตัวเองสักกี่คะแนนดี

ถ้าเป็นช่วงก่อนก็ 4 – 5 คะแนน หลังจากทำโครงการมาสองปีก็ขึ้นมาประมาณ 7 – 8 คะแนน


ทำไมก่อนทำโครงการถึงให้ประมาณ 4 – 5 คะแนน เพราะอะไร

ก่อนทำโครงการผมก็กล้าแสดงออก แต่ไม่ได้มากเหมือนหลังจากผมเริ่มทำโครงการ ตอนนี้ ผมสามารถไปทำกิจกรรมอย่างอื่นที่มันต้องใช้ความกล้าได้มากขึ้น


แล้วส่วนที่หายไป ทำไมเราถึงให้มันหายไป ทำไมถึงไม่ให้เต็มสิบ

คงเพราะว่ามันยังดี แต่มันยังดีไม่พอ หรือมันอาจจะมีจุดที่ผมพลาดอยู่บ้างครับ


แล้วถ้าอยากพัฒนาให้มันดีขึ้น เราอยากให้มันเป็นในรูปแบบไหน

อยากพัฒนาให้เป็นการพูดแบบพิธีกร


แสดงว่าลึก ๆ แล้ว เราอยากลองเป็นพิธีกรดูสักครั้งหนึ่งใช่ไหม

ครับ


แล้วเราคิดว่าสิ่งที่เราได้จากการทำโครงการ มันสามารถเอาไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันของเราได้ไหม

ใช้ได้ครับ ผมสามารถปลูกผักสวนครัวแบบง่าย ๆ ได้ ผมคิดว่าผมจะเอาผักที่อยู่ในโครงการไปปลูกที่บ้านอย่างไรดี ดูแลอย่างไรดี ประมาณนี้ครับ


แล้วถ้าเป็นทักษะอื่น ๆ เราสามารถเอาไปใช้ในห้องเรียน หรือเวทีอื่น ๆ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ได้ไหม

ใช้ได้ครับ คืออย่างที่บอกว่ากล้าแสดงออกมากขึ้น ไปเป็นพิธีกรเวลาในห้องมีงาน หรือเวลาผมต้องนำเสนองาน ผมก็พูดได้ในระดับหนึ่งแล้ว


ตอนนี้จบโครงการแล้วใช่ไหม

ครับ


เรายังไปดูแปลงผักของเราอยู่ไหม

ก็ไปดูบ้าง แต่ช่วงนี้กลับบ้านน้อยมาก


เราไปอยู่หอเหรอ

ตอนนี้อยู่หอครับ


แต่ว่ายังมีคนดูแลแปลงผักต่อใช่ไหม

นัทก็คงไปดูอยู่ครับ


แล้วเราคิดว่าพอจบโครงการนี้ ก็ไม่มีกิจกรรมอะไรแล้ว เรามองต่อไหม ว่าอยากทำอะไรต่อ อยากทำกิจกรรมอะไรต่อหลังจากนี้ หรือว่าเรียนอย่างเดียวก่อนตอนนี้

ตอนนี้ก็คงกลับมาโฟกัสเรื่องเรียนครับ เพราะ ม. 5 ก็ใกล้จะ ม. 6 ก็ใกล้ช่วงเข้ามหาวิทยาลัย ก็คงต้องอ่านหนังสือมากขึ้น


ตั้งใจไว้หรือยัง หรือเล็งไว้หรือยังว่าอยากจะเป็นอะไร คณะอะไร

เลือกคณะไว้แล้วครับ แต่ยังไม่ได้เลือกสาขา


เลือกคณะอะไร

เลือกคณะวิศวะครับ


อนาคตอยากเป็นวิศวะเหรอ

ครับ


แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหม ที่เราอยากจะพัฒนาให้มันดีมากขึ้นยิ่ง ๆ กว่านี้

ผมอยากพัฒนาตัวเองเรื่องการเข้าสังคมมากกว่านี้อีกนิดหนึ่ง


มันติดอะไรเหรอ เรื่องเข้าสังคม

มันติดตรงที่ว่าผมไม่รู้จะเริ่มบทสททนากับคนอื่นอย่างไรดี เลยอยากพัฒนาตรงนี้ให้ดียิ่งขึ้น 


อยากรู้ว่าตอนที่มีปัญหาว่าเพื่อน ๆ บางคนมาช่วยงานไม่ได้ ลีโอบอกว่าถ้าพูดกับเพื่อนเองเราจะพูดตรง ๆ ถ้าเราพูดเอง เราจะพูดว่าอะไร

ตอนนั้นก็คง ทำไมไม่มาช่วยงานกัน ก็เข้าใจนะว่าไม่ว่าง แต่สละเวลามาหน่อยได้ไหม แต่จะเป็นคำพูดที่ดูรุนแรงกว่านี้ครับ ประมาณนี้ครับ


ใส่อารมณ์มากกว่านี้เหรอ

ครับ แต่อย่างว่าก็สนิทกัน


แล้วอะไรถึงทำให้เรารู้สึกเบรกตัวเองได้ เราไม่พูดดีกว่า ให้คนอื่นพูดดีกว่า

ผมก็รู้ว่าถ้าผมพูดแล้วจะดูรุนแรงสำหรับคนอื่น ผมก็เลยคิดว่าให้คนอื่นพูดดีกว่า เพราะเวลาผมพูดแล้ว ส่วนใหญ่ผมสังเกตสายตาเขา จะเห็นได้ชัดว่าเขาไม่ค่อยพอใจ


ตอนนี้ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันใช่ไหม

ครับ ยังสนิทกันอยู่ เพราะอยู่ด้วยกันตั้งแต่ประถมแล้ว แค่ตอนมัธยมไม่ได้อยู่ด้วยกัน


ในเวลาทำงานก็เคือง ๆ กันตามหน้างานที่ทำไปแบบนี้เหรอ

มันก็มีอยู่บ้าง


ตอนแรกที่มองว่าจะได้ทำอะไรที่แอคทีฟกว่าเดิม แล้วคราวนี้สมใจไหม

มันก็ดูสมใจมากขึ้น แต่ยังไม่สุดครับ ที่ผมอยากทำคืออยากขึ้นไปบนดอยของหมู่บ้าน แล้วไปสำรวจดู แต่อันนี้ไปเรื่องปลูกผัก ผมก็เลยปลูกผักก็ได้


คือตอนนั้นเราอยากจะทำอีกอย่างหนึ่ง

ครับ


เสียงส่วนใหญ่อยากปลูกผัก เราก็เลยต้องปลูกผักด้วย

ครับ


ตั้งแต่ทำโครงการปีนี้มา ลีโอประทับใจกระบวนการไหนมากที่สุด ที่ไปร่วมกับพี่ ๆ

ถ้าเป็นของพี่ ๆ ก็น่าจะเป็นตอนหัดทำสื่อครับ สนุกดี ได้ลองถ่ายคลิป


แล้วเราได้เอาไปใช้กับโครงการเราเยอะไหม

ใช้อยู่ประมาณหนึ่งเลยครับ เรื่องของมุมกล้อง แล้วก็การตัดต่อ ประมาณนี้ครับ


แต่ตอนที่เวิร์กชอปทำใช้ได้เลยนะ กลุ่มลีโอ แล้วโครงการมีคลิปอยู่ใช่ไหม

มีคลิปอยู่ครับ น่าจะอยู่ในช่องของนัท


ถ่ายอะไรกัน ใครเป็นคนถ่าย ใครเป็นคนตัด

คนตัดเป็นนัทครับ คนถ่ายจะวนเวียนอยู่สามคน นัท เฟรนด์ โจ ครับ


แล้วลีโอล่ะ เป็นนายแบบหรือเปล่า

ถ่ายกล้องไม่ได้ มือไม่นิ่ง


แสดงว่าก็เคยลองแล้วถูกไหม

ลองแล้วครับ มันดูไม่เวิร์ก ดูไม่ใช่ตัวเองเลยไม่ทำดีกว่า


มีการบ้านไหมวันนี้

ช่วงนี้เริ่มเคลียร์ไปหลายงานแล้วครับ ช่วงนี้เป็นช่วงสอบก็เลยมีเวลาเคลียร์งานอยู่บ้างครับ อันนี้ก็คือเพิ่งสอบเสร็จมาสด ๆ ร้อน ๆ เลย


สอบวิชาอะไรมา

สอบเจ็ดวิชาครับวันนี้ สอบกลางภาคครับ


เจ็ดวิชา

มันเป็นช่วงสอบกลางภาคครับ ปกติโรงเรียนจะจัดให้มัธยมปลายสอบสามวัน แต่อันนี้เป็นโควิดก็เลยเหลือสองวัน แล้วก็มาอัด ๆ เอา อ่านไม่ทัน


แล้วทำข้อสอบได้ไหม

ยากมาก วันแรกมีแต่วิชาจำ ๆ