"แฟ๊บ" ปรับนิสัยเป็นคนใหม่

ดนัย อยู่เย็น (แฟ๊บ) อายุ 17 ปี เยาวชนจากตำบลหนองสนิท เข้าร่วมโครงการสร้างการมีส่วนร่วมของเยาวชนในการจัดการขยะ ตำบลหนองสนิท เมื่อทำหน้าที่เป็นแกนนำเยาวชน ทางอบต.หนองสนิท จึงส่งให้เรียนรู้ในหลาย ๆ ค่าย ล่าสุดได้เข้าเรียนรู้ที่ ค่ายพัฒนาศักยภาพและสร้างเครือข่ายเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา 25 อปท. จังหวัดสุรินทร์ (ภายใต้การดำเนินโครงการพัฒนาเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น 4 ภาค) สนับสนุนโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น , กสศ. , สถาบันยุวโพธิชน , สกสว. , ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) และมูลนิธิสยามกัมมาจล เมื่อวันที่ 1- 21 ตุลาคม 2562 ณ หน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำห้วยสามสบ ต.ศรีสะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน ซึ่งเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว เจ้าตัวได้มาให้สัมภาษณ์ถึงชีวิตพลิกผันที่ยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด แต่วันนี้จะทำให้ดีที่สุดเพื่อให้ครอบครัวภูมิใจ

ตอนนี้ “แฟ๊บ”ทำงานเป็นคอนวอย ในเวทีเครื่องเสียง เวทีคอนเสิร์ต มีหน้าที่ติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งมีทีมทำงานครั้งละ 6 – 7 คน ซึ่งรายได้จะแตกต่างกันไป ตามประเภทของงาน เช่น ถ้าเป็นงานลักษณะขึ้นโครงสร้างของหลังคาโดม จะมีรายได้ คนละ 500 บาท เดือนๆ หนึ่งมีรายได้มากสุดที่เจ้าตัวเคยทำได้คือ 6 – 7 พัน น้อยสุดประมาณ 2 พัน แล้วแต่ว่าช่วงไหนมีงานมากหรือน้อย เงินที่ได้ก็แบ่งให้ยายบ้าง เพื่อให้ยายซื้อกับข้าวกิน “ตอนนี้ผมอยู่กับตากับยาย” แฟ๊บ เล่าเรื่องของตนเองให้ฟังต่อเพื่อเป็นอุทธาหรณ์ให้แก่รุ่นน้อง ๆ

“ตอนผมเรียนอยู่ประถม เรียนเก่งครับ พอขึ้น ป.4 ผมเริ่มสูบบุหรี่ เริ่มเกเรขึ้น เป็นความอยากลอง ผมเห็นตาสูบ ใจผมก็อยากลอง รู้สึกเท่ห์ อยากเท่ห์เหมือนตา สูบบุหรี่ครั้งแรกสูบยาเส้น สูบไปก็รู้สึกดี พอควันเข้าไปแล้ว เริ่มติด สูบไป 5 มวนก็เริ่มติดน้อยๆ แล้วครับ ตอน ป.4 สูบยาเส้น หลบสูบ หลบพ่อแม่ ตายาย เช่น สูบในโรงเรียนหลบครูอยู่ในพุ่มไม้ พอ ป.6 เริ่มสูบ บุหรี่ซอง ซื้อที่เขาแบ่งขาย ให้รุ่นพี่ซื้อให้ พอเริ่มสูบบุหรี่ การเรียนก็เริ่มไม่ค่อยดี สูบบุหรี่แล้วเริ่มขี้เกียจเรียน พอเราติดบุหรี่มาก เราก็จะออกจากห้องบ่อย สูบบุหรี่แล้วสบาย สูบบุหรี่แล้วติดมาก ติดมากอยากสูบบ่อยๆ ยิ่งสูบยิ่งอยากสูบอีก จนไม่มีสมาธิเรียน ที่บ้านก็รู้ครับ เขาก็ด่าว่าทำไมไม่เรียน ผมรู้สึกเฉยๆ ไม่ได้คิดว่าจะเลิก แก๊งที่รวมกลุ่มกันก็เยอะอยู่ครับ พอขึ้น ม.1 เรียนได้ 1 เดือนก็เกเรมากขึ้นไปอีก ไปหาเพื่อน เห็นเพื่อนรุ่นพี่ที่เรียนด้วยกันเสพยาบ้า ใช้ฟอยล์เสพ เสพแล้วเขาอยู่เฉยๆ ไม่ได้ ตอนแรกผมก็ว่าจะไม่เอา แต่แว๊บหนึ่งผมคิดอยากลองอยากรู้ ตัดสินใจลองดูว่ามันเป็นอย่างไร อาการมันเป็นอย่างไร อยากท้าทายตัวเองว่าเราจะสู้ยาได้ไหม ลองไปเม็ดหนึ่ง ผมก็อยู่เฉยๆ ไม่ได้อาการดีด ระแวง แรกๆ มันจะออกฤทธิ์นานอยู่ครับ 5 - 6 ชั่วโมงได้

เพราะความอยากลองดี ทำให้ “แฟ๊บ” ต้องเข้าสู่วังวนของยาเสพติดตั้งแต่อายุยังน้อย สุดท้ายก็ถูกจับเพราะเสพ วังวนของชีวิตติดทำให้ “แฟ๊บ” ใช้ชีวิตแบบไม่มีแก่นสารมากขึ้น “ชีวิตผมก็เริ่มเกเรมาก ไม่ได้นอนบ้านตั้ง 4 เดือนเลยครับ ไม่ได้เข้าบ้านเลยครับ ยายก็โทรหา ตาม ก็โกหกยายไปเรื่อยเปื่อยว่าไปเที่ยว ไปยิงนก ตกปลา เริ่มขโมยของคนอื่น ของในบ้านก็เอาไปขายถ้าเราไม่มีตังค์ แต่ผมไม่เคยคิดทำร้ายคนอื่นเลยครับ คิดแต่จะหาเงินจากไหนมาซื้อยาเสพ” นั่นคือจุดพีคสุดในที่สุดเมื่อถูกจับ “แฟ๊บ” ก็เริ่มคิดได้และเลิกได้เพราะแม่

“ตอนนี้ผมไม่ได้รู้สึกอยากเสพแล้วครับ เพราะผมคิดได้ ผมเห็นแม่ไปเยี่ยมผม วันนั้นเป็นวันแม่พอดี ตอนที่ผมเลิกได้เพราะผมเห็นน้ำตาแม่ผมตอนผมอยู่ข้างในสถานพินิจฯ ถึงวันแม่พอดี เขาจัดกิจกรรมวันแม่ ผมได้ไหว้แม่อยู่ข้างใน ทำให้ความรู้สึกผมอยากเลิก ผมคิดว่าที่ผมโดนจับมันก็มีแต่พ่อแม่มาเยี่ยมผม เพื่อนก็ไม่ได้มาเยี่ยม ก็หายไปเลยครับ ทำให้ผมเห็นน้ำตาของยายผม ทำให้ผมเริ่มคิดได้ว่าสูบไปมันก็ไม่ได้อะไรพอรุ่นพี่มาชวนให้เข้ากิจกรรมแบบนี้ ก็มา มาเริ่มหาความรู้อะไรแบบนี้ครับ” แฟ๊บเริ่มหันเหชีวิตในทางเอาดีมากขึ้น “ถ้าย้อนเวลาได้ผมจะกลับไปเรียนครับ ตอนนี้ก็คิดที่จะเรียนครับผมเห็นเพื่อนๆ ใส่ชุดนักเรียน ผมก็อยากกลับไปเรียน ผมสมัคร กศน.จอมพระอยู่ครับ” แฟ๊บสะท้อนเรื่องตัวเองต่อว่าหนทางเป็นเด็กดีมีมาให้เลือกเมื่อผู้ใหญ่เปิดโอกาสให้

­

“สำหรับการเข้าอบรมครั้งแรก พี่เขาพาไปเป็นการอบรมเยาวชนผู้ติดยาเสพติด ที่ศูนย์เน็ท ไปแล้วได้ความรู้เยอะอยู่ครับ ไป 2 คืน 3 วัน เป็นความรู้เกี่ยวกับโครงการของหมู่บ้าน กลับไปผมก็ได้ไปชวนน้องๆ ไปทำความสะอาดหมู่บ้าน เก็บขยะ เป็นโครงการขยะ ที่ระดมความคิดกันระหว่างอยู่ที่ศูนย์เน็ทว่ากลับไปก็ไปพูดคุยกับผู้ใหญ่ก่อนว่า กลับไปผมจะพัฒนาชุมชน ทำที่ทิ้ง

ขยะให้ชุมชน วางไว้เป็นคุ้มๆ เพื่อให้ชุมชนเราสะอาด และชวนน้องๆ มาเก็บขยะช่วยกัน ผู้ใหญ่บ้านผมชื่อลุงประชิด ตอนไปบอกเขา เขาก็ยอมรับความคิดผมครับ เขาบอกว่าถ้าอยากทำแบบนี้เขาก็จะจัดให้ครับ เป็นสิ่งที่ดีเหมือนกันที่ได้พัฒนาชุมชน ทำให้ชุมชนตัวเองสะอาดพอผู้ใหญ่บอกว่าเห็นด้วยกับเรา ผมก็รู้สึกดีครับที่ได้มาพัฒนาชุมชนร่วมกันอย่างนี้...

­

ปกติชุมชนไม่มีที่ทิ้งขยะ พวกผมก็ประชุมกันว่าจะทำที่ทิ้งขยะดีไหม เอาไปวางไว้ทีละคุ้มหรือทีละบ้าน เพราะถ้ามีขยะแบบนี้ชุมชนก็ไม่สะอาด แต่ถ้ามีที่ทิ้งขยะชุมชนเราก็จะสะอาดครับ ผมเองอยู่หมู่ 3 ครับ ตอนแรกผมประชุมว่าจะทำที่ทิ้งขยะทีละบ้านๆ แต่มันเยอะ คงทำได้ทีละนิดๆ ครับ ตอนนี้เป็นแนวคิด ยังไม่ได้เริ่มทำครับ กลับไปก็ไปทำที่เลี้ยงกบ และปลูกผักออแกนนิค เรื่องขยะกับน้องๆ ก็เริ่มรวมตัว พูดคุยชักชวน แต่ยังไม่ได้ดำเนินการครับ”

“หลังจากกลับจากค่าย 21 วันในครั้งนี้ ผมก็ตั้งใจว่าจะเลี้ยงกบในชุมชน เอาไว้ขาย เลี้ยงไก่ ผมจะไปเสนอโครงการว่าในชุมชนของผม ผมจะเลี้ยงกบเลี้ยงไก่ ทำเป็นส่วนกลางของชุมชน เรื่องขยะก็จะสานต่อ พูดคุยกัน การเลี้ยงไก่ผมมีประสบการณ์อยู่ครับ จะเป็นไก่พันธุ์ได้ไข่แล้วไปขาย หรือไก่บ้านก็ได้ ที่บ้านเคยเลี้ยงทั้ง 2 พันธุ์ครับ เรื่องเลี้ยงกบ ผมจะไปศึกษากับคนที่เขาเคยเลี้ยงในหมู่บ้านครับ”

“ถ้าอยากได้การสนับสนุน ผมอยากได้การสนับสนุนการเลี้ยงกบครับเพราะการเลี้ยงไก่ผมรู้แล้ว แต่การเลี้ยงกบผมไม่มีทักษะการเลี้ยงครับ ว่าจะเลี้ยงอย่างไรให้มันรอด ผมอยากเลี้ยงเป็นกบใหญ่แล้วขายครับ สุรินทร์จะมีกบยัดไส้ครับ ผมอยากทำอาชีพนี้ครับ ตลาดดีอยู่ครับ และทาง อบต.ก็จะปลูกผักออแกนิค ถ้าผักได้เวลาเก็บเกี่ยวแล้วเราก็ไปขายที่ตลาด ได้รายได้ครับ เป็นการวมกลุ่มทำกับพี่ ๆ ที่อบต.ครับ รวมแล้วน่าจะ 30 คนอยู่ครับ เราทำแล้วก็ได้รายได้ นายกฯ บอกว่าถ้าพวกผมขายได้เขาก็จะให้เงินครับ ให้เป็นอาชีพของเราเลยครับ เขาจะลงทุนให้ก่อน ก็หวังให้เป็นอาชีพในอนาคตครับ”

ตัวผมเอง ผมฝันอยากเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถครับ เพราะผมไปอยู่ร้านซ่อมรถทุกวัน ผมเริ่มชอบด้านการซ่อมรถจักรยานยนต์ครับ ตอนนี้ผมปะยาง เปลี่ยนโซ่ได้ และเริ่มทำเครื่องได้อยู่ครับ ก็อยากเรียนรู้เรื่องการประกอบเครื่องครับ เรียนรู้ให้มันดีมากขึ้นครับ”

สำหรับการมาค่ายครั้งนี้ “แฟ๊บ” ได้สะท้อนถึงการเปลี่ยนแปลงของตนเอง เริ่มจากนิสัยที่เปลี่ยนไป “นิสัยผมก็เริ่มจะไม่ก้าวร้าวหาเรื่องคนอื่น นิสัยเริ่มดีขึ้น ไม่ก้าวร้าว และเรากล้าแสดงออกมากขึ้น

สำหรับสิ่งที่ “แฟ๊บ” ไม่ชอบคือการแสดงความคิดเห็น “สิ่งที่ไม่ชอบในค่ายนี้คือเขาให้พูดบ่อย พูดแสดงความคิดเห็น ผมไม่ชอบพูด” ส่วนกิจกรรมเดินตะปูรู้สึกว่าท้าทายดี “เคยเล่นที่ศูนย์เน็ทมาก่อนครับ ตอนนั้นก็กลัวอยู่ครับ ไม่อยากทำเลยครับ แต่พอเราทำได้ เราเริ่มท้าทายตัวเอง พอได้ทำอีกครั้งก็ท้าทายตัวเองมากขึ้นครับ

สุดท้าย “แฟ๊บ” ก็อยากจะบอกกับครอบครัวให้เชื่อใจตนเอง“ตอนนี้ผมอยากบอกครอบครัวว่าเรื่องยาเสพติดผมตีห่างออกมาจากมันมาแล้ว และผมเริ่มปรับนิสัยตัวเองให้ดีมากกว่าเดิม จะทำให้ครอบครัวเชื่อใจผมให้ได้ครับ ผมสัญญากับครอบครัวผมว่ากลับไปผมจะเลือกทางเดินใหม่ครับ เปลี่ยนชีวิตตัวเองใหม่ครับ กับชุมชนผมก็อยากบอกว่าที่ผมมานี่ผมก็อยากศึกษาและเอากลับไปทำที่ชุมชน และอยากให้สังคมรับผมได้ครับ ส่วนน้องๆ เพื่อนๆ ก็อยากบอกว่าอย่าคิดทำแบบผมในอดีตเลยครับ มันไม่ดีหรอกครับ ถ้าคิดได้มันก็ดี ถ้าคิดไม่ได้มันก็จะสายเกินไป เพราะถ้าเราโดนจับแล้ว มันก็เริ่มสงสารพ่อแม่ตัวเอง ถ้าออกเรียนแบบนี้มันก็ไม่ดี มันไม่มีการศึกษาครับ พอเห็นเพื่อนใส่ชุดนักเรียน เราก็อยากไปเรียน ก็อย่าทำชีวิตแบบผมเลยครับ มันไม่ดีหรอกครับ

สุดท้ายนี้ อยากบอกว่าอนาคตของผม ผมอาจจะเป็นเจ้าของอู่ซ่อมรถครับ ผมจะทำให้ได้ครับ” #

­