จิรวงศ์ ศรีเมือง : แกนนำเยาวชน Active Citizen จ.สุราษฏร์ธานี

นายจิรวงศ์ ศรีเมือง แกนนำเยาวชน Active Citizen จ.สุราษฏร์ธานี

นายจิรวงศ์ ศรีเมือง หรือ ข้าวปั้น ปัจจุบันเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนพุนพินวิทยา จ.สุราษฏร์ธานี ก่อนหน้าที่มาเข้าร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพเยาวชนบนฐานความรู้สู่การขับเคลื่อนงาน Active Citizen จังหวัดสุราษฎร์ธานี ข้าวปั้นเป็นเด็กที่ชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว พอข้าวปั้นเห็นว่าโครงการ ฯ กำลังเปิดรับสมัครเยาวชนจึงรีบไปปรึกษาครูธดา (ครูพี่เลี้ยงโครงการ) ว่าตนเองและเพื่อน ๆ สนใจที่อยากจะทำโครงการนี้ ซึ่งตอนนั้นครูธดาได้รับเชิญให้ไปเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในการนำเสนอโครงการของเยาวชนด้วย เมื่อครูธดาเห็นว่าเด็ก ๆ มีความสนใจจริง ๆ จึงพาไปสมัครเข้าร่วมโครงการในที่สุด

โครงการที่ข้าวปั้นและเพื่อนๆ ทำในปีที่ 1 มีชื่อว่า โครงการเครื่องกรองอากาศแบบ Combined Cycle ลดมลพิษทางอากาศ ซึ่งก่อนหน้าที่จะทำโครงการนี้ ได้มีการทดลองประดิษฐ์เครื่องกรองอากาศขึ้นมา เพื่อนำไปใช้ในการลดมลพิษทางอากาศ เพราะขณะนั้นหลาย ๆ พื้นที่ของประเทศไทยเผชิญกับปัญหาฝุ่น PM 2.5 แต่ด้วยความที่เครื่องกรองอากาศดังกล่าว ยังไม่ค่อยสมบูรณ์และเป็นรูปธรรมมากนัก ทำให้ข้าวปั้นและเพื่อน ๆ อยากได้องค์ความรู้เพิ่มเติม เพื่อนำไปต่อยอดและพัฒนาเครื่องกรองอากาศของตนเองให้ดียิ่งขึ้น สามารถนำไปใช้งานได้จริงและเป็นประโยชน์กับคนในชุมชนด้วย

ก่อนหน้าที่จะมาทำโครงการนี้ ข้าวปั้นและเพื่อน ๆ เคยนำเครื่องกรองอากาศที่ตนเองประดิษฐ์ขึ้นมานั้น ไปเดินสายแข่งขันในเวทีต่าง ๆ ซึ่งมีอยู่หนึ่งเวทีที่ทำให้ข้าวปั้นรู้สึกผิดหวังมาก เพราะไม่ได้รับรางวัลชนะเลิศกลับมา และตอนนั้นข้าวปั้นบอกว่าไม่อยากจะต่อแล้ว

“ตอนนั้นลงแข่งสนามแรกเลย เรารู้ว่าเราต้องแพ้แน่ ๆ เพราะว่าเราซ้อมกันน้อย เครื่องก็ยังไม่เพอร์เฟกต์ 100% และตอนนั้นยังไม่มีกล่องอะคริลิค มีแต่เครื่องเฉย ๆ เลย คนอื่นก็ดูไม่ออกว่าจะใช้งานยังไง ตอนนั้นเราก็พอใจงานของเราระดับนึงแต่ก็ยังไม่สุด และคิดว่าเราแพ้แน่ ๆ ซึ่งก็แพ้จริง ๆ ทำให้เราท้อมาก ไม่อยากทำต่อแล้ว เพราะเราไม่เคยผิดหวังว่าก่อน”

จากความผิดหวังในวันนั้น ข้าวปั้นก็กลับมาทบทวนกับตัวเอง และคิดว่าอย่างน้อยคุณครูและเพื่อน ๆ ก็คอยซับพอร์ตตัวเองมาตลอด ถึงแม้ว่าตัวเองจะผิดหวัง แต่ถ้าสู้ต่อก็อาจจะดีขึ้น ข้าวปั้นจึงพยายามหาหนทาง ปรึกษาคุณครูและชวนเพื่อน ๆ คิดว่าจะทำยังไงต่อไปดี ตอนนั้นก็คิดกันว่าจะลองสั่งซื้อกล่องอะคริลิคใส เพื่อมาทำเป็นห้องทดลอง เพื่อให้กรรมการและคนอื่น ๆ เห็นภาพชัดมากขึ้นว่าเครื่องกรองอากาศแบบ Combined Cycle นี้มีระบบการทำงานเป็นยังไง

และเมื่อซื้อกล่องอะคริลิกมาแล้ว ข้าวปั้นและเพื่อน ๆ ก็ยังพบเจอกับปัญหาอีก เพราะว่าเครื่องกรองอากาศที่ทำไว้มีขนาดใหญ่กว่ากล่องอะคริลิคที่ซื้อมา ตอนนั้นข้าวปั้นและเพื่อน ๆ ก็ต้องกลับมาคิดกันใหม่และปรับรูปแบบกันต่อไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งออกมาเป็นห้องทดลองที่สามารถกรองอากาศได้จริง ๆ ตอนนั้นข้าวปั้นบอกว่าตัวเองรู้สึกภูมิใจมาก ๆ ที่ตนเองและเพื่อน ๆ ร่วมมือกันและพยายามช่วยกันปรับปรุงแก้ไขจนมันสำเร็จ อีกทั้งยังนำสามารถนำไปแข่งขันในเวทีศิลปหัตถกรรม (ภาคใต้) จนคว้ารางวัลชนะเลิศได้ในที่สุด

ข้าวปั้นสะท้อนให้ฟังว่า จากการทำโครงการมาหนึ่งปีเต็ม ๆ ทำให้ข้าวปั้นเกิดการเรียนรู้ในหลาย ๆ ด้าน ได้เห็นมุมมองและแนวคิดใหม่ ๆ จากการได้พบเจอผู้คนที่หลากหลาย ซึ่งข้าวปั้นได้นำประสบการณ์เหล่านี้ไปพัฒนาผลงานของตัวเองอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดที่จะพัฒนาผลงานต่อ

นอกจากนี้ ข้าวปั้นยังมองเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับตัวเองอีกว่าตนเองมีความกล้าที่จะสื่อสารกับผู้อื่น กล้าพูดในสิ่งที่ถูกต้อง มีไหวพริบที่จะตอบคำถามในสิ่งที่คนอื่นสงสัย และที่สำคัญคือ มีความอดทนมากขึ้นกว่าเดิม เพราะถึงแม้ว่าจะเคยแพ้ในการแข่งขัน แต่ก็ไม่เคยถอย พยายามที่สู้ต่อ พยายามที่จะปรับปรุงแก้ไขและพัฒนางานต่อจนประสบความสำเร็จได้ในที่สุด