​“อ๋า” ตั้งมั่นจบปริญญาเป็นไกด์ต่างประเทศ

นายธนกร นิโรรัมย์ (อ๋า) อายุ 15 ปี เยาวชนจากตำบลเมืองลีง หลังจากเรียนรู้จากค่ายพัฒนาศักยภาพและสร้างเครือข่ายเยาวชนทั้งในและนอกระบบการศึกษา 25 อปท. จังหวัดสุรินทร์ (ภายใต้การดำเนินโครงการพัฒนาเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น 4 ภาค) สนับสนุนโดยกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น , กสศ. , สถาบันยุวโพธิชน , สกสว. , ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด(มหาชน) และมูลนิธิสยามกัมมาจล เมื่อวันที่ 1- 21 ตุลาคม 2562 ณ หน่วยอนุรักษ์และจัดการต้นน้ำห้วยสามสบ ต.ศรีสะเกษ อ.นาน้อย จ.น่าน ซึ่งเสร็จสิ้นไปเรียบร้อยแล้ว และ “อ๋า” ได้ตั้งเป้าหมายในอนาคตอยากเรียนให้จบปริญญาตรี และฝันไกลเป็นไกด์ต่างประเทศให้ได้ “อ๋า” ได้มาพูดคุยเรื่องราวของตนเองและการเปลี่ยนแปลงตนเองภายหลังค่ายให้ฟัง..

การเข้าค่ายในครั้งนี้มาได้อย่างไร

“การมาค่ายนี้ ตอนแรกครูอ้อย (วราภรณ์ หลวงมณี) เขาไปที่ตำบล แล้วเขาชวน และครูหวิง (จิรนันท์ เครือจันทร์ ครูผู้ดูแลเด็กองค์การบริหารส่วน ตำบลเมืองลีง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ (นักถักทอชุมชน รุ่น 1) พี่เลี้ยง ต.เมืองลีง) ครูก็พามาที่นี่ครับ ครูหวิงบอกว่าเดี๋ยวจะพาไปอบรมที่น่าน 21 วัน ผมก็ตัดสินใจมาเลย ก่อนมาผมก็ไปอบรมอยู่กรุงเทพฯ ก่อนแล้วครับ ก็คิดว่าน่าจะสนุกแบบนั้น ที่ไปกรุงเทพฯ ก็อบรมแบบนี้ล่ะครับ แต่อยู่แต่ในโรงแรมครับ เป็นการอบรมของกสศ. (กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา) ก็คิดว่าจะเป็นเหมือนกัน”

ตอนนี้ทำอะไรอยู่

“ตอนนี้ที่บ้าน ผมก็ทำงานเกี่ยวกับเครื่องเสียง จัดเวทีตามงานผมก็ช่วยที่บ้านด้วย และตอนนี้ก็เรียนหนังสืออยู่ด้วยครับ เรียนอยู่ กศน.จอมพระ มัธยมต้น ก่อนหน้านี้ผมก็เลิกเรียนด้วยตอนนั้น ก็เลยทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในชีวิตครับ ที่เลิกเรียนเพราะผมสละให้น้องเรียนแทนครับ แล้วผมก็กลับมาเรียนอีกครั้ง ส่วนครอบครัวผมก็ยังอยู่กันครบครับ มี พ่อ แม่ ตา ยาย และน้องครับ ”

ความคาดหวังจากการเข้าค่าย

“คาดหวังว่าจะมาปรับเรื่องการดื่มเหล้า สูบบุหรี่ครับ ตอนอยู่บ้านก่อนหน้านี้ ผมสูบบุหรี่ กินเหล้า แต่มาอยู่นี่ ผมยังไม่ได้สูบบุหรี่และกินเหล้าเลยครับ ความรู้สึกก็ธรรมดาครับ ไม่มีความอยาก ผมตั้งใจว่าจะเลิก ผมก็เลิกครับ

กิจกรรมที่ชอบที่สุดและจะไปใช้ในอนาคต

“ผมชอบกิจกรรมที่ให้การกล้าแสดงออกครับเช่น การนำเสนอ การพูด ก็จะนำไปใช้เพื่อเป็นผู้นำที่โรงเรียน ผมเพิ่งไปสมัคร กศน. ที่ต.เมืองลีงมา ครูบอกว่ากลับจากค่ายนี้ไปจะให้เป็นผู้นำของโรงเรียน กิจกรรมที่ชอบอีกก็คือกิจกรรมเข้าชุมชนครับเพราะได้ออกจากพื้นที่บ้างครับ ตอนนั้นผมมีหน้าที่ช่วยชาวบ้านถางต้นไม้และเก็บขยะ ก็มีความสุขครับ มีความสุขที่ได้ช่วยประชาชนครับ ได้พัฒนาหมู่บ้าน และได้ไปช่วยคุณลุงด้วยครับ เห็นแล้วสงสารครับ”

กิจกรรมที่ไม่ชอบที่สุด

“กิจกรรมที่ไม่ชอบมากที่สุดคือ นิเวศภาวนาครับเพราะผมก็ไม่ค่อยนั่งสมาธิเท่าไหร่ครับ บอกไม่ถูก เขาให้เราไปนั่งสมาธิ ตอนขึ้นไปบนเขา เขาบอกว่าให้นั่งสมาธิแล้วค่อยนอน ผมก็นั่งแล้วมันก็เมื่อย พื้นมันไม่เท่ากันด้วย ผมก็ต้องนอนจนถึงเช้า แต่นอนไม่ค่อยหลับ เพราะมันต่างพื้นที่กัน ผมหลับๆ ตื่นๆ แต่ไม่ได้ออกไปจากกลดอยู่ในนั้น ตื่นเช้ามาก็ภูมิใจครับที่อยู่ได้จนเช้า ไม่ได้ออกไปไหน ไม่ได้กินอะไรตั้งแต่ตอนเที่ยง ก็ทนหิวครับ บอกว่าอีกนิดหนึ่งก็จะเช้าแล้ว ตอนแรกก็ไม่คิดว่าจะทนได้ครับ ก็กินน้ำไปครับ พอผ่านมาถึงตอนเช้าก็ชอบกิจกรรมนี้นิดๆ ครับ”

ค่ายนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านใดบ้าง

เกิดการเปลี่ยนแปลงความคิดของผม กลับไปก็จะดูแลพ่อแม่ครับด้านอื่นๆ คือ ผมเป็นคนไม่ชอบศิลปะ เขาพามา ผมก็ทำแล้วคิดว่ามันง่ายครับ เขาสอน เขาวาดศิลปะ มันก็ดี ก็กลายมาเป็นชอบอยู่ครับ เมื่อวานผมวาดรูปครอบครัวครับ เพราะห่างครอบครัวมาไกลก็เลยอยากจะวาด พอกลับไปจากค่าย ผมก็จะไปหาเงินให้พ่อแม่จากอาชีพที่ทำอยู่ จัดเวที เล่นไฟ ปรับไฟ ปรับเสียงครับ”

อะไรในตัวเองที่เราไม่ชอบแล้วอยากเปลี่ยน / ข้อดีในตัวเราเอง

นิสัยตัวเองครับ เกเร อยากเลิกเหล้า บุหรี่ ให้ได้ และข้อดีคือผมหาเงินให้ตายายครับ”

สิ่งที่อยากบอกเพื่อนๆ เราในค่าย

“อยากเพื่อน ๆ ว่า อยากบอกให้สู้ และรักครอบครัวให้มากกว่าเดิมครับ ส่วนพี่เลี้ยง อยากขอบคุณที่ให้ความรู้กับพวกผมครับ”

ความฝันในอนาคตของผม

ผมอยากไปเรียนภาษาและเป็นไกด์ ผมอยากหาเงินให้พ่อแม่

และจะได้พูดภาษาต่างประเทศเป็น

ความฝันของเราในอนาคตคืออะไร

ความฝันในอนาคตของผม ผมอยากไปเรียนภาษาและเป็นไกด์ ผมอยากหาเงินให้พ่อแม่และจะได้พูดภาษาต่างประเทศเป็นผมได้รับทุนด้านการศึกษาจาก กสศ.ในปีนี้ด้วยก็ดีใจครับ ได้ทุนจนเรียนจบปริญญาการได้ทุนตรงนี้ ผมก็จะตั้งใจเรียนจบปริญญาและจะเรียนภาษาต่อไปด้วยครับ”