“เปิ้ล” ต.สวาย ภูมิใจ “นักถักทอ” ทำให้ตนไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

เปิ้ล” ต.สวาย ภูมิใจ “นักถักทอ”

ทำให้ตนไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง

นางสาวกฤษณา สุบินนาม (เปิ้ล) ผู้ดูแลเด็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก บ้านสวาย อบต.สวาย อ.เมือง จ.สุรินทร์ เป็นหนึ่งใน “นักถักทอชุมชน รุ่นที่ 3” ของจังหวัดสุรินทร์ ได้รับบทบาทนี้ภายหลังจากต้นสังกัดส่งเข้าร่วมโครงการพัฒนาเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น 4 ภาค ระยะที่ 3 : ขับเคลื่อนกลไกเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชนด้วยหลักการจัดการความรู้และกระบวนการวิจัย เพื่อขยายผลสู่อปท.อื่น ในจังหวัดสุรินทร์ สนับสนุนโดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เมื่อมาร่วมเรียนรู้ในเวที”การเพิ่มสมรรถนะนักถักทอชุมชน : การจัดการความรู้และการเป็นคุณอำนวย” เมื่อวันที่ 20 – 22 มกราคม 2563 ที่ผ่านมา จึงได้มาร่วมให้สัมภาษณ์ถึงประสบการณ์ในการเป็นนักถักทอชุมชน

แนะนำตัว

ตัวเองได้มาเข้าอบรมกับโครงการนักถักทอชุมชน สำหรับการทำงานด้านเด็กและเยาวชนยังไม่เคยทำ แต่สมัยเรียนจนทำงานจะมีการเข้าค่ายเด็กผู้ยากไร้หรือค่ายจิตอาสา ครูอาสา ตอนนี้ที่อยู่กับเด็กจะเป็นผู้ดูแลเด็กของ ศพด. ทำมาได้ 1 ปีแล้ว ปัจจุบันอายุ 38 ปี ก็ทำงานกับเด็กมาตั้งแต่อายุ 37 ปี เมื่อก่อนทำงานบริษัทเอกชน พอดีต้องกลับมาดูแลครอบครัวอยู่ที่บ้าน ก็ย้ายกลับมาอยู่ที่บ้าน และได้มาสมัครเป็นผู้ดูแลเด็กใน ศพด. ทำหน้าที่ดูแลเด็กปฐมวัยอายุตั้งแต่ 2 – 4 ปี ในการดูแลคือตั้งแต่รับเด็กเข้ามาตอนเช้า เด็กทำอะไร อย่างไร ตามกิจวัตร กิจกรรม 6 หลักของเด็กในแต่ละวัน

แรงบันดาลใจที่มาทำงานเกี่ยวกับเด็กที่ ศพด.

เด็กวันนี้คืออนาคตที่ดีในวันหน้า ถ้าเราปูพื้นฐานที่ดีให้กับเด็กได้ เราก็จะสามารถได้อนาคตของชาติที่ดีได้ ถ้าเราปูพื้นฐานของเด็กไม่ดี เด็กต่อไปจะเป็นคนที่ไม่ดีในสังคมได้

แรงบันดาลใจของการมาเป็นนักถักทอชุมชน

ตอนแรกที่เข้ามาในโครงการนี้ บอกตรง ๆ เลยว่าไม่รู้ว่านักถักทอคืออะไร พอได้รับการอบรมหลายครั้งจึงเข้าใจความหมายของนักถักทอว่า ที่เรามาเป็นนักถักทอนี้มีประโยชน์นะ มีคุณค่านะ แล้วเราทำไปเพื่ออะไร เพราะตอนแรกงงว่าส่งเรามาเพื่ออะไร แต่ทางหัวหน้าศูนย์บอกว่า 1.น้องอยู่ในกลุ่มงานการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนและชุมชน อยู่กับเด็กอยู่แล้ว และตัวของเราเองทำโครงการเยี่ยมบ้าน ทางหัวหน้าศูนย์จึงส่งมาเพราะคิดว่าเหมาะสมกับเราเพราะเราทำโครงการนี้อยู่แล้ว พอมาได้มีการบรี๊ฟหลายครั้ง มีการแนะนำหลายครั้งว่านักถักทอคืออะไร ประโยชน์ของนักถักทอคืออะไร แล้วเราสามารถนำความรู้เหล่านี้มาใช้กับเด็กที่ด้อยโอกาสกว่าเด็กที่เราเคยพบเห็น

ก็น่าสนใจ ครั้งที่ 1 ยังเฉย ๆ พอครั้งที่ 2 รู้สึกว่าอยากมีส่วนร่วมกับการเป็นนักถักทอชุมชน เพราะเรารู้ความหมาย เรารู้บทบาทหน้าที่ เราเลยรู้สึกว่าโอเคนะกับการที่เราเป็นแค่คนตัวเล็กคนหนึ่ง แต่เราสามารถมีบทบาท มีหน้าที่ และเป็นเหมือนกลไกหนึ่งที่จะฉุดดึงเด็กกลุ่มที่ไม่มีโอกาสขึ้นมาให้เสมอภาคกับเด็กที่มีโอกาสได้

สถานการณ์เด็กในชุมชนเป็นอย่างไรบ้าง

แต่ก่อนชุมชนสวายเป็นชุมชนที่ค่อนข้างจะเจริญมาก ตัวเองมองว่าชุมชนเราไม่น่าจะมีเด็กกลุ่มนี้เยอะ แต่พอได้แบบสำรวจจาก อบจ.สุรินทร์มา เขาแยกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มเด็กปฐมวัยกับกลุ่มเด็กนอกระบบ เห็นตัวเลขเด็กนอกระบบแล้วตกใจมาก ตอนแรกคิดว่าเราเป็นตำบลใหญ่ ตัวเลขสำรวจผิดพลาดหรือเปล่า แต่พอลงพื้นที่ปุ๊บ ทำไมมีเด็กนอกระบบ ทำไมมีกลุ่มอย่างนี้เกิดขึ้นจริง ๆ หรือ ทั้งที่ตำบลเราอยู่ใกล้กับตัวเมือง ห่างจากตัวเมืองประมาณ 25 กิโลเมตร และเจริญมาก ๆ ทุกอย่างเรามีครบพอ ๆ กับในเมือง แต่ทำไมยังมีเด็กกลุ่มนี้ที่ขาดโอกาสถึงขนาดนี้เชียวหรือ มันดูเหมือนเป็นความเหลื่อมล้ำโดยสิ้นเชิง ตัวเองอยู่ในตำบลมา 30 ปี จะ 40 ปีแล้ว ทำไมยังมีความเหลื่อมล้ำขนาดนี้ ทำไมไม่มีผู้ใหญ่ใจดียื่นมือเข้าไปช่วย พอเข้าไปสำรวจได้ฟังจากผู้นำชุมชนว่าไม่ใช่ว่าเขาไม่ช่วยนะ เขาช่วยแต่เด็กกลุ่มนี้ถูกช่วย แต่ไม่ได้ถูกต่อยอด ช่วยแล้วก็จบ เขาไม่ได้มีผู้ปกครองหรือมีบุคคลคอยดูแล เขาช่วยไปแล้วก็จบ ไม่ได้สานต่อให้ถึงกระบวนการที่ถูกต้อง

ส่วนที่สองคือเด็กปฐมวัย ตัวเองทำเรื่องเด็กปฐมวัย เมื่อก่อนมองว่าเด็กกลุ่มนี้ไม่น่าจะมีปัญหาเพราะเด็กกลุ่มนี้ได้ศึกษาเล่าเรียน อยู่ในระบบแล้ว ไม่น่าจะมีปัญหาเหมือนเด็กนอกระบบ แต่ที่จริงไม่ใช่เลย เพราะว่าเด็กกลุ่มนี้บางคน ถ้าเจาะลึกจริง ๆ มีโอกาสจะไปเป็นเด็กนอกระบบในอนาคตได้ เพราะผู้ปกครองบางคนไม่พร้อมในการเลี้ยงดูบุตรหลาน ไม่ว่าจะเป็นการติดยาเสพติด เด็กขาดที่พึ่ง เด็กบางคนไม่มีคุณพ่อคุณแม่ บางคนไม่มีตายาย อยู่กับญาติ อยู่กับคนที่ชุบเลี้ยงด้วยความสงสาร

มีเคสหนึ่งไปเจอเด็กปฐมวัย คือ แม่เสีย พ่อเป็นคนต่างถิ่น ไม่มีบัตรประชาชน เด็กคนนี้อาศัยอยู่กับบ้านป้า อยู่ใต้ถุนบ้าน หน้าฝนเขามีแค่ผ้าห่มมากั้นไว้เหมือนกับฉากนอนกับพ่อข้างล่าง 2 คน ถ้าฝนสาดมาก็เปียก เรามาเห็นสภาพแบบนั้นแล้วเราคิดว่าเราโชคดีแค่ไหนที่เราได้มาอยู่ตรงนี้ ได้มาหยิบยื่นโอกาสตรงนี้ให้น้อง ซึ่งกำลังทรัพย์ของพ่อตอนนี้ถ้าเรียนปฐมวัย ประถมศึกษาของ สพฐ.ได้ แต่จะมีโครงการที่ให้เรียนถึง 15 ปีใช่ไหม แล้วหลังจากนั้นเด็กคนนี้จะดำเนินชีวิตไปอย่างไร แล้วพ่อไม่มีบัตรประชาชน ไม่มีสวัสดิการอะไรให้ตัวพ่อเลย ลูกสามารถมีได้ แล้วพ่อจะเอาเงินจากไหนมาเลี้ยงดูลูก แล้วพ่อมีโรคประจำตัว ถ้าเขาขาดพ่อไป เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ป้าที่ดูแล และยาย จะช่วยเหลือเขาต่อไปได้

ซึ่งพอเห็นกลุ่มตรงนี้ก็รู้สึกว่าทำไมตำบลเราเจริญ อำเภอเมืองเจริญมาก แต่มีเด็กที่เป็นแบบนี้อยู่อีก ทั้งที่เขาควรจะได้รับโอกาสทั้งตัวผู้ปกครองเองและตัวเด็กเอง ควรได้รับการเยียวยา ควรได้รับการสนับสนุน และควรจะได้รับการช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง เพื่ออนาคตเขาจะได้ไม่ต้องตกมาอยู่ในสภาวะเด็กนอกระบบเหมือนที่เรากำลังสำรวจอยู่ทั้งเด็กในระบบและนอกระบบ

รู้สึกอย่างไรที่ตัวเองได้มาเป็นพี่เลี้ยง และเป็นนักถักทอชุมชน

รู้สึกภาคภูมิใจนะคะ เพราะว่าจำไม่ได้ว่าวิทยากรท่านหนึ่งพูดไว้ว่าเราจะไม่ทิ้งคนข้างหลังไว้ ประโยคนี้ทำให้ตัวเองรู้สึกภูมิใจว่าใช่ เราไม่ควรทิ้งคนข้างหลังไว้ คนข้างหลังคือเด็กที่ไม่ได้รับโอกาส ถ้าเราเจอแล้วเรามีโอกาสที่จะยื่นมือเข้าไปช่วย ทำไมเราไม่ช่วย ทำไมเราเดินออกจากเขา ถ้าเราเห็นแล้วเรามีโอกาส เรามีอะไรอยู่ในมือ เราควรหยิบยื่นให้เขา ตัวเราอาจไม่มีทรัพย์ แต่เราสามารถหาผู้ใหญ่ใจดี

ซึ่งโครงการของ กสศ. , อบจ.สุรินทร์ และมูลนิธิสยามกัมมาจล มีกองทุนให้เรา เราก็อาศัยเขา โดยที่เป็นตัวกลางไปส่งต่อให้เด็ก เพราะว่าคำว่านักถักทอชุมชนที่วิทยากรพูดว่าเป็นเหมือนด้ายยืนกับด้ายพุ่ง ถ้ามีแต่ด้ายยืนแล้วไม่มีด้ายพุ่ง ก็ไม่สำเร็จเป็นผ้าไหม หรือถ้ามีแต่ด้ายพุ่ง ไม่มีด้ายยืน มีอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่ได้ ต้องมีทั้ง 2 เส้นแล้วอาศัยคนทอเข้าไป ทุกกลไกมีความสำคัญในตัวเอง ถ้าขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่งหรือขาดปัจจัยแวดล้อมอย่างใดอย่างหนึ่งก็ไม่อาจสำเร็จได้ ก็รู้สึกภูมิใจและดีใจที่ได้รับโอกาสนี้ค่ะ

จากการอบรมนี้ เราจะนำทักษะ ความรู้ ไปใช้ประโยชน์ได้อย่างไรกับการทำงานของเรา

ในเรื่องทักษะการฟังเป็นสิ่งที่ดี เพราะโดยส่วนตัวเป็นคนที่มีโลกส่วนตัวสูง และไม่ค่อยจะเปิดใจที่จะรับฟังเรื่องของคนอื่นเท่าไหร่พอได้มาเวิร์คช็อปปุ๊ป เวิร์คช็อปแรกเหมือนให้เราคุยกับเพื่อน รับฟังเพื่อน พอเราเป็นผู้ฟังที่ดี เราจะคิดตามเพื่อน สบตา ยิ้มทักทาย คือเพื่อนที่มาปุ๊ป เขาผ่านประสบการณ์มา เขาจับมือเรา เขาสบตากับเราแล้วยิ้มให้เรา เรารู้สึกเป็นมิตร

เราจึงได้รับความรู้ตรงนี้ว่าถ้าเราจะไปทำงานกับเด็ก เราต้องนิ่ง ต้องตั้งใจฟัง แต่ถ้าเรายังไม่เปิดใจรับฟังปัญหาของเด็ก ยังไม่เปิดใจรับรู้ปัญหาของเด็ก เราก็ไม่สามารถเข้าถึงปัญหาที่แท้จริงของเด็กได้ เราอาจจะแค่รับรู้ว่าเด็กเจอปัญหาอะไรมา แต่เราไม่รู้ว่าลึก ๆ แล้วเขาต้องการอะไร เขาสามารถทำอะไร ต่อยอดอะไรได้บ้าง หรือปัญหาที่แท้จริงของเขาคืออะไร ก็จะเอาทักษะ ในการฟัง ในการใช้สมาธิ และในการเป็นผู้ฟัง เป็นผู้เล่าที่ดี มาใช้ในการพูดคุยกับเด็ก

โดยในการอบรมครั้งนี้จะมีการสอดแทรกจิตวิทยาเข้าไป เพราะจิตวิทยาเด็ก ตัวเองมองว่าสำคัญมาก เด็กคนหนึ่งถ้าถามคำถามผิดไปครั้งหนึ่ง เขาอาจจะยุติการสนทนากับเราได้ ถ้าเราไม่ใช่ผู้ฟังที่ดี เราจะพลาดโอกาสในการรับรู้ปัญหาของเด็กคนนั้นค่ะ

ต้องการความรู้ด้านใดเพิ่มเติมอีก

ความรู้และทักษะที่ต้องการคือ อย่างตอนนี้เรื่องการฟัง การเป็นผู้นำ อย่างตัวเองมองว่าตัวเองยังไม่ค่อยได้สภาวะผู้นำที่ดีนัก เพราะพอเราเป็นผู้ฟังแล้วเราก็น่าจะมีการเพิ่มเรื่องภาวะผู้นำและผู้ตาม ซึ่งในการเวิร์คช็อปครั้งนี้มองว่าบางคนเป็นผู้นำที่ดีได้ แต่บางคนยังเป็นผู้ตามที่ดีไม่ได้ เพราะยังชอบสั่งคนอื่น อยากให้เพิ่มเรื่องภาวะผู้นำหรือผู้ตาม เหมือนกับอยู่ในกลุ่มบางกลุ่ม บางคนเป็นผู้นำที่ดีที่เยี่ยมยอดมาก แต่เขาไม่รับฟังความคิดเห็นของเพื่อน นั่นคือภาวะของการเป็นผู้ตาม หากคุณได้ภาวะของการเป็นภาวะผู้ตาม คุณจะได้เกี่ยวโยงถึงเรื่องการเป็นผู้ฟัง การเป็นผู้ให้ และการเป็นผู้รับ อยากให้มีการอบรมเรื่องภาวะผู้นำและผู้ตาม และจิตวิทยาของเด็กค่ะ

สิ่งที่อยากฝากไว้

สิ่งที่อยากฝากถึง กสศ.คือขอบคุณที่เกิดโครงการดีๆ ในเรื่องของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา กองทุนนี้ ได้ยินมานานแต่เพิ่งมาเข้าในส่วนของเด็กปฐมวัย ขอบคุณนะคะที่ได้ลงมาถึงแรกเริ่มของเด็กปฐมวัยและเด็กนอกระบบ เพราะว่าถ้าไม่มีกองทุนนี้ เราจะไม่ได้เริ่มในระดับขั้นที่ 1 คุณจะไปเริ่มที่ระดับขั้นที่ 2 บางครั้งเด็กไปอยู่นอกระบบไปแล้วตั้งแต่ขั้นที่ 1 เขาไม่ได้เข้าโรงเรียน ขอบคุณที่คุณมีโครงการนี้ให้มาเริ่มตั้งแต่ระดับขั้นแรก แล้วจะได้ต่อยอดไปถึงขั้นที่ 2 และ 3 คือขั้นมัธยมต่อไป

ขอบคุณ กสศ.ที่มีกองทุนดี ๆ และสนับสนุนสิ่งที่ดีๆ ต่อไปอยากขอบคุณมูลนิธิสยามกัมมาจลและอบจ.สุรินทร์ ที่เป็นผู้ใหญ่ใจดี สนับสนุนโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับเด็กและการศึกษาต่าง ๆ ถ้าไม่มีผู้ใหญ่ใจดี กองทุนต่างๆ ก็ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ และไม่สามารถดำเนินการได้ ขอบคุณค่ะ #