ณัฐภูมิ น้ำตอง : บทสัมภาษณ์เยาวชนเด่น โครงการแนวทางการบริหารจัดการเครือข่ายเด็กและเยาวชนจังหวัดน่านอย่างเป็นระบบโดยการมีส่วนร่วมของเยาวชนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

เยาวชนเด่น

ชื่อ นายรัฐภูมิ น้ำตอง (นัท) อายุ 18 ปี

กำลังจะไปศึกษาที่โรงเรียนนักเรียนนายสิบทหารบก (นนส.ทบ) ชั้นปีที่ 1


ถาม  แนะนำตัวเองค่ะ

ตอบ  ผมชื่อนายณัฐภูมิ น้ำตอง ชื่อเล่นนัท อายุ 18 ปี กำลังจะไปศึกษาที่โรงเรียนนักเรียนนายสิบทหารบก (นนส.ทบ) ชั้นปีที่ 1 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทำโครงการสร้างแนวทางการบริหารจัดการเครือข่ายเยาวชนอย่างเป็นระบบโดยพลังเยาวชนพลเมืองจังหวัดน่าน เป็นคณะทำงานช่วยเพื่อนๆ ทำงาน เช่น จัดสถานที่ คอยสนับสนุน ใช้แรงงานเพราะชอบใช้แรงงาน

­

ถาม  เข้าโครงการมาได้อย่างไร?

ตอบ  ผมเพิ่งเข้ามาปีแรก ยังไม่ค่อยถนัดอะไรนัก มากับเพื่อนครั้งแรก เป็นการทำงานโครงการครั้งแรก ผมมากับจ๋อย โครงการบ้านใหม่ชายแดน ผมเห็นจ๋อยชอบทำโครงการ ผมเห็นจ๋อยทำก็เลยขอมากับจ๋อยครั้งหนึ่ง ตอนนั้นยังไม่รู้จักใครในโครงการ ครั้งแรกไม่รู้จักใคร ไปครั้งที่สอง ครั้งที่สามเริ่มสนิทกับเพื่อน ในกลุ่ม

­

ถาม  จากการทำกิจกรรมครั้งแรก อะไรที่ทำให้เราติดใจอยากมาครั้งที่สองและสาม?

ตอบ  ครั้งแรกอยู่บ้านไม่มีอะไรให้ทำ จ๋อยชวนจึงมากับจ๋อย ตอนนั้นจ๋อยไม่มีเพื่อนด้วย จึงชวนมาเป็นเพื่อน และมาเรื่อยๆ


ถาม  การทำกิจกรรมมีความสนุกหรือประทับใจอะไรถึงทำให้เราสนใจ?

ตอบ  ผมได้อยู่กับเพื่อนๆ รู้จักเพื่อนๆ พี่ๆ ต่างอำเภอ เป็นอะไรที่น่าตื่นเต้น

­

ถาม  เมื่อก่อนข้าโครงการนัทเป็นคนอย่างไร นิสัยบุคลิกอย่างไร เรื่องราวของตัวเองเป็นอย่างไร?

ตอบ  เมื่อก่อนผมเป็นคนไม่ค่อยกล้าแสดงออกเท่าไร ขี้อาย พูดไม่เก่ง อยู่บ้านก็ทำงานช่วยพ่อแม่ ทำเกษตรปลูกมันสำปะหลัง หลังๆ ทำงานก่อสร้างกับน้า อยู่ที่หมู่บ้านผมมีเพื่อน

­

ถาม  นัททำโครงการนี้มาตั้งแต่เดือนเมษายนปีที่แล้ว ทำโครงการมาได้หนึ่งปี นัทเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้างในตัวเอง?

ตอบ  ผมมีความกล้าแสดงออกขึ้น เวทีของโครงการช่วงหลังผมกล้าแสดงความคิดเห็นกับเพื่อน เมื่อก่อนไปนั่งฟังเฉยๆ ไม่ค่อยกล้าแสดงออก ตอนนี้ผมกล้าแสดงความคิดของเราในกลุ่ม มีความพยายาม เมื่อก่อนทำอะไรไม่ค่อยสำเร็จ งานในโรงเรียน การบ้านที่โรงเรียนไม่ค่อยทำ มาอยู่ในกลุ่มได้เรียนรู้อะไรหลายๆ อย่าง ตอนนี้ทำงานการบ้านก็จะทำให้เสร็จไปเลย ไม่ต้องมาทำงานทีหลัง เหตุการณ์ที่ทำให้เปลี่ยนแปลงเพราะผมต้องทำงานแข่งกับเพื่อนๆ เนื่องจากเป็นงานกลุ่ม ถ้าเราไม่ทำทำช้างานกลุ่มก็จะไม่สมบูรณ์

­

ถาม  งานทำไร่ที่บ้านกับการทำงานในชุมชนแตกต่างกันอย่างไร?

ตอบ  แตกต่าง งานที่บ้านเป็นงานเกษตรจะหนักกว่า มาทำงานชุมชนกับพี่ๆ น้องๆ ในเครือข่ายที่ไปช่วยในชุมชน มีความเข้าใจกันดี น้องๆ พี่ๆ ทำงานเกษตรเหมือนกับเรา เป็นคนที่มีสไตล์เหมือนกัน มาทำงานชุมชนรู้สึกมีความสุข เพราะได้พัฒนาชุมชนของคนอื่นไปพร้อมกับชุมชนของเราด้วย ได้เรียนรู้หลายอย่างจากชุมชนของคนอื่น ได้แลกเปลี่ยนกัน

­

ถาม  ความสุขของนัทต่อการทำงานชุมชนชนคืออะไร?

ตอบ  ความสุขคือมีการต้อนรับจาก ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน เขาต้อนรับอย่างดี มีอาหารกลางวันดูแลอย่างดี ไปถึงที่บ้านจะมีพี่หมอนัน เป็นแกนนำพาไปเยี่ยมผู้สูงอายุในหมู่บ้าน ก็เป็นความสุขอีกอย่างหนึ่ง

­

ถาม  การได้ทำงานและไปเจอผู้สูงอายุ ทำให้นัทมีความสุขอย่างไร?

ตอบ  รอยยิ้มครับเพราะผู้สูงอายุบางทีลูกหลานไม่ว่างที่จะพาไปตรวจสุขภาพที่สถานีอนามัยหรือโรงพยาบาล พี่หมอจึงเอายาและอาหารแห้งไปเยี่ยมผู้สูงอายุ ผู้สูงอายุก็มีความสุข ผมไปช่วยถือของ ดูพี่หมอตรวจสุขภาพ

­

ถาม  ปัญหาอุปสรรคในการทำงานของเราหรือทีม ตอนที่ทำงานมีอะไรบ้าง?

ตอบ  การเดินทาง คนในทีมทำงานอยู่ต่างอำเภอต่างหมู่บ้านกัน ระยะทางห่างไกล ซึ่งทำให้การเดินทางลำบาก การเดินทางของผมใช้รถจักรยานยนต์ ซึ่งทำให้การเดินทางค่อนข้างลำบาก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 - 3 ชั่วโมง ผมอยู่ สองแคว ถ้าไปในเมืองจะต้องเดินทางประมาณ 70 กว่ากิโลเมตร

­

ถาม  ปัญหาอุปสรรคที่เกี่ยวกับตัวเองมีอะไรบ้าง?

ตอบ  ปัญหาอุปสรรคของตัวเองก็จะมีช่วงแรกๆ ไม่กล้าแสดงออก เป็นอุปสรรค ไม่ค่อยมีความมั่นใจในตัวเอง

­

ถาม  พอเราพัฒนาขึ้น รู้สึกอย่างไรบ้าง เมื่อเห็นพัฒนาการของตัวเอง?

ตอบ  รู้สึกดีใจที่ตัวเองเริ่มมีความกล้าแสดงออก อยู่กับคนหมู่มากได้มากขึ้น

­

ถาม  อะไรในตัวเราที่ทำให้รู้สึกว่าฉันต้องกล้าแล้ว ฉันต้องเข้ากับคนหมู่มากให้ได้?

ตอบ  บอกตัวเองว่า ขนาดเพื่อนยังกล้าพูด กล้าแสดงออก เราก็ต้องมีอะไรในจุดๆ นั้น ผม บอกตัวเองว่าไม่มีถูกไม่มีผิด

­

ถาม  แต่เดิมทำไมเราไม่กล้าแสดงออก?

ตอบ  ตอนนั้นยังไม่ค่อยรู้จักคนในกลุ่ม จึงกล้าๆ กลัวๆ เกร็งไปหมด

­

ถาม  เป็นความกลัวในใจเราเองใช่ไหม?

ตอบ  ครับ

­

ถาม  ทักษะ ความกล้าคิด กล้าพูด เราเอาไปใช้ในชีวิตประจำวันของเราบ้างไหม?

ตอบ  เวลาผมเดินทางไปกรุงเทพฯ ไปสอบ ได้พูดคุยกับเพื่อนที่มาจากต่างจังหวัดมาสอบเหมือนกัน เลยทำให้รู้จักกัน ทำให้เรากล้าพูด กล้าถามคนอื่นก่อน ได้มิตรภาพมากขึ้น

­

ถาม  เหตการณ์ที่ประทับใจที่สุด ตั้งแต่ทำงานมาหนึ่งปี?

ตอบ  ผมสอบติดนักเรียนนายสิบเพราะเครือข่ายฯ ก็เป็นส่วนหนึ่งของความพยายามและความอดทน ให้กำลังใจ พี่ๆ สอนให้ผมรู้จักความพยายามและความอดทน ทีแรกไม่คิดว่าจะสอบติด ผมเอาแนวคิดเครือข่ายฯ ไปใช้ในการสอบ ตั้งใจอ่านหนังสือพยายามให้ถึงที่สุด แนวคิดที่ผมได้จากเครือข่ายผลักดันผมมาก ทำให้ผมกล้า

­

ถาม  ความฝันของนัทอยากเป็นอะไร?

ตอบ  ตอนเด็กๆ อยากเป็นทหาร ตอนโตมาอยากเป็นช่าง ลองไปสอบทหาร และสอบติด

­

ถาม  นัทเลือกเป็นเหล่าทหารช่างได้นะ นายสิบ มีหลายเหล่า เหล่าช่างก็มี ขอถามว่า การที่เรามาร่วมโครงการมันทำให้เราได้ฝึกเรื่องของการใช้ ความพยายาม ความอดทนฝึกความรับผิดชอบ ที่ค่อยๆ ฝึกเราไปเรื่อยๆ จนถึงวันหนึ่งที่เราจะต้องไปเรียนต่อ ที่จะต้องเลือกเส้นทางให้กับชีวิต ประสบการณ์ที่ฝึกมาจากกิจกรรม ทำให้เรารู้ว่าเรามีคุณสมบัตินี้ แล้วเราก็ใช้คุณสมบัตินี้มาช่วยเลือกอนาคตให้กับตัวเอง อย่างนี้ถูกไหม?

ตอบ  ครับ

­

ถาม  นัทคิดว่าศักยภาพในตัวเราที่เพิ่มมากขึ้นคืออะไรบ้าง?

ตอบ  ผมมีความคิดสร้างสรรค์ขึ้น เอาเวลาว่างไปทำประโยชน์ดีกว่าเอาเวลาไปเที่ยว เล่นโทรศัพท์ เล่นเกมอะไรพวกนี้ มุ่งมั่น รับผิดชอบ

­

ถาม  คิดว่าทำไมเยาวชนต้องมาทำงานชุมชน?

ตอบ  เพราะเยาวชนจะเป็นแรงผลักดันต่อไป ต่อจากคนรุ่นก่อน ที่ก็เคยเป็นเยาวชนซึ่งลุกขึ้นมาพัฒนาชุมชนหมู่บ้าน เยาวชนต้องลุกขึ้นมาทำเพื่อหมู่บ้านต่อไป ถ้าไม่ฝึกตั้งแต่ตอนนี้ก็ไม่รู้จะฝึกตอนไหน ต้องฝึกเยาวชนและตัวของเราเองด้วย

­

ถาม  นัทอยากสร้างเครือข่ายอะไรต่อในอนาคต?

ตอบ  ถ้าผมยังเรียนอยู่ที่น่าน ก็ยังอยากจะทำ เกี่ยวกับเครือข่ายฯ ชวนน้องๆ ทำเครือข่ายขนาดย่อย เพราะว่าที่หมู่บ้านมีขยะเยอะมาก ริมลำคลอง ริมห้วย

­

ถาม  นัทคิดว่าอะไรทำให้เยาวชนมาทำเครือข่ายฯ?

ตอบ  เรื่องของมิตรภาพและเรื่องของใจที่ต้องปรับใจเข้าหากัน ความคิดก็ต้องตรงกัน บางคนถ้าคนความคิดไม่ตรง ก็พยายามปรับเข้าหากัน

­

ถาม  มีอะไรยากไหมสำหรับเรา ในการทำโครงการหนึ่งปี?

ตอบ  ตอนแรกคิดว่าโครงการยาก ตอนนั้นไม่รู้เลยว่าโครงการจะมาถึงขนาดนี้ มาตอนนี้ได้ช่วยน้องๆ ทั้ง 9 โครงการ และทำโครงการของตัวเอง ทำให้สบายใจขึ้นมามากเลย ทีแรกที่คิดว่ายากเพราะใจเรากลัวไปเอง คิดไปเองมากกว่า

­

ถาม  ทีแรกที่เข้ามาทำโครงการณ์รู้สึกท้าทายไหม?

ตอบ  ตอนเข้ามาแรกๆ ผมคิดว่าท้าทาย น่าลองทำดู ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าตอนแรกทำไมถึงเข้ามาทำโครงการนี้ ทีแรกไม่รู้เหมือนกันว่ามีโครงการแบบนี้ ที่อยู่คนละอำเภอ คนละหมู่บ้าน มารวมกลุ่มกันทำโครงการ ทีแรกผมคิดว่าเขาให้ทำแค่โครงการขนาดย่อย แต่ได้ทำโครงการขนาดใหญ่แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ท้าทาย ดีครับ

­

ถาม  ถ้าจะให้บอกน้องๆ ในชุมชน ให้กล้ามาทำกิจกรรมและรวมตัวทำงานแบบเครือข่ายฯ นัทจะบอกว่าอะไร?

ตอบ  ต้องอธิบายให้น้องๆ ฟัง ว่าไม่ต้องกลัว ความกลัวเป็นแค่ความคิดของเรา พอทำจริงๆ ไม่มีอะไรน่ากลัว

­

ถาม  พ่อแม่ว่าอย่างไรบ้าง เราต้องพักงานไร่บ้าง ไม่ได้ช่วยพ่อแม่ เพื่อจะแบ่งเวลามาทำโครงการไหม?

ตอบ  พ่อแม่ไม่ว่าอะไร เพราะทำงานกับแม่แค่ช่วงปิดเทอมตอนนั้น พอเปิดเทอมจะมาทำโครงการเฉพาะเสาร์ อาทิตย์ ช่วงเสาร์ อาทิตย์ไม่ค่อยได้ช่วยพ่อแม่ทำงาน มาทำโครงการครับ

­

ถาม  พ่อแม่สนับสนุนการทำกิจกรรมดี?

ตอบ  ครับ

­

ถาม  ครูและเพื่อนที่โรงเรียนเห็นการเปลี่ยนแปลงของเราไหม?

ตอบ  ครูไม่น่าจะรู้ว่าทำโครงการนี้อยู่ เพื่อนก็เหมือนกัน อยู่ โรงเรียน อยู่กับเพื่อนๆ เราก็ทำตัวปกติ เล่นกับเพื่อน เล่นฟุตบอล มาทำงานโครงการก็มาทำที่หมู่บ้าน มีเพื่อนบางคนที่รู้ว่าทำโครงการ

­

ถาม  การทำโครงการช่วยพัฒนาเรื่องการเรียนด้วยไหม?

ตอบ  อยู่โรงเรียนทำตัวสบายๆ เล่นกับเพื่อนๆ ปกติ

­

ถาม  ทำโครงการสนุกไหม ความสนุกของเราเป็นอย่างไร?

ตอบ  เวลาลงพื้นที่ได้เที่ยวด้วย ผมได้เดินทางได้ใช้ชีวิต ได้ไปต่างอำเภอ เช่น ไป อ.บ่อเกลือ ทำให้ผ่อนคลาย ตื่นเต้น ได้เรียนรู้ ทำงานเสร็จก็ไปเที่ยว รู้สึกได้พักผ่อนไปในตัว

­