นางสาวสุภาวดี วิสมิตะนันทน์ : โครงการศึกษาประวัติศาสตร์บ้านแหลมสน

นางสาวสุภาวดี วิสมิตะนันทน์ (ปอ) อายุ 15 ปี

ศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ชั้นปีที่ 1 วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา

ตำเเหน่ง หัวหน้าโครงการ

โครงการศึกษาประวัติศาสตร์บ้านแหลมสน ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา

กลุ่ม รักษ์บ้านแหลมสน

­

­

ถาม ขอให้แนะนำตัว

ตอบ สวัสดีค่ะชื่อนางสาวสุภาวดี วิสมิตะนันทน์ ชื่อเล่น ปอ อายุ 15 ปี กำลังศึกษาชั้น ปวช.1 วิทยาลัยอาชีวศึกษาสงขลา ทำโครงการศึกษาประวัติศาสตร์บ้านแหลมสน ตำบลหัวเขา อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ตำแหน่งหัวหน้าโครงการ เป้าหมายของโครงการคือ ศึกษาเรื่องประวัติศาสตร์บ้านแหลมสนและสนับสนุนให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว

ถาม ขอให้เล่าถึงตัวเองก่อนเข้าร่วมโครงการ

ตอบ หนูเป็นคนใจร้อน เมื่อก่อนถ้าเพื่อนทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ หนูหงุดหงิดมาก เวลาที่เห็นคนไม่ช่วยงาน หนูรู้สึกไม่ชอบ ไม่ค่อยมีสมาธิ นั่งทำอะไรได้ไม่นาน เมื่อก่อนเป็นคนที่ไม่ชอบระบายสี ทำเท่าไรก็รู้สึกว่าไม่สวย แต่พอมาทำโครงการ เราต้องวาดรูป ระบายสี เพื่อนำเสนอ มันทำให้เรามีสมาธิดีขึ้น เพราะเราอยากให้งานออกมาสวย

ถาม ก่อนเข้าร่วมโครงการ น้องปอเคยทำกิจกรรมเกี่ยวกับชุมชนอะไรมาบ้าง

ตอบ หนูเคยทำกิจกรรมปล่อยปู ปลูกป่าชายเลน เก็บขยะในชุมชน ทำงานจิตอาสาต่าง ๆ หนูทำกิจกรรมแบบนี้ตั้งแต่ตอนเรียนอยู่ชั้น ป.6

ถาม รู้สึกอย่างไรกับคำว่า “จิตอาสา”

ตอบ รู้สึกภูมิใจที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชน มีส่วนร่วมได้ทำอะไรเพื่อชุมชน

ถาม ขอให้เล่าการเปลี่ยนแปลงหลังจากเข้าร่วมโครงการ

ตอบ สมาธิของหนูดีขึ้น ก่อนเข้าร่วมโครงการ เวลาทำกิจกรรมวาดรูป ระบายสี หนูไม่มีสมาธิ ครูบอกหนูว่า “ให้กลับไปนั่งที่เถอะ” ตอนนี้หนูมีสมาธิในการวาดรูปดีขึ้น เพราะว่าหนูต้องวาดรูป ระบายสีงานทั้งในโครงการและงานตอนที่เข้าร่วมอบรม หนูต้องใช้สมาธิในการค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องประวัติศาสตร์ เพราะมีข้อมูลจำนวนมาก ต้องอ่านหนังสือประวัติศาสตร์ ตอนที่ทำ Timeline เราต้องนำเหตุการณ์แต่ละปี มาเรียงลำดับ ช่วง พ.ศ.ไหน เกิดอะไรขึ้นบ้าง ต้องตั้งใจอ่านข้อมูลถึงจะนำมาเรียบเรียงได้

หนูเป็นคนใจเย็น ตั้งแต่ทำโครงการมาทำให้หนูใจเย็นลงเรื่อย ๆ เราต้องทำงานร่วมกับเพื่อน การทำงานกลุ่มเราไม่สามารถทำคนเดียวได้ เราต้องช่วยกันทำหลายคน ต้องปรับตัวให้เข้ากับเพื่อน อะไรที่ไม่ดีเราต้องปรับเปลี่ยนตัวเอง ทำตัวให้เข้ากับเพื่อนให้ได้ เราต้องทำใจให้เย็นจากแต่ก่อนที่ใจร้อน หนูเปลี่ยนตัวเองให้ผ่อนคลายขึ้น สร้างบรรยากาศการทำงานให้สบายขึ้น ไม่เครียด ไม่หงุดหงิด เวลาที่ทำงานต้องไม่เอาเปรียบคนอื่น เช่น เพื่อนทำงานนี้คนเดียวไม่ได้ เช่น วาดภาพคนเดียวไม่ได้ ยากเกินไป ถ้าคนในกลุ่มวาดได้ เราต้องไปช่วยกัน โดยที่เราต้องทำงานของตัวเองให้เสร็จก่อน

หนูไม่เกร็งไม่กังวลเวลาทำงานกับผู้ใหญ่ คือ การเปลี่ยนแปลงของหนูอีกเรื่อง เมื่อก่อนเวลาที่ทำงานกับผู้ใหญ่หรือคุณครูหนูจะเกร็ง รู้สึกไม่มั่นใจ กลัวเวลาที่เขาถามแล้วเราตอบไม่ได้ พอทำโครงการนี้ต้องทำงานกับผู้ใหญ่ ได้ทำบ่อย ๆ ก็ชิน ตอนนี้ไม่เกร็งไม่กังวลแล้ว

ถาม เวลาทำงานร่วมกับผู้ใหญ่ต้องทำอย่างไร

ตอบ เราต้องมีมารยาทอ่อนน้อมถ่อมตนไม่ทำตัวก้าวร้าวพูดเพราะ เมื่อก่อนหนูเป็นคนที่พูดหยาบคายมาก พูดไม่ค่อยเพราะพูดจาด้วยคำแรง ๆ พอทำโครงการนี้ เราสามารถเปลี่ยนตัวเองได้ เวลาไปเจอผู้ใหญ่เราปรับคำพูดให้เพราะสุภาพขึ้น

ถาม การเปลี่ยนแปลงที่เป็นที่สุดของตัวเราคือเรื่องอะไร

ตอบ การปรับตัวให้เข้ากับส่วนรวม ให้เข้ากับทุกคนในโครงการ ตอนแรกหนูไม่ค่อยชอบน้องในทีมสักเท่าไร แต่พอทำงานด้วยกันไปเรื่อย ๆ หนูได้ค้นพบตัวตนของพวกเขา หนูเห็นว่าน้องมีความตั้งใจในการทำงานมากขึ้น หนูรู้สึกดีที่น้องเห็นความสำคัญของการทำงานร่วมกัน หนูเปิดใจให้กับน้อง ๆเพราะว่าน้องเขาเพิ่งเคยทำงานแบบนี้ อาจยังเข้าไม่เข้าใจ หลังจากนั้นหนูช่วยสอนน้อง ๆ บอกให้เขากล้าคิด กล้าทำ กล้าพูด ต้องช่วยกัน น้อง ๆ ตั้งใจช่วยกันทำงานขึ้น

ถาม เวลาที่เห็นตัวเราเปลี่ยนแปลงไปในหลายเรื่อง ตัวเรารู้สึกอย่างไร

ตอบ หนูรู้สึกดีกับตัวเอง อย่างเรื่องการพูด คนภายนอกเขาจะได้ไม่มองว่าเราเป็นคนที่แรงเกินไป หรือมองว่าเราเป็นเด็กที่นิสัยไม่ดี ทำให้หนูรู้ว่าถ้าเราเป็นคนดี ทำตัวดี ทุกคนก็พร้อมชื่นชม

ถาม หลังจากทำโครงการสำนึกพลเมืองของเราเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร

ตอบ หนูรู้สึกรักบ้านเกิดมากขึ้น ได้รู้ประวัติความเป็นมาของชุมชน ก่อนที่ตัวเราจะมาอยู่ที่นี่ มีใครเสียสละ ช่วยกันกอบกู้เพื่อพื้นที่แหลมสนบ้าง หนูรู้สึกทั้งดีใจและเสียใจเมื่อได้ฟังเรื่องราวประวัติศาสตร์ มีคนต้องเสียสละชีวิต เพื่อกอบกู้แหลมสนให้กับคนรุ่นลูกรุ่นหลาน หนูดีใจที่ได้มาอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนตอนที่ยังไม่รู้ประวัติศาสตร์ หนูไปเที่ยวที่บ่อเก๋ง มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวที่นี่ พวกเขาคุยเรื่องประวัติศาสตร์ หนูได้ยินแต่หนูไม่ได้สนใจอะไร พอหนูมาทำโครงการนี้ หนูได้เรียนรู้เรื่องประวัติศาสตร์ ทำให้หนูนึกขึ้นได้ว่า วันนั้นที่นักท่องเที่ยวคุยกัน เขาคุยเรื่องอะไร รู้สึกว่าเราควรสนใจเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนแรก ถ้าตอนนี้มีนักท่องเที่ยวคนไทยมาเที่ยว หนูสามารถเป็นไกด์นำเที่ยว ช่วยแนะนำประวัติศาสตร์ของแหลมสนได้

ถาม ปัญหาอุปสรรคในการทำโครงการคือเรื่องอะไร

ตอบ เรื่องเวลาบางครั้งการทำโครงการเพื่อนส่วนใหญ่ไม่ค่อยว่าง เช่น วันนี้นัดทำแผนที่เดินดิน บางคนติดธุระต้องไปกับผู้ปกครอง เราอยากให้ทุกคนทำงานพร้อมกัน เพื่อให้งานเสร็จ เราพยายามหาวันที่ทุกคนว่าง เราแก้ปัญหานี้ โดยการเลื่อนนัดออกไปก่อน ช่วยกันหาวันที่ทุกคนว่างพร้อมกัน

ปัญหาอีกอย่างหนึ่ง เกิดขึ้นกับตัวหนูเอง คือ เรื่องความจำ เพราะข้อมูลประวัติศาสตร์มีจำนวนเยอะมาก หนังสือประมาณ 6 – 7 เล่ม หนูต้องอ่านทำความเข้าใจข้อมูลในหนังสือหลายวัน เพื่อไปบรรยายงานในสงขลาฟอรั่มซึ่งจัดขึ้นที่หอศิลป์ หนูต้องอ่านหนังสือหลายเล่มหลายรอบ จนกว่าจะจำได้เพื่อไปนำเสนอ ต้องจดบันทึกเหตุการณ์และปี พ.ศ.ไว้ ตอนนี้หนูจำได้แล้ว

ถาม มีวิธีการจดจำข้อมูลอย่างไร

ตอบ หนูอ่านทำความเข้าใจข้อมูล จับใจความสำคัญให้ได้ เพราะในหนังสือหนึ่งเล่มคือประวัติศาสตร์ทั้งหมด แต่เราต้องการข้อมูลเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับบ้านแหลมสน หนูจดบันทึก พ.ศ. และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงนั้น

ถาม ช่วงที่เกิดปัญหาการทำงานปรึกษาใครบ้าง

ตอบ คุณครูกับเพื่อนแกนนำในกลุ่ม 5 คน ปรึกษาเรื่องข้อมูลที่เรายังหาไม่เจอในหนังสือ ถามหาแหล่งข้อมูลจากคุณครู ว่า “ถ้าเราอยากรู้เรื่องนี้ เราต้องไปหาจากที่ไหน” คุณครูบอกว่าให้ไปหาข้อมูลจากหนังสือจากหลาย ๆ เล่ม ถามผู้รู้ เราต้องตรวจสอบกับข้อมูลที่ได้จากอินเตอร์เน็ตว่าตรงกันไหม หลังจากนั้นเราแบ่งงานกันในกลุ่ม

ถาม มีวิธีการแบ่งงานอย่างไร

ตอบ แกนนำทั้ง 5 คน นัดประชุมเตรียมงานแบ่งงานกันก่อน ว่า เวลาไปสัมภาษณ์ เราต้องทำอะไรบ้าง คนไหนถาม คนไหนจดบันทึก คนไหนวาดภาพ วันที่มีอบรมกับทางสงขลาฟอรั่ม เราจะแบ่งว่า ใครเป็นคนเตรียม ใครเป็นคนพูด ถ้างานส่วนไหนมีปัญหาเราจะมาคุยกัน เราจะช่วยกันแก้ปัญหา

ถาม รู้เรียนเรื่องอะไรบ้างจากการทำโครงการ

ตอบ เรียนรู้เรื่องมารยาท เวลาทำงานกับผู้ใหญ่หรือเข้าสังคม ต้องรู้จักการวางตัว เรียนรู้เรื่องการทำงานร่วมกันเป็นทีม เราจำเป็นต้องเรียนรู้เรื่องพวกนี้ หนูคิดว่าเราไม่สามารถอยู่คนเดียวบนโลกได้ เรายังมีอนาคตอีกไกล ถ้าเราจะเป็นจิตอาสาต้องทำงานร่วมกับผู้อื่น เราต้องเรียนรู้เรื่องการปรับตัว เพราะเราต้องเจอคนหลากหลายวัย

ถาม คุณสมบัติที่ได้จากการทำโครงการคืออะไร

ตอบ การกล้าแสดงออกเวลาที่หนูออกไปนำเสนอ เมื่อก่อนหนูขี้อายพูดอะไรไม่ออก กลัวว่าถ้าเขาถามอะไรมา เราจะตอบไม่ได้ พูดแล้วสั่น เหมือนคนที่ไม่เคยเจอไมค์โครโฟนมาก่อน ตอนนี้หนูกล้าถือไมค์ กล้าพูดแล้ว

ถาม คุณสมบัตินี้ (การกล้าแสดงออก) นำไปใช้อย่างไรบ้าง

ตอบ เวลาที่ไปเข้าค่ายลูกเสือ คุณครูให้หนูไปกล่าวขอบคุณ กล่าวความรู้สึกที่ได้มาเข้าค่าย หนูพูดต่อหน้าผู้ใหญ่ ผู้อำนวยการค่าย หนูสามารถพูดได้อย่างราบรื่น ไม่ตื่นเต้นแล้ว

ถาม อยากให้เล่าถึงงานอาสาสมัครที่น้องปอทำ ทำไมถึงอยากทำงานพัฒนาชุมชน

ตอบ พื้นที่แหลมสนเป็นพื้นที่ที่มีมาตั้งแต่โบราณ ที่นี่มีชาวต่างชาติเข้ามาเที่ยวเยอะ เวลาที่เขาเห็นขยะ ไม่น่าดู เขาจะมองว่าบ้านของเราไม่สะอาด เราต้องช่วยกันดูแล ตอนนี้ปริมาณขยะลดลงแล้ว สาเหตุที่ขยะลดลงเกิดจากการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนและประชาชน ทิ้งขยะเป็นที่ ถ้าเราไม่อยากเก็บขยะ เราต้องเปลี่ยนที่ตัวเอง คือ ไม่ทิ้งขยะลงข้างทาง

ถาม ในอนาคตอยากเป็นอะไร

ตอบ อยากเป็นนักแสดง อยากเล่นหนังประวัติศาสตร์ เพราะนักแสดงเป็นคนมีชื่อเสียงในสังคม ที่ช่วยสื่อสารเรื่องราวต่าง ๆ ได้ เช่น ละครเรื่องบุพเพสันนิวาส เขาเล่าถึงเรื่องราวประวัติศาสตร์ในสมัยก่อน นำเรื่องราวเหล่านั้นมาสื่อสารให้คนได้รู้ นักแสดงมอบความสุข ความสนุกให้กับคนในสังคม

ถาม ช่วยเล่าถึงโครงการในอนาคตที่อยากทำ

ตอบ อยากทำเรื่องประวัติศาสตร์บ้านแหลมสนต่อ จะหาข้อมูลให้แน่นกว่าเดิม