เรื่องเล่าเร้าพลังการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินชีวิต

เรื่องเล่าเร้าพลังการใช้หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการดำเนินชีวิต

โดย... รวิสรา อินธิยา โรงเรียนบ้านหนองไผ่

­

ก้าวแรกที่สัมผัสชีวิตพอเพียง

ตั้งแต่พอจำความได้ ข้าพเจ้าเคยได้ยินเสมอเกี่ยวกับหลักปรัชญาของเศรษฐกิจแบบพอเพียง ทางสื่อต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ วิทยุ การประชาสัมสัมพันธ์ทางหนังสือพิมพ์ และมักจะได้ยินเสมอว่าให้ทุกคนยึดหลักปรัชญาของเศรษฐกิจแบบพอเพียง ซึ่งตอนนั้นข้าพเจ้ามีความเข้าใจและได้ตีความหมายเกี่ยวกับเศรษฐกิจแบบพอเพียงก็คือเป็นเรื่องเกี่ยวกับเกษตรกรในชนบทเท่านั้น ทำมาหากินอยู่แบบไม่ต้องดิ้นรน มีเท่าไหร่กินเท่านั้น ไม่ต้องหาเพิ่ม นั่นเป็นความเข้าใจที่ข้าพเจ้าคิดมาตลอด แต่แท้ที่จริงเมื่อได้อ่าน ได้ดู ได้ศึกษา และหาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตและหน่วยงานต่างๆ ที่ได้กล่าวถึงหลักปรัชญาของเศรษฐกิจแบบพอเพียงนั้น จึงทำให้ข้าพเจ้าได้รู้ว่าหลักปรัชญาของเศรษฐกิจแบบพอเพียงไม่ใช่เพียงเพื่อ ให้เกษตรกรเท่านั้น แต่แท้ที่จริง เศรษฐกิจพอเพียงเป็นเรื่องผู้ประกอบอาชีพทุกๆ อาชีพ สามารถนำแนวพระราชดำรัสเศรษฐกิจพอเพียงไปประยุกต์ใช้ได้ ซึ่งเรื่องราวต่างๆ ที่ข้าพเจ้าจะเล่าต่อไปนี้เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจแบบพอเพียงบางส่วนที่ข้าพเจ้าสามารถปฎิบัติได้ แต่อาจจะไม่ครบทุกด้าน ข้าพเจ้าก็ถือว่ามีความสุขที่ได้ปฏิบัติตามแนวพระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่พสกนิกรชาวไทย

­

ข้าพเจ้ามาจากครอบครัวที่มีฐานะปานกลาง ตอนสมัยเด็กๆ คุณพ่อและคุณแม่ต้องไปทำงานต่างจังหวัด ข้าพเจ้าได้อยู่กับคุณยายมาตั้งแต่เล็กๆ คุณยายจะปลูกผักสวนครัว เลี้ยงไก่ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงหมู เอาไว้สำหรับทานและถ้าเหลือจะนำไปขายที่ตลาด บางทีก็เห็นคุณยายแจกจ่ายเพื่อนบ้านบ้าง โดยคุณยายจะสอนเสมอว่าผักที่ขึ้นตามรั้วบ้านสามารถเก็บนำมาทานได้ เราไม่ต้องซื้อหา อาหารที่ทานทุกวันแทบไม่ต้องใช้เงินจ่าย บางทีขายผักได้ก็จะมีเงินเก็บ ซึ่งนั่นก็เป็นส่วนหนึ่งที่ข้าพเจ้าได้เริ่มสัมผัสจริงๆ กับความพอเพียง ตอนที่ข้าพเจ้าเรียนอยู่ชั้น ม.6 ข้าพเจ้าได้โควต้าเรียนต่อสถาบันราชภัฏอุตรดิตถ์ในสาขานิเทศศาสตร์ สาขาคอมพิวเตอร์ และสาขาครุศาสตร์ ในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ต้องตัดสินใจเลือกที่ตัวเองถนัด และในที่สุดก็ได้ค้นพบว่าชอบที่จะเป็นครู จึงตัดสินใจเลือกสาขาครุศาสตร์ เพราะคิดว่าการเป็นครูเป็นอาชีพที่น่าภูมิใจ อาชีพที่น่ายกย่อง ครูเป็นบุคลากรที่สำคัญในการถ่ายทอดความรู้ และปลูกฝังแนวคิดต่างๆ ให้กับเด็ก เพราะสอนให้คนอ่านออกเขียนได้ และจะได้นำความรู้ที่ได้มาพัฒนาประเทศต่อไป ในขณะที่ข้าพเจ้าเรียนระดับปริญญาตรีนั้น ข้าพเจ้าได้รับทุนการศึกษาในพระบรมราชานุเคราะห์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถจนเรียนจบปริญญาตรี ในขณะที่ศึกษาข้าพเจ้าได้ตั้งใจเรียนและใช้จ่ายอย่างประหยัดอดออม สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่านที่ทรงคอยช่วยเหลือ ข้าพเจ้าได้ปฏิญาณตนไว้ว่าข้าพเจ้าเรียนจบจะนำความรู้ที่เรียนมามาใช้ให้เกิดประโยชน์แก่ผู้อื่นให้มากที่สุด

­

ชีวิตสดใส พอใจกับเศรษฐกิจพอเพียง

หลังจากเรียนจบข้าพเจ้าได้ไปสมัครเป็นครูอัตราจ้างที่โรงเรียนน่านปัญญานุกูล จังหวัดน่าน ข้าพเจ้าได้สอนนักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ช่วงนั้นเป็นเวลาที่ข้าพเจ้าสับสนมาก ไม่รู้ว่าจะสอนได้หรือเปล่า เพราะเด็กที่จะสอนเป็นเด็กพิการทางหู ซึ่งจะต้องมีความรู้ทางด้านภาษามือในการสื่อสารเด็กกลุ่มนี้และจะต้องมีความรู้เกี่ยวกับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยินด้วย ข้าพเจ้าจึงตัดสินใจไม่ยอมแพ้ ข้าพเจ้าพยามยามหาหนังสือภาษามือ วีดีโอเกี่ยวกับภาษามือและหาข้อมูลที่เกี่ยวกับเด็กพิการแต่ประเภทมาศึกษา และได้ เข้าร่วมอบรมครูการศึกษาพิเศษเป็นเวลา 20 วัน เข้าร่วมอบรมกับสามคมคนหูหนวกแห่งประเทศไทยในโครงการผู้นำคนหูหนวกนำการเปลี่ยนแปลง ซึ่งโครงการนี้เป็นหลักสูตรในเรื่องของหลักจิตวิทยาโดยให้รู้จักคุณค่าของตัวเรา พอหลังจากอบรมหลักสูตรนี้แล้วก็ได้รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเรา รู้จักรับฟังความคิดเห็นของตัวเราและความคิดเห็นของผู้อื่น นอกจากนั้นข้าพเจ้าขอขึ้นเป็นครูประจำหอนอนเด็กผู้หญิง เพื่อที่จะฝึกการสื่อสารกับนักเรียนหูหนวกที่อยู่ประจำหอนอน จนสามารถสื่อสารกับนักเรียนได้และได้นำความรู้ที่เรียนมาสั่งสอนนักเรียนโดยจะเน้นเรื่องคุณธรรมจริยธรรมอยู่เสมอ ในการจัดการเรียนรู้ในรายวิชาที่ได้รับมอบหมายนั้น ข้าพเจ้าได้ผลิตสื่อหลายประเภท ให้ความสอดคล้องกับจุดประสงค์และเนื้อหา ช่วยให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ตามแผนการเรียนรู้ คำนึงถึงความคุ้มค่า ประหยัด น่าสนใจ กระตุ้นให้นักเรียนได้คิด และช่วยในการสื่อสารระหว่างครูกับนักเรียน ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการช่วยให้นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ซึ่งจะเรียนรู้และรับรู้ทางสายตา ได้พัฒนาตามศักยภาพของแต่ละบุคคลให้มากที่สุด และจะเน้นย้ำนักเรียนอยู่เสมอว่าอย่าคิดว่าเราเป็นคนพิการจะรอให้คนอื่นมาช่วยเหลือตลอด เราจะต้องพยายามฝึกฝนตนเองให้สามารถทำได้เหมือนบุคคลที่มีการได้ยินทั่วไป และอย่าให้ใครมาดูถูกเราได้ว่าเป็นคนพิการรอคอยแต่การช่วยเหลือจากหน่วยงานอื่น ให้รู้จักพึ่งพาตนเองสามารถใช้ชีวิตร่วมกับบุคคลทั่วไปได้และไม่เป็นอุปสรรค์ในการดำเนินชีวิต

­

ปฏิบัติตนดีมีความพอเพียง

ข้าพเจ้าได้ปฏิบัติตนให้เป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพครู อย่างเคร่งครัด มีความรักและเมตตานักเรียนโดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือ ส่งเสริมให้กำลังใจในการเรียน อบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ทักษะ และนิสัยที่ถูกต้องดีงามโดยมุ่งเน้นฝึกสอนให้เด็กได้มีคุณธรรม จริยธรรม โดยการสอดแทรกในการจัดกิจกรรมในการเรียนการสอนทุกครั้ง ให้เกิดแก่นักเรียนอย่างเต็มความสามารถด้วยความบริสุทธิ์ใจ ส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียนมีความสมบูรณ์ทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคม ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่แก่นักเรียนทั้งกาย วาจา และจิตใจ มีความขยัน อดทน เสียสละ อุทิศเวลา พัฒนาตนเองทั้งในด้านวิชาชีพ และบุคลิกภาพให้สมกับที่เป็นครูมืออาชีพ ส่งผลให้ข้าพเจ้าได้รับการยอมจากโรงเรียน เพื่อนร่วมงาน ชุมชน และผู้ปกครอง

­

ในขณะที่ทำงานเป็นครูผู้สอน ในตำแหน่งพนักงานราชการก็ได้รับเงินเดือนและเงินครูการศึกษาพิเศษ ข้าพเจ้าได้น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ โดยแบ่งจัดสรรแบ่งส่วนออกเป็น 3 ส่วน คือ แบ่งให้ครอบครัว ให้พ่อแม่และเหลือเก็บออม ได้รับเงินเดือนและเงินครูการศึกษาพิเศษ ดิฉันได้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ โดยแบ่งสรรเพื่อผู้อื่นเพื่อเรา พอหลังจากอบหลังจากที่ข้าพเจ้าทำงานที่โรงเรียนน่านปัญญานุกูล ได้เป็นระยะเวลา 9 ปี ก็ได้ตั้งใจอยากเป็นข้าราชการครูจึงได้ตัดสินไปสอบแข่งขัน 2 ที่โดยไม่ยอมแพ้ พยายามตั้งใจ และมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นข้าราชการครู จนประสบผลสำเร็จสามารถเข้ารับราชการครูได้ที่โรงเรียนบ้านหนองไผ่ อำเภอหนองบัว จังหวัดนครสวรรค์ ข้าพเจ้าก็ต้องปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมและการดำเนินชีวิตของชาวนครสวรรค์ เพื่อที่สามารถจะอยู่ร่วมกันได้ และพอได้มาอยู่ที่โรงเรียนที่มีชื่อเสียงในเรื่องหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และผู้บริหารให้ความสำคัญกับการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปฏิบัติในโรงเรียน ข้าพเจ้ารู้สึกว่ามีความภาคภูมิใจมากที่ได้มาอยู่ ณ โรงเรียนบ้านหนองไผ่ ข้าพเจ้าจะเรียนรู้เกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงของโรงเรียนนี้ ถ้ามีโอกาสกลับบ้านในช่วงปิดภาคเรียน ก็จะนำสิ่งที่เห็นที่โรงเรียนและที่เรียนรู้กลับไปแนะนำที่บ้าน ญาติพี่น้อง เพื่อนร่วมงานที่โรงเรียนเดิม

­

คำสอนของพ่อ

"... คนเราถ้าพอในความต้องการ ก็มีความโลภน้อย เมื่อมีความโลภน้อยก็เบียดเบียนคนอื่นน้อย. ถ้าทุกประเทศมีความคิด - อันนี้ไม่ใช่เศรษฐกิจ - มีความคิดว่าทำอะไรต้องพอเพียงหมายความว่า พอประมาณ ไม่สุดโต่ง ไม่โลภอย่างมาก คนเราก็อยู่เป็นสุข.พอเพียงนี้อาจจะมีมาก อาจจะมีของหรูหราก็ได้ แต่ว่าต้องไม่ไปเบียดเบียนคนอื่น.ต้องให้พอประมาณตามอัตภาพ พูดจาก็พอเพียง ทำอะไรก็พอเพียง ปฏิบัติตนก็พอเพียง ...”

­

พระราชดำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่าง ๆ ที่เข้าเฝ้าฯ ถวายชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลาดุสิดาลัย สวนจิตรลดาฯ พระราชวังดุสิต วันศุกร์ ที่ 4 ธันวาคม 2541

­

ข้าพเจ้าขอสรุปสั้นๆ เกี่ยวกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และข้าพเจ้าจะน้อมนำไปปฏิบัติใช้กับตนเอง “เศรษฐกิจพอเพียงจะสำเร็จได้ด้วยความพอดีของตนเอง”