เครือข่ายโรงเรียนวิจัยเพื่อท้องถิ่น จังหวัดสตูลและจังหวัดตรัง

เครือข่ายโรงเรียนวิจัยเพื่อท้องถิ่น จังหวัดสตูลและจังหวัดตรัง

วันที่ 11-12 กรกฎาคม 2555 ณ นกน้ำรีสอร์ท อ.เมือง จ.สตูล


หนูประทับใจคุณครู คุณครูธนิตย์  กุลโรจนสิริ  เพราะเวลาสอนไม่เครียด  หรือบางวันครูก็ให้นักเรียนจัดการเรียนการสอนกันเอง  และยังเป็นคุณครูที่ปรึกษาโครงการวิจัยด้วย โครงการที่หนูทำคือโครงการ “แก้ปัญหาการจราจรหน้าโรงเรียน”    ซึ่งก่อนที่จะมาเป็นโครงการนี้ คุณครูธนิตย์บอกว่า  ในการทำโครงงานให้พวกเราคิดถึงเรื่องใกล้ตัวที่เราอยากรู้  แต่พวกเราก็คิดกันหลายเรื่องมากทั้งเรื่องเกี่ยวกับประเพณี  เรืองที่เกี่ยวกับวัฒนธรรม   เพื่อนบางคนก็เสนอเรื่องการจราจรหน้าโรงเรียนของเราที่ติดขัดและเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เราจึงเลือกที่จะศึกษาเรื่องอุบัติเหตุหน้าโรงเรียนเพื่อลดอุบัติเหตุ และสร้างความปลอดภัยให้แก่นักเรียน
 

ตอนเริ่มทำโครงการ เราให้นักเรียนมาสมัครเป็นประธาน และรองประธาน และเลขาโครงงาน เพื่อที่จะดำเนินงานแทนคุณครู เพราะวิชานี้คุณครูบอกว่า คุณครูจะไม่สอน แต่จะเป็นผู้ให้คำปรึกษาชี้แนะต่าง ๆ ในเรื่องที่พวกเราไม่เข้าใจ  เมื่อพวกเราได้ประธาน รองประธาน รวมถึงเลขา  ก็มีการจัดตั้งทีมงานโดยหาอาสาสมัครในโครงการ  จากนั้นก็แบ่งกลุ่ม ตอนแรกให้นับเลข เลขเดียวกันให้ไปอยู่กลุ่มเดียวกันปรากฏว่า บางกลุ่มจะมีเด็กเก่งไปรวมกลุ่มกัน และบางกลุ่มก็จะมีเด็กไม่เก่ง คือเด็กที่เรียนไม่เก่งและทำอะไรไม่ค่อยได้ก็ไปอยู่กลุ่มเดียวกัน  พวกหนูเลยปรึกษาคุณครู คุณครูก็ให้ลองคิดหาวิธีใหม่ว่าจะทำอย่างไรให้ในกลุ่มมีทั้งเด็กเก่งและเด็กไม่เก่งไปอยู่รวมกัน  เลยให้ทุกคนที่รู้ว่าเพื่อนคนไหนเก่ง และคนไหนไม่เก่งแยกออกเป็น 2 กลุ่ม จากนั้นก็เอามาคละกัน ก็จะได้กลุ่มที่มีทั้งเด็กเก่งและเด็กไม่เก่ง...เหตุผลที่ต้องทำแบบนี้ก็เพราะว่า ถ้าคนเก่งไปอยู่ด้วยกัน จะทำให้เพื่อนที่ไม่เก่งทำงานไม่ประสบความสำเร็จ  มันจะทำให้เรียนไม่ทันกัน ถ้าเอาคนเก่งกับไม่เก่งมาอยู่ด้วยกัน ก็จะช่วยเหลือกัน....ซึ่งวิธีการนี่พวกเรามารู้ที่หลังตอนทำโครงการเสร็จแล้วว่ามันได้ผล เพราะคนที่ไม่เก่งก็ทำงานได้เหมือนกับเพื่อนที่เรียนไม่เก่ง
 

เมื่อแบ่งกลุ่มเสร็จ ก็ออกสำรวจ ทำแบบสอบถามนักเรียน ผู้ปกครอง สอบถามเกี่ยวกับปัญหาจราจรหน้าโรงเรียน โดยที่พวกเราจะเป็นคนคิดคำถามเองทั้งหมด  อุบัติเหตุมักเกิดขึ้นเวลาไหน  และเด็กนักเรียนไหนที่ประสบอุบัติเหตุมากที่สุด 
 

หลังจากร่วมกันเก็บข้อมูลก็ทำให้รู้ว่า เช้า ๆ เวลาเด็กข้ามถนนจะเกิดอุบัติเหตุบ่อยที่สุด เนื่องจากรถเยอะ คนก็เยอะ จึงไม่มีความระมัดระวัง  ผู้ปกครองบางคนก็ไปส่งเด็กนักเรียนด้านนอก หรือฝั่งตรงข้าม บางครั้งการข้ามถนนก็ไม่ได้ระมัดระวัง เพราะรถบางคันก็วิ่งมาด้วยความเร็ว ทีนี้พอเรารู้ปริมาณรถ ความเร็วที่ใช้ และช่วงเวลาที่จราจรติดขัดและเกิดอุบัติเหตุ  ก็ทำหนังสือถึงผอ.โรงเรียนเพื่อขอธงสำหรับใช้ในการข้ามถนนของเด็ก ๆ  จัดทำทางม้าลาย ป้ายจราจร และประชาสัมพันธ์ให้เพื่อน ๆ และผู้ปกครองใช้ความระมัดระวังมากขึ้น
 

สำหรับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในตัวหนูคือ เมื่อก่อนพูดมาก แต่เดียวนี้พูดน้อยลง และมีสาระมากขึ้น