จิตอาสา

ความรู้สึกของนางสาวปวีร์ ไชยเผือก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

นักเรียนแกนนำเศรษฐกิจพอเพียงกับงานจิตอาสา

------------------------------------------------------------

­

ฉันเป็นนักเรียนแกนนำเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนสตรีมารดาพิทักษ์ มาหลายปี ได้เรียนรู้อะไรมากมายจากโรงเรียน จากคุณครู จากผู้มาศึกษาดูงาน และทำนองเดียวกันฉันได้ขยายผลการขับเคลื่อนหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในโรงเรียนของฉัน ให้กับคณะที่มาศึกษาดูงานตลอดมาตั้งแต่ปีการศึกษา 2553 เป็นต้นมา ฉันรู้สึกประทับใจและภูมิใจที่ได้เรียนรู้และนำหลักปรัชญาขององค์พ่อหลวงของปวงประชามาใช้ในชีวิตประจำวัน ฉันถือว่าเป็นสิ่งที่มีคุณค่าสูงสุด สิ่งหนึ่งที่ฉันเห็นเป็นภาพติดตามาตั้งแต่เด็กพระองค์ทรงทำทุกอย่างเพื่อประชาชน ฉันคิดเสมอว่า ฉันอยากทำงานเพื่อผู้อื่นบ้าง ตามคำที่พระองค์ทรงสอน โรงเรียนก็ได้เน้นย้ำนักเรียนทุกคน ทุกเวลาว่าต้องมีจิตอาสาเพื่อสังคมและผู้อื่นเท่าที่นักเรียนจะทำได้ จึงเป็นเหตุผลที่ฉันได้มาสมัครทำงานจิตอาสาที่โรงพยาบาลพระปกเกล้า จันทบุรี แห่งนี้ คำว่า “จิตอาสา” ทุกคนคงเคยได้ยินกันมาแล้ว แต่ก็ยังมีอีกหลายคนเคยได้ยินแต่ยังไม่ได้ทำ จิตอาสา สำหรับฉันแล้วคำนี้หมายถึง “คนที่มีจิตใจที่เป็นผู้ให้” คนทุกคนย่อมมีสิ่งที่อยากทำเพื่อคนอื่นหรือเพื่อนมนุษย์บ้าง ฉันเป็นคนหนึ่งที่อยากจะช่วยเหลือคนอื่น ฉันไม่สามารถช่วยคนเหล่านั้นได้ทางด้านวัตถุแต่ฉันสามารถช่วยเหลือคนเหล่าทางด้านจิตใจก็ได้คิดไว้เสมอ ก่อนเริ่มทำงานสิ่งหนึ่งที่ฉันต้องมีตลอดเวลาคือนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการทำงานเพราะหลักปรัชญาเป็นหลักคิดและหลักปฏิบัติในการทำงาน การดำเนินชีวิต จะทำให้ทุกอย่างประสบความสำเร็จตามสภาพที่เราจะทำได้ สิ่งแรกที่ฉันต้องนำมาใช้คือเงื่อนไขความรู้และเงื่อนไขคุณธรรมตามที่ตั้งใจ

­

ฉันจึงได้มีโอกาสช่วยเหลือคนถึงแม้จะเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย แต่ฉันก็อยากทำ ฉันได้ไปทำงานในห้องฉุกเฉิน ได้ไปช่วยบริการคนป่วย ช่วยพูดให้เขาได้สบายใจขึ้นไม่เครียดจนเกินไปและที่สำคัญฉันยังได้ประสบการณ์ต่างๆมากมายจากพี่ๆพยาบาลและคุณหมอทุกคนในโรงบาล พี่ๆเหล่านี้มีจิตใจที่อ่อนโยนอยากให้คนมารักษา อยากให้ทุกคนมีสุขภาพร่างกายและจิตใจแข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย และฉันยังได้ไปทำงานที่ธนาคารเลือด ไปช่วยบริการคนมาบริจาคโลหิต โดยการเสริมน้ำ พุดคุยกับทุกคนก่อนที่จะบริจาคโลหิต และฉันได้เรียนรู้ว่าคนเรามีจิตใจที่เป็นห่วงเพื่อนมนุษย์ด้วยกันถึงแม้ว่าเขาไม่ได้มาเป็นจิตอาสาแบบฉันแต่เขาก็มีวิธีช่วยเหลือคนอื่นในสิ่งที่เขาทำได้โดยการมาบริจาคโลหิตเพราะคนที่ต้องการเลือดนั้นมีมาก ทั้งจากที่ได้รับบาดเจ็บมาจากอุบัติเหตุและคนที่กำลังผ่าตัด ฉันคิดว่าการที่เราได้มาช่วยเหลือคนอื่นนั้นเป็นสิ่งที่ดี การที่ฉันได้มาทำจิตอาสาที่โรงพยาบาลเป็นเพียงส่วนหนึ่งของการช่วยคนเท่านั้น ฉันมีความรู้สึกว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บหรือผู้ป่วยไม่ได้ต้องการแค่ยาเพื่อที่ให้ตนเองหายเท่านั้นยังต้องการกำลังใจจากคนรอบข้างด้วย ฉันจึงอยากที่จะช่วยในแบบที่ฉันทำได้ ฉันรู้สึกดีใจที่ได้มีโอกาสช่วยเหลือพวกเขา รู้สึกว่าตัวเองก็สามารถช่วยพวกเขาได้ไม่ใช่เพียงแต่มองดูถึงแม้ไม่สามารถช่วยคนที่บาดเจ็บได้ฉันก็ได้เรียนรู้จากประสบการณ์ต่างๆในการมาเป็นจิตอาสาเช่นวิธีการพูดให้คนรู้สึกสบายใจจะพุดอย่างไร พี่พยาบาลได้ช่วยสอนวิธีการพูดให้แก่ฉันและให้ข้อคิดในการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณค่าให้กับฉันด้วย

­

ถ้าถามฉันว่าได้รับอะไรจากการได้ไปทำจิตอาสา ฉันขอตอบเลยว่า ฉันไม่ได้เป็นฝ่ายที่ได้รับอะไรเพียงฝ่ายเดียว แต่คนที่ได้รับนั้นเป็นคนที่เราได้ไปช่วยเหลือเขาตามจุดต่างๆในโรงพยาบาล ทั้งช่วยพี่พยาบาล ช่วยคนทีได้รับบาดเจ็บ ฉันคิดว่าแค่เห็นคนเหล่านั้นยิ้มได้ มันก็ดีสำหรับฉันแล้ว เราไม่จำเป็นที่เวลาเราไปช่วยใครต้องได้สิ่งตอบแทนจากเขาเลย แต่การที่เราไปช่วยโดยไม่หวังสิ่งตอบแทนและทำให้เขาสบายใจได้นั้นเป็นสิ่งที่ล่ำค่าที่สุดสำหรับฉันแค่นี้ฉันก็พอเพียงแล้ว