บ้านสวนกับความพอเพียงของหนู

­

บ้านหนูทำสวนลำไย สวนยาง และสวนน้อยหน่า 70% เราใช้ปุ๋ยอินทรีย์ 30% ใช้ปุ๋ยเคมี เหตุที่เป็นอย่างนี้เพราะว่าแม่บอกว่าเมื่อสมัยก่อน 20 ปีที่แล้วทำพืชล้มลุก เช่น ข้าวโพด ชาวไร่นิยมฉีดยาคุมในไร่ข้าวโพดเพื่อคุมวัชพืช ฉีดทุกปีๆเป็นเวลานานหลายๆปีพอนานเข้าก็ทำให้หน้าดินเสีย ดินแข็งจับเป็นก้อนไถอย่างไรก็ไม่แตก ปลูกพืชก็ไม่งาม บางทีก็ยืนต้นตายโดยไม่มีสาเหตุชาวบ้านเริ่มรู้ว่าสารเคมีที่ฉีดพ่นลงดินทุกปีๆ เป็นสาเหตุทำให้ดินเสีย ชาวบ้านเริ่มคิดที่จะใช้อินทรีย์เข้ามาผสมผสานเราเริ่มจากการใช้ปุ๋ยคอก เช่น ขี้วัว ขี้หมู ขี้ไก่ นำมาใส่แล้วรู้สึกว่าดีขึ้น 

­

จากนั้นมาก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงชาวบ้านหันมาปลูกผลไม้ยืนต้นมากขึ้นจากไร่ข้าวโพดเป็นการทำสวน เช่น การปลูกสวนลำไย สวนยาง สวนน้อยหน่า มีการใช้สารเคมีและยาฆ่าฉีดพ่นเรื่อยมา เมื่อฉีดพ่นนานๆเข้าทำให้โรคและแมลงดื้อยา และมีสารเคมีตกค้างเราจึงเริ่มหันมาใช้ปุ๋ยอินทรีย์สลับกับสารเคมีบ้าง แม่บอกว่าเราจะใช้อินทรีย์หรือเคมีอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ถ้าใช้สารเคมีอย่างเดียวก็ทำให้มีผลเสียอย่างแรกคือ เมื่อฉีดพ่นมากๆสารเคมีก็จะเข้าสู่ร่างกายทำให้เกิดโรค จะทำให้เจ็บป่วยได้ง่าย มีเจ้าหน้าที่สาธรณะสุขมาตรวจสารเคมีในเลือดให้กับชาวบ้าน พบว่าชาวบ้านที่ทำสวนส่วนใหญ่มีสารเคมีอยู่ในเลือดสูงมาก และสารเคมียังทำลายสภาพแวดล้อมอีกด้วย อย่างที่สองคือ ทำให้ต้นทุนสูงเมื่อขายผลผลิต หักต้นทุนแล้วแทบจะไม่มีกำไร แต่ถ้าใช้อินทรีย์อย่างเดียวก็ทำให้ผลผลิตออกมาไม่ตรงตามกับที่ตลาดต้องการ ทำให้ขายไม่ได้ราคาจึงต้องใช้สารเคมีสลับบ้างเป็นบางครั้ง เช่น ตอนบำรุงต้นเราก็จะใช้ปุ๋ยอินทรีย์หรือปุ๋ยคอก ส่วนตอนบำรุงดอกหรือทำให้ลูกใหญ่ผลดกเราก็ต้องใช้เคมีช่วยบ้าง ทำแบบนี้เราก็ยังได้ผลผลิตดีเหมือนเดิมหรืออาจจะดีกว่า เพราะว่าทำให้ลูกใหญ่ผลดก สีสวย น้ำหนักดีได้ตามที่ตลาดต้องการ ทำให้ขายได้ราคา ที่สำคัญเป็นการลดต้นทุน

­

เวลาหนูกลับจากโรงเรียนหนูก็จะช่วยพ่อ แม่ ทำงานในสวน เช่น เวลาใส่ปุ๋ยหรือเก็บผักผลไม้ไปขาย จึงทำให้หนูได้เรียนรู้ว่าการทำสวนเป็นอย่างไร หนูจึงรู้ว่าการที่ใช้สารเคมีอย่างเดียว ทำให้เรามีรายจ่ายสูงไม่คุ้มกับรายได้ แต่พอเราเริ่มใช้สารอินทรีย์และปุ๋ยหมักมากขึ้น และใช้สารเคมีน้อยลง ทำให้ลดต้นทุนและเหลือผลกำไรมากขึ้น สุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เจ็บไม่ป่วย สภาพแวดก็ดีอากาศบริสุทธิ์ ทำให้ชีวิตและครอบครัวของเราอยู่อย่างพอเพียงและมีความสุข