เปลี่ยนตัวเองเพื่อครอบครัว...ด้วยคำว่า “พอ”

ในช่วงปิดภาคเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ฉันไม่ได้มีเรียนพิเศษ ไม่มีการบ้าน ฉันอยู่บ้านโดยไร้ประโยชน์ นั่งเล่นโทรศัพท์ไปวัน ๆ มีนิสัยเกียจคร้าน ไม่ค่อยช่วยพ่อแม่ทำการทำงานเท่าไหร่นัก ซึ่งฉันแตกต่างกับพ่อและแม่มาก เพราะแม่ชอบทำบัญชีจนดึกดื่น ส่วนพ่อของฉันเป็นคนขยันทำงาน รับงานมากมาย ทำทุก ๆ อย่างก็เพื่อให้ฉันมีเงินใช้สะดวกสบาย มีที่เรียนดี ๆ เก็บเงินไว้ให้สร้างฐานะตอนโต จะได้ไม่ลำบากเหมือนพ่อกับแม่ วัน ๆ หนึ่ง พ่อขับรถดูงาน 4 ถึง 5 ที่ บางครั้งมีคนเช่ารถเครนตอนตี 1 พ่อยังรับงานไว้ พอตี 1 พ่อก็ตื่นไปขับรถเครน พ่อทำงานหนักมาก ยกเหล็กหนัก ๆ จนทำให้พ่อปวดหลังมาก แต่พ่อก็ยังทำงานเหมือนเดิม ฉันเห็นพ่อทรมาน ฉันลองคิดทบทวนว่าพ่อปวดหลัง ทนทรมานเพื่อใคร ทำงานหนักเพื่อใคร ก็เพื่อฉัน ฉันลองถามตัวเองว่าพ่อทำอะไรให้เราตั้งมากมาย ทำเพื่อเราทุก ๆ อย่าง ทำไมเราไม่ตอบแทนท่านบ้างเลย นี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนตัวเองของฉันเพื่อครอบครัว ที่เสียสละเพื่อฉันมามากมาย พอวันรุ่งขึ้นฉันก็เริ่มเปลี่ยนตัวเองช่วยแบ่งเบาภาระงานต่าง ๆ ที่เราทำได้ โดยเริ่มเรียนรู้งานจากพ่อและแม่ พ่อก็จะสอนฉันขับเครน ขับรถแบ็คโฮ ทักษะการขับรถยนต์ ซึ่งพ่อจะวางใจฉันในการขับรถยนต์มากแล้ว เพราะฉันขับรถออกถนนใหญ่ตั้งแต่อายุ 10 ปี ถึงแม้ฉันขับรถได้ ฉันก็ไม่ได้นำรถไปขับเที่ยวเตร่ ฉันขับในเวลาที่พ่อของฉันนั่งไปด้วย ไม่เคยนำรถไปขับเองโดยพลการ พอฉันได้เรียนรู้งานจากพ่ออย่างเต็มที่แล้ว ฉันจึงคิดว่าฉันควรจะช่วยพ่อขับรถเพราะเป็นงานที่ฉันถนัดที่สุดและฉันเห็นว่าพ่อของฉันชอบคุยโทรศัพท์ตอนขับรถ ฉันกลัวพ่อจะเกิดอุบัติเหตุและเกรงว่าพ่อจะเหนื่อยล้ามาก จนอาการปวดหลังจะยิ่งรุนแรงเพราะพ่อต้องปีนเสามุงหลังคาในการก่อสร้างอีกด้วย ฉันจึงขออาสาช่วยพ่อขับรถไปที่ต่าง ๆ ที่พ่อของฉันทำงาน

­

ฉันรู้สึกภูมิใจและดีใจมาก ๆ ที่ได้แบ่งเบาภาระงานของพ่อกับแม่ ในการแบ่งเบาภาระงานของพ่อกับแม่ในครั้งนี้มันทำให้ฉันดำเนินชีวิตได้ด้วยตนเองในชีวิตประจำวันได้ เช่น การนำความรู้ที่แม่สอนทำบัญชีมาทำบัญชีรายรับ-จ่าย ในชีวิตประจำวันได้ และยังทำให้ฉันรู้คุณค่าของเงินมากยิ่งขึ้น เพราะแค่ฉันช่วยพ่อกับแม่ไม่มาก ยังไม่ถึงเสี้ยวที่พ่อกับแม่ทำงานทั้งหมด ฉันยังมีความรู้สึกเหนื่อยล้ามาก มันทำให้ฉันได้รู้ว่ากว่าจะได้เงินมาแต่ละบาทมันเหนื่อยและลำบากขนาดไหน ฉันจึงสัญญากับตัวเองว่า “ ต่อจากนี้จะต้องการสิ่งของใด ๆ จะไม่ขอเงินพ่อแม่อีกแล้ว จะต้องตั้งใจและมีความอดทนในการเก็บเงินซื้อเอง และจะคำนึงถึงสมอว่ามันมีประโยชน์หรือจำเป็นมากแค่ไหน “