ค่ายต้นกล้าศิลปะ



.
ความรู้สึกที่มีต่อป่าต้นน้ำ
“ผมคิดว่านะ หากโลกนี้ไม่มีน้ำก็ไม่มีป่าแต่ถ้าหากว่าโลกนี้ไม่มีป่าแล้วน้ำมีไว้เพื่ออะไรหรอ ป่ากับน้ำมันเป็นของคู่กันถ้ามีป่าก็ต้องมีน้ำ ถ้ามีน้ำก็ต้องมีป่า ความงดงามของน้ำกับความงดงามของป่านั้นจำเป็นที่จะต้องรักษาไว้ให้อยู่กับชีวิตไปนานๆ เพื่อจะทำให้คนรุ่นหลังได้เห็นถึงความงดงามสืบต่อไปเพราะทั้งป่าและน้ำคือต้นกำเนิดของสิ่งมีชีวิตทั้งปวง”


ความรู้สึกหลังค่ายต้นกล้าศิลปะ
จากการที่เราได้ไปเข้าค่ายป่าต้นน้ำเพื่อสายธารชีวิตที่งามอุดมของอาจารย์เป้ ผมมีความรู้สึกว่าทำให้ผมมองโลกนี้สวยงามมากขึ้น มองใบไม้สวย มองอะไรก็สวยมันทำให้ผลของต้นกล้าศิลปะ ในตัวของผมมันได้ถูกปลูกขึ้นมาแล้ว (ผมคิดอย่างนั้นนะ) จากการที่ผมอยู่ที่บ้าน ที่โรงเรียนหรือที่ใดก็ตามที่ที่ไม่ใช่สถานที่เข้าค่าย ผมยังคิดเลยว่าเวลาในแต่ละนาที วินาที หรือชั่วโมงมันมีค่ามาก มากกว่าที่ผมคิด ครูเป้สอนผมว่าการที่เราจะเป็นศิลปินได้นั้น จะต้องร้องเพลงเป็น คิดเป็น มันทำให้ผมมีความสุข สนุกสนานกับการที่ผมได้เข้าค่าย ได้ร่วมทำกิจกรรม กับเพื่อนๆ พี่ๆ จากต่างจังหวัด ผมชอบมากๆ ผมอยากให้ค่ายนี้ มีอีกหลายๆครั้ง เพราะมันทำให้ผมได้รู้สึก การวาดภาพของผมนั้นยังไม่ดีพอ และยังไม่เทียบเท่ากับนักเรียนคนไหนเลย และจากที่ผมได้ไปเข้าค่ายนี้มา ได้รู้เรื่องการใช้สี แสง เงา น้ำหนักการผสมสี การมองสิ่งต่างๆตามธรรมชาติ ที่มีความสวยงาม ทำให้เรามองลึกลงไปกว่านั้นอีก พอจบจากค่ายนี้แล้ว ผมก็คิดว่าผมจะเลือกงานด้านการวาดภาพดีกว่า เพราะการวาดภาพเป็นงานที่ผมถนัดที่สุด และการวาดภาพทำให้ผมได้มีความสุข สนุกสนาน กับงานวาดภาพที่ผมเลือก ก็เพราะผมไม่ถนัดงานอื่นใด ไม่ว่าจะเป็นดนตรี วรรณกรรม หนังสั้น ภาพถ่าย ร้องเพลง ผมไม่ค่อยถนัดเรื่องนี้ แต่มีแค่งานศิลปะอย่างเดียวที่ผมจะสู้คนอื่นได้ แต่อาจสู้ได้ไม่มากนักผมจะพยายามฝึกฝีมือให้เก่งไปกว่านี้เพราะผมชอบศิลปะครับใช้เทคนิคการวาดภาพ