ค่ายต้นกล้าศิลปะ


ความรู้สึกที่มีต่อ ป่าต้นน้ำ

“ถ้าพูดถึงป่าดิฉันจะมีความรู้สึกสดชื่นและอยากสัมผัสมันด้วยสองมือสัมผัสกลิ่นไอของธรรมชาติของป่าเขา สัมผัสลมหมอกในยามเช้า อยากเจอกับสิ่งที่มหัศจรรย์ ที่รอดิฉันอยู่ข้างหน้า ดิฉันค่อนข้างที่จะไม่ได้ไปเที่ยวในป่าเว้นก็แต่คณะครูจัดกิจกรรมและพาดิฉันไปเข่าค่าย ดิฉันถึงจะได้ไปสัมผัสและรับรู้สิ่งที่สวยงามที่ดิฉันค่อนข้างจะเจอได้ยากมากดิฉันต้องขอบคุณทุกๆท่าน คณะครูทุกๆคนที่สนับสนุนให้มีการจัดค่ายนี้ขึ้น ดิฉันจึงได้มีโอกาส สัมผัสสิ่งที่ดิฉันอยากจะได้เจอและได้เห็น”


ความรู้สึกหลังค่ายต้นกล้าศิลปะ
ค่ายศิลปะป่าต้นน้ำค่ายนี้ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สอนให้นักเรียนได้เรียนรู้ รู้จักธรรมชาติ ป่าต้นน้ำขุนเขาลำเนาไพร มีบทบาทเพลงสร้างสรรค์ ที่น่าหลงใหล และเพื่อนๆที่ต่างจังหวัด ต่างอำเภอ ต่างหมู่บ้านขณะพี่เลี้ยงที่ได้มาร่วมเข้าค่ายทำกิจกรรมสนุกสนานร่วมกัน รักกันแลกเปลี่ยนความรู้ และวัฒนธรรมความคิดที่ต่างกันพูดคุยกันฟังนิทานที่แต่งขึ้นมาจากธรรมชาติ บทเพลงที่ฟังแล้วไพเราะ เสียงของสัตว์ป่าที่ร้องเรียกหากัน เสียงใบไม้ที่พลิ้วไหว แสงเทียนอ่อนๆ หมอกน้ำค้างที่ตกลงบนใบไม้ ใบหญ้าความหนาวที่มาพร้อมความอบอุ่น กองไฟเล็กๆที่ให้ความอบอุ่น แก่ผู้คนหลายชีวิต ดิฉันจะไม่มีวันลืมภาพที่แสนอบอุ่น ดิฉันจะนำความรู้ที่ได้จากค่ายนี้ไปขยายเผยแผ่ สู่เพื่อนๆ น้องๆในโรงเรียนให้ได้รู้จักรักษ์ป่า รักต้นน้ำ รักขุนเขา และช่วยกันอนุรักษ์ ให้คงอยู่กับเราไปตลอดกาล เราจะช่วยกันปลูกต้นไม้ ปลูกป่าเพราะสิ่งเหล่านี้ก็เหมือนกับสมาชิกในครอบครัวของเราซึ่งถ้าขาดหายไปเราก็อาจจะต้องขาดสิ่งที่สำคัญในชีวิตไปเหมือนกัน
ใช้เทคนิคการวาดภาพ