ค่ายต้นกล้าศิลปะ


ความรู้สึกที่มีต่อป่าต้นน้ำ


ธรรมชาตินั้นให้เราทุกอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งให้ชีวิตเพราะน้ำและป่าไม้ล้วนให้ทุกอย่างแก่เราอย่างเช่น น้ำที่ช่วยหล่อเลี้ยงคนทั้งโลกถ้าไม่มีน้ำเราก็ตายส่วนป่าไม้ก็ให้อาหารการกินสมุนไพร เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรคต่างๆอีกทั้งป่าต้นน้ำยังช่วยให้เราเดินทางไปไหนก็สะดวกโดยทางน้ำหรืออื่นๆและยังทำให้เรามีความสุขอีกด้วยถ้าไม่มีป่าต้นน้ำโลกคงจะวุ่นวายไม่น้อย เพราะขาดปัจจัยต่างๆอาจทำให้มนุษย์อย่างเราๆฆ่ากันเองก็ได้เพื่อที่จะให้เราอิ่มและอยู่ได้แล้วถ้าป่าต้นน้ำให้เราขนาดนี้…..เราควรรักษาและอนุรักษ์ป่าต้นน้ำให้อยู่กับเรานานๆโดยการไม่ตัดไม้หรือถ้าตัดควรปลูกต้นไม้ทดแทนถ้าตัด 1 ต้น ควรปลูกต้นไม้ทดแทน 10 ต้นและไม่ทิ้งขยะมูลฝอยหรือของเสียลงในน้ำ ถ้าเราปฏิบัติแบบนี้ก็จะทำให้ป่าต้นน้ำอยู่กับเราไปชั่วชีวิต

ความรู้สึกหลังค่ายต้นกล้าศิลปะ
ความรู้สึกนั้นมีมากมายจนอธิบายไม่ถูกเหมือนกันแต่ที่ชื่นชอบคือธรรมชาติที่งดงามและแสงอาทิตย์ในยามเช้านั้นทำให้เรามีความสุขเมื่ออยู่ใกล้กับมัน มันเหมือนฝันเพียงแป๊บเดียวค่ายก็จบลงแบบไม่เป็นพิธีเลยค่ายนี้สำคัญอย่างยิ่งในการใช้ชีวิต ดำรงชีวิตในปัจจุบันนี้ซึ่งมันเหมาะแก่การเริ่มต้นอะไรหลายๆอย่าง ทั้งความคิด ความรู้สึก แล้วค่ายนี้ก็เปลี่ยนชีวิตดิฉันแบบเป็นคนละคนเลยจากที่มองภาพ มองธรรมชาติเป็นเพียงสิ่งรอบตัวเราไม่รู้ว่ามันจะเป็นอย่างไร แต่ค่ายนี้ได้เปิดโอกาสให้แก่คนอย่างฉันได้เข้าร่วมทำให้ฉันมองธรรมชาติ แสง เงา และภาพต่างๆนั้นสวยงามมีคุณค่า ค่ายนี้ให้ความรู้กับฉันมากมายเหลือเกินทั้งการวาดภาพ การมองและอีกหลายๆอย่างที่ฉันไม่เคยได้รู้และไม่เคยได้สัมผัสแต่วันนี้ฉันรู้แล้วว่าทุกสิ่งทุกอย่างมีค่าและสวยงามและที่สำคัญฉันประทับใจการทำงานกลุ่มเพราะมีความสามัคคีใครมีอะไรก็ช่วยกันเล่าสู่กันฟังบ้างและชอบเวลารอบกองไฟรู้สึกว่าการแสดงละครทำให้ใครหลายๆคนนั้นมีความสุขซึ่งดิฉันประทับใจทุกสิ่งเลย ตั้งแต่วันแรกที่เราได้พบเพื่อนๆและพอออกจากโรงเรียนฉันมีความสุขมากๆเลย ตั้งแต่วันแรกที่เราได้พบเพื่อนๆ และพอออกจากโรงเรียนฉันมีความสุขมากๆ เพราะจะได้เจอเพื่อนใหม่ และจะไปเรียนรู้ด้วยกัน ค่ายนี้ถึงจะไม่ค่อยใหญ่โตมากนัก แต่ก็มีความสุขในการเข้าค่าย เพราะธรรมชาติที่อุทยานเป็นตัวที่สำคัญที่สุดในการดำเนินค่าย รวมไปถึงครูเป้มาสอนเทคนิคต่างๆให้เรา ดิฉันก็ตั้งใจฟังมาก เพราะอยากเรียนรู้มากๆและที่สำคัญ ชอบตอนที่ครูเป้สอนร้องเพลง เล่านิทาน เล่นกีตาร์ เพราะให้ทุกคนที่มาเข้าค่ายมีความสุขความตื่นเต้น โดยเฉพาะตอนที่ครูเป้พาไปดูพระอาทิตย์ ขึ้นนั้นสวยงามมากจนบรรยายไม่ถูก เลยมันเหมือนเราเพ้อฝันไปเอง พอเห็นขอบแดงๆตรงร่องภูเขายิ่ง ตื่นเต้นไปใหญ่รวมถึงทะเลหมอกที่ไกลลิบลับแสงกับตันไม้และแสงอาทิตย์นั้นเหมือนอยู่บนสวรรค์ไม่มีผิด มีภูเขาสูงโล้นหมอกยามเช้า ต้นไม้ล้อมรอบ และผาชู้ที่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมากพอหลังจากเราดูพระอาทิตย์ขึ้นแล้วถ่ายรูปเสร็จแล้วก็กลับไปยังค่าย พอเรียนรู้เสร็จก็พากันไปอาบน้ำและก็มานั่งฟังครูเป้และครูเมย์และเล่านิทานจากนั้นพวกเราก็เข้าห้องนอนพอประมาณตีห้าก็ตื่นมาล้างน่าแปรงฟันแต่งตัวขึ้นไปดูพระอาทิตย์ใหม่ครูเป้และครูเมย์ก็บอกให้ทุกคนคิดท่ากายบริหารเราก็กายบริหารท่ากายบริหารสั่นทั้งตัวของครูเมย์หนูชอบมากๆเลยค่ะ ค่ายนี้หนูตั้งความหวังเป็นอย่างมากว่าจะได้รับความรู้และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ค่ายนี้ก็เป็นค่ายแรกในประเทศไทยเลยก็ว่าได้เพราะมันสนุกมีความสุข ทำให้พวกเราสามัคคีกันและยังทำให้ได้เพื่อนใหม่จากจังหวัดต่างๆค่ายนี้หนูจะไม่ลืม ไม่ว่าจะนานแค่ไหนก็ตาม