ค่ายต้นกล้าศิลปะ

ความรู้สึกที่มีต่อป่าต้นน้ำ

แสงตะวันพึ่งจะโผล่พ้นขอบฟ้ามีเวลา ให้คนเราอีกมากมาย ป่าเป็นสวนรวมพวกมนุษย์ทุกคน เป็นทั้งที่อยู่อาศัย เป็นทั้งที่ทำกินของเรามากมาย เป็นทั้งสนามเด็กเล่น และเป็นที่อ่าหนังสือ อย่างมีความสงบสุข เพราะมีทั้งเสียงป่า เสียงนก มันบอกไม่ทุกจริงๆ ต้องมาพิสูจน์ ด้วยตัวเองค่ะ

ความรู้สึกหลังค่ายต้นกล้าศิลปะ

จากที่ดิฉันได้ไปเข้าค่ายศิลปะต้นน้ำ ดิฉันรู้สึกภูมิใจในบ้านเกิดเมืองนอนของดิฉันมากขึ้นบรรยากาศก็ดีมากป่าไม้ก็อุดมสมบูรณ์ ตื่นมาตอนเช้าก็รู้สึกว่าเหมือนมีโลกใหม่อีกดวงที่สงบสุข อุดมไปด้วยสัตว์ป่า เสียงของมันทำให้ฉันรู้สึกถึงคุณค่าของป่าและอยากจะอนุรักษ์ป่าไม้ไว้ในอนาคต เพื่อคนรุ่นหลังได้ศึกษาว่าป่าก็มีคุณค่ากับเรามาก
สืบสานประวัติคนรุ่นก่อนหน้าเพื่อให้ลูกหลานชาวไทยได้คำนึงถึงธรรมชาติที่สวยงาม ขอให้ชาวไทยทุกคนรักษาสิ่งแวดล้อมของเราไว้ ประเทศไทยของเราถึงแม้ไม่ค่อยเจริญก้าวหน้าสักเท่าใด แต่ถึงมีผืนป่าที่อุดมและเงียบสงบสุขไม่เหมือนเมืองกรุง ที่มีแต่ความวุ่นวาย บรรยากาศก็ไม่ดี มลพิษทางอากาศ มลพิษทางน้ำอีกมีแต่ความสับสนผู้คนต่างก็แย่งกันมาอยู่ ไม่รู้จะมาอยู่ทำไม บรรยากาศก็ไม่ดี กลับมาเถอะ กลับมาเถอะ มาอยู่บ้านเกิดเมืองนอนของเราบรรยากาศก็ดี พร้อมกับความสุขที่หาไม่ได้แล้ว ( บ้านของเรา) “ป่าก็ต้องคู่กับน้ำ” มันก็คือธรรมชาติของมัน มนุษย์เราถ้าไม่มีป่าเราก็อยู่ไม่ได้จนถึงทุกวันนี้ หรอใช่ไหมค่ะ จากการที่ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติอันงดงามแล้วฉันยังได้เจอเพื่อนใหม่จากจังหวัดอื่นๆอีกด้วย ได้เรียนรู้การใช้ดินสอสองบีและได้เรียนการใช้สีน้ำ ตามที่ครูเป้สอน ฉันจึงประทับใจที่ครูเป้สีน้ำเล่านิทานเรื่องหิ่งห้อยกับดอกไม้ไร้ชื่อ ฉันชอบมากเลยค่ะ เป็นอะไรที่อธิบายไมถูกเลยจริงๆค่ะ