ค่ายพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนสู่การเป็นคนรุ่นใหม่ที่สามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมารับใช้ชุมชนสังคมอย่างสร้างสรรค์ ครั้งที่ 2

ถอดบทเรียนค่ายพัฒนาศักยภาพแกนนำเยาวชนสู่การเป็นพลเมืองรุ่นใหม่

ที่สามารถดึงศักยภาพของตนเองออกมารับใช้ชุมชนสังคมอย่างสร้างสรรค์ ครั้งที่ 2

โครงการพัฒนาเยาวชนในชุมชนท้องถิ่น (4 ภาค) ระยะที่ 2 :

หลักสูตรนักถักทอชุมชน เพื่อพัฒนาเด็ก เยาวชนและครอบครัว

วันที่ 30 เมษายน - 11 พฤษภาคม 2561

ณ ศูนย์ปราชญ์พ่อคำเดื่อง ภาษี บ้านโนนเขา หมู่ 8 ตำบลหัวฝาย อำเภอแคนดง จังหวัดบุรีรัมย์


1.การเรียนรู้เรื่องการรู้จักตนเอง

นิสัยส่วนตัวเป็นคนเงียบๆ ไม่ค่อยพูดกับคนอื่น ไม่รู้จักการเข้าสังคม การคบเพื่อน แต่เมื่อมาอยู่ค่ายนี้ทำให้ได้รู้จักการเข้าสังคม รู้จักการคบเพื่อน ได้ฝึกพูด กล้าแสดงออกมากขึ้น กล้าคิดกล้าแสดงความคิดเห็น รวมถึงฝึกความอดทนมากขึ้น ไม่เบื่อกับการกิจกรรมเลย เมื่ออยู่กับเพื่อนก็มีความเห็นใจ ช่วยดูแลเพื่อนในบางครั้งที่ต้องทำกิจกรรมร่วมกัน

2.การเรียนรู้เรื่องการรู้จักภาวะการนำของตนเองและการทำงานเป็นทีม

3.การเรียนรู้เรื่องการรู้จักสังคม

สังคมที่ดีต้องมีการศึกษาที่ดี เหมือนประเทศฟินแลนด์ที่มีการศึกษาที่ดีที่สุดในโลก คือมีโรงเรียนที่มีมาตรฐานเท่าเทียมกัน โดยโรงเรียนที่ดีที่สุดคือโรงเรียนใกล้บ้าน เพราะอยู่ใกล้บ้าน มีเวลาเรียน 3-4 ชั่วโมง และมีเวลาในการเรียนรู้นอกห้องเรียน ให้ได้ปฏิบัติจริง และไม่มีการบ้าน ทำให้นักเรียนมีเวลาในการอยู่กับครอบครัว อยู่กับเพื่อน โดยไม่เก็บค่าเทอม

4.การเรียนรู้เรื่องการรู้จักเศรษฐกิจ

จากการที่ได้มาอยู่ค่ายนี้ ได้เรียนรู้เรื่องธุรกิจ ได้ฝึกการวางแผนในการทำธุรกิจ หาผลกำไร ซึ่งถ้าเราทำธุรกิจอย่างหนึ่งขึ้นมา ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจทำให้เศรษฐกิจของประเทศมีความรุ่งเรืองขึ้น จากการค้าขายที่ดี เพราะธุรกิจมีความสำคัญต่อเศรษฐกิจโดยตรง ถ้าไม่มีธุรกิจ เศรษฐกิจก็ไม่ดี และถ้าไม่มีการค้าขาย เศรษฐกิจก็ไม่เกิดขึ้นมา ดังนั้นเศรษฐกิจคือการที่ทำให้การค้าขายของประเทศมีความก้าวหน้ามากขึ้น มีธุกิจมากขึ้น มีการส่งออกสินค้ามากมายไปยังต่างประเทศ

5.การเรียนรู้เรื่องการรู้จักสิ่งแวดล้อม

ได้เรียนรู้เรื่องทรัพยากรป่าไม้ว่ามีความสำคัญกับเราอย่างไร การตัดไม้มีผลเสียต่อระบบนิเวศอย่างมาก ทำให้สัตว์ป่าไม่มีที่อยู่อาศัย และไม่มีการปลูกป่าเพิ่ม จึงทำให้ต้องมีการอนุรักษ์สัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์

6.การเรียนรู้เรื่องการรู้จักการทำสมาธิและการเข้าใจพระพุทธศาสนา

จากการมาค่ายที่ได้ฝึกสวดมนต์ นั่งสมาธิ ทำให้จิตใจสงบ ได้แผ่เมตตาให้แก่สัตว์และคนทั้งหลาย ท่ำสคัญการฝึกสมาธิยังช่วยให้จิตใจของเราสงบและรู้จักตนเองมากขึ้น รู้สึกผ่อนคลาย มีสติ และการได้เดินภาวนาหรือเดินจงกรมก็เป็นการฝึกสติด้วยเหมือนกัน อีกทั้งการตักบาตรตอนเช้ายังทำให้ได้บุญเพิ่มขึ้น

7.การเรียนรู้เรื่องการรู้จักเครื่องมือในการเรียนรู้

การมาค่ายนี้ได้ฝึกเรื่องการกล้าแสดงออก เช่น การพูด การคิด การฟัง โดยการพูดได้ไปพูดที่ตลาด ซึ่งได้ฝึกทั้งความกล้าและได้ฝึกฟังเพื่อนๆ พูด ได้รู้ว่าเพื่อนมีอารมณ์อย่างไร เช่น โกรธ เศร้า หรือสนุก นอกจากนั้นยังได้รู้จักการวางแผนการการทำธุรกิจอย่างแท้จริง ซึ่งไม่คิดเลยว่าการเรียนรู้เรื่องธุรกิจไม่ยากอย่างที่คิด และได้ไปเที่ยวเขาพนมรุ้ง ได้เรียนรู้เรื่องราวของประวัติศาสตร์ และได้ฝึกการตั้งคำถามด้วย

ส่วนใหญ่ไม่ค่อยได้เป็นผู้นำ แต่เป็นผู้ตาม และได้ฝึกการเป็นผู้นำที่กล้าพูด กล้าแสดงความคิดเห็น ฝึกการฟังเพื่อนพูด และนำมาใช้ในการวางแผนการทำกิจกรรมของกลุ่ม ซึ่งตัวเองเป็นผู้นำในการกระตุ้นผู้อื่นในการทำกิจกรรม แต่ในบางครั้งเพื่อนก็ต้องเป็นฝ่ายกระตุ้นตัวเองเพราะมีช่วงที่ไม่สนใจกิจกรรมบ้าง ที่ผ่านมาได้ฝึกความอดทน และได้ฝึกความร่วมมือกับเพื่อนในการทำกิจกรรมตีบอล