ความเป็นมา

  ประกอบด้วยสมาชิกจากกลุ่มหมู่ 1, 2, 3 เกิดจากร่วมตัวตอนที่ทำกิจกรรมเข้าค่ายที่ฐานทัพเรือสงขลา โดยการสนับสนุนโครงการจาก สรส. ครั้งที่หนึ่ง  ครั้งแรกมีที่เป็นกลุ่มอนุรักษ์คลอง เคยไปปลูกหญ้า มี อบต.ไปจัดปลูกหญ้าแพรก  แล้วก็ทำโครงการอนุรักษ์คลอง มีการทำกิจกรรมได้แก่ ทำฝายกั้นน้ำ  พอมาร่วมกัน กลายเป็นการอนุรักษ์คูคลอง  ขึ้นไปหาต้นน้ำที่คลองจิก ไปหาข้อมูลจากยายปล้องที่หมู่ 8 เห็นบ่อเล็ก ไปถางประมาณ 3 ครั้ง

หลังจากนั้น มาเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง มีกลุ่มวิทยุ ตามไปดู  “ไปเห็นต้นน้ำ ทำให้เห็นต้นน้ำที่มาบรรจบกัน เมื่อก่อนมองไม่ออก

กิจกรรมที่ทำ

  มีการเก็บขยะ มีการปลูกต้นจาก แต่ถูกน้ำเซาะ ทำให้ต้นจากหายไปเกือบหมด  ช่วยยึดหน้าดินไว้ได้ เป็นจากสาคู นายกไปติดต่อมาปลูก ปี2551 ต่อมาก็มาปลูกที่คลองล้าต้นมะม่วง

  “ทำเป็นกลุ่ม แบ่งแรงผลัดเปลี่ยนกัน มีการประชุมกันก่อนแล้วแบ่งหน้าที่กันทำ กลุ่มมี 20 คน เวลาสื่อสาร ก็ให้หัวหน้ากลุ่ม แต่ละหมู่บ้านติดตาม”

  “เกิดจากการอนุรักษ์แม่น้ำ เมื่อก่อนทิ้งขยะลงแม่น้ำลำคลอง แต่ตอนนี้ พ่อแม่ให้การสนับสนุน”

สิ่งที่อยากจะทำคือ อนุรักษ์ให้แม่น้ำสะอาด มีการรณรงค์ความสำคัญของต้นน้ำ เพื่อให้คนในชุมชนอย่าทิ้งขยะลงในแม่น้ำ อยากพาเพื่อนดูต้นน้ำ เพื่อจะมีการอนุรักษ์ เก็บขยะในคลองไปแยก ทำงานร่วมกับกลุ่มขยะ ปลูกต้นสาคู

ความเปลี่ยนแปลง

“พาเพื่อนๆไปดู เห็นเพื่อนเปลี่ยนแปลง มีคนๆ กินขนม หมู่ 1 กับ หมู่ 4 จะมีการอนุรักษ์สัตว์ จะทำให้ได้เรื่องประวัติความเป็นมาของสายน้ำ รู้สภาพของสายน้ำ รู้ประวัติพื้นที่ แม่น้ำทุกสาย จะเชื่อมถึงกัน เช่น คลองจิก ท่าหินผุด”

  กิจกรรมที่จะทำให้อนาคต

o  จะทำฝาย พื้นที่ต้นน้ำ  ทำเป็นจุดเรียนรู้ บอกแนวคิดในการณรงค์เพื่อไปใช้ในชุมชนอื่น

o  นำแนวคิดไปแลกเปลี่ยนกับเพื่อนๆ และฝากไปบอกเพื่อนๆ ที่อยู่ในโรงเรียนเพื่อนำแนวคิดไปบอกกับนายกหรือผู้นำชุมชน นำไปทำกับชุมชนของเขา ไปฟื้นของเดิมที่มีอยู่

o  ไปถามคนเฒ่าคนแก่ เรื่องทำฝาย ถ้าไม่ให้น้ำแล้ง  แนวทางการอนุรักษ์ ก็มีการถามป้าผ่องถึงการอนุรักษ์ โดยการใช้วัสดุธรรมชาติ ดูจากสื่อโทรทัศน์ เขาใช้หินกับท่อนไม้

จากกิจกรรมที่ยกมาเป็นตัวอย่างคงทำให้เห็นว่า เมื่อกลุ่มผู้ใหญ่ใจดี 3 กลุ่มรวมตัวกัน ไม่ว่าจะเป็นภาคนโยบายคือส่วนท้องถิ่นที่ให้การสนับสนุน กลุ่มพี่เลี้ยง ซึ่งเป็นกลุ่มเยาวชนที่ได้รับการฝึกอบรมจนสามารถเป็นแกนนำ และกลุ่มพ่อแม่ของเด็กและเยาวชนที่เห็นความสำคัญให้การส่งเสริมให้เด็กๆ ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน แน่นอนว่า อนาคตของชาติเหล่านี้จะกลายเป็นผู้ใหญ่ที่มีพลังสร้างสรรค์และมีจิตอาสา