สานสายใย เพื่อนช่วยเพื่อน
RATTANAPORN

พื้นที่ ศูนย์ฝึกอบรมเด็กและเยาวชน เขต 9 จังหวัด สงขลา


ในขณะที่เยาวชนชายกลุ่มหนึ่งในศูนย์ฝึกฯ ฝึกงานอาชีพการสานเส้นใยพลาสติกเป็นกระเป๋าสตางค์ ตะกร้าใส่ของ กล่องใส่กระดาษชำระ และอีกหลายรูปแบบ พวกเขาเริ่มมองเห็นเพื่อนใกล้ตัวที่อยู่ร่วมกัน ขาดของใช้ส่วนตัว เช่น สบู่ ยาสีฟัน แป้ง ไม่มีญาติมาเยี่ยม เพื่อนบางคนที่ใกล้ถูกปล่อยตัว ฐานะทางบ้านยากจน ไม่มีเงินติดตัว ไม่มีอาชีพ เมื่อมีเวลาว่างจะใช้เวลาให้หมดไปด้วยสิ่งที่ผิดกฎระเบียบ เช่น สักตามร่างกาย ลักเล็กขโมยน้อย แบ่งพรรคแบ่งพวกแล้วทะเลาะวิวาทกัน ปัญหาที่มองเห็นเหล่านี้ ทาให้พวกเรากลุ่มพลังคนหัวรั้นเพื่อสังคม เกิดความมุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือเพื่อน ด้วยการระดมทุนจากทาเครื่องสานพลาสติกในโครงการสานสายใยเพื่อนช่วยเพื่อน

  • พวกเราเริ่มหาความรู้ จากวิทยากร ฝึกฝนตนเองให้มีความชำนาญในรูปแบบผลิตภัณฑ์ คิดไว้เสมอว่าต้องทำให้สวยที่สุด เพื่อสะดุดตาให้คนได้อุดหนุนมากๆ
  • ประชาสัมพันธ์ทุกวันพุธให้เพื่อนในศูนย์ฝึกฯมาสมัครเป็นสมาชิก ขณะนีมีสมาชิกแล้วจำนวน 30 คน
  • เปิดห้องเรียนสานเส้นใยพลาสติก ช่วยกันตกแต่งห้องเรียนให้สวยงาม โดยพวกเรานี่แหละช่วยกันเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ เทคนิคการสาน แบบเป็นกันเองหรือแบบ “เพื่อนสอนเพื่อน”
  • ฝึกสมาธิจดจ่ออยู่กับงานสาน และผ่อนคลายด้วยการเงยหน้ามายิ้มกับเพื่อนบ้าง สิ่งนี้เป็นเสมือนการปลดปล่อยให้เวลาไหลผ่าน โดยมิให้เรื่องของความบอบช้าในชีวิตเข้ามาเกาะกุมจิตใจ กระบวนการเล็กๆนี้ช่วยให้ทางานอย่างมีความสุข และผลิตเครื่องสานออกมาสวยงาม ขายได้ไม่ยาก มีรายได้มาช่วยเหลือตนเองและเพื่อน เช่น ซื้อของใช้ส่วนตัว มอบเงินส่วนหนึ่งให้เพื่อนที่เป็นสมาชิกเก็บไว้ตั้งตัวเมื่อถูกปล่อย จนเกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันช่วยลดช่องว่างระหว่างพรรคพวกได้

­

กลุ่มพลังคนหัวรั้นเพื่อสังคม มองว่าการทำงานที่ผ่านมาได้สร้างพื้นที่ชีวิตให้กับเพื่อนที่ต้องการหลีกหนีจากความวุ่นวายสับสนในสถานควบคุม หลีกหนีจากการไปรวมกลุ่มกันแล้วทำผิดกฎระเบียบ และ สร้างความหวังในการพึ่งพาตนเองภายหลังจากอิสรภาพกลับคืนมา รวมถึงสร้างรายได้ให้เพื่อนมีเงินซื้อของใช้ส่วนตัวในชีวิตประจำวัน

สิ่งสาคัญที่มาพร้อมๆกันกับการฝึกอาชีพ คือการพัฒนาตนเอง รู้สึกว่า การเป็นครูที่ต้องสอนเพื่อน ต้องฝึกที่จะสื่อสารให้เพื่อนเข้าใจด้วยการพูดหรือการทำให้ดู และต้องจัดการกับอารมณ์เมื่อเพื่อนไม่เข้าใจหรือทำไม่ได้ดั่งใจ ต้องมีความรับผิดชอบมากในการจัดการ ต้องตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์โดยเฉพาะสิ่งของมีคมที่ต้องเข้มงวดเป็นพิเศษ การจัดการตรงนี้ต้องระมัดระวังไม่ให้เพื่อนรู้สึกว่าไม่ไว้ใจเขาและทะเลาะกัน ซึ่งจะส่งผลให้โครงการถูกสั่งให้เลิกเอาง่ายๆ

ที่เห็นได้ชัดเจนอีกอย่างคือเรื่องของสมาธิ การที่เราและเพื่อนมีใจจดจ่ออยู่กับชิ้นงานนั้นทาให้รู้สึกว่า ใจเย็นลง มีสมาธิมากขึ้น รวมถึง มีความสุขและภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือเพื่อนที่เขาลาบากกว่าเรา

นี่คือพลังของชีวิต ที่ก่อตัวเป็นพลังของพลเมืองเยาวชน