"การออกแบบกิจกรรมว่ายากแล้ว การโค้ชให้น้องในทีมออกแบบกิจกรรมยากยิ่งกว่า"
คำรณ นิ่มอนงค์

­

     วันนี้ผมลงพื้นที่ไปพบน้องๆทีมแพะโจ๋ โดยมีเป้าหมายเพื่อทำให้น้องเห็นคุณค่าของการลงไปทำกิจกรรมร่วมกับเกษตรกรผู้เลี้ยงแพะ ครั้งนี้ใจหนึ่งผมก็เตรียมกิจกรรมที่จะทำกับน้องไว้แล้ว แต่อีกใจหนึ่งผมก็อยากให้น้องในทีมผมได้ฝึกสร้างกระบวนการดูบ้าง ซึ่งผมเลือกอันหลัง

­

­

ซึ่งน้องผมก็ตั้งใจเต็มที่ในการออกแบบกิจกรรม แต่ด้วยความประหม่าก็ทำให้เสียสมาธิไปบ้างแต่โดยภาพรวมก็สามารถพาน้องๆ ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งข้อสังเกตที่ได้จากการเปิดพื้นที่ให้น้องในทีมได้แสดงศักยภาพนี้ทำให้ผมพบบทเรียนที่สำคัญว่า

­

1. น้องจะออกแบบกิจกรรมผ่านการนำกิจกรรมที่ผมทำหลายๆ ครั้งมาประยุกต์ใช้ ข้อดีคือน้องมีไอเดียใหม่ๆ ที่น่าสนใจต่อยอด แต่ข้อจำกัดคือมันทำให้เกิดมีเงื่อนไขซ้อนเงื่อนไขทีนี้ทำให้เกมส์ปล่อยโจทย์ยากมาก

­

2. ผมพลาดตรงที่ไปคอมเมนต์เป้าหมายของน้องตอนที่น้องเอากิจกรรมที่ออกแบบมาเล่าให้ผมฟัง ทำให้น้องเกิดความกดดัน ทีนี้น้องกังวล และเอาเป้าหมายทั้งของผมกับของตัวเองมารวมไว้ในเกมเดียวกันทำให้ครั้งนี้การถอดบทเรียนต้องย่อยออกเป็นหลายขั้นตอน

­

3. การใส่เงื่อนไขในกิจกรรมต้องพึงเตือนตัวเองไว้เสมอว่าใส่เงื่อนไขอะไรไปบ้างก็จงช้อนเงื่อนไขเหล่านั้นกลับมาถอดบทเรียนด้วยไม่เช่นนั้นอารมณ์ของน้องๆ ที่ทำกิจกรรมจะคาใจ และรู้สึกว่าต้องการคำตอบจากการทำกิจกรรม

­

4. จงเชื่อมั่นว่าน้องเราทำได้ เรามีหน้าที่ประคองให้เขาได้ลงมือทำ ปล่อยให้เขาเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วยตนเองเมื่อดูอาการว่าเขาเหนื่อย และไปต่อไม่ได้หน้าที่เราคือ ต้องรีบลงไปช่วย ซึ่งการช่วยนั้นไม่ใช่การไปตายเอาดาบหน้าแต่เราต้องคิดซ้อน และเตรียมตัวไปอีกขั้นกับกิจกรรมที่น้องทำ

­

5.ผมยังคงยืนยันชัดเจนว่าเกมเป็นเพียงเครื่องมือที่จะนำเราและน้องไปสู่เป้าหมาย สิ่งที่สำคัญกว่านั้นคือพี่เลี้ยงอย่างเราต้องกำหนดเป้าหมายที่เราจะทำให้ชัด

­

ขอบคุณน้องๆสำหรับการเรียนรู้ร่วมกันวันนี้