Eng Easy “พี่สอนน้อง” สนุกกับวิชาภาษาอังกฤษ

เพราะเห็นว่าน้องๆ ชั้น ม.1 ไม่ชอบเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นวิชาสำคัญ และนับวันจะทวีความจำเป็นต่อชีวิตมากขึ้น ในทางกลับกัน หากน้องมีทัศนคติที่ดีต่อวิชานี้ตั้งแต่ยังเล็ก ก็จะเป็นพื้นฐานที่ดีสำหรับการต่อยอดในวันข้างหน้า... จากปัญหาและโอกาสข้างต้นนี้ เป็นโจทย์ท้าทายให้ 5 สาวกลุ่มรากแก้ว ต.กันทรอม อ.ขุนหาญ จ.ศรีสะเกษ เห็นความสำคัญของการสร้างทัศนคติที่ดีต่อวิชาภาษาอังกฤษให้น้อง และรวมตัวกันจัดทำ “โครงการ Eng Easy สานใจเติมฝันเรียนรู้ร่วมกันจากพี่สู่น้อง” ขึ้น โดยใช้วิธี “พี่สอนน้อง” เปิดใจน้องๆ ให้กล้าคิด กล้าแสดงออก มีความสุข และสนุกกับการเรียนวิชาภาษาอังกฤษเพิ่มมากขึ้น




“มุ่ย” นางสาวสตรีรัตน์ บังคม แกนนำกลุ่มจากชั้น ม.6 โรงเรียนกันทรอมวิทยาคม เล่าที่มาของโครงการว่าเกิดจากความตั้งใจของมุ่ยและเพื่อนที่ต้องการทำสิ่งที่เป็นประโยชน์เพื่อชุมชน โดยได้รับคำแนะนำจาก “พี่รุ่ง” รุ่งวิชิต คำงาม หัวหน้าโครงการพัฒนาเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ ให้เริ่มต้นทำจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวที่สามารถทำได้และมีความสุขไปกับมัน ก่อนจะขยับขยายไปสู่เรื่องอื่นที่ใหญ่และไกลตัวขึ้น




จากคำแนะนำนี้เมื่อมองย้อนกลับมาที่โรงเรียนตัวเอง มุ่ยจึงเห็นปัญหาข้างต้น เมื่อนำมาปรึกษากับทีมประกอบด้วย "อ๋อม" นางสาวกรรณิการ์ เมธา ชั้น ม. 6 "ฟาง" นางสาวฐิติมา พรมสวัสดิ์ และ "หมวย" นางสาวปิยธิดา เดชธรรมรงค์ ชั้น ม.3 ทั้งหมดก็เห็นตรงกันว่าจะทำโครงการสอนภาษาอังกฤษให้น้อง

เมื่อได้โจทย์โครงการ มุ่ยและเพื่อนจึงช่วยกันระดมความคิดว่า จะสอนภาษาอังกฤษอย่างไรให้น่าสนใจ และไปขอคำปรึกษาจากครูสุวิทย์ เลิศศรี หมวดวิชาภาษาต่างประเทศเพื่อเก็บข้อมูลว่าในห้องเรียนน้องๆ มีพฤติกรรมเป็นอย่างไร ชอบให้ครูสอนแบบไหน ในส่วนนี้มุ่ยซึ่งมีประสบการณ์เรียนพิเศษยังพยายามจดจำวิธีการสอนจากที่เรียนพิเศษมาปรับใช้ และสืบค้นเพิ่มเติมจากเว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษ

มุ่ยอธิบายต่อว่าถัดจากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการแบ่งบทบาทหน้าที่ตามความถนัด มุ่ยกับฟางรับผิดชอบเตรียมเนื้อหาและเป็นผู้สอน หมวยรับหน้าที่ถ่ายภาพ ส่วนอ๋อมรับผิดชอบเรื่องการบริหารจัดการ โดยมี “ซัน” นางสาวอภิชญา เทาศิริ น้องเล็กจากชั้น ม.2 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ มาเสริมทีมช่วยเตรียมเกม เพลง และการ์ตูนไว้สร้างบรรยากาศ โดยวางแผนสอนครั้งละ 1 ชั่วโมงในช่วงเย็นวันพฤหัสฯ และวันศุกร์ รวม 10 ครั้ง





หลังเปิดรับสมัครได้ไม่กี่วันก็มีน้องมาสมัครเข้าเรียนถึง 27 คนจนแอบรู้สึกหนักใจเพราะเกินโควตา 15 - 20 คนที่ตั้งใจไว้ แต่ทีมก็ไม่หวั่น เพราะน้องๆ มาด้วยความตั้งใจ ทีมจึงพร้อมจะสอนอย่างเต็มที่

บรรยากาศเปิดเรียนวันแรก มุ่ยและทีมเริ่มต้นด้วยการชี้แจงให้น้องทราบว่าโครงการนี้ทำอะไร เพื่ออะไร และเปิดโอกาสให้น้องแสดงความคิดเห็นว่าอยากเรียนแบบไหน มีการทำแบบทดสอบเพื่อวัดความรู้ก่อนเรียน ในคาบต่อๆ มาจึงเปลี่ยนมาเริ่มต้นด้วยการเปิดเพลงภาษาอังกฤษรอน้องเข้าห้องจนครบและชี้แจงว่าวันนี้จะได้เรียนอะไร เรียนไปเพื่ออะไร ต่อด้วยการเปิดการ์ตูนภาษาอังกฤษให้น้องชมและร่วมกันตอบคำถาม เป็นการอุ่นเครื่องก่อนเข้าสู่เนื้อหาหลัก

สาระสำคัญที่สอนน้อง มุ่ยบอกว่าเน้นไปที่ทักษะการฟัง การอ่าน และการออกเสียงเพราะจากประสบการณ์ เด็กๆ ไม่กล้าพูดภาษาอังกฤษเพราะกลัวออกเสียงไม่ถูก เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญที่พวกเธอจะช่วยสร้างพื้นฐานที่ดีให้น้องได้

ระหว่างที่มุ่ยและฟางสอนอยู่หน้าชั้น อ๋อม หมวย และซัน จะเป็นผู้ช่วยอำนวยความสะดวก ถ่ายภาพ ถ่ายวิดีโอ และคอยส่งสัญญาณให้มุ่ยและฟางรู้อาการของน้องว่าเป็นอย่างไร ถ้าน้องไม่สนใจก็ต้องหาวิธีกระตุ้น ถ้าน้องไม่มีสมาธิหรือกระตุ้นไม่ขึ้นจริงๆ ก็ต้องพัก เล่นเกมบ้าง กินขนมบ้าง และหลังการสอนหากมีเวลาเหลือก็จะให้น้องฝึกทำแบบฝึกหัด หากมีเวลาไม่พอก็ให้น้องกลับไปทำเป็นการบ้าน แต่ต้องไม่ให้มากเกินไปเพราะน้องมีการบ้านวิชาอื่นอยู่แล้ว





มุ่ยบอกด้วยว่า สิ่งที่ทั้งห้าคนต้องทำทุกครั้งหลังการสอนคือ “การขอบใจน้อง” ที่ให้ความร่วมมือ และบอกว่าครั้งต่อไปจะจัดกิจกรรมอะไร แบบไหน สุดท้ายเมื่อน้องกลับบ้านแล้ว ทีมจึงมาสรุปการทำงานร่วมกัน บางครั้งก็เปิดวิดีโอที่ถ่ายไว้มาดูว่าบรรลุวัตถุประสงค์ไหม เพื่อนำไปปรับปรุงการสอนครั้งต่อไปให้ดีขึ้น

ด้วยความตั้งใจและความพยายามไม่ลดละ ผลความสำเร็จก็เริ่มเกิด น้องบางคนมีความมั่นใจในวิชาภาษาอังกฤษมากขึ้น เช่น น้องศักรินทร์ เปลี่ยนจากเด็กขี้อาย ไม่ตั้งใจเรียน ไปเป็นเด็กที่กล้าแสดงออก ตั้งใจเรียน จนได้เข้ากลุ่มพิเศษซึ่งโรงเรียนฝึกซ้อมไว้ไปแข่งขันภาษาอังกฤษ


“เหมือนเราดึงศักยภาพของน้องออกมา เพราะจริงๆ เขามีอยู่แล้ว แต่เขาไม่กล้า ไม่รู้จะดึงออกมาอย่างไร เวลาที่อยู่กับพวกหนู ถ้าน้องตอบได้เราก็ปรบมือให้ สร้างกำลังใจให้น้อง ทำให้น้องชอบภาษาอังกฤษมากขึ้น น้องบางคนกล้าคุยกับเรา มีการบ้านก็มาถามเรา ปกติแล้วเด็กจะไม่กล้าคุยกับครู แต่กับเราที่เป็นรุ่นพี่ เขาจะกล้ามากกว่า” มุ่ยสะท้อน



ยิ่งให้น้องทำแบบทดสอบหลังการสอนก็ยิ่งมั่นใจว่าน้องๆ มีพื้นฐานด้านภาษาอังกฤษดีขึ้น ทั้งการพูด การฟัง และการอ่าน พร้อมที่จะเรียนต่อในขั้นที่สูงขึ้น

“การที่น้องกล้าปลดปล่อยตัวเองออกมา จำเป็นสำหรับการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เพราะถ้าน้องพร้อมที่จะเรียนรู้ เขาก็จะสามารถเรียนรู้และต่อยอดอะไรๆ ต่อไปได้” มุ่ยสะท้อนวิธีคิด

สุดท้ายนี้ แกนนำคนเก่งถอดบทเรียนตัวเองหลังทำโครงการด้วยว่า การทำโครงการนี้ยอมรับว่าเหนื่อยกันมาก แต่ก็ถือว่ามุ่ยได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่า ได้เรียนรู้อะไรหลายอย่าง และชัดเจนมากขึ้นกับการเลือกคณะเรียนต่อเพื่อมาเป็นครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ เช่นเดียวกับ “หมวย” บอกว่าการทำงานกับพี่ๆ ทำให้หมวยเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็นคนรับผิดชอบ ตรงต่อเวลา และจัดสรรเวลาได้ถูกต้อง ส่วน “อ๋อม” บอกว่า ได้พัฒนาตนเองให้มีความละเอียดรอบคอบ และรู้จักการวางแผน รับผิดชอบทั้งงานบ้านและงานที่โรงเรียน

“โครงการนี้ถึงมันจะไม่ได้ให้เกรดอ๋อม แต่มันทำให้ชีวิตของอ๋อมมีความหมายมากขึ้น”
เจ้าตัวสะท้อน





ขณะที่ “จิราวรรณ เทาศิริ” ครูที่ปรึกษาของกลุ่มเผยว่า รู้สึกพอใจเกินคาด เพราะนอกจากนักเรียนจะรู้จักกระบวนการทำงานเป็นทีมอย่างที่เธอคาดหวังแล้ว เมื่อเด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านการลงมือทำยังช่วยให้มีทักษะการคิดวิเคราะห์ โดย ครูมีหน้าที่เพียงกระตุกกระตุ้นในบางครั้ง เช่น การตั้งคำถามชวนให้เขาคิด

“โครงการนี้ช่วยให้เด็กพบสิ่งสำคัญที่สุดนั่นคือการเรียนรู้ด้วยตนเอง การค้นพบตนเอง อยากให้เขารู้ว่าเขามีศักยภาพ เหมือนกับที่เขาถามครูแล้วครูไม่ตอบแต่ถามกลับ ซึ่งถ้าเด็กจับได้ก็จะรู้ว่า คำถามนั้นเป็นเสมือนเข็มทิศ จะบอกเขาเสมอว่า ปัญหาบางอย่างถ้าเรามีสติ ยั้งคิด และวิเคราะห์ เราจะหาทางแก้ปัญหานั้นได้ ถ้าหนูมีกระบวนการคิด มีการวางแผนและการจัดการที่ดี มันก็ก้าวข้ามไปได้ นี่คือคำพูดให้กำลังใจ แล้วเราก็เฝ้าดู เฝ้าติดตามเขาตลอดเวลา” ครูจิราวรรณเล่าวิธีการเป็นโค้ชเยาวชนปิดท้าย


­

­

กิจกรรมสอนภาษาอังกฤษให้น้องใน โครงการ "Eng Easy สานใจเติมฝันเรียนรู้ร่วมกันจากพี่สู่น้อง" ของกลุ่มรากแก้ว จึงเป็นอีกหนึ่งภาพจิตอาสาของคนรุ่นใหม่ในจังหวัดศรีสะเกษที่มีสำนึกของความเป็นพลเมือง (Active Citizen) เรียนรู้และพัฒนาตนเองขึ้นมาร่วมดูแลและสร้างสรรค์ท้องถิ่นของตนให้น่าอยู่ โดยเป็นหนึ่งใน 10 กลุ่มเยาวชนในโครงการพัฒนาเยาวชนพลเมืองดีศรีสะเกษ ดำเนินการโดยศูนย์ประสานงานการวิจัยเพื่อท้องถิ่นจังหวัดศรีสะเกษ ในการสนับสนุนของ สสส.และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน)


เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆดังนี้


 

หัวข้อข่าว :

Eng Easy'พี่สอนน้อง'

ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ ประจำวันเสาร์ที่ 15 สิงหาคม 2558

 

 

หัวข้อข่าว :

สปีคสนุกเพราะพี่สอน

ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ประจำวันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม 2558