จากเคยทำกิจกรรมเพื่อปลุกสำนึกให้เด็ก
เยาวชน และผู้ใหญ่ ในโครงการ
“ปลุกพลัง...ฅนรักนาเกลือ” ภายใต้โครงการพลังเด็กและเยาวชนเพื่อการเรียนรู้ภูมิสังคมภาคตะวันตก
โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)
และมูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ให้หันมาสนใจความเปลี่ยนแปลงของนาเกลือในพื้นที่จังหวัดสมุทรสงครามว่า
ภูมิปัญญาเรื่องนาเกลือจากคนรุ่นก่อนที่เคยถ่ายทอดไว้ให้ลูกหลาน กำลังค่อยๆ
เลือนหายไปพร้อมกับพื้นที่นาเกลือที่ถูกแปรเปลี่ยนเป็นบ้านจัดสรร ห้างสรรพสินค้า
และโรงงาน เพื่อให้นาเกลือได้รับการเหลียวแลมากขึ้น
ซึ่งผลสำเร็จจากการทำงานของกลุ่มเยาวชนในโครงการปลุกพลัง...ฅนรักนาเกลือ ก็ทำให้หลายภาคส่วนสนใจเข้ามาศึกษาเรียนรู้ และวันนี้เป็นอีกโอกาสดีที่พวกเขาจะได้ถ่ายทอดความรู้ให้กับกลุ่มเยาวชนจากแดนไกลที่เดินทางข้ามทวีป เพื่อมาเรียนรู้ภูมิปัญญาและความเป็นไทยภายใต้โครงการ American Youth Leadership Program(AYLP) หรือโครงการพัฒนาภาวะผู้นำเยาวชนอเมริกัน
โดย จิมมี่-ธีรเมธ เสือดูมี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฎสวนสุนันทา หนึ่งในแกนนำเยาวชนโครงการปลุกพลัง ...ฅนรักนาเกลือ ได้มาเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ร่วมกับทีมผู้ใหญ่ จากวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเกลือสมุนไพร ตำบลลาดใหญ่ อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรสงคราม
นายพะยง ศรีทอง ผู้ประสานงานโครงการดังกล่าวเล่าถึงรายละเอียดเกี่ยวกับกิจกรรมว่า “โครงการ American Youth Leadership Program ดำเนินการโดยสถาบัน Mansfield center มหาวิทยาลัยมอนทาน่า ได้การสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา ซึ่งประเทศไทยเป็น 1 ใน 6 ประเทศที่ร่วมโครงการนี้ และจัดขึ้นเป็นปีที่ 2 สำหรับโครงการมีนี้วัตถุประสงค์เพื่อสร้างเยาวชนรุ่นใหม่ของอเมริกัน ที่มีความเข้าใจโลกภายนอก เข้าใจวัฒนธรรมที่แตกต่างจากอเมริกัน ผ่านกระบวนการในการทำเวิร์คช็อปและศึกษาดูงานในประเทศไทย 3 สัปดาห์”
นายพะยง กล่าวต่อถึงเหตุผลที่ทางโครงการ AYLP เลือกนาเกลือเป็นแหล่งความรู้แก่นักศึกษา เพราะสอดคล้องกับประเด็นการทำค่ายพัฒนาเยาวชนเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศที่มีผลต่อความมั่นคงทางอาหารของมนุษย์ ซึ่งเกลือเป็นส่วนหนึ่งของระบบอาหารของคนไทย และมนุษยชาติ ทว่าคนส่วนใหญ่กลับไม่ค่อยรู้ที่มาของเกลือ และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ แต่ชุมชนก็ยังมีความพยายามในการปรับตัวเพื่อเอาตัวรอด
อีกประเด็นคือ กระบวนการสร้างเยาวชนให้ตระหนักถึงคุณค่าของนาเกลือ เห็นความสำคัญของภูมิปัญญาพื้นบ้าน และลุกขึ้นมาทำงานร่วมกับพ่อแม่ที่มีอาชีพทำนาเกลือ ซึ่งสามารถแตกยอดในการจัดการผลผลิตเกลือ โดยมีเยาวชนมาเป็นตัวดำเนินเรื่อง จนส่งผลถึงการสืบทอดการทำนาเกลือ การยกสถานะของนาเกลือให้มีคุณค่ามากขึ้น รวมทั้งส่งผลถึงการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชน จากการเพิ่มมูลค่าที่หลากหลายให้กับเกลือ ด้วยกระบวนการทำงานร่วมกันของคนในชุมชน ระหว่างคนรุ่นใหม่กับคนรุ่นเก่า
ทาง Jillian Leigh Topsky หนึ่งในนักศึกษาแลกเปลี่ยนผู้มาดูงาน กล่าวถึงความรู้สึกของตัวเองว่า “การมาประเทศไทยครั้งนี้เป็นครั้งแรกของฉัน มีหลายสิ่งที่ทำให้ฉันประหลาดใจ ทั้งผู้คนและวัฒนธรรมที่แตกต่าง ฉันสนใจวิถีชีวิตของชาวบ้าน การทำผลิตภัณฑ์จากเกลือ และการทำกิจกรรมที่มีผลต่อการดำเนินชีวิตของคนที่นี่”
นอกจากถ่ายทอดความรู้แล้ว จิมมี่กล่าวเพิ่มถึงความสำคัญที่โครงการของพวกเขาต้องถ่ายทอดความรู้แก่เด็กๆ ในพื้นที่ว่า “สิ่งที่จะทำให้นาเกลือยังคงอยู่ได้ คือการให้ความรู้กับคนรุ่นใหม่ เพื่อให้เขานำความรู้ไปเผยแพร่ต่อ และการปลูกจิตสำนึกเรื่องคุณค่าของอาชีพนาเกลือ รวมทั้งสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของภูมิปัญญาการทำนาเกลือ เพื่อให้คนรุ่นใหม่ไม่ละทิ้งนาเกลือ”
หลังการศึกษาดูงานจบลง จิมมี่กล่าวทิ้งท้ายถึงความรู้สึกที่ยังกลับมาเป็นวิทยากรเรื่องนาเกลือ เนื่องจากเคยทำโครงการนี้ และเป็นลูกหลานของชาวนาเกลือ เมื่อมีคนอยากมาเรียนรู้ที่บ้านตัวเองก็ยินดีที่จะมาถ่ายทอด และในชีวิตปัจจุบันที่แม้โครงการเสร็จสิ้น เขาก็ยังนำเรื่องนาเกลือไปบอกต่อให้เพื่อนในมหาวิทยาลัยรู้จัก และใช้ทำวิจัยในวิชาเรียน กระทั่งอาจารย์ผู้สอนสนใจและคิดจะพานักศึกษาคนอื่นมาเรียนรู้ดูงานที่นาเกลือเช่นกัน
และนี่คงเป็นสายใยสำคัญของกระบวนการลงไปเรียนรู้ชุมชนของโครงการพลังเด็กและเยาวชนเพื่อการเรียนรู้ภูมิสังคมภาคตะวันตกที่ยึดโยงคนรุ่นใหม่กับบ้านเกิด ให้เขากลายเป็นพลเมืองผู้มีหัวใจรักในท้องถิ่น ที่ไม่ว่าจะเดินทางออกจากบ้านไปไกลเท่าไร ก็พร้อมอาสากลับมาดูแลบ้านเกิดอยู่เสมอ
เผยแพร่ผ่านสื่อต่างๆดังนี้
|
หัวข้อข่าว : |
ส่งต่อภูมิปัญญานาเกลือสืบสานสายใยพลเมือง ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ ไทยโพสต์ ประจำวันอาทิตย์ที่ 21 สิงหาคม 2559 |
|
หัวข้อข่าว : |
ส่งต่อภูมิปัญญานาเกลือ สืบสานสายใยพลเมือง ขอขอบคุณหนังสือพิมพ์ บ้านเมือง ประจำวันศุกร์ที่ 23 สิงหาคม 2559 |