สัมภาษณ์โครงการ Best Practice การเรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่านโครงการเพื่อชุมชน PBL : โครงการผักมีวิตามินไม่ต้องกินของแพง

ลุกจากเก้าอี้เล่นเกม มาล้อมวงหมูกระทะ สู่รั้วแปลงผักปลอดสารของเยาวชนนครเจดีย์

“เด็กพวกนี้ วัน ๆ ไม่ทำอะไร มั่วสุมกัน ไม่เห็นได้ประโยชน์เลย ไม่เห็นได้เงิน อย่าเผลอให้ลูกของเราเข้ากลุ่มไปกับพวกนี้นะ เดี๋ยวกลายเป็นพวกไม่ได้เรื่อง”

คำพูดของชาวบ้านคนหนึ่งในวันประชุมประชาคมหมู่บ้าน ที่แม้ระบุตัวตนไม่ได้ว่าต้นเสียงนั้นมาจากไหน แต่กลับทิ่มแทงใจ ตัวแทนเยาวชน ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน อย่าง บอล - ศุภโชค ธัญศิริ อยู่ไม่น้อย เพราะนอกจากบอลได้รับตำแหน่งเป็นผู้นำเยาวชนนครเจดีย์ ที่ถูกพาดพิงแล้ว เขากำลังพยายามนำพาน้อง ๆ ในกลุ่ม พิสูจน์ว่าพวกเขาไม่ได้เป็นอย่างที่ผู้ใหญ่หลายคนในหมู่บ้านเข้าใจ


ลุกจากเก้าอี้เล่นเกม

บ้านนครเจดีย์และบ้านหนองเจดีย์เป็นหมู่บ้านที่มีความเจริญก้าวหน้าขึ้นมากกว่าเมื่อก่อน ผู้ปกครองส่วนใหญ่ทำงานนอกบ้านเป็นหลัก ปล่อยเยาวชนอยู่กับผู้สูงอายุ จึงไม่ได้ใช้ช่วงเวลาอยู่ด้วยกันในครอบครัวมากนัก จึงขาดคนชักชวนเด็กๆ ไปทำกิจกรรมอื่นที่เกิดประโยชน์ นอกเหนือจากการเรียน เช่น การออกกำลังกาย หรือท่องเที่ยวทัศนศึกษา ส่งผลให้เกมออนไลน์คุกคามเข้ามาท้าทายความสัมพันธ์ทั้งในระดับครอบครัว และสังคม ชวนให้แข่งขัน มีขั้นตอน ได้รับรางวัล เมื่อทำภารกิจสำเร็จมีการสวมบทบาทสมมติในเกม โดยไม่ต้องเปิดเผยว่าเป็นใคร เล่นกันเป็นกลุ่มได้ เล่นด้วยกันได้ ชวนกันเล่นได้เพิ่มความสนุกสนาน

“เมื่อก่อนพวกเราเล่นเกมติดเกมหนักกันจริง ๆ เล่นเกมที่บ้านผมนี่แหละ ยายใจดี ไม่ดุ เล่นบ้านใครบ้านมันไม่สนุกนะ ยกมาเลย คอมคนละเครื่อง ตั้งเรียงกัน ได้สื่อสารกันใกล้ ๆ เป็นทีมเดียวกัน อารมณ์ว่า เล่นไปตะโกนไปยิงสิยิงสิ มันได้อรรถรส” บอล เล่าด้วยสีหน้าสนุก

แต่เมื่อเล่นเกมกันจนอิ่มตัวแล้ว กลับพบว่าทั้งเสียการเรียน ไม่ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ และทำให้เยาวชนเป็นที่เอือมระอาของผู้ปกครอง บอลจึงชักชวนน้อง ๆ ลองทำกิจกรรมอย่างอื่นที่มองว่าสร้างประโยชน์และพัฒนาทักษะวิชาชีพ

“ผักในตลาดเน่าเสียอย่างรวดเร็ว และถูกทิ้งหลังตลาดเป็นจำนวนมาก” บอล เอ่ยถึงสิ่งที่สังเกตเห็น

ผักจำนวนมหาศาลนี้ไม่มีรอยแมลงเจาะเลยแต่เน่าเร็ว เป็นเรื่องน่าฉงน “หากชาวบ้านในชุมชนทานจะเกิดผลเสียต่อสุขภาพอย่างไร?” กลุ่มเยาวชนตั้งคำถามต่อ

แน่นอนว่าคำตอบที่ได้ คือ การใช้สารเคมีฉีดพ่นไม่ให้แมลงไต่ตอม ทำลายพืชผล แต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยยืดอายุได้นานพอเมื่อถูกเก็บจากต้นมาวางแผงขายในตลาด

บอลบอกว่าพวกเขาทั้งกลุ่มชอบทานหมูกระทะ แน่นอนว่ามีผัก และ คนทั่วไปบริโภคผักอยู่แล้วในชีวิตประจำวัน จึงอยากแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเน้นการปลูกผักทานเองในชุมชน เน้นผักโตง่ายไม่ใช้ยาฆ่าแมลง หรือที่เรียกว่า ผักปลอดภัยและปลอดสารพิษ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวมกลุ่มเยาวชนในชุมชนทำกิจกรรม ทำให้เยาวชนและคนในชุมชน ตระหนักรู้เกี่ยวกับอันตรายของสารเคมี และเพื่อกระชับความสัมพันธ์ของเยาวชนกับคนในชุมชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ โครงการผักมีวิตามินไม่ต้องกินของแพง ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน หลังจากเคยรวมกลุ่มกันทำ “โครงการขยะเยอะแยกแยะนะจ๊ะ” ในตลาด จนได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี


ล้อมวงหมูกระทะ

เมื่อสินค้าและอาหารสำเร็จรูปเข้ามาแทนที่เพื่อความสะดวกสบาย ผู้คนจึงทำอาหารกินเองน้อยลง เช่นเดียวกับคนในหมู่บ้านนครเจดีย์และบ้านหนองเจดีย์ เมนูสำเร็จรูปยอดนิยมของชาวบ้าน รวมถึงบอลและเพื่อนๆ คือ หมูกระทะ ที่มีส่วนประกอบหลักคือ เนื้อสัตว์ ลูกชิ้นแปรรูป และผัก

“เรากินผักเกือบทุกวัน เมนูที่กลุ่มเราชอบคือ หมูกระทะ กินทุกวันยังได้ แต่ผักที่กินมักมีรสขมปี๋เลย แถมได้กลิ่นคล้ายสารเคมี ไม่อร่อย เหม็นขม เราเลยคิดว่าขนาดเรายังไม่อยากกิน ชาวบ้านก็คงไม่อยากกินเหมือนกัน แต่ไม่มีทางเลือก เพราะถูกมัดมือซื้อจากพ่อค้าแม่ค้า สุขภาพของคนในชุมชนเลยไม่ดีไปด้วย เราเลยอยากให้ทั้งชุมชนมีผักปลอดสาร อร่อยๆ กินกัน” ธนพนธ์ อินทรเสม หรือ ทิว แกนนำเยาวชนอีกคนกล่าวด้วยสีหน้าขบคิด

“เราคิดแค่ว่า ต้องการกินผักปลอดสารพิษ กินผักที่ไม่ต้องมาล้างน้ำเกลือเหมือนทุกทีที่เราทำ ไม่มีอะไรมากมายเลย ถ้าเป็นผักที่เราไปซื้อมาแล้วเอามาใส่กิน ตอนกินก็จะกังวลว่าอันนี้มันมีสารเคมีหรือเปล่า ถ้าเป็นผักที่เราปลูกเอง ดูแลมันทุกวัน เราก็ไม่ต้องกังวล กินได้สบายใจ เวลาพวกเราเตรียมหมูกระทะ ต้องล้างผักนาน ไหนจะหมักหมูอีก ตั้งแต่เราปลูกผักเอง ไม่ต้องล้างผักหลายรอบแล้ว ล้างดินออกแค่นั้น แล้วเรากินได้ โอเคนะ มีความสุขกัน” บอล กล่าวเสริมถึงแรงบันดาลใจในการทำโครงการที่เกิดจากการล้อมวงกินหมู่กระทะ

นอกจากนี้ในตลาดนัดทุกวันอังคาร สิ่งที่เยาวชนสังเกตเห็นคือชาวบ้านเกือบทุกคนเข้าไปในตลาดเพื่อหาซื้อผัก ซึ่งไม่สามารถทราบได้เลยว่าผักที่พ่อค้าแม่ค้านำมาจำหน่ายในตลาดปลอดภัยจากสารพิษหรือไม่

“ เรามักประชุมงาน วางแผน ขั้นตอนการทำโครงการ พูดถึงวิธีการ ปัญหา อุปสรรคของโครงการ ตอนที่กินหมูกระทะด้วยกัน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ผ่อนคลาย ไม่จริงจังเกินไป พวกเรามีกัน 7 คน คุยแบบวัยรุ่น ต้องเข้าถึงใจ คุยระหว่างกินนี่แหละได้ประโยชน์สุด ๆ ” บอล กล่าวจริงจัง


รั้วแปลงผักปลอดสาร

หลังตัดสินใจชัดเจนว่าจะปลูกผักกินเอง กลุ่มเยาวชนจึงมองหาสถานที่ปลูก ซึ่งได้รับความเอื้อเฟื้อจาก พี่ไก่ - นภดล เพียรพิชัย พี่เลี้ยงโครงการ โดยปรับพื้นที่เดิมจากป่ากล้วย ถางพื้นที่รกออก ปรับหน้าดิน ได้พื้นที่ขนาดเท่าสนามบาส เพื่อปลูกผักปลอดสารฝีมือเยาวชน

“ตรงนี้เดิมเป็นป่ากล้วย เป็นต้นกล้วยหมดเลย พี่ไก่ให้พวกผมลงมือทำกันเอง ไม่ต้องจ้างใครทั้งนั้น ไปฟันต้นกล้วย ฟันจนเรียบ แล้วขนออก จากนั้นก็ปรับหน้าดินให้เรียบ ให้เป็นแปลงผักขึ้นมาได้ เราลงทุนหน่อย จ้างรถไถมาไถ ปรับหน้าดิน แล้วมาเริ่มปลูกกัน เอาเด็ก ๆ ในชุมชนที่ทำโครงการ และน้อง ๆ ที่สนใจ นอกจากพวกเรายังมีอีกส่วนที่เป็นน้อง ๆ ในหมู่บ้านอยาะมาทำ แต่อายุยังน้อย ก็เลยให้มาช่วยทำแปลงทำอย่างอื่นไป เริ่มจากตรงนั้น” บอล กล่าว

เมื่อปรับหน้าดินเรียบร้อย กลุ่มเยาวชนจึงซื้ออุปกรณ์ทำสวน จอบ เสียม และเมล็ดพันธุ์ผัก เน้นที่ปลูกง่าย ได้ทานเร็ว เป็นผักที่เห็นในเซ็ทหมูกระทะ อาทิ คะน้า ผักกาดขาว ผักกาดจ้อน พริก ผักบุ้ง กระเจี๊ยบ และกวางตุ้ง

ข้อมูลจากการสำรวจพืชผักและผลไม้ในท้องตลาด ประจำปี 2562 จากเครือข่ายเตือนภัยสารเคมีกำจัดศัตรูพืชแห่งประเทศไทย จากหน่วยงานราชการ เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล สมาชิกสภาเกษตรกรแห่งชาติ องค์กรผู้บริโภค และภาคประชาสังคมในจังหวัดต่าง ๆ โดยเก็บตัวอย่างทั้งหมด 286 ตัวอย่างจากห้างค้าปลีก ตลาดสดทั่วไปครอบคลุมผัก 15 ชนิด และผลไม้ 9 ชนิดที่ประชาชนนิยมบริโภค ส่งตรวจห้องปฏิบัติการที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน ISO-17025 ในสหราชอาณาจักร พบว่า ผักผลไม้มีสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานสูงถึงร้อยละ 41 ผักที่พบสารพิษตกค้างเกินค่ามาตรฐานมากที่สุดคือ ผักกวางตุ้ง คะน้า กะเพรา ผักชี พริก กะหล่ำดอก และผักชี โดยพบ 10, 9, 8, 7, 7, 7 ตัวอย่างจาก 12 ตัวอย่างตามลำดับ เมื่อเปรียบเทียบระหว่างผักและผลไม้ที่ปลูกในประเทศกับผลไม้นำเข้าพบว่า ผลไม้นำเข้าพบการตกค้างร้อยละ 33 แต่ ที่ผลิตในประเทศพบสารพิษตกค้างเกินมาตรฐานสูงถึงร้อยละ 48.7

ข้อมูลนี้แสดงให้เห็นว่าผักตามตลาดสดหรือห้างร้านมักมีที่มาไม่แตกต่างกันมากนักและมีสารพิษเจือปนเกือบร้อย 50 เรียกว่าครึ่งต่อครึ่งเลยทีเดียว ฉะนั้นการที่เยาวชนนครเจดีย์ลุกขึ้นมาปลูกผักด้วยตัวเอง และรณรงค์ให้คนในชุมชนเห็นถึงพิษภัยของพืชผักที่บริโภคในแต่ละวัน เป็นเรื่องที่มาถูกทาง อย่างน้อยๆ โครงการได้เป็นแรงกระเพื่อมให้คนในพื้นที่หมู่บ้านนครเจดีย์และบ้านหนองเจดีย์ ฉุกคิด และหันมาบิโภคผักปลอดสารพิษ เพื่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อมที่ดี


แปลงความรู้ ปลูกผักงาม

แปลงผักขนาดเท่าสนามบาสที่พวกเขาลงแรงปลูกสร้าง เป็นสถานที่ทดลองปลูกผักซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพราะพวกเขาไม่เคยทำมาก่อน เป็นความมานะของเยาวชนอย่างต่ำ 7 คน และเยาวชนตัวน้อยที่ออกแรงหลักไม่ได้แต่ช่วยพรวนดินรดน้ำหลักเลิกเรียน

“น้อง ๆ ที่ยังไม่มีแรงขุดดิน ช่วยหว่านเมล็ดและพรวนดินรดน้ำ หลังเลิกเรียน บางคนมาได้ก็มา มาไม่ได้ก็เวียนกันไปเป็นวันถัดไป”ทิว กล่าว

นอกจากนี้ยังมี ลุงมูล ปราชญ์ชาวบ้านผู้เชี่ยวชาญเรื่องแปลงผักมาให้ความรู้ถึงแปลงผัก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการขุดดิน การพรวนดิน และการใส่ปุ๋ย

“พี่ไก่เป็นคนไปติดต่อมาลุงมูลให้มาช่วยสอน ลุงแนะนำว่าผักชนิดไหนควรปลูกช่วงไหน รดน้ำแบบไหน เราไม่ได้ใช้สารเคมีเลย ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ ปุ๋ยขี้วัว ปุ๋ยขี้ไก่ มาจากธรรมชาติหมด” บอล กล่าวเสริม

เยาวชนต่างลองผิดลองถูกด้วยตนเองจนสำเร็จกลายเป็นแปลงผัก มีผลผลิตเหลือกิน และส่งต่อนำไปขายเกิดรายได้มาหมุนเวียนในกลุ่ม ทิวเล่าถึงประสบการณ์ปลูกผักอย่างจริงจังเป็นครั้งแรกแต่กลับปลูกไม่ขึ้นอย่างตื่นเต้นว่า

“ครั้งแรกน่าจะปลูกเป็นผักกาด ผมปลูกพร้อมกับคนอื่น แต่ของคนอื่นโตขึ้นหมดแล้ว ของผมไม่ขึ้นเลยสักต้นเดียว ผมก็ไปถามคนอื่น ถามลุงมูลว่า ทำไมของผมไม่ขึ้น สรุปแล้วคนอื่นใส่ขี้ไก่ในแปลงนิดเดียว แต่ผมใส่เยอะอยู่คนเดียว รอบที่สองผมก็ลงแปลงปลูกใหม่ ปลูกผักกาดเหมือนเดิม แต่รอบนี้ผมใส่ขี้ไก่นิดเดียว มันก็เลยขึ้นสำเร็จ”

“เราต้องดูแลมันนะ ต้องเอาใจใส่ และต้องรับผิดชอบมัน มันไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องทำ แต่มันคือความสนุก พอตกเย็นไปรดน้ำผัก เราก็ไปเล่นน้ำกัน น้อง ๆ ก็มีความสุข บางวันพี่ไก่บอกว่ามากินหมูกระทะกัน ไปเด็ดผักมา มันก็มีความสุข ผักที่เราปลูกเอง มันรู้สึกปลื้มปริ่ม” บอล กล่าว

นอกจากกินอร่อย อิ่มท้อง อิ่มใจแล้ว กลุ่มเยาวชนยังได้เรียนรู้เรื่องระบบการวางระบบน้ำเพื่อรดผัก โดยมีผู้ใหญ่ใจดีจากสถาบันหริภุญไชย อำเภอลี้ เป็นผู้ให้ความรู้

“เรื่องการดูแลไม่ให้แมลงกินผัก เอาน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำตาลน้ำอ้อย แล้วเอามาราดผัก ใส่น้ำ 1 บัวรดน้ำ แต่ใส่น้ำตาลแค่ 2 ก้อน ใส่น้ำส้มสายชูไป 4 ช้อนโต๊ะ เป็นสูตรป้องกันไม่ให้แมลงมากันผัก ผักงอกงามเลย ตอนเอาไปขาย ชาวบ้านเขาไม่เชื่อว่าเราไม่ใส่สาร” บอล กล่าว

“ตื่นเต้นที่สุดสำหรับผมคงเป็นตอนเดินระบบน้ำ แล้วเห็นน้ำออกมาจากสายยาง เราไม่ต้องถือบัวรดน้ำไปรดทุกวันแล้ว เปิดระบบน้ำ น้ำก็ออก แล้วที่สำคัญคือภูมิใจเพราะเราทำเองทั้งระบบเยาวชนต้องแอคทีฟตัวเอง ทำเองหมดเลย”บอลกล่าวด้วยความตื่นเต้น


วิกฤติ ไม่แย่ แค่มองหาทางออก

ระหว่างดำเนิน โครงการ "ผักมีวิตามินไม่ต้องกินของแพง" กลุ่มเยาวชนนครเจดีย์ เผชิญวิกฤติคล้ายกับผู้คนทั่วโลก คือ โรคระบาดโควิด-19 ทำให้ต้องปรับแผนการทำงาน จากเดิมนำผลผลิตผักปลอดสารพิษไปวางจำหน่ายที่ตลาดนัดวันอังคารประจำหมู่บ้าน พร้อมแจกใบปลิวให้ความรู้ เกี่ยวกับอันตรายจากการทานผักที่มีสารพิษ รณรงค์ให้ชาวบ้านในชุมชนปลูกผักทานเอง ทั้งหมดนี้ถูกสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ในเฟซบุ๊กของ พี่เลี้ยงโครงการแทน

“ชาวบ้านรู้จักว่าเราทำโครงการนี้และขายผักปลอดสารอยู่แล้ว รายได้ที่เกิดจากการขายผัก พี่ไก่นำมาหมุนเวียนเป็นค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าเมล็ดผัก และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในโครงการ พี่ไก่รับออเดอร์ผ่านเฟซบุ๊ก และบอกเราว่าวันไหนมีออเดอร์อะไร เป็นผักชนิดไหน เราก็ไปตัดผักที่แปลง และขับมอเตอร์ไซต์นำไปส่งถึงที่บ้านชาวบ้าน มัดละ 5 บาท 10 บาท เพราะช่วงนั้นมีโควิด ทำให้เราต้องปรับแผน คือไม่มีตลาด คนกลัวและงดเดินสถานที่คนเยอะ ๆ เราจึงตัดผักส่งถึงบ้าน” ทิว เล่าให้ฟังด้วยท่าทีสบาย เหมือนกับจัดการวิกฤติได้ด้วยวิธีละม่อม

“ผิดแผนไปอย่างเดียวคือ เราต้องการแจกใบปลิวให้ความรู้ เรื่องสารพิษตกค้างในผัก บอกถึงอันตราย และอยากรณรงค์ให้ชาวบ้านปลูกผักทานเอง โดยสามารถมาเรียนที่เรา และให้เราไปช่วยปลูกที่บ้านได้ แต่พอทำไม่ได้ก็ประชาสัมพันธ์ผ่านเฟซบุ๊กพี่ไก่ตลอด จนมีชาวบ้าน3-4 คน สนใจเพราะเขาเห็นเราทำจริงชมีลุงคำ ป้าใบ ป้าจัน มาขอร่วมกลุ่ม แต่เป็นช่วงโควิด-19 ระบาดพอดี พี่ไก่เลยบอกว่าให้ทำที่บ้านได้ ลุงป้าแกเลยมารับเมล็ดพันธุ์ไปปลูกที่บ้าน ตรงนี้เราชื่นใจมาก” บอล เล่า

ปัญหาเรื่องเวลาว่างไม่ตรงกัน ดูเหมือนจะเป็นปัญหาที่ทำให้ลำบากใจที่สุด แต่การทำงานเป็นทีมดำเนินต่อไปได้ เพราะทุกคนปรับจูนทำความเข้าใจกัน ทำให้เกิดความเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและคน เพราะต่างคนต่างมีภาระหน้าที่ของตัวเอง

“บางทีเรานัดกัน วันนี้นัดไปเดินระบบน้ำนะ ไปมุงแปลงผักนะ น้อง ๆ บางคนติดธุระมาไม่ได้ น้องบางคนแม่ไม่ให้มา เราก็คิดว่า ทำไม มองไม่เห็นเหรอว่าลูกทำอะไร ผมก็คิดว่ามันน่าหนักใจนะ แต่ก็เข้าใจว่าทุกคนเหตุผลของตัวเอง เลยช่างมัน ให้อภัยกันไปทิว กล่าวอย่างใจเย็น

“ถ้าเราเป็นผู้นำแล้วไปด่าน้อง น้องเสียความรู้สึก น้องบางคนผมด่าแล้วร้องไห้ ผมเลยเริ่มมาคิดว่าเราควรซอฟต์ ๆ คำพูดลงบ้าง หลัง ๆ มาน้องแอคทีฟตัวเองเพิ่มขึ้น เพราะเราค่อย ๆ พูด ก็ดีใจที่น้องโอเค”บอลกล่าวเสริม

“ ถ้าไม่มีโครงการนี้ผมคงนอนอยู่บ้าน เล่นเกม ไม่ได้ทำอะไร แต่หลังได้เข้าร่วมโครงการ รู้สึกดีครับ ได้ฝึกตัวเองด้วย ฝึกวางแผน หาความรู้ใหม่ ๆ เข้าตัว” ทิว สะท้อนความเปลี่ยนแปลงในตัวเอง

“ส่วนผมคงติดเพื่อนเหมือนสมัยก่อน ติดเที่ยว ไปเดินห้างบ้าง ไปตลาดนัด ไปเดินถนนคนเดิน ไม่ค่อยอยู่บ้าน ติดเพื่อนตลอด โครงการนี้ทำให้ค้นพบว่าเราก็ทำได้หลายอย่างนะ เช่น การวางระบบน้ำไม่คิดว่าจะทำได้มาก่อน” บอล กล่าว

จากคำสบประมาทของชาวบ้านในวันนั้นเปลี่ยนเป็นแรงผลักดันแกนนำเยาวชนนครเจดีย์นำพากลุ่มเยาวชนพิสูจน์ให้ผู้ปกครองและชุมชนเห็นแล้วว่าเด็กติดเกมสามารถพัฒนาศักยภาพตัวเอง สร้างประโยชน์เพื่อชุมชนได้

“หลังๆ มาชาวบ้าน ผู้ปกครองบอกว่า ก็ดีนะ หลังจากปลูกผักได้สักระยะ มีคนเอาผักไปให้คนที่บ้านทำกิน เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร มันช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ที่บ้านของน้อง ๆ สมาชิกกลุ่มด้วย แกก็คงคิดว่าได้มาปลูกผักนะ ไม่ต้องเล่นเกมตลอดอย่างที่ผ่านมา เพราะทุกทีจับกลุ่มเล่นเกมอย่างเดียวเลย พอได้ทำโครงการก็มีเวลาว่างไปทำอย่างอื่น ได้ความรู้ด้วย” ทิว กล่าวสรุป

ในอนาคตแกนนำเยาวชนนครเจดีย์ทั้งสองคนย้ำว่าจะต่อยอดโครงการเชิงเกษตรพอเพียง เช่น เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงไก่ไข่ เพิ่มช่องทางรายได้ให้กับสมาชิกกลุ่ม และหาเครือข่ายเยาวชนเพิ่ม ชักชวนเด็กและเยาวชนในพื้นที่มาทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน แล้วยังได้ความสนุกสนาน แถมยังอิ่มท้องอีกด้วย

++++++++++

­

­

บทสัมภาษณ์โครงการ ผักมีวิตามินไม่ต้องกินของแพง

กลุ่มเยาวชนนครเจดีย์ ตำบลนครเจดีย์ อำเภอป่าซาง จังหวัดลำพูน


ผู้ให้สัมภาษณ์

  1. นายศุภโชค ธัญศิริ ชื่อเล่น บอล   การศึกษา : กศน. นครเจดีย์ อยู่ชั้นมัธยมศึกษาปลาย
  2. นายธนพนธ์ อินทรเสม ชื่อเล่น : ทิว   การศึกษา : วิทยาลัยการอาชีพป่าซาง ระดับชั้น ปวส. 2



ให้แนะนำตัวเองทีละคน

ผมบอลครับ นายศุภโชค ธัญศิริ เรียนอยู่ กศน. ครับ

สวัสดีครับ ผมทิวครับ ธนพนธ์ อินทรเสม เรียนอยู่วิทยาลัยการอาชีพป่าซาง ปวช. 2


จะคุยกันเรื่องโครงการก่อน ทั้งสองคนทำโครงการอะไร

บอล : ผักมีวิตามินไม่ต้องกินของแพงครับ


ทำไมเราถึงสนใจทำโครงการนี้ อยากให้เล่าให้ฟังตั้งแต่เริ่มต้น คุยกันอย่างไร ถึงได้ออกมาว่ามาทำโครงการนี้กันดีกว่า

บอล : ตั้งแต่ปีแรก พวกผมทำโครงการขยะ ขยะที่ล้นตลาด เพราะตอนแรกทำขยะในหมู่บ้าน แต่พอเสนอเรื่องไปกับพี่ๆ สยามฯ เขาบอกว่า ถ้าทำทั้งหมดในหมู่บ้านมันกว้างไป และเป็นงานหนักเกินไป พี่ ๆ เลยบอกให้ขยับแคบลงมา เลยทำโครงการคัดแยกขยะในตลาดนัดชุมชน เพราะตอนนั้นเราเห็นขยะที่ตลาดนัดเยอะมาก พอมาปีที่สอง เลยมาคุยกันว่าจะทำอะไรต่อ เห็นว่าตอนเราไปตั้งจุดคัดแยกขยะที่ตลาด มีแม่ค้ามาส่งผักจากหลายพื้นที่ บางที่ผักสวย แต่อาจไม่ปลอดสาร คิดว่าพวกเราก็กินผักอยู่แล้ว เราน่าจะมาทำเรื่องผักกันครับ


ในกลุ่มเรามีทั้งหมดกี่คนนะ

บอล : 7 คนครับ


ตอนที่คุยกันว่าจะทำโครงการนี้ เราได้คุยด้วยกันทั้งหมด 7 คนไหม สถานการณ์เป็นอย่างไร

บอล : คุยกัน 7 คนครับ เรียกมาประชุม ปรึกษากัน อยากทำเรื่องอะไร


ตลาดนัดชุมชนชื่ออะไร

บอล : ตลาดนัดหนองเจดีย์ครับ เป็นตลาดนัดเฉพาะวันอังคาร


ตอนที่คุยกัน สมาชิกทุกคนก็เห็นตรงกัน ว่าสนใจเรื่องนี้ เรื่องที่เกี่ยวกับผัก ผักสำคัญอย่างไร ทำไมเราถึงให้ความสำคัญ ให้ขยายความเพิ่ม

บอล : เพราะว่ากลุ่มพวกผมเป็นเด็ก ๆ ที่อยู่ด้วยกันตลอดอยู่แล้ว ชอบรวมตัวกันกินหมูกระทะ หมูกระทะต้องมีผัก พอเราไปซื้อผัก บางทีมันขม พี่ไก่ที่เป็นพี่เลี้ยง เขาบอกว่าล้างออกให้หมด ๆ เอาน้ำเกลือล้างด้วย มันมีสารเคมี เลยมาเป็นเรื่องนี้ที่อยากทำกัน


แล้วที่พี่ไก่ทักขึ้นมา เราได้ฉุกคิดไหมว่า จริงหรือเปล่า หรือจริง ๆ เราก็รู้ แต่ไม่ได้สนใจ

บอล : รู้ครับ แต่ไม่ได้สนใจ


เป้าหมายในการทำโครงการของเราคืออะไร

บอล : อยากให้เด็กๆในกลุ่มได้กินผักปลอดสารเคมีเพื่อสุขภาพด้วย พอทำไปเรื่อยๆ คนในชุมชนเห็น ทุกคนจะได้กินผักปลอดสาร ก็แล้วแต่ชาวบ้านด้วยว่าใครสนใจไหม ส่วนใหญ่ก็สนใจนะ แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่ได้สนใจอะไรมากมาย


เดี๋ยวพี่จะลงรายละเอียดถามนะว่า เราสังเกตได้อย่างไร ชาวบ้านสนใจไม่สนใจ แล้วตัวเราที่บอกว่าอยากดูแลเรื่องสุขภาพ พอทำโครงการออกมาแล้ว เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง เดี๋ยวจะถามอีกที ทีนี้อยากให้เล่าให้ฟัง พอเรารู้ว่าเราอยากทำโครงการผักมีวิตามิน ไม่ต้องกินของแพง แล้ว เรามีขั้นตอนการทำงานที่ต้องช่วยกันทำ อยากให้เล่าให้ฟังตั้งแต่ตอนแรกเลย ว่าเริ่มทำอะไรอย่างไร

บอล : อันดับแรกประชุมกันก่อน คุยกันว่า เราจะทำอะไรที่ไหน คิดไว้ว่ามันต้องปลูกผัก พื้นที่ในบ้านของเด็ก ๆ อย่างผมไม่ค่อยมี แต่บ้านพี่ไก่มีพื้นที่เยอะ เลยแบ่งมาให้ปลูกผัก เริ่มจากตรงนั้น ตรงนั้นเป็นป่ากล้วย เป็นต้นกล้วยหมดเลย พี่ไก่ให้พวกผมลงมือทำกันเอง ไม่จ้างใคร ไปฟันต้นกล้วย ฟันจนเรียบ แล้วขนออก จากนั้นก็ปรับหน้าดินให้เรียบ ทำจนเป็นแปลงผักขึ้นมาได้ เราลงทุนโดยการจ้างรถไถ เพื่อปรับหน้าดินและมาเริ่มปลูกกัน เอาเด็ก ๆ ในชุมชนที่ทำโครงการ และน้อง ๆ ที่สนใจ จะมีอีกส่วนที่เป็นน้อง ๆ ในหมู่บ้านอยากมาทำโครงการ แต่อายุยังน้อย ก็เลยให้มาช่วยทำแปลง


เราประชุมกัน ได้โครงการแล้ว เราก็วางแผนกันใช่ไหม ว่าอย่างแรกที่เราไปทำคือการไปปรับที่ดิน ซึ่งใช้พื้นที่ของพี่ไก่ แล้วเรามีวางแผนทำอะไรกันอีก

บอล : จากนั้นเราไปซื้ออุปกรณ์ ส่วนใหญ่เป็นพี่ไก่ที่คอยซัปพอร์ตทุกอย่าง แล้วบอกว่าต่อไปเราต้องทำอะไรต่อ เช่น ซื้อขี้ไก่มาลงดิน มาพรวนดิน เริ่มปลูกกัน เริ่มวางระบบน้ำ เขาเป็นคนวางให้หมด แต่ว่าน้อง ๆ ก็มีส่วนช่วยแสดงความคิดเห็น


ทำไมพวกเราถึงคิดว่าต้องปลูกผักเองด้วย ในพื้นที่ของชุมชน เขาปลูกผักกันอยู่แล้วหรือเปล่า

บอล : ไม่มีครับ ก็เลยเริ่มคิดกันขึ้นมา ในเมื่อไม่มีใครปลูกก็น่าทำนะ เพราะเราก็กินผักกันอยู่แล้ว อยากชวนคนในหมู่บ้านมาทำ


จริง ๆ ตัวพวกเราเองรู้ไหมว่าผักที่เราซื้อจากตลาดมาจากที่ไหน

บอล : ไม่รู้เลยครับ เวลาเราไปถามพ่อค้าแม่ค้า เขาจะตอบว่าไปรับมาจากพ่อค้าคนนั้นคนนี้ สุดท้ายเขาก็ไม่รู้อยู่ดีว่ารับมาจากที่ไหน


จุดมุ่งหมายที่ปลูกเอง คือต้องการอะไร

บอล : ต้องการกินผักปลอดสารพิษ กินผักที่ไม่ต้องมาล้างน้ำเกลือเหมือนทุกทีที่เราทำ ไม่มีอะไรมากมายเลย อยากกินที่ไม่มีสารพิษ แค่นั้น


พื้นที่ที่เราปลูกผักใหญ่ไหม

บอล : ไม่รู้เหมือนกันครับ


เทียบกับอะไรได้ไหม สนามบาส

บอล : มันยาว แต่ไม่ได้กว้างมาก


ปลูกกี่แปลง ปลูกอะไรบ้าง

บอล : หลายแปลง เช่น คะน้า ผักกาดขาว พริก ผักบุ้ง กระเจี๊ยบ กวางตุ้ง ที่เอามากินกับหมูกระทะได้


เราเลือกจากอะไร เราเลือกจากผักในหมูกระทะเหรอ ตอนที่เราตัดสินใจว่าจะปลูกผักอะไร

บอล : ใช่ครับ แล้วพี่ไก่จะเสริมว่า ให้ปลูกผักที่ขึ้นง่ายด้วย ผักที่จำเป็นมาก ๆ โดยไม่ต้องไปซื้อ อย่างพริกนี่พี่ไก่แนะนำ ต้องเอามาตำน้ำพริกผสมกับน้ำจิ้ม


แล้วพวกเราเคยปลูกผักแบบนี้มาก่อนไหม

บอล : ไม่เคยเลย ถ้าเคยน่าจะเป็นตอนประถมฯ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนี้


แล้วรู้วิธีปลูกไหม ไปถามใคร

บอล : พี่ไก่เป็นคนไปติดต่อมา ลุงมูลมาสอน บอกว่าผักนี้ต้องปลูกช่วงนี้ แนะนำให้ปลูกช่วงนี้ รดน้ำแบบนี้ เขาจะมาให้ความรู้


นอกจากลุงมูล แล้วมีใครอีกไหมที่มาสอนเราเรื่องปลูกผัก

บอล : มีคนเดียว


ลุงมูลมาสอนว่าปลูกผักอะไรอย่างไร อยากให้เล่าให้พี่ฟังหน่อย ว่าเราได้ความรู้เกี่ยวกับการปลูกผัก แต่ละชนิด ให้ช่วยกันเล่าสองคนเลย เพราะพี่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าปลูกผักอย่างไร อยากให้เล่าให้พี่ฟัง เริ่มจากผักชนิดแรก เอาผักอะไรดี เอาพริกก่อนก็ได้ พริกต้องทำอย่างไร ปลูกได้ตลอดไหม หรือมีเทคนิคพิเศษอะไร ทีละผัก ๆ

บอล : เอาอันที่แปลงล่มนั่นแหละ


เล่ามา

ทิว :ตามขั้นตอนต้องขุดดินขึ้นเป็นแปลงก่อน พี่ไก่ให้ใส่ขี้ไก่ลงในแปลง ไม่ต้องใส่เยอะ แต่ผมใส่ไปเยอะมากเลย แล้วเอาเมล็ดผักกาดมาโรย ผมปลูกพร้อมกับคนอื่น แต่ของคนอื่นขึ้นหมดแล้ว ของผมไม่ขึ้นเลยสักต้นเดียว


สักต้นเดียวเลยเหรอ ไม่ขึ้นเลยเหรอ

ทิว : ครับ มีแต่ต้นหญ้า ผมก็ไปถามคนอื่นว่า ทำไมของผมไม่ขึ้น ปริมาณขี้ไก่ที่เขาใส่กันต้องใส่ประมาณไหน เขาก็บอกว่าใส่นิดเดียว คนอื่นเขาก็ใส่นิดเดียว แต่ผมใส่เยอะคนเดียว รอบที่สองผมลงแปลงปลูกใหม่ ปลูกผักกาดเหมือนเดิม แต่รอบนี้ผมใส่ขี้ไก่นิดเดียว มันก็เลยขึ้น


เราได้วัดขนาดแปลงไหม แปลงที่เราต้องขุด

บอล : ไม่ได้วัดอะไรจริงจังขนาดนั้นครับ กะประมาณเอาเอง ไม่ถึงกับต้องเอาตลับเมตรมาวัด เราก็ปลูกแปลงเท่า ๆ กัน อย่างที่น้องทิวเล่าไป ใส่ขี้ไก่ไปเยอะ มันเลยไม่ขึ้น ลุงก็เลยมาบอกว่า ทำให้ดินเค็มเกินไป ผักกาดเลยไม่ขึ้น ตอนนี้ก็เลยเริ่มรู้ว่ามันต้องใส่ตามปริมาณ ไม่ใช่ว่าใส่เยอะใส่น้อยแล้วมันจะโตเร็ว


เวลาเราใส่ขี้ไก่ ใส่เยอะใส่นิดเดียว เราจะเอาอะไรมาวัดว่ามันเยอะหรือนิดเดียว

บอล : ไม่มีมาตรวัด อย่างตอนที่ใส่จะมีบุ้งกี๋ที่ใช้ตักดินตักทราย เราก็เอาอันนั้นตักขี้ไก่มาโรย ภายในหนึ่งบุ้งกี๋คือหนึ่งแปลง แค่นั้นครับ แต่น้องทิวคือใส่ไปประมาณสองสามบุ้งกี๋ เยอะมากเลยพี่ เลยทำให้ดินเค็ม ลุงก็เลยบอกว่าที่เคยบอกไปให้ใส่บุ้งกี๋เดียว ไม่เยอะเกินไปไม่น้อยเกิน


เราแบ่งหน้าที่กันอย่างไร ตอนที่เราปลูกผัก ใครคนหนึ่งรับผิดชอบแปลงหนึ่งไปเลยเหรอ

บอล : ไม่ครับ แรก ๆ ที่เริ่มปลูกเลยต่างคนต่างปลูกหนึ่งแปลงไปเลย จะได้รู้ว่าใครทำผิดพลาดอย่างไร จะได้มาแก้ไข ทีนี้ทุกคนได้เรียนรู้ หลังจากนั้นช่วย ๆ กันปลูกทุกแปลงเลยครับ เพราะเราเริ่มรู้แล้วว่าเราต้องทำอย่างไรบ้าง


คือหมายความว่าตอนปลูกครั้งแรก เราก็ตั้งใจว่าแปลงใครแปลงมันไปก่อน

บอล : เราไม่ได้ตั้งใจขนาดนั้น แต่ลงไปคนละแปลง มาปลูกกัน ทุกคนก็วุ่นกับแปลงตัวเอง อันนั้นคือเริ่มครั้งแรก พอเริ่มครั้งแรกแล้ว ทิวก็ไม่รู้ ทิวคิดว่าน่าจะโตเร็ว พอเริ่มหลัง ๆ มาก็ช่วยกันปลูก แต่แปลงหลัง ๆ มันขึ้นหมดแล้ว แต่แปลงของทิวยังไม่ขึ้นสักที น้องเลยบอกว่าใส่ขี้ไก่เยอะไป มันก็เลยไม่ขึ้น รื้อแปลงแล้วเริ่มปลูกใหม่


ผักกาดขาว ใช้เวลากว่ามันจะโต นานแค่ไหน

บอล : ไม่นานนะพี่ สักสองอาทิตย์ก็เริ่มขึ้นแล้ว


ตอนที่ทิวเห็นว่าของตัวเองไม่มีอะไรปรากฏขึ้นมานอกจากหญ้า ทิวรู้สึกอย่างไรบ้าง

ทิว : คิดว่าทำไมถึงไม่ขึ้นครับ กังวลนิดหน่อย


กังวลเรื่องอะไร

ทิว : ของคนอื่นขึ้นหมดแล้ว แต่ของผมไม่ขึ้นอยู่คนเดียว ผมก็เลยแบบทำไมถึงไม่ขึ้น ผมก็เลยไปถามคนอื่น ก็ได้คำตอบ ผมก็เลยรื้อใหม่


ตอนแรกทิวเล่าเรื่องวิธีทำแปลง ขุดแปลง ใส่ขี้ไก่ หลังจากนั้นก็วางเมล็ดได้เลยเหรอ มีขั้นตอนอะไรอีกไหม ทำแปลงปลูก

ทิว : ขุดแปลง พรวนดิน โรยขี้ไก่ โรยเมล็ด เอาฟางมากลบ แล้วก็รดน้ำ


เมล็ดเราได้มาจากไหน

บอล : ซื้อครับ


ซื้อจากร้านเลยใช่ไหม

บอล : เป็นร้านเกี่ยวกับอุปกรณ์การเกษตร เพราะเราก็ไปซื้อสายยาง หัวสปริงเกอร์ที่เอามารดน้ำ


มีผักกาดขาว มีกวางตุ้ง แต่ละอย่างปลูกเหมือนกันไหม หรือมีอะไรที่พิเศษกว่าอันอื่นที่อยากจะเล่าให้ฟัง

บอล : ถ้าผมเล่าผมจะโดนจับไหมพี่


ทำไมล่ะ เธอปลูกอะไร

บอล : ผมปลูกกัญชา


ปลูกกี่ต้น เกินจำนวนหรือเปล่า

บอล : ไม่เกินพี่ ประมาณ 7 – 8 ต้น


อันนี้เป็นผักมีวิตามินไม่ต้องกินของแพงด้วยหรือเปล่า

บอล : มันก็เป็นสมุนไพรนะพี่


โตง่ายหรือโตยาก

บอล : ยากมากเลยพี่ อันนี้ ตอนนี้เหลือต้นเดียว ที่เหลือตายหมดแล้ว


งั้นก็ไม่ผิดกฎหมายหรอก เหลือต้นเดียวแบบนี้ พอพูดถึงเรื่องนี้มีความกระตือรือร้น ทีผักกาดขาวนึกไม่ออก ผักที่ปลูกมาทั้งหมด ชนิดไหนดูแลยากมากที่สุด

บอล : มันก็ดูแลคล้าย ๆ กันหมด เวลาเรารดน้ำ เราก็ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ถ้าต้องดูแลเป็นพิเศษจะเป็นกระเจี๊ยบ เพราะเราต้องเอาไม้มาปัก ต้นมันคล้ายๆ ต้นมะเขือ พอโตขึ้นมาต้นจะอ่อน เราต้องปักให้ต้นอยู่ทรงได้ ไม่ให้กิ่งมาค้ำกับไม้ที่เอามาปัก ไม่อย่างนั้นต้นจะล้ม ลูกกระเจี๊ยบจะไม่โต อันนี้น่าจะดูแลยากสุด


แล้วปลูกพริกกัน ได้กินพริกใช่ไหม

บอล : ใช่ครับ


ได้กินทุกอย่างที่ปลูกใช่ไหม

บอล : ได้กินทุกอย่างที่ปลูกเลยพี่


คือพอเราปลูกเสร็จแล้ว เราก็ต้องดูแล ในวิธีการที่พวกเราทำ ไม่ได้ใช้ปุ๋ย ไม่ได้ใช้สารเคมี ถูกไหม

บอล : ไม่ได้ใช้สารเคมีเลย ใช้ปุ๋ยธรรมชาติ เช่น ปุ๋ยขี้วัว ปุ๋ยขี้ไก่ เป็นต้น


แล้วเราได้เรียนรู้จากการที่เราได้ปลูกผักเองบ้าง

บอล : เยอะครับ เช่น เราต้องดูแล ต้องเอาใจใส่ ต้องรับผิดชอบ มันไม่ใช่หน้าที่ที่เราต้องทำ แต่มันคือความสนุก พอตกเย็นเราก็ไปรดน้ำ ไปเล่นน้ำกัน น้อง ๆ ก็มีความสุข บางวันพี่ไก่ก็บอกว่ามากินหมูกระทะกัน ไปเด็ดผักมา มันก็มีความสุข


ความรู้สึกที่เราได้ไปเอาผักที่เราปลูกมาใส่ในเซ็ตหมูกระทะกินเอง รู้สึกอย่างไรบ้าง ให้เล่าทีละคน

บอล : รู้สึกว่า “ โอเคนะ ไม่ต้องไปซื้อ ” แล้วก็ได้กิน เราปลูกเองอะพี่ ปลื้มปริ่ม


กินไปน้ำตาไหลไปเหรอ

บอล : มีความสุข


ผักที่เราปลูกเองกับผักที่เราซื้อ ผักที่เรากินเองมีรสขมไหม หรือว่ามันหวานอร่อย

บอล : มันก็ไม่ได้ขมขนาดนั้น แต่เรารู้สึกได้ว่าบางทีเราไปซื้อมาต้มกิน มันมีสารมียาฆ่าแมลง เราจะรู้สึกว่ามันขมไม่เหมือนกัน ขมฝาดลิ้นเลย อันนี้จะปกติตามธรรมชาติ


บอลถือว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกินผักหมูกระทะใช่ไหม

บอล : ผมน่าจะเชี่ยวชาญด้านการกินหมูมากกว่า


โอเค แล้วไป แต่เรายังรู้สึกว่ารสชาติผักไม่เหมือนกัน

บอล : รู้สึกพี่


ทิวรู้สึกอย่างไรบ้าง

ทิว : ดีครับ ถ้าเป็นผักที่เราไปซื้อมาแล้วเอามาใส่กิน ตอนกินก็จะกังวลว่าอันนี้มันมีสารหรือเปล่า ถ้าเป็นผักที่เราปลูกเอง ดูแลมันทุกวัน เราก็ไม่ต้องกังวล กินได้สบายใจ


เพื่อน ๆ คนอื่น ๆ เราเห็นเพื่อน ๆ มีผลตอบรับอย่างไรบ้างไหม

บอล : เขาก็โอเคนะ อันดับแรกเลยที่เราเตรียมหมูกระทะ เราก็ต้องล้างผัก ล้างผักนาน ไหนจะหมักหมูอีก เราก็ต้องล้างผักหลายรอบ ตั้งแต่ปลูกผักเอง เวลากินหมูกระทะเราไม่ต้องล้างผักหลายรอบ ล้างดินออกแค่นั้น แล้วก็กินได้เลย ก็โอเคนะ มีความสุขกัน


เรื่องปลูกผักไปแล้ว นอกจากเรื่องปลูกผัก เราทำอะไรอีก ขั้นตอนอื่น ๆ ได้เข้าไปเก็บข้อมูลในชุมชนกันไหม หรือทำอะไรอีกบ้าง

บอล : ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด ไม่ได้ไปลงไปเก็บข้อมูลมากมาย แต่สืบข้อมูลอยู่ว่าใครสนใจบ้าง ตอนนั้นก็มีคนสนใจไม่มาก ที่จริงวางแผนไว้ถ้าได้ประชุมหมู่บ้านเราจะไปประชาสัมพันธ์ให้คนในหมู่บ้านที่สนใจ เชิญชวนมาร่วมโครงการ แล้วเราจะให้ยืมอุปกรณ์จอบ เสียม ไปปลูกเองที่บ้าน แล้วเราจะไปช่วยแนะนำ เพราะพวกเราได้ศึกษากับลุงมาก่อนแล้ว คิดว่าถ้าแค่บอกชาวบ้านให้ปลูก เราก็น่าจะทำได้นะ แต่ช่วงนั้นเป็นช่วงโควิด ก็ไม่เปิดบ้าน ไม่เปิดประชุม เพราะเขาห้าม เลยได้แค่ซื้อเมล็ดมา ให้คนที่สนใจไปปลูกเอง ตอนนี้ก็ไม่ได้ติดตามแล้ว ช่วงโควิดทำอะไรไม่ได้เลย เลยลำบากหน่อย


คนที่สนใจที่บอลว่า หมายถึงคนในชุมชนเหรอ หรือว่าเป็นเด็ก ๆ

บอล : เป็นคนในชุมชนเลย เป็นคนแก่ เขาอยู่บ้านเฉย ๆ แล้วอยากหาอะไรทำ เขาเห็นเยาวชนทำกัน ก็เลยสนใจ


เขาเดินมาถามเราเอง หรือเขาเข้ามาหาเราอย่างไร

บอล : เขาเล่นโซเชียล แล้วพี่ไก่ปลูกผักได้สักระยะหนึ่ง พี่ไก่ไปโพสต์ขายผัก เขาก็เลยเห็นว่าเยาวชนเป็นคนทำ เห็นว่าพวกผมเป็นคนทำผักปลอดสาร เขาก็เลยสนใจอยากทำบ้าง และอยากมาเข้าร่วม แต่เพราะติดช่วงโควิดพี่ไก่ก็บอกว่า ทำได้ง่าย ๆ ที่บ้านเลย


มีผู้ใหญ่ที่เขาสนใจสักกี่คน

บอล : นับได้เลย มี 3 คน


มีใครบ้าง พอจะพูดชื่อได้ไหม

บอล : มีลุงคำ ป้าใบ ป้าจัน


ทั้งสามคนรู้จักเฟซบุ๊กพี่ไก่หมดเลยไหม หรือว่าอย่างไร

บอล : ป้าจันรู้จักเฟซบุ๊กพี่ไก่คนเดียว ที่เหลือจะเป็นคนในละแวกบ้านพี่ไก่ เขาเห็น เขามาเที่ยวหา เป็นญาติกับพี่ไก่


แล้วปลายทางผักที่พวกเราปลูก นอกจากได้กินเองแล้ว ได้ไปไหนอีกบ้าง

บอล : ขายให้ชุมชน ขายให้คนที่สนใจ


ขายที่ไหน

บอล : พี่ไก่จะเอาไปส่งให้เขา ใส่มอเตอร์ไซค์ไป เป็นมัด มัดละ 5 บาท 10 บาท เงินนั้นจะเอามาหมุนเวียนจ่ายค่าน้ำค่าไฟที่เราใช้


อยากรู้ตรงนี้ว่า เหมือนเราปลูกแล้วก็มีรายได้นิดหน่อย เราบริหารจัดการ เราแบ่งหน้าที่อย่างไร ใครดูแลการเงิน มีหน้าที่ชัดเจนไหม

บอล : มีชัดเจนครับ พี่ไก่เป็นคนดูแลการเงิน เพราะพี่ไก่เป็นผู้ใหญ่ที่สุด แต่เวลาเก็บผักแบบนี้ น้อง ๆ ก็ช่วยกัน ช่วยกันมัด พี่ไก่จะเอาไปถ่ายรูป แล้วเอาไปโพสต์ พี่ไก่จะเป็นคนบอกว่า วันนี้มีออร์เดอร์ส่งผัก ไปเก็บผักมา ก็สนุกดี ได้เงินด้วย พี่ไก่ก็เอามาเลี้ยงขนมบ้าง ส่วนใหญ่กินหมูกระทะกัน


ส่วนใหญ่พวกเรานัดทำงานกันตอนไหน

บอล : ตอนเย็นครับ น้อง ๆ เลิกเรียนมา


ช่วงที่ทำโครงการมีโควิด เหมือนเราไม่ได้ไปโรงเรียนไหม

บอล : โควิดไม่เกี่ยวกับโรงเรียนเลยพี่ เขาไปกันตลอดเลยนะ


เราทำโครงการจะไปตอนเย็น ไปกันกี่โมง

ทิว : สี่ห้าโมง


สี่ห้าโมงเหมือนเราก็รู้เลยใช่ไหม เราจะต้องไปกัน เรามีตารางวันอะไรไหม

ทิว : ช่วงกลางวันบางคนจะไม่อยู่บ้าน ออกไปทำธุระกับครอบครัวบ้าง ตอนเย็นส่วนใหญ่จะเป็นเวลาที่ทุกคนว่าง ก็จะนัดกัน


ถ้าทิวไม่ทำโครงการนี้ ทิวคิดว่าทิวไปทำอะไรอยู่

ทิว : นอนอยู่บ้าน เล่นเกม ไม่ได้ทำอะไร


แล้วเรารู้สึกอย่างไรบ้างที่ได้มาทำโครงการ

ทิว : รู้สึกดีครับ ได้ฝึกตัวเองด้วย ฝึกวางแผน หาความรู้ใหม่ ๆ เข้าตัว


ทิวไม่เคยปลูกมาก่อนเหมือนกันใช่ไหม

ทิว : เหมือนที่พี่บอลว่า เคยปลูกสมัยประถมฯ แต่ไม่ได้จริงจังอะไรขนาดนี้


ในทีมของเราส่วนใหญ่เป็นผู้ชายใช่ไหม

บอล : ผู้ชายหมดเลย


แล้วเป็นอย่างไร ทำงานกัน ทะเลาะบ้างไหม

บอล : ไม่มีนะ ผมโตสุด เวลาอยู่ด้วยกันผมจะคุมน้อง ๆ อยู่แล้ว ไม่มีทะเลาะ


คุมอย่างไร บอกหน่อย

บอล : ก็เด็กๆโตมาด้วยกัน เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ก็จะนำน้อง ๆ ตลอด แต่ไม่ได้ออกขั้นขู่อะไร ให้คำแนะนำ น้อง ๆ ไม่ทะเลาะกันอยู่แล้ว รักกันดี


แล้วถ้าบอลไม่ได้มาทำโครงการนี้ บอลจะไปทำอะไรอยู่

บอล : ผมคงติดเพื่อนเหมือนสมัยก่อน เที่ยว


เที่ยว พากันไปไหน

บอล : เมื่อก่อนที่จะมามีโครงการมาอยู่กับน้อง ๆ ผมก็ไปเที่ยว ไปตลาดนัด ไปเดินถนนคนเดิน ไม่ค่อยอยู่บ้าน ติดเพื่อนตลอด พากันไปเที่ยวตลอด ไปเดินห้างบ้าง


แล้วระหว่างทำโครงการ มีปัญหาอะไรบ้างไหม ที่ทำให้หนักใจลำบากใจ

บอล : ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเวลาที่ไม่ตรงกัน บางทีเรานัดกัน วันนี้เรานัดไปเดินระบบน้ำนะ ไปมุงแปลงผักนะ น้อง ๆ บางคนติดธุระมาไม่ได้ น้องบางคนแม่ไม่ให้มา เราก็คิดว่า “ทำไม มองไม่เห็นเหรอว่าลูกทำอะไร ผมก็คิดว่ามันน่าหนักใจนะ ”


เรานัดกันแล้วไม่ตรงเวลา ไม่ตรงเวลากันขนาดไหน

บอล : ก็นัดสี่โมงมาหกโมง


แล้วคนที่มาก็ทำไป หรือว่ารอกัน

บอล : มันไม่ทะเลาะกันนะ ผมจะคุมทุกอย่าง เออ ไม่ต้องว่ามันหรอก ถึงเวลามาก็ต้องอยู่ด้วยกันอยู่ดี


แล้วไม่มีเคืองกันบ้างเหรอ

บอล : มีบางที คิดว่ามีเหตุผลของตัวเอง เลยช่างมัน ให้อภัยกันไป


มีปัญหาเรื่องอื่นอีกไหม

บอล : ไม่มี ส่วนใหญ่เป็นเรื่องแค่นี้ ไม่มีอะไรมาก


มีเรื่องอะไรน่าตื่นเต้นบ้าง ที่เราทำโครงการนี้

บอล : สำหรับผมคงเป็นตอนเดินระบบน้ำ แล้วเห็นน้ำออกมาจากสายยางครับ


เดินระบบน้ำ

บอล : เราไม่ต้องถือบัวรดน้ำไปรดทุกวันแล้ว เปิดระบบน้ำ น้ำก็ออกมาเลย


คือตอนแรกเราใช้บัวรดน้ำก่อน แล้วไปอย่างไรมาอย่างไร ถึงมาได้ระบบน้ำ

บอล : ที่จริงคิดว่าจะทำระบบน้ำตั้งแต่แรกแล้ว ช่วงแรก ๆ เราต้องเดินสายยางก่อนอยู่แล้ว เพราะเรายังทำระบบน้ำไม่เสร็จ เด็ก ๆ เป็นคนทำกันเองหมดเลย ไม่มีผู้ใหญ่ช่วย เป็นแกนนำเยาวชนแอคทีฟซิติเซน เยาวชนต้องแอคทีฟตัวเอง ทำเองหมดเลย


แล้วเรื่องระบบน้ำเราไปขอความรู้มาจากใคร

บอล : พี่ ๆ จากทีมสถาบันหริภุญไชยชวนไป บอกว่าอยากให้บ้านนครเจดีย์ไปร่วมอบรมเรื่องระบบน้ำด้วย


ตอนที่ไป ใครไปบ้าง

บอล, ทิว : ไปหมดเลย


ครั้งนั้นนอกจากเรื่องนี้แล้ว ได้เรียนรู้เรื่องอะไรอีกไหม เรื่องระบบน้ำแล้ว มีเรื่องอื่นอีกไหมที่ได้เรียนรู้

บอล : เรื่องระบบน้ำ เรื่องการดูแลไม่ให้แมลงกินผัก เขาจะเอาน้ำส้มสายชูผสมกับน้ำตาลน้ำอ้อย แล้วเอามาราดที่ผัก ใส่น้ำ 1 บัวรดน้ำ แต่ใส่น้ำตาลแค่ 2 ก้อน ใส่น้ำส้มสายชูไป 4 ช้อนโต๊ะ เป็นสูตรป้องกันไม่ให้แมลงมากันผัก


ใช้ได้ผลไหม

บอล : ได้ผลพี่ ผักงามเลย ตอนเอาไปขายเขาไม่เชื่อว่าเราไม่ใส่สาร


มีเรื่องระบบน้ำ เรื่องป้องกันแมลง แล้วมีเรื่องอะไรอีกไหมที่ได้เรียนรู้

บอล : ไม่ค่อยมีแล้ว ที่เหลือก็เป็นการทำงานเป็นทีม ส่วนใหญ่พวกผมอยู่กันเป็นทีมอยู่แล้ว เวลาเล่นเกมเล่นอะไรพวกนี้


ตรงที่บอกว่าไปกับพี่ ๆ สถาบันหริภุญไชย เราไปที่ไหน ไปที่สถาบันเหรอ

บอล : ที่ลี้ครับ เป็นศูนย์เกษตร ผมเห็นเขาปลูกผัก มีการทำระบบน้ำ พี่ๆ บอกว่ามีอบรมนะ วันนี้อยากให้ไปด้วยจะได้ความรู้ พวกผมก็ไป


สรุปว่าโครงการของเราผักมีวิตามินไม่ต้องกินของแพง คือทุกคนในกลุ่มเรามาลงมือทำปลูกผักเองใช่ไหม

บอล : ครับ


ตรงที่เรามีแพลนว่าได้ไปเจอคนในชุมชน มันก็ไม่ได้เป็นไปตามแผนใช่ไหม พี่เข้าใจถูกหรือเปล่า เพราะมันเจอกันไม่ได้

บอล :ใช่ครับ


แล้วนอกจากตรงนี้มีวางแผนไปเจอคนในชุมชน แต่ไม่เกิดขึ้น มีอย่างอื่นอีกไหมที่เราวางแผนไว้ นอกเหนือจากเราปลูกผักกัน แล้วเราก็ได้ทำ

บอล :ไม่มีเลย เพราะเป็นช่วงโควิดพอดี ไม่ได้คิดอะไรไว้เลย ชุมนุมไม่ได้แล้ว เลยเดินหน้าปลูกผักกันอย่างเดียวเลย


งั้นถามทั้งสองคนว่าพอใจกับผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากที่เราทำโครงการขนาดไหน บอลตอบก่อนก็ได้ เต็มสิบให้เท่าไร

บอล : ผมให้สัก 5 ครึ่ง ๆ


ให้ 5 เองเหรอ ทำไม

บอล : เราปลูกผัก ผมว่าโอเคแล้ว ได้ความร่วมมือจากน้อง ๆ แต่ผมไม่ชอบตรงโควิด เราไม่ได้ทำอะไรเลย เราจะไปนั่งขายผักในตลาดก็ไม่ได้ อยากไปโฆษณาประชาสัมพันธ์ให้คนในชุมชนรู้ก็ไม่ได้ ห้ามรวมกลุ่มอีก ผมก็เลยให้ 5 คะแนน ที่เป็นความร่วมมือและประสบความสำเร็จไปแล้วแค่นั้น ที่เหลือก็หักลบจากโควิดไปหมดเลย


ถ้าไม่นับโควิดล่ะ

บอล : ให้สัก 7 นะ


อีก 3 หายไปไหน ตัดคะแนนเรื่องอะไร

บอล : น้อง ๆ ไม่ตรงเวลา ผมก็ไม่เข้าใจพ่อแม่ของน้อง ๆ ด้วย ไม่เข้าใจเหรอว่าลูกทำอะไร


คือเขาไม่ให้มาเหรอ หรือมันเกิดสถานการณ์อะไรขึ้น

บอล : บางทีเขาไม่ให้มา แม่ของน้องในทีมบอกว่า “มึงไปทำอะไร กูไม่เห็นมึงได้อะไรกลับมาเลย ไม่เห็นได้เงินเลย” ผมก็เลยคิดว่า ลูกมึงออกจากบ้าน มึงต้องได้เงินเหรอ คิดแค่นั้นเหรอ แค่ลูกมึงไม่เล่นเกมอย่างเดียว ไม่ดีเหรอ ก็แบบไม่ค่อยเข้าใจเท่าไร


แล้วเพื่อนเราคนนั้น น้องในกลุ่ม เข้ามาปรึกษาเรา เราคุยกันอย่างไรเมื่อเจอเหตุการณ์นี้

บอล : เขาก็บอกว่า แม่ไม่เข้าใจพี่ ผมจะไปพูดโต้ง ๆ กับแม่เขาไม่ได้ เดี๋ยวมีปัญหากันอีก ก็เลยบอกว่า ไม่เป็นไรหรอก ทำให้เขาดู พอผักโตก็เอาผักไปฝากแม่แล้วกัน แล้วบอกว่าเราเป็นคนปลูกเอง


แล้วมันได้ผลไหม

บอล : มันก็ดีขึ้นพี่ แต่มันไม่ได้ 100% ขนาดนั้น เขาบอกว่า “เออ ปลูกผักก็ดีแล้ว” แต่เขาก็บอกว่า “มาทำแบบนี้กัน ไม่เห็นได้ทำอะไรเลย” เขาก็เป็นแบบเดิมอยู่ดี


แล้วคะแนน 7 คะแนนให้จากอะไร

บอล : จากที่แม่ไม่เข้าใจ แต่น้องก็ยังมา


บอลคิดว่าอะไรทำให้น้องยังมาอยู่ ทั้ง ๆ ที่ที่บ้านกดดัน น่าจะเครียดอะไรประมาณหนึ่ง

บอล : เพราะเราอยู่ด้วยกันอยู่แล้ว ทีนี้แม่เขาก็ด่า “ไปรวมตัวกันอยู่นั่น สุมหัวกันอยู่บ้านนั้น” บ้านผมเป็นจุดรวมตัวของเด็ก ๆ แม่่ว่าตลอด แต่ก็ไม่ได้สนใจ เพราะไม่ได้ทำอะไรเสียหาย เขาก็คงคิดว่าได้มาปลูกผักนะ ไม่ต้องเล่นเกมตลอดอย่างที่ผ่านมา เพราะทุกทีจะจับกลุ่มเล่นเกมอย่างเดียวเลย พอได้ทำโครงการก็ไม่มีเวลาว่างไปทำอย่างอื่น ได้ความรู้ด้วย น้อง ๆ ก็ให้ความร่วมมือ


เมื่อก่อนจับกลุ่มเล่นเกมกันที่ไหน

บอล : ที่บ้านหลังนี้


เครื่องใครเครื่องมัน

บอล : เครื่องใครเครื่องมันมาเล่น


เล่นบ้านตัวเองไม่ได้เหรอ ทำไมต้องมาบ้านบอลด้วย

บอล : มันไม่ได้อรรถรสพี่ มันต้อง “เฮ้ย เอาดิ ยิงดิ”


บ้านบอลไม่มีปัญหา ใครไปใครมาก็ได้เหรอ

บอล : ใช่ แม่บอล ยายบอลใจดี แต่มีแม่บางคนเฉย ๆ ที่จะพูด “ไปทำอะไรกันตรงนั้น”


แม่บอลใจดีจริงไหม ทิว

ทิว : ครับ ใจดีครับ

บอล : บางทีก็โมโหร้าย


แม่อยู่แถวนั้นหรือเปล่า

บอล :ไม่อยู่พี่ มีแต่ยายนั่งกินข้าวอยู่


ทิวบ้าง ทำโครงการนี้แล้วเกิดผลเป็นอย่างไรบ้าง ให้คะแนนเท่าไร

ทิว : ให้ประมาณ 6


ให้คะแนนโครงการตัวเองกันน้อยจังเลย

ทิว : อย่างที่พี่บอลพูดเมื่อกี้ มีโควิดด้วย ปัญหาของแต่ละคนด้วย แต่เรื่องอื่นอย่างเรื่องความสามัคคีภายในกลุ่ม เห็นได้จากการนัดมารวมตัว คนที่ว่างก็จะมากัน บางทีก็มาก่อนเวลา พูดอะไรก็เข้าใจกัน ไม่ค่อยมีปัญหากันเท่าไร


นอกจากเพื่อนคนนั้นที่แม่เขาชอบบ่น คนอื่น ๆ ที่บ้านผู้ปกครองรู้สึกอย่างไรกับโครงการบ้าง

บอล : ก็ดีนะครับ บางทีหลังจากปลูกผักได้สักระยะ มีผักเอาไปให้คนที่บ้านทำกิน เขาก็ไม่ได้ว่าอะไร


ถ้าเรามองว่าที่เราทำได้กินเอง ได้เอาไปที่บ้าน มันช่วยลดค่าใช้จ่ายให้ที่บ้านด้วย เราคิดว่ามันไปได้ถึงขนาดนั้นไหม ปริมาณที่เราปลูกได้

ทิว : ไม่ได้มาก แต่ก็ลดค่าใช้จ่ายลงได้บ้าง


พอเราปลูกมาแล้ว เราเลือกเอาไปขายก่อนเหรอ หรือเอากลับบ้านกันเองก่อน

ทิว : เอาไปขายก่อน

บอล : มันก็มีส่วนที่เหลือ เราก็คิดไว้อยู่แล้ว เอาไปขายด้วย เอาไปกินกันเองด้วยอยู่แล้ว


พี่ให้แต่ละคนสรุปให้พี่หน่อย ว่าที่ทำโครงการมา เราได้ความรู้อะไรที่มากกว่าเดิม คือถ้าเราไม่ทำโครงการนี้ เราต้องไม่รู้เรื่องนี้แน่ ๆ เลย หรืออาจจะเป็นทักษะอะไรที่เราไม่คิดว่าเราจะทำได้เลย แต่เราเพิ่งมารู้ว่า เราทำได้ พอจะนึกออกไหม

บอล : อย่างผมจะเป็นเรื่องเดินระบบน้ำ วางสายน้ำ ตัดต่อน้ำ ผมไม่เคยคิดว่าผมจะได้มาทำ พอผมได้มาทำ ผมรู้สึกว่า “มันก็โอเคนะ เราก็ทำได้นะ รู้สึกปลื้มปริ่มในตัวเอง นี่เราทำเหรอ”


เราได้ค้นพบศักยภาพในตัวเองมากขึ้นไหม เราน่าจะเอาไปต่อยอดได้

บอล : ไม่ได้คิดว่ามันเป็นศักยภาพที่ค้นพบอะไรขนาดนั้น แต่มันก็รู้สึกว่า ถ้าให้ทำก็ทำได้อยู่แล้ว แต่ก่อนหน้านั้นเรไม่คิดที่จะทำเฉย ๆ พอเราได้มาทำโครงการ เราก็เลยได้มาทำ มันก็ดีนะพี่ พอได้ทำโครงการอะไรแบบนี้

ทิว : จะเป็นการปลูกผัก การใช้อุปกรณ์แบบถูกต้อง มันต้องใช้อุปกรณ์อะไรในการทำอะไรพวกนี้บ้าง แต่ก่อนที่เคยทำก็ใช้อุปกรณ์กันไม่เป็น


อุปกรณ์ที่ต้องใช้มีอะไรบ้าง

ทิว : จอบ เสียม คราด บุ้งกี๋ พลั่วขุดดิน ช้อนปลูก


พี่อยากรู้เรื่องจอบ คือสมมุติพี่ใช้ไม่เป็น ไปใช้จอบ ก็ไม่ใช่ว่าพี่จะไปขุดดินได้ถูกไหม มันมีเทคนิคอะไรที่อยากจะเล่าให้พี่ฟังไหม

บอล : ดูเอาจากลุงที่มาสอน ไม่ได้สอนละเอียดอะไรขนาดนั้นว่าต้องจับแบบนั้นแบบนี้นะ ดูแค่ว่าแกใช้สับอย่างไร สับตรงไหน เราก็ได้สังเกตเอา ได้ฝึกสังเกตด้วย


พี่ไม่รู้ว่าพี่เข้าใจถูกหรือเปล่านะ ตอนที่พี่ใช้จอบพี่รู้สึกว่า ถ้าใช้สับแบบตรง ๆ มันจะไม่ค่อยได้ มันต้องใช้ข้าง ๆ หรือแล้วแต่ว่าเราใช้สับอะไรหรือเปล่า

บอล : หลายปัจจัยนะ ดินด้วย ส่วนใหญ่เวลาเราสับลงไปเฉียงอยู่แล้ว เวลาเราสังเกตคนที่ใช้จอบเป็น เขาจะใช้แบบสับเฉียง เขาไม่ได้สับตรง ๆ แล้วแต่สภาพหน้าดิน แล้วแต่สภาพของดินที่เราสับลงไปด้วย


คือเราก็ดูเอาใช่ไหม พี่แค่รู้สึกว่าถ้าเราทำถูก เราจะเหนื่อยน้อยกว่าสับแบบไม่ถูก

บอล : ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ทำอะไรก็เหนื่อยเหมือนกัน


ตอนนี้เรายังปลูกกันอยู่หรือเปล่า

บอล : ปลูกอยู่


แล้วคิดว่าจะปลูกกันไปเรื่อย ๆ ไหม

บอล : ปีที่สาม พี่ ๆ เขาบอกว่าจะมีโครงการปีที่สามต่อ แล้วพี่ ๆ ก็ถามว่าจะทำต่อไหม พวกผมก็จะต่อยอดเลย ว่าจะทำออกแนวเกษตรเลย เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงไก่ไข่ จะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น


ในที่แปลงเดิมของพี่ไก่ใช่ไหม

บอล : ในแปลงเดิมของพี่ไก่ จะปลูกผัก แต่ไก่ไข่อาจเลี้ยงที่บ้านผม เพราะพอมีพื้นที่เลี้ยงไก่ได้


บอลสรุปให้พี่อีกหน่อย ทั้งหมดของโครงการเรา มีใครมาเกี่ยวข้องบ้าง นอกจากพวกเรา พี่ไก่ แล้วยังมีใครอีก กลุ่มของเรามีพี่ไก่ คุณลุง คุณป้า สามคนนั้นที่เหมือนมาสนใจ

บอล : ที่เหลือก็น่าจะเป็นคนที่มาซื้อผัก นอกนั้นก็ไม่มีใครแล้ว


ถ้าไม่ติดโควิด แผนการของเราคือเราเป็นคนเอาผักไปขายเองด้วยใช่ไหมในตลาด

บอล : ขายเองด้วย ตอนนั้นยังไม่ได้คิดถึงเรื่องขายออนไลน์ เพราะเราจะขายแล้ว ไปประชาสัมพันธ์ในตลาดด้วย ชวนให้บริโภคผักปลอดสาร แต่่ก็คิดอยู่เหมือนกันว่า ถ้าเราไปพูดอะไรแบบนั้น แล้วคนขายผักจะมารุมกระทืบไหม


จะมีคนเกี่ยวข้องอยู่ประมาณนี้นะ ถ้าทำโครงการต่อ คิดว่ากลุ่มเดิมที่ทำกันอยู่จะยังมาเป็นกลุ่มก้อนกันดีอยู่ไหม หรือว่าอย่างไร

บอล : ไปไหนกันไม่พ้นหรอกพี่ อยู่กันแถว ๆ นี้อยู่ด้วยกันตลอด ผมว่าก็เป็นกลุ่มก้อนนี่แหละ แต่ผมอาจจะหาน้อง ๆ ในเครือข่ายเพิ่ม เพราะว่าถ้ามีต่อ ๆ ไป ก็อยากให้น้อง ๆ ในชุมชนได้เข้ามาบ้าง


มีใครมาทักมาถามแล้วบ้างหรือยัง น้องที่เป็นเด็กรุ่นน้อง ๆ

บอล : มีตั้งแต่ปีแรกที่ทำแล้ว น้องก็สนใจ ก็ดึงมาช่วยงานบ้าง แต่ด้วยความที่เด็กเกินไป ก็ช่วยอะไรไม่ได้มาก แต่ก็ช่วยได้ ผมคิดว่าถ้าน้องยังอยากมาร่วมก็จะให้ร่วมเลย ปีกว่าแล้วสองปี น่าจะโตขึ้น ทำอะไรได้หลายอย่างมากขึ้น


อันนี้ส่วนของโครงการนะ ยังไม่ได้ลงรายบุคคล อยากถามรายละเอียดเกี่ยวกับการใช้พื้นที่ของพี่ไก่ที่ใช้ปลูกผัก อยากให้ลองบรรยายภาพให้พี่เห็นหน่อยได้ไหมว่า มีแปลงกี่แปลง ปลูกอะไรบ้าง อยากเห็นภาพ

บอล : ผมมีคลิปวีดิโอนะ มีประมาณ 24 แปลงนะ ทิวนับแล้ว แต่ละแปลง ผมจะปลูกกันมั่ว ๆ เอาเมล็ดอะไรตรงไหนใส่ก็ใส่เลยพี่ แต่มันจะเรียงตามชนิดของมันเหมือนกัน เช่น พริกจะอยู่ตรงนี้ เรียงกันสี่แปลง ตรงนี้เป็นแปลงผักกาดนะ


จะแบ่งแต่ละชนิด แต่ละชนิดก็จะอยู่ใกล้ ๆ กัน

บอล : ใช่ครับ มันจะอยู่กระจุก ๆ กัน


มีติดป้ายไหม เพื่อความสวยงาม

บอล : ไม่มีเลย


24 แปลง คือใช้ 24 แปลงตลอดเวลา มีว่าง มีพักแปลงบ้างไหม

บอล : พักแปลง เป็นผักที่ไม่ต้องพักอะไรขนาดนั้น เป็นผักบุ้งอะไรแบบนี้ เวลาเราปลูกเสร็จ เราเด็ดไปขาย เราก็ขึ้นแปลงใหม่ ไม่ต้องพักแปลงอะไรอยู่แล้ว


ขึ้นแปลงใหม่หมายความว่าอย่างไรนะบอล ไปทำอันใหม่เลย พรวนดินใหม่เลย

บอล : ครับ ดินเดิม สับ ๆ ที่เป็นรากเก่ามัน เราก็ไม่ต้องทิ้ง มันเป็นปุ๋ยต่อได้ เราก็ใส่ขี้ไก่ ตามสเต็ปเดิม แล้วก็โรยเมล็ดเข้าไป


จริง ๆ พี่ก็อยากเห็นภาพอยู่ เดี๋ยวจะขอให้ส่งให้ดูว่าแปลงผักเป็นอย่างไร ฟังดูเหมือนว่าจะกว้างใหญ่พอสมควร ไม่ใช่แค่ก๊อก ๆ แก๊ก ๆ ใช่ไหมล่ะ

บอล : ไม่แก๊กนะพี่


เมื่อกี้ที่คุยกันตอนแรก เทียบสนามบาสก็ได้ยาวอยู่ แต่ไม่ได้กว้าง

บอล : ใช่ครับ ยาวประมาณสนามบาส แต่ไม่ได้กว้างขนาดสนามบาส


ก่อนที่จะขุดแปลง เรามานั่งคุยวางแผนกันก่อนไหม ควรปลูกเท่านั้นเท่านี้ ปลูกผักกาดไว้ตรงนี้ ปลูกพริกไว้ตรงนี้ ประชุมกันก่อนไหม หรือพอได้อุปกรณ์ครบแล้วก็ขุดเลย

บอล : จัดการเลยครับ ไม่ต้องคุยให้เสียเวลา


เดี๋ยว บอล ถ้าแกคิดว่าทำครั้งต่อไป จะวางแผนกันไหม

บอล : น่าจะเอาเหมือนเดิมนะพี่ แปลงไหนว่างก็เอาเลย


เราไม่เห็นว่ามันมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นจากการไม่ได้วางแผนบ้างเลยเหรอ

บอล : ไม่มีนะพี่ เพราะว่าเราเก็บผัก เราก็เก็บกันเอง ไม่ได้จ้างใคร อย่างไรก็เป็นของเราเอง ถ้าพลาดก็พลาดเอง พลาดใส่ขี้ไก่ก็แค่นั้น รื้อแปลงทำใหม่


ถ้าเป็นแบบนี้ทิวกับบอลก็พอจะนึกภาพออกว่า ถ้าเราไม่ได้ทำเอง อาจจะต้องวางแผนด้วย ถ้ามีคนอื่นมาทำให้เรา อาจจะต้องจัดระบบให้มันดีขึ้นไหม

บอล : ครับ มันก็น่าจะเป็นแบบนั้น ถ้าในอนาคตมันเป็นระบบขนาดนั้นนะ ผมคิดว่าปีหน้าจะทำ เรื่องแปลงผัก เราจะแบ่งคนดูแลไก่ด้วย ปลาด้วย ไก่ออกไข่เราก็จะไปส่งไข่กันด้วย ผมคิดไว้หลายอย่างมากเลย แต่เรื่องระบบผักก็ปลูกเหมือนเดิม ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น


แล้วอย่างผักที่ขายออนไลน์ ผักที่ขายดีที่สุดที่ชาวบ้านนิยมซื้อ

บอล : คะน้ากับผักกาด ผักบุ้งก็ขายออกบ่อย พริกขึ้นไม่ทัน ขึ้นแล้วพวกผมก็เด็ดเอาไปตำน้ำพริกบ้าง


ส่วนใหญ่จะเป็นผักคะน้า ผักกาด ผักบุ้ง แล้วคิดว่าเราจะขยายแปลงผักคะน้า ผักกาด ผักบุ้ง เพิ่มไหม

บอล : ไม่คิดว่าจะขยายแล้ว ให้น้อง ๆ ทำเท่าที่ทำได้ไปก่อน แต่ในอนาคตยังไม่ได้คุยกันเลยว่าจะขยายเพิ่มไหม มันไม่ได้เป็นธุรกิจใหญ่อะไรขนาดนั้น


เปอร์เซ็นต์ผักแต่ละชนิดที่ปลูกเท่า ๆ กันเหรอ จำนวนแปลงอะ หรือมันมีอะไรมากกว่าอะไรไหม

บอล : มีอะไรมากกว่าอะไรไหม ผมจำไม่ได้ แต่ว่าไม่เท่ากันแน่นอน


มีอะไรมากที่สุด

บอล : ผักกาดจ้อน


เป็นผักกาดเล็ก ๆ ที่ไว้กินกับน้ำพริก พี่เข้าใจถูกไหม

บอล : ครับ ใช่


มันเป็นผักประมาณฝ่ามือ ส่วนใหญ่เห็นตามต่างจังหวัด ผักกาดที่เขาไว้กินกับไส้กรอก

บอล : กินกับลาบ ที่บ้านผมมีนะ พี่อยากดูไหม ผักกาดขาวเขาก็ซื้ออยู่นะ แต่ว่าผักกาดเขียวจะขายดีกว่า เขากินสด


แล้วตอนเรากินหมูกระทะ เราทำกินเองที่บ้านเหรอ

บอล : ใช่ครับ ส่วนใหญ่ทำกินเองที่บ้าน มันคุ้มกว่าด้วย


มีเตาหมูกระทะเลยเหรอ

บอล : มีพี่มี


ตรงส่วนโครงการมีใครอยากเพิ่มเติมอะไรไหม อยากถามบอลเพิ่มว่า อะไรที่เรารู้สึกว่าเราแบบทำได้ดีขึ้นในปีที่สอง

บอล : น่าจะเป็นความเข้าใจน้อง ๆ เพิ่มขึ้น มีความเป็นผู้นำเพิ่มขึ้น ใจเย็นลง เพราะว่าปีแรกจะด่าน้องเยอะหน่อย


อะไรที่ทำให้เรารู้ตัวว่าเราต้องเย็นลง

บอล : ถ้าเราเป็นผู้นำแล้ว เราไปด่าว่าน้อง น้องจะเสียความรู้สึก น้องบางคนผมเคยดุแล้วร้องไห้ ผมเลยเริ่มมาคิดว่าเราควรซอฟต์ ๆ คำพูดลงบ้าง หลังนำน้องได้ดีขึ้น น้องแอคทีฟตัวเองเพิ่มขึ้น เราก็ดีใจ

บอล : โครงการปีที่สองแล้วนะ เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเด็ก ๆ กลุ่มนี้ทำอะไร แต่ผู้ใหญ่ส่วนใหญ่ก็ไม่ค่อยสนใจอยู่ดี


แต่ว่ารวมคนมาได้เยอะนะ เราทำอย่างไรถึงได้รวมคนมาได้หลายคน

บอล : ไม่ได้รวมครับ อันนี้เขาประชุมหมู่บ้านอยู่แล้วครับ เราไปแทรกเฉย ๆ


ขอเป็นวาระ

บอล : ใช่ครับ


ใครเป็นคนพูดเล่าให้ชุมชนฟัง

บอล : บอลด้วย พี่ไก่ด้วย


เราต้องซ้อมอะไรไหม

บอล : ไม่ซ้อมครับ พูดสดอย่างเดียวเลย ตอนนี้ผมก็ไม่ได้ซ้อมพี่


อย่างนี้ดีแล้ว เราเข้าใจดีนะ ไม่ต้องมีสคริปต์

บอล : ไม่รู้จะเอาสคริปต์อะไรมา มาจากความรู้สึกอย่างเดียวเลย ใครเคยทำอะไรก็พูด ไม่เคยทำอะไรก็พูด


แล้วพวกเราชอบตอนไหนที่สุดที่ทำโครงการ

บอล : ตอนกินหมูกระทะครับ


เล่าเรื่องนี้ให้พี่เขาฟังหรือยัง

บอล : ไม่ได้เล่าละเอียดพี่ แต่ก็เป็นที่ไปอบรม แล้วเขาก็บอกว่า เรดโอ๊ค กรีนโอ๊ค กินกับสลัดโรล


( ดูภาพผลงงานกัน ) อันนี้ใช่ตรงที่บอลบอกว่าไปแล้วรู้เรื่องระบบน้ำ แล้วเรื่องที่เราเอาที่รดผักแล้วไม่มีแมลง

บอล : ใช่ครับ


เราได้ไปรู้เรื่องผักชนิดอื่นด้วย เราจะเปลี่ยนพันธุ์ผักที่แปลงปลูกเราบ้างไหม

บอล : ไม่เปลี่ยนครับ เพราะผักสลัด พวกพี่ๆ บอกว่ามันปลูกแล้วดูแลยาก ระยะเวลาในการปลูกใช้เวลาเยอะกว่า เลยคิดว่าถ้าจะให้น้อง ๆ ทำก็ปลูกง่าย ๆ ได้ขายเร็ว น่าจะดีกว่า


ไปคุยในชุมชนด้วย ไม่ตื่นเต้นเหรอ พูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ

บอล : ไม่ตื่นเต้นครับ


( ดูภาพผลงงานกัน ) อันนี้ทำอะไรกันภาพนี้

บอล : ทำเสาที่มุงล้อมรอบแปลง ที่เอามามุงสแลนอีกที เป็นเสายึด เอาเชือกมามัด


เคยใช้เครื่องมืออะไร

บอล : ผมเคยใช้เครื่องมือ ตัดเหล็กกับลุง


( ดูภาพผลงงานกัน ) อันนี้เป็นเครื่องมือบ้านใคร

บอล : บ้านพี่ไก่ จะเป็นน้องๆ ช่วยกันทำ ช่วยกันขนเหล็ก


แล้วเวลาทำเสาพวกนี้ ต้องคิดออกแบบเยอะไหม วางแผนอย่างไรก่อนไหม

บอล : พี่ไก่จะเป็นคนรู้ “เนี่ย! เดี๋ยวเราจะวางเสาตรงนี้ ๆ น้อง ๆ ก็จะรับฟัง จำแล้วก็ไปลงทำกันเลย”


ถ้าให้ทำเองโดยที่พี่ไก่ไม่บอก ถ้าให้ทำอีกครั้งหนึ่ง เราคิดว่าเราทำได้ไหม

บอล : ทำได้แล้ว เพราะเรามีประสบการณ์แล้ว


ครั้งหน้าก็ไม่ต้องให้พี่ไก่บอกแล้ว เก่งนะ ทำครั้งเดียวก็รู้เลย

บอล : มันไม่ยากพี่ มันง่าย


( ดูภาพผลงงานกัน ) อันนี้คือที่บอกตอนแรกว่าเป็นแปลงต้นกล้วยใช่ไหม ที่ต้องไปถางกันใช่ไหม

บอล : ใช่พี่ มันจะมีคลิปอยู่ในช่องยูทูบ


( ดูภาพผลงงานกัน ) ใช่ ๆ เขามีเป็นยูทูเบอร์ ที่กว้างมาก ตอนนี้ไปทำอะไรกัน

บอล : อันนี้อยู่บ้านพี่ไก่ ตามูลแกมาบอกวิธีขึ้นแปลง แต่ในรายงานผมจะสลับหัวข้อกันมั่วไปหมดเลย เพราะผมเขียนไม่ค่อยเป็น


( ดูภาพผลงงานกัน ) อันนี้ก็วาดเอง ทำเอง

บอล : ครับ น้อง ๆ ก็ช่วยกันวาด ช่วยกันทำเองกันหมดเลย


ยากไหม

บอล : ไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากครับ


ตรงไหนที่ไม่ง่าย

บอล : มันก็ภาพในหัว แต่จะเขียนให้มันดูรู้เรื่องยาก


อันนี้ทำไมต้องทำด้วย

บอล : ไม่รู้ครับ ป้าที่อยู่ที่สถาบันเขาบอกให้ทำ


อันนี้ทำตอนอยู่ที่ไหน ที่สถาบัน หรือทำตอนอยู่ในพื้นที่เรา

บอล : ทำกันอยู่ที่บ้าน ป้าบอกให้เขียนแผนผังแผนที่บ้านก็เลยเขียน ถ่ายรูปส่งให้เขาดู


( ดูภาพผลงงานกัน ) อันนี้คือพี่เลี้ยงลำพูนใช่ไหม แล้วได้เอามาใช้อีกไหม หลังจากวาดส่งไปแล้ว

บอล : ก็ถ่ายรูป ใช้รูปเอา


เราคิดว่าเราได้ความรู้อะไรจากการทำอันนี้

บอล : ไม่ได้ประโยชน์อะไรเลยพี่ บ้านผม ผมก็รู้พื้นที่อยู่แล้ว แต่เขาให้เขียนผมก็เขียน


มันเป็นประโยชน์ต่อคนอื่นไงบอล ที่เขาไม่รู้จักบ้านเธอ

บอล : ใช่พี่ มีประโยชน์ต่อคนอื่นไง แต่มันไม่ได้มีประโยชน์กับผมแค่นั้น


เรารู้ดีอยู่แล้ว อันนี้เขาเรียกอะไร

บอล : แผนผังผักรอบปี ผมไม่รู้เรื่อง


ถ้าบอลไม่รู้เรื่อง ทิวรู้เรื่องไหม ใครรู้เรื่องบ้าง

ทิว : ไม่ครับ

บอล : เขาให้เขียนทำไมไม่รู้ เขาบอกว่าจะเอาไปใส่ในแฟ้มรายงาน พวกผมก็เขียน ผมไม่รู้เรื่อง


แต่เราเป็นคนทำกันเองใช่ไหม

บอล : ใช่ ทำกันเองพี่ ลอกจากในเน็ต


อ้าว! แล้วรูปผักรูปอะไรที่อยู่ในนี้อยู่ในหมู่บ้านเราหรือเปล่า

บอล : อยู่ในเน็ตพี่


ไม่ได้เป็นของในหมู่บ้านเหรอ เดือนนี้นครเจดีย์ปลูกอะไรแบบนี้

บอล : มันมีในอินเตอร์เน็ตครับ แต่ไม่ได้ศึกษาลงรากลึกว่าต้องปลูกตามฤดูกาล เพราะว่าผักกาดผัก มันมีตลอดอยู่แล้ว ปลูกได้ตลอด เราไม่ได้ปลูกตามฤดูกาล ไม่ได้จะปลูกลำไยปลูกทุเรียน


เขาให้ทำก็ทำส่งไป แต่ก็วาดออกมาดูดีด้วยนะ ผักอะไรไม่มีลวดลาย วาดให้เห็นยังวาดแตกต่างกัน คือไม่ใช่ว่าผักออกมาหน้าตาเหมือนกัน ก็ตั้งใจวาดอยู่ เอามาจากอินเตอร์เน็ตก็เถอะ งานวาดนี่งานถนัดของใคร

บอล : ส่วนใหญ่จะเป็นจิมกับบาสครับ


( ดูภาพผลงงานกัน ) ทำไปทำไมอันนี้

บอล : อันนี้เหมือนว่าป้าให้วางแผน ให้เขียนร่างอะไรสักอย่าง ให้เขียนวางแผนมานะ พวกผมก็เขียน


แล้วได้ใช้ไหม

บอล : ได้ใช้ แต่ไม่ 100% เพราะว่ามีโควิดมาแทรก ปรับเปลี่ยนแผนกันมั่วไปหมดเลย


มีบอกว่าชาวบ้านพูดกับเราในเชิงบวกมากขึ้น สอบถามข้อมูลด้วย เขาพูดอย่างไร พูดในเชิงบวก

บอล : เวลาไปประชุมหมู่บ้าน บางทีเราเจอกันในหมู่บ้าน ไม่เห็นไปทำอะไรที่ไหนเลย พอเราทำ ชาวบ้านก็ถามว่า เห็นไปทำอะไรตรงบ้านพี่ไก่ ปลูกผักกันเหรอ เขาก็จะพูดกับเราดีขึ้น ดีนะ


เขามาขอซื้อผักกับเราบ้างไหม

บอล : ไม่มาขอกับเรา แต่ไปติดต่อในเฟซบุ๊กพี่ไก่ พี่ไก่เป็นคนกระจายข่าว พอเริ่มมีคนซื้อ เขาก็ไปคุยต่อ ๆ กัน เขาก็เริ่มสนใจ ที่เราปลูกผักกันและสนใจอยากซื้อ


เงินที่ได้จากการขายผักเอาไปทำอะไรกัน

บอล : ให้พี่ไก่รวมไว้เป็นกองกลาง ถ้ามีเยอะ ๆ ก็เอาไปซื้อหมู


อันนี้เฟซบุ๊กพี่ไก่ใช่ไหม

บอล : พี่ต่อครับ แวนนารินที่ให้ความรู้เรื่องเดินระบบน้ำและให้วิธีการกันแมลงมา