สัมภาษณ์โครงการ Best Practice การเรียนรู้และพัฒนาตนเองผ่านโครงการเพื่อชุมชน PBL : โครงการสืบสานเครื่องดนตรีชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ มหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.) ลำพูน หรือ วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน

บทสัมภาษณ์โครงการเด่น โครงการสืบสานเครื่องดนตรีชาติพันธุ์ปกาเกอะญอ

มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย (มจร.) หรือ วิทยาลัยสงฆ์ลำพูน


ผู้ให้สัมภาษณ์

สุชิน คำภิระ ชื่อเล่น ยู

อายุ 21 ปี สถานศึกษา มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณ์ราชวิทยาลัย (มจร.)

นิสิตชั้นปีที่ 2 คณะรัฐประศาสนศาสตร์




มาเรียนที่ มจร. ได้อย่างไร

ตอนแรกพี่ผมมาเรียนที่นี่ ผมไปเรียนช่างยนต์ ไปเรียนแล้วไม่สนุก รู้สึกว่าไม่ใช่ตัวเอง พี่ก็แนะนำให้มาเรียนต่อที่นี่


เราเลือกเองหรือเปล่า ช่างยนต์

ตอนแรกเลือกเองครับ มันได้เรียนซ่อมด้วย เพราะเราไม่ได้เรียนตั้งแต่ ปวช. มา


แล้วไม่ชอบเหรอ

ชอบครับ แต่ว่าเราเรียนไม่ทันคนอื่น ต่อให้เรียนจบไปก็คงไม่เป็นงาน


โอเค เข้าใจ แล้วมาเรียนรัฐประศาสนศาสตร์สองปี แล้วเป็นอย่างไร ชอบไหม

ชอบครับเพราะมันได้เข้าสังคมด้วย ได้เรียนรู้ในระบบ


คือชอบระบบในมหาวิทยาลัยมากกว่าเหรอ

ใช่ครับ เพราะเรามีเพื่อน ได้ทำงานโครงงานและได้ลงพื้นที่ด้วย


โอเค พี่อยากให้ยูเล่าให้ฟังหน่อยว่า เราทำโครงการอะไรกันครับ

โครงการเรื่องการอนุรักษ์เครื่องดนตรีกะเหรี่ยง


ทำไมถึงสนใจทำโครงการนี้

ส่วนตัวผมตอนแรกผมก็ไม่รู้จักข้อมูลเครื่องดนตรีเตหน่าเหมือนกันเพราะในลำพูนไม่มีเลยครับ  เคยเห็นแต่เขาพูดว่าเตหน่า ๆ มาจากที่ไหนแบบนี้


แล้วยูมารู้จักโครงการนี้ได้อย่างไร

ผมเข้าชมรมนิสิตปกาเกอะญอ มจร. ลำพูน ที่สถาบันหริภุญชัยเข้าไปแนะนำโครงการพอดี เขาก็ชวนผมไปด้วย


มาเข้าชมรมนี้ได้อย่างไร

มีพี่ที่อยู่ในชมรมแนะนำให้รู้จัก แล้วบอกว่าถ้าอยู่ชมรมนี้จะได้ขึ้นดอย ก็เลยรู้สึกชอบ อยากไป ก็เลยสมัครเข้ามา


แล้วเราเป็นปกาเกอะญอไหม

เป็นครับ


แต่ในชุมชนเราไม่มีใครเล่นเตหน่าเป็นเลยเหรอ

ในอำเภอไม่มีเลยครับ


ในอำเภอทุ่งหัวช้างเนี่ยนะ

ไม่มีเลยครับ


คือเราเป็นสมาชิกชมรมเนอะ แล้วก็ได้รู้จักโครงการนี้ แล้วทำไมเราถึงสนใจมาเข้าร่วมโครงการ

ผมมากับเพื่อนสองคน พี่เขาชวนไปเพราะไม่มีคนไป ผมก็ไปกับเพื่อนรวมเป็นหกคน หลังจากนั้นก็ติดตามกันไปเรื่อยๆ


สมาชิกทั้งหมดที่เข้าร่วมโครงการมีกันกี่คนในทีมเรา

ตอนแรก ๆ มีกันสิบกว่าคน แล้วตอนหลัง ๆ พี่ปีสี่ปีห้าไปฝึกงานฝึกสอน ออกไปเหลือกันหกคน


เหลือกันหกคนนะตอนนี้ เพื่อนที่ไปกับยูตอนแรกที่ยูบอกว่าออกไปแล้ว เป็นปกาเกอะญอด้วยไหม

เป็นครับ อยู่ตำบลเดียวกัน แต่อยู่กันคนละหมู่บ้าน


เรารู้ไหม ทำไมเขาถึงไม่ทำโครงการด้วยกันแล้ว

เขาบอกว่า พ่อแม่ไม่มีกำลังส่งเรียนแล้ว เขาไม่ได้เรียนแล้ว ออกจากมหาวิทยาลัยไปเลย


นอกจากรุ่นพี่ที่ไม่ได้เข้ามาช่วยเพราะติดฝึกงาน มีคนอื่นที่ออกกลางคันด้วยเหตุผลอื่นอีกไหม

ตอนแรกเยาวชนมีพวกผมแค่สองคนครับ แล้วเพิ่งมาได้พี่ปีสี่ พี่แป่ว (ภาสกร ป่างวิสัย) เข้ามาช่วย เพราะว่าตุ๊ประชา (พระประชา อาญาล้ำเลิศ) ขอมา สมาชิกมีผมกับพี่แป่วสองคนครับที่เป็นฆารวาส อีกสองคนเป็นพระ เวลาไปลงพื้นที่ทำงานตุ๊ไปกันไม่ค่อยสะดวก ผมกับพี่แป่วจะไปคนไป


พี่อยากรู้ว่า เป็นอย่างไรมาอย่างไร เราถึงคิดมาทำโครงการนี้ ใครมาชวนเราคิด หรือใครเป็นคนต้นคิดว่าเรามาทำโครงการเรื่องเตหน่ากันดีกว่า

ตอนแรกมีการโหวตกันในชมรม ว่าจะทำโครงการอะไรระหว่างเตหน่ากับการแต่งกาย สรุปกันว่าทำเรื่องเตหน่า เพราะตุ๊ประชา กับ หนานโละ (ทรงศักดิ์ อาญาล้ำเลิศ) บอกว่า ที่บ้านเขา (จังหวัดตาก) มีเครื่องดนตรีและมีผู้รู้ช่วยสอนได้ สามารถทำแล้วก็เล่นได้เลย ส่วนตัวเขาเองก็เล่นเป็น


แล้วส่วนตัวเราสนใจไหม เรื่องนี้

ตอนแรกผมก็เฉย ๆ เพราะข้อมูลมันไม่ค่อยมี แต่หลัง ๆ ก็เริ่มสนใจ เพราะได้เรียนรู้ ได้รู้จักมากขึ้น อยากทำเป็นรูปเล่มเก็บข้อมูลไว้สำหรับศึกษาต่อ จะได้ง่ายขึ้น


คือเหมือนกับเราก็คุยกันในกลุ่ม ซึ่งเป็นปกาเกอะญอกันใช่ไหม มีใครไม่เป็นบ้างไหม

ไม่มีเลย


เป็นปกาเกอะญอก็มาจากต่างพื้นที่ พูดภาษาปกาเกอะญอ แต่สำเนียงก็ไม่ได้ว่าจะฟังกันรู้เรื่อง

ใช่ครับ คล้าย ๆ แต่ก็ไม่รู้เรื่อง


แล้วเราเคยคิดหรือเคยรู้ไหมว่ามีแบบนี้ด้วย ส่วนตัวพี่คิดว่าปกาเกอะญอคุยกันรู้เรื่องหมดทั้งประเทศ อันนี้เราคิดแบบนี้เหมือนพี่ไหม หรือเพิ่งมาเจอว่ามันไม่ใช่

ตอนยังไม่ได้ออกมาในเมือง ผมก็ไม่รู้ว่ามีแบบนี้ด้วย แล้วพอออกมาก็คุยกันไม่ค่อยรู้เรื่อง แต่ที่หมู่บ้านผมไม่ได้พูดเหมือนหมู่บ้านอื่น หมู่บ้านอื่นจะเป็นกะเหรี่ยงโปว์


แล้วพอเราได้มาคุยกันในกลุ่มปกาเกอะญอเหมือนกัน แต่มีความแตกต่างกัน เรารู้สึกอย่างไรบ้าง

ตอนยังไม่ได้ออกมาในเมือง ผมพอรู้มาบ้างว่าปกาเกอะญออยู่ในหลายพื้นที่ พอได้รู้ที่มาของกันและกัน รู้สึกแปลกใจว่าเป็นปกาเกอะญอเหมือนกัน แต่ภาษาก็ไม่เหมือนกัน เขาเป็นปกาเกอะญอหรือเปล่า หรือเราไม่ใช่ปกาเกอะญอ ฟังกันไม่รู้เรื่องเลยครับ ถ้าไม่สนิทกันหรืออยู่ด้วยกันนาน ๆ


ตอนที่เราคุยกันเรื่องว่าจะทำโครงการอะไร มีเพื่อนเสนอกันว่าเตหน่า เรื่องเครื่องแต่งกาย เราสรุปกันอย่างไร เราใช้วิธีการโหวต หรือเราใช้วิธีการไหน ให้ได้ข้อสรุปมาว่าทำเรื่องนี้แหละ

เราสรุปกันว่าหาข้อมูลได้ง่ายและมีความรู้ เพราะว่าหนานโละกับตุ๊ประชามีความรู้เกี่ยวกับเครื่องดนตรี เขารู้จักคนเฒ่าคนแก่ด้วย มันง่ายกว่า เลยเลือกหัวข้อนี้


มันหาข้อมูลได้ง่าย เรื่องเครื่องแต่งกายก็ง่ายหรือเปล่า มันน่าจะง่ายกว่าไหม

มันง่ายนะครับ แต่มันมีกะเหรี่ยงโปว์ กะเหรี่ยงสกอว์ แล้วก็ปกาเกอะญอ มันมีหลายเผ่า มันก็เลยยุ่งยาก เลยเอาแค่เตหน่า


หลากหลายเกินไป ก็เลยเลือกเตหน่านี่แหละใช่ไหม  พี่อยากให้ยูเล่าให้ฟังหน่อยว่า เรามีขั้นตอนทำโครงการนี้อย่างไรบ้าง หลังจากที่รู้แล้วว่าจะทำโครงการอนุรักษ์เครื่องดนตรีเตหน่า หลังจากนั้นเราทำอะไรต่อ

หลังจากที่ตกลงทำเครื่องดนตรีเตหน่า หนานโละรู้จักกับคนที่เล่นเตหน่าเป็น อยู่ที่หมู่บ้านป่าแป๋ ตำบลป่าพลู อำเภอบ้านโฮ่ง เป็นหมู่บ้านชาวปกาเกอะญอ ที่อยู่สูงที่สุดของ จ.ลำพูนเลยวางแผนว่าลงพื้นที่ แล้วเลยไปที่บ้านห้วยบง อำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนเลยครับ แต่พอทำจริง ๆ ไปได้แค่ป่าแป๋ เพราะว่าติดช่วงโควิดครับ เลยได้ข้อมูลจากป่าแป๋ไม่ค่อยมากเท่าไร เพราะว่ามีผู้รู้คนเดียวที่เล่นได้ เราพลาดการลงพื้นที่เรียนรู้ที่แม่แจ่มไป ที่นั่นมีผู้รู้ที่เล่นดนตรีเป็นหลายคน มีศิลปินอยู่มาก


ก็คือเรารู้แล้วว่าเราทำโครงการนี้แล้วเราก็ประชุมกันใช่ไหมว่าเราจะไปลงพื้นที่ แล้วเราก็เลือกป่าแป๋กับแม่แจ่ม เพราะว่าเพื่อนในกลุ่มรู้จักกับผู้รู้ที่นั่น พี่เข้าใจถูกไหม

ใช่ครับ เพราะว่ารู้จักพี่ที่ป่าแป๋


พี่อยากรู้ว่าก่อนที่เราจะไปลงพื้นที่ เราต้องวางแผนกันไหม ว่าเราจะไปเก็บข้อมูลอะไรอย่างไร เก็บเรื่องอะไรบ้าง

วางแผนครับ ว่าจะไปกี่คืน ไปทำอะไรบ้าง


เล่าให้ฟังหน่อยสิ ว่าจะไปอย่างไร เลือกวันอย่างไร

ตอนแรกก็ถามก่อนว่าว่างกันวันไหน ว่างช่วงไหน


มีพระมีตุ๊กี่คน

4 คนครับ คนบ้าน 2 คนครับ แต่มีคนหนึ่งสึกไปแล้วครับ


สุดท้ายโครงการตุ๊เหลือ 3 คน

ใช่ครับ


วางแผนกันอย่างไร เลือกวันให้เหมาะกับตุ๊และคนบ้าน แล้วอย่างไรอีก

หารถ แล้วก็คำนวณค่าอาหาร 3 วัน ตอนแรกว่าจะไป 2 คืน 3 วัน พอสรุปกันได้ก็นัดกันไปเลย


สรุปกันว่าจะไป 2 คืน 3 วัน

ใช่ครับ


แล้ววางแผนว่าจะไปทำอะไรบ้าง

ไปทำข้อมูลที่มาที่ไปของเตหน่า วิธีการทำ ขั้นตอนการฝึกเล่น พอไปจริง ๆ ได้ไปแค่วันเดียวครับ เพราะพี่เขาไม่ว่าง ติดงานเรื่องประกาศพื้นที่เขตวัฒนธรรมพิเศษบ้านดอยช้างป่าแป๋


แล้วพวกเราไม่รู้มาก่อนว่าเขาติดงาน

ไม่รู้ครับ เพราะว่ามันสื่อสารกันลำบาก เขาอยู่บนดอย มันไม่มีคลื่น


ก็คือจากเดิมวางแผนว่าจะไป 2 คืน 3 วัน พอไปแล้ว ปรากฏว่าเขาติดงาน เลยไปแค่วันเดียว วันเดียวคือไปกลับเลย หรือว่าไปนอนหนึ่งคืน

ไปกลับเลย ไปคุยกับพี่เขาแป๊บเดียวจริง ๆ  ได้ข้อมูลมาก็ไม่ค่อยมากเท่าไร ได้แค่ว่าเขาก็หัดเล่นมาจากที่อื่น หัดเล่นคนเดียว


หัดเล่นมาจากที่อื่น

อันนี้ผมก็ไม่แน่ใจ


ไหนเล่าให้พี่ฟังอีก ว่ารู้อะไรมาบ้าง เหมือนมาถ่ายทอดสิ่งที่เราได้ฟังมาให้พี่ฟัง พี่อยากรู้

คือผมก็ไม่ได้อะไรมาก ได้คุยกันแค่แป๊บเดียว ไม่เกิน 5 นาทีครับ


แล้วต้องเดินทางไปกี่ชั่วโมง

เดินทางไป ถ้าอยู่ มจร. ไม่เกิน 2 ชั่วโมง


แล้วเรารู้สึกอย่างไร เมื่อไปแล้วไม่ได้งาน ตอนนั้นพูดคุยกัน หรือคิดอย่างไรกันบ้าง

ในความรู้สึกผม จะทำอย่างไร ลงพื้นที่ได้ข้อมูลไม่เยอะ ถ้าได้ข้อมูลไม่เยอะ งานมันก็จะไม่สมบูรณ์ มันจะไม่ตรงตามความเป็นจริงว่าเราไปศึกษา


แล้วมีโวยวาย ทะเลาะ หัวเสียอะไรไหม

ไม่มีครับ ในทีมมีกันน้อย ในทีมสามัคคีกันมาก กลัวทิ้งกัน คุยกันว่าไม่เป็นไร เราก็ช่วยกันหาข้อมูลจากที่อื่น


พวกเราขับรถไปกันเอง หรือไปกันอย่างไร

จ้างเหมารถไป แผนเราคือไปนอน ของต้องขนไปเยอะ ของกิน เนื้อหมูสักสิบกิโลกรัม กะจะไปกินหมูกระทะ พอพี่เขาไม่ว่าง เราก็ไม่รู้จะทำอะไรต่อ เราก็กลับ


แล้วของที่ซื้อ ๆ มา ทำอย่างไร

ของก็เอากลับบ้านเลย เพราะมีแม่บ้าน


โอเค ตอนนั้นที่ไปป่าแป๋ เรารู้หรือยังว่าเราไม่ได้ไปแม่แจ่ม มันมีอีกที่หนึ่งที่เป็นตัวเลือกให้เราหรือเปล่า

ตอนนั้นคิดว่ามันใกล้ดี เลยไปป่าแป๋ก่อน เป็นช่วงที่เพิ่งว่างกันแล้วโควิดก็เข้ามาพอดี


คือเราไปป่าแป๋ โควิดเข้ามาแล้วเหรอ

เข้ามาแล้วครับ แต่เขายังไม่ปิดไม่ได้อะไรกัน มีข่าวเข้ามาแล้ว


ตอนที่เราไม่ได้ข้อมูลจากป่าแป๋ เราได้คิดกันถึงการไปแม่แจ่มด้วยอีกไหม เพราะเราได้ข้อมูลไม่ครบจากป่าแป๋

ตอนแรกคิดครับ พอมาอีกวันสองวัน เขาสั่งปิดไม่ให้เข้าหมู่บ้าน


โอเค เข้าใจ สรุปว่าไปแม่แจ่มไม่ได้ใช่ไหม

ใช่ครับ เขาไม่ว่างกัน


เขาไม่ว่างกัน คือในทีมเราว่างไม่ตรงกันใช่ไหม

ใช่ครับ


แล้วในความคิดเรา เราคิดว่ามันเป็นปัญหาไหม กับการที่สมาชิกไม่ว่างบ้าง ว่างไม่ตรงกัน

ผมว่าเป็นครับ แต่ไม่ค่อยมากเท่าไร เพราะว่าพี่อีกคนสามารถช่วยหาข้อมูลมาเสริมให้เราได้


พี่คนนั้นชื่อพี่อะไร

พี่แป่ว ถ้าไปอบรมก็ไปด้วยกัน


เป็นเยาวชนหรือเป็นพี่เลี้ยง

เป็นเยาวชนเลยครับ


พี่เลี้ยงได้ช่วยอะไรเราบ้างไหม

เรื่องหารถ ช่วยนัดเยาวชนให้ แทบไม่มีใครตอบแชทเลย


เราก็มีกลุ่มแชทสำหรับทีมของเรา แต่ก็ไม่มีใครตอบหากัน

ใช่ครับ พี่เขาก็ต้องตามงาน


แล้วคิดว่าจะทำกันอย่างไร ในเมื่อสัมภาษณ์มาแล้วก็ไม่ได้ข้อมูล แล้วเราแบ่งหน้าที่กันอย่างไร ใครจะไปหาข้อมูลมาเพิ่ม ยูทำอะไร

ส่วนใหญ่หนานโละกับพีแป่วทำหมดเลย ผมแค่ช่วยเขาเคลียร์เรื่องเอกสารนิดหน่อย


พี่สองคนนี้เป็นคนหลักในการไปหาข้อมูลเป็นเพราะว่าอะไร

เพราะว่าเขามีประสบการณ์ อ้ายแป่วทำโครงการมาเยอะ ผมเพิ่งเข้ามา ตอนนั้นยังไม่รู้เรื่องเรื่องเอกสาร หาข้อมูลจากที่ไหน จะทำอย่างไร คือตอนนั้นทำอะไรไม่เป็นเลยครับ เขาให้ช่วยอย่างไรก็ทำตามหมดเลย


ยูได้ช่วยทำอะไรบ้างนะ ขออีกที เมื่อกี้ยูได้พูดมาบ้างแล้วล่ะ

ส่วนใหญ่ผมไปอบรมแล้วก็ไปลงพื้นที่ จำมาบ้างบางคำที่เขาเล่ามา ช่วย ๆ กันจำมา


อย่างที่ไปหาข้อมูล เราไม่ได้ลงพื้นที่ไปหาแล้วใช่ไหม เราใช้วิธีไหนในการหาข้อมูล

น่าจะถามจากในเฟซ


แล้วข้อมูลที่หามาได้นี่เอามาแชร์กันในกลุ่มไหม ว่าหาอะไรมาได้บ้าง ได้มาพูดคุยกันไหม

เอามาแชร์ครับ ก่อนจะเขียน พี่เขาเขียนมาแล้ว มาปรึกษากันว่าแบบนี้ถูกไหม เหมาะสมหรือเปล่า บางคำใช้ภาษาไทยแบบนี้ถูกหรือเปล่า


แล้วยูรู้ไหมว่า เขาไปถามจากผู้รู้มากี่คน เรารู้ไหม

ถามจากผู้รู้ หนานโละน่าจะไปถามจากผู้รู้ที่ป่าแป๋


หมายความว่า เราไปป่าแป๋ เราได้คุยกับเขาแค่ไม่นาน แต่หลังจากนั้นเราไปถามเขาอีกในเฟสเหรอ หรือว่าอย่างไร

ครับ หนานโละน่าจะโทรไปถามครับ ผมช่วยเป็นมือซ้ายมือขวา พี่เขาบอกให้ช่วยทำอะไรผมก็จะทำ แต่ไม่ได้หาข้อมูลจริงจังเหมือนพี่ทั้งสองคน เพราะว่าสองคนนั้นอยู่ปีสี่ เขารู้จักคนเยอะหน่อยเลยดำเนินการเรื่องนี้ครับ ผมก็ได้ฟังได้อ่านเป็นความรู้ ได้มารู้จักเครื่องเล่นนิด ๆ หน่อย ๆ รู้จักไม่เยอะหรอกครับ ที่ลำพูนไม่มี เลยไม่รู้จักใครเลย เลยได้ความรู้ไม่ค่อยเยอะหรอก


รู้จักนิด ๆ หน่อย ๆ พอรู้จักแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง

รู้จักแล้วรู้สึกว่ามันเป็นองค์ความรู้ใหม่ เพราะว่าเราไม่เคยรู้จักมาก่อน องค์ประกอบแต่ละส่วนของเต่หน่ามีความหมายหมดเลยนะ หกสายคือสายอะไรบ้าง มีความหมายอะไร ถ้าสิบสองสาย ยี่สิบสี่สายมันมีความหมายอยู่ในตัวของมัน


แล้วเรารู้สึกไหม ว่ามันมีความสำคัญ ควรจะต้องรู้

ถ้าถามผมว่ามีความสำคัญไหม มันก็มีความสำคัญในระดับหนึ่ง เพราะว่าในจังหวัดลำพูนไม่มี แต่ถามว่าจังหวัดลำพูนไม่มีมันสำคัญอย่างไร มันก็ไม่สำคัญ แต่เราอยากให้คนอื่นรู้จักว่ามันมีเป็นของเผ่าปกาเกอะญอเป็นของกะเหรี่ยง มันมีที่มาที่ไป มีความหมายอย่างไร


แล้วพอยูรู้แล้ว ทำให้ยูอยากเล่นให้เป็นด้วยไหม

ถ้าถามผม ผมไม่ค่อยอยากเล่น มันต้องฝึกเยอะ แค่รู้ก็พอแล้ว แต่ถ้าคนที่ชอบจริง ๆ จะฝึกเล่นให้เป็น ขนาดผมเล่นกีตาร์ยังเล่นไม่เป็นเลย


งั้นในกลุ่มเราที่เหลือกันอยู่หกคน เล่นเป็นกี่คน

เล่นเป็นจริง ๆ คนเดียว พี่แป่วเล่นเป็นเพลงได้สักเพลงสองเพลง


เล่นเป็นจริง ๆ คือใครนะ

หนานโละ


พี่แปวคือพอได้

ครับ พอได้


หนานโละเป็นอยู่แล้วใช่ไหม

ครับ น่าจะเป็นมาอยู่แล้ว เพราะที่บ้านแกมี แกสนใจด้วย แกฝึกจนเล่นได้


แป่วเขาสนใจแล้วมาฝึกตอนทำโครงการหรืออย่างไร พอจะรู้ไหม

เขาสนใจเพราะเป็นคนจริงจัง รักในการเรียนรู้เรื่องกะเหรี่ยง มันลึกซึ้ง มันมีบทธาประกอบ เขาจะบอกผม


เวลาพวกเราทำงานกัน เราสื่อสารกันทางไหน คือนัดมารวมกลุ่มกันอย่างไร

ส่วนมากจะในแชท แล้วมานั่งรวมกันที่มหาวิทยาลัย มันง่ายดี


แต่ก็มาไม่ค่อยพร้อมเพรียงกันใช่ไหม

ใช่ครับ


แล้วยังมีปัญหาเรื่องอื่นอีกไหม ในการทำโครงการ

ปัญหาก่อนหน้านี้มีเรื่องโควิด จะไปไหนมาไหนก็ไม่ได้ จะมามหาวิทยาลัยก็ปิด


แล้วมีกิจกรรมอื่นอีกไหมที่เราทำหลังจากนั้นแล้ว หลังจากที่ไปบ้านป่าแป๋แล้ว

ก่อนไปป่าแป๋มีฝึกเล่น ตอนแรกกะจะให้คนในชมรมฝึกเล่น อาทิตย์ละครั้ง ประมาณสี่อาทิตย์ ไปได้แค่อาทิตย์เดียวแล้วสมาชิกหาย ไม่มีใครมาเลย ก็เลยเป็นเขียนโน้ตแทน ว่าสายนี้เป็นโน้ตอะไร


อ๋อ มีความละเอียดของมันใช่ไหม

ใช่ครับ


แต่ของพวกเราเป็นชมรม มันมีช่วงที่ต้องมารวมกันอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ คนที่มาเรียนไม่มาได้อย่างไร เขาก็ต้องมาหรือเปล่า เป็นชมรม

เขาไม่ให้ความร่วมมือ ถ้าไม่ขอจริง ๆ ก็ไม่มาครับ หลัก ๆ ก็แค่หกคนที่ให้ความร่วมมือ อย่างที่ให้มาฝึกเล่นก็มาเยอะวันแรกวันเดียว


วันแรกมากี่คน

น่าจะยี่สิบกว่าคน


ชมรมเรามีกี่คน

ไม่แน่ใจครับ เพราะว่าประมาณยี่สิบกว่าคน นัดประชุมชมรมก็ไม่มากัน


มันเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ตั้งแต่ก่อนทำโครงการ หรือเป็นเฉพาะในโครงการนี้ที่คนนัดไม่ค่อยจะมากัน

นัดรุ่นน้องปีหนึ่งปีสองมาแล้ว ตอนแรกจะมีพี่ปีสี่ปีห้า พอเขาไปฝึกงานกัน น้อง ๆ ก็ไม่มากัน


ยิ่งนาน ๆ ไปคนก็ยิ่งหายใช่ไหม

ใช่ครับ


ตอนแรกพี่ลืมถามไปเลย ว่าจริง ๆ แล้วเป้าหมายโครงการคืออะไร งั้นพี่จะถามต่อไปเลยว่าเป้าหมายโครงการเราคืออะไร พอทำออกมาแล้วมีปัญหาทั้งหมด เราคิดว่ามันได้ตามเป้าหมายหรือเปล่า

เป้าหมายของเราจริง ๆ คือ แค่มีตัวสรุปโครงการทำเป็นรูปเล่มออกมาให้ชมรม แล้วให้น้อง ๆ รุ่นหลัง ๆ ได้เรียนรู้ พี่เขาทำมาแล้ว จะได้หาข้อมูลได้ง่าย


รวมถึงเรื่องเล่น ต้องเล่นเป็นด้วยหรือเปล่า ในเป้าหมายแรก

เป้าหมายแรก กะว่าจะให้เล่นเป็น แต่ว่าไม่เป็น


แล้วสุดท้าย ทำได้ตามเป้าหมายไหม เราได้อะไรมาบ้าง จากการทำโครงการนี้ที่เป็นผลลัพธ์ชัดเจนเลย

ที่เป็นผลลัพธ์ชัดเจนเลยก็คือ มันไม่มีเป้าหมาย ตอนแรกเป้าหมายเราคือทำเป็นรูปเล่มให้ชมรมเฉย ๆ มีหนังสือให้ชมรม


แล้วเราได้ไหมรูปเล่ม

ได้ข้อมูลมาบ้าง เพราะมันมีปัญหาเยอะมากเลยครับ ทั้งคนน้อยด้วย ลงพื้นที่ก็ไม่ได้ ได้ข้อมูลค่อนข้างน้อย


พี่ทบทวนปัญหานิดหนึ่ง คืออย่างแรกคนน้อยใช่ไหม เวลานัดมาก็ไม่ค่อยตรงกัน

ใช่ครับ เพราะมีคนบ้านแค่สองคน มีพระอีกสี่คน


การทำงานระหว่างมีตุ๊ด้วย มันยากอย่างไร มันทำให้การทำงานลำบากอย่างไร

เวลาไปไหนมาไหนมันไม่ค่อยสะดวก


แล้วที่คนน้อย จากที่ตอนแรกเหมือนคนมาฟังวันแรกตั้งยี่สิบกว่าคน แล้วต่อมาก็น้อย เราคิดว่าเพราะอะไร ทำไมเขาถึงไม่สนใจ

เพราะว่าที่มาไม่ใช่คนกะเหรี่ยงทั้งหมด มันมีคนเมืองเข้ามาด้วย เขาไม่ได้สนใจ ไม่ใช่ของเขา มันไม่เหมือนซึง ซอ หรือกีตาร์ เขาก็น่าจะไม่ค่อยสนใจกัน


เลยเหลือแค่พวกเราสี่ตุ๊ แล้วก็สองคนบ้านใช่ไหม

ใช่ครับ


โอเค งั้นแล้วตัวยูคิดว่าได้อะไรจากโครงการนี้บ้าง

ถ้าถามผม ผมได้ความรู้จากการไปอบรมในโครงการ ได้รู้จักการวางแผนเพิ่มมากขึ้น จากเมื่อก่อนนี้ไม่เคยวางแผนเลยว่าการทำงานมีลำดับขั้นตอนอย่างไร ตอนนี้ผมจะคิดว่าต้องทำอะไรบ้าง ที่ไหน อย่างไร กับใคร ในการทำโครงการอื่น ๆ หรือในชีวิตประจำวัน ไปที่ไหนเราต้องวางแผน แล้วคิดหาวิธีแก้ เพราะปัญหามันมีทุกที่อยู่แล้ว แต่เรื่องของเตหน่าไม่ค่อยเท่าไร ได้รู้แค่ว่ามาจากที่นั่นที่นี่ มันมีความหมายอย่างไร


มีเรื่องอื่นอีกไหม ที่เราได้พัฒนาตัวเอง หรือได้เห็นศักยภาพในตัวเองที่เราไม่เคยรู้มาก่อน

ผมว่าตัวเองมีความกล้าแสดงออกมากขึ้น เพราะได้ฝึกพูดต่อหน้าคนเยอะๆ กล้าเข้าหาคนอื่น กล้าถามกล้าคุย เรากลับมาเรียนนำเสนองาน กล้าจับไมค์นำเสนอโครงการ


จุดเปลี่ยนมันอยู่ตอนไหน ที่ยูกล้าขึ้น ตอนไปอบรม เราได้ไปพูดข้างหน้าแบบนี้เหรอ

จุดเปลี่ยนมันคือความเคยชิน ตอนไปอบรมก็ได้ไปนำเสนอกันสองคน เปลี่ยนกันขึ้น เลยเป็นความเคยชินไปเลย


แล้วตัวเรารู้สึกกับความเป็นปกาเกอะญอของเรา มีความรู้สึกเปลี่ยนแปลงไปไหม หลังจากที่มาทำโครงการนี้แล้ว

มีครับ บ้านผมวัฒนธรรมปกาเกอะญอหายไปค่อนข้างเยอะ จาก 100% หายไปประมาณ 70-80% คนรุ่นใหม่ตามสังคมภายนอกอย่างเดียว ป้า ๆ ลุง ๆ ก็ไม่สนใจ ถ้าเราไปเห็นจังหวัดตากหรือที่อื่น เขายังอนุรักษ์ ยังใช้ชีวิตธรรมดา ๆ อยู่ ผมเลยเห็นคุณค่าในความเป็นชาติพันธุ์ของตัวเองมมากขึ้น ว่าควรรักษาวิถีชีวิตเอกลักษณ์ความเป็นปกาเกอะญอไว้บ้าง


งั้นเราอยากจะไปทำอะไรกับชุมชนของเราให้ดีขึ้นไหม อยากจะไปพัฒนาตรงไหน ถ้าเราไปทำได้

ถ้าทำได้ ผมอยากนำแนวคิดไปให้เยาวชนรุ่นใหม่มากกว่า ไม่อยากให้เอกลักษณ์ของเราเลือนหายไปตามเวลา


คือเราอยากจะไปทำรูปแบบอย่างไร ให้ความรู้หรือชวนทำกิจกรรมอะไร เรามีคิดไว้ในหัวไหม

รูปแบบคือชวนทำกิจกรรมมากกว่า


เช่น อะไรบ้าง ที่คิดไว้

ในชุมชนผมคนที่ไม่เรียนแล้ว แต่เดิมไปเข้าไร่เข้าสวนเข้านา แต่ตอนนี้ไปเข้าโรงงาน ไปทำงานที่อื่น ถ้าผมทำได้ ผมจะทำให้คนที่ไม่เรียน รู้สึกว่าตัวเองยังมีคุณค่า ไม่ใช่ว่าไร้ค่าในสายตาของคนมีการศึกษา มีความสุขตามชีวิตของคนที่ไม่ได้เรียนไป ใช้ชีวิตกับชนบทกั บครอบครัวกับทุ่งนากับไร่ที่มีอยู่ได้


ระหว่างที่เราทำโครงการ นอกจากในกลุ่มพวกเราแล้ว ยังมีใครข้างนอก หรือใครอีกไหม ที่มาช่วยพวกเราอีกบ้าง

มีพี่ที่สถาบันวิจัยหริภุญชัย ช่วยให้คำปรึกษาและข้อมูลค่อนข้างเยอะเลย


ยูคิดว่าถ้าเราได้ไปลงพื้นที่ตามแผน มันจะดีกว่า ผลลัพธ์มันจะออกมาเป็นอย่างไร

โครงการมันน่าจะออกมาสมบูรณ์และดีกว่านี้ เพราะว่าเราจะได้ข้อมูลมาเพิ่มอีกเยอะเลย ถ้าได้ไป


แล้วคิดว่า ถ้าเป็นไปได้ อยากให้มีใครมาช่วยเพิ่มเติม หมายถึงว่าช่วยแนะนำให้ความรู้หรือสนับสนุนอะไรเพิ่มเติมไหม ถ้าเป็นไปได้ อยากให้มาช่วยเรื่องอะไรไหม

ถ้าเป็นไปได้มาช่วยเรื่องการถ่ายวีดิโอและการตัดต่อ


การถ่ายวีดิโอการตัดต่อเป็นอย่างไร มันยากเหรอ

มันไม่ยาก แต่ละคนไม่อยากทำ


มีตุ๊อยู่สี่คน คนบ้านสองคน ตุ๊ก็คงไม่ได้มานั่งตัดต่อใช่ไหม

ใช่ครับ แต่ที่ผ่านมาตุ๊ก็ตัดต่อครับ เพราะแกชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว แกตัดต่อบ้าง


แล้วยูไม่อยากทำบ้างเหรอ ตัดต่อถ่ายวีดิโอ

ผมก็อยากทำ แต่เราไม่มีข้อมูล


แต่การอบรมเขามีอบรมเรื่องการทำสื่อหรือเปล่า

มีครับ แต่ถ้าทำจริง ๆ คือพื้นฐาน


เราอยากได้เพิ่มเติม อยากจะทำให้ดีขึ้นกว่าที่ทำถูกไหม

จากที่เราไม่รู้อะไร ไปนู่นก็ได้รู้ว่าแอปไหนใช้ทำอะไร เป็นแค่ขั้นพื้นฐานที่สามารถทำได้


พี่เลี้ยงชื่ออะไรนะ

พี่เลี้ยงก็เป็นตุ๊ประชา หนานโละ นี่แหละครับ


เราได้ไปโรงเรียนบ้านแม่ขนาดหลวงหรือเปล่า ได้ไปไหม

ไปคืนข้อมูลครับ


ไปคืนข้อมูลตอนไหน

ช่วงนั้นเราแพลนให้มีการฝึกซ้อมเตหน่าในชมรม แต่ไม่มีใครมา ผมกับอ้ายแป่วเลยไปบ้านแม่ขนาดกันสองคน เพราะที่นี่มีกลุ่มเด็กเยาวชนที่อ้ายแป่วเคยทำโครงการอยู่ด้วย พาเต่หน่าไปด้วย ไปนำเสนอข้อมูลว่าเตหน่า มีลักษณะอย่างไร มีความเป็นมาอย่างไร มีความหมายว่าอะไร การเล่นจะเล่นอย่างไรถ้าจะฝึกเล่น


ยูทำหน้าที่อะไร

พูดอย่างเดียวเลย เป็นโจทย์ ๆ ไป พูดตามโจทย์


เราพูดหัวข้ออะไร

ผมพูดเกี่ยวกับตอนแรกน่าจะความเป็นมาของโครงการและจุดประสงค์ อย่างอื่นพี่แป่วพูดเลย


แล้วคนที่เหลือทำอะไร

ไปกันสองคน


โอเค มีอะไรที่ทำแล้วยังไม่ได้บอกพี่อีกไหม

ตอนนั้นเขาไปทำเตหน่า ผมไม่ได้ไป พี่เขาไป


เขาไปทำเตหน่าที่ไหน กับตุ๊ที่ไหน

ที่บ้านโฮ่ง วัดของตุ๊เลยครับ


ไปสอนทำเตหน่า สอนให้ใคร ใครเป็นกลุ่มเป้าหมาย

ไม่ได้สอนครับ ลองทำกันเฉย ๆ


มีใครไปบ้าง รู้ไหม

ตุ๊ประชา หนานโละ และก็แป่ว


แล้วได้ทำได้สำเร็จไหม

ไม่รู้ว่าสำเร็จหรือเปล่า


พอดีพี่ฟังไม่ชัด ที่ว่าเราทำรูปเล่มด้วย อยากรู้ว่าในรูปเล่มมันมีเรื่องอะไรบ้าง ที่เราเก็บรวบรวมข้อมูล

ในรูปเล่มมีความเป็นมาของเตหน่า ความหมายของเตหน่า แล้วสายหกสายมีความหมายอย่างไร สิบสองสายมีความหมายอย่างไร แล้วก็ยี่สิบสี่สายมีความหมายอย่างไร


หกสายมีความหมายอย่างไรนะ

ผมจำไม่ได้


ช่วงแรก ๆ ที่ยูบอกว่ายูเพิ่งรู้ว่ากะเหรี่ยงมีหลายเผ่าใช่ไหม ตอนเราออกมาข้างนอก

รู้มาบ้างแล้วครับ แต่ไม่คิดว่าจะแตกต่างกันมากขนาดนี้ อย่างภาษาก็ฟังกันไม่ค่อยรู้เรื่อง


แล้วตอนนั้นยูรู้หรือยัง ว่าตัวเองอยู่เผ่าไหน

ตอนนั้นผมรู้เป็นปกาเกอะญา แต่รอบ ๆ หมู่บ้านเป็นกะเหรี่ยงโปว์หมดเลย


ย้อนกลับไปได้นี่คิดว่าจะยังทำโครงการนี้ไหม

ถ้าย้อนกลับไปได้คือทำครับ แล้วจะตั้งใจทำให้มากกว่านี้ด้วยครับ


สมมติว่ารวบรวมสมาชิกใหม่ เรายังจะรวบรวมทีมที่เป็นตุ๊เจ้ากับคนบ้านแบบนี้ไหม ครั้งต่อไปเลือกสมาชิก เราอยากได้แบบไหน

น่าจะดึงน้องปีหนึ่งมาช่วย เพราะปีนี้ปีหนึ่งมาเรียนค่อนข้างเยอะ เรารู้จักเขาด้วย น่าจะดึงมาช่วยงานได้


จะเอาเป็นคนบ้านหมดเลยไหม หรือเอาตุ๊มาด้วย

คนบ้านหมดเลยครับ เหมือนเข้ากันได้ รู้จักกันสนิท ๆ กัน ก็เลยจะชวนมาทำ น่าจะเข้ามาร่วม แล้วก็ให้ความร่วมมือได้


มีคุณสมบัติไหม ถ้าเลือกต้องเลือกอย่างไร

คุณสมบัติไม่ดื้อ ฟังรุ่นพี่พอครับ


ยูเล่าให้ฟังหน่อยสิ ว่าชมรมของยูเป็นชมรมอะไรเหรอ แล้วรวมตัวกันทำอะไรบ้างก่อนหน้านี้

จากที่เขาเล่ากันนะ คือตอนแรกคนปกาเกอะญอที่มาเรียนที่นี่จะไม่รู้จักกัน จะไม่กล้าพูดกัน แต่มีรุ่นพี่ที่รู้สึกว่าคนกะเหรี่ยงด้วยกันน่าจะคุย ๆ กัน ก็เลยตั้งชมรมขึ้นมา ใครที่เป็นกะเหรี่ยงก็เข้ามาคุยกัน แล้วก็ชวนกันไปทำกิจกรรมบริจาคบ้าง หรือว่าช่วยงานบ้าง


แล้วยูเป็นสมาชิกชมรมมานานแค่ไหนแล้ว

ผมเป็นมาปีเดียวเอง


ได้ทำกิจกรรมอะไรของชมรมไหม นอกเหนือจากโครงการนี้

ไปบริจาคของกับตุ๊ประชา ไปครั้งเดียว


แล้วมีเพื่อน ๆ ปกาเกอะญอเข้ามาในชมรมเยอะไหม

ปีนี้ยังไม่ได้รับสมัคร ส่วนใหญ่จะเป็นตุ๊หมดเลย


พวกเราเจอกันบ่อยไหมในชมรม

ถ้าประชุมกันจะนัดเจอกันไม่บ่อยครับ แต่ถ้านัดเจอกันในมหาวิทยาลัยก็มีบ้างครับ เจอกันตอนเรียน เจอกันตอนกินข้าวแบบนี้ครับ


อย่างเวลาที่เราไปทำกิจกรรมอะไร เห็นบอกว่าจะไปกันแค่สองสามคน พอเราไปเวทีใหญ่ที่เป็นเวทีแอคทีฟรวม เราจะเห็นทีมอื่นที่เขาไปกันครบ แต่ว่าทีมเราไปกันแค่สองสามคน เรารู้สึกอย่างไรบ้าง ตอนนั้น

ตอนนั้นเราก็รู้สึกว่าทำไมเรามีกันแค่นี้ เราก็จะให้กำลังใจกันว่า เราต้องรอดสิ ๆ


ใครให้กำลังใจใครมากกว่ากัน

ส่วนมากพี่แป่วให้กำลังใจ ตอนแรกผมยังไม่กล้าขึ้นไปพูดเลยครับ


มีช่วงไหนไหมที่เรารู้สึกว่าไม่รอดแน่ ๆ เลย

น่าจะช่วงที่ปิดหมู่บ้าน ไม่ได้ลงพื้นที่เลยครับ เราไม่ได้ข้อมูลอะไรมาเลย ช่วงนั้นคิดว่าไม่รอดแน่


แล้วเราจัดการความคิดจัดการความกังวลอย่างไร

ผมก็คิดว่าเดี๋ยวมันจะผ่านไป ให้พี่แป่วกับหนานโละจัดการ


เชื่อใจพี่แป่วกับหนานโละเนอะ

เชื่อใจครับ โควิดด้วยกลับไปบ้านก็อยู่แต่บ้าน


อย่างในโครงการ ยูรับหน้าที่รับบทบาทเป็นอะไรนะ

เยาวชนครับ


มีโครงการอีกปีหน้าจะยังอยากทำอีกไหม

ต้องดูอีกทีว่ามีสมาชิกจะเต็มใจทำไหม ถ้าไม่เต็มใจทำก็จะเป็นปัญหาของเรา


ถ้าเอาเฉพาะตัวยูเลย เรามีทีมที่พร้อม เราอยากทำอะไร

ผมอยากศึกษาเรื่องการดำเนินชีวิตของปกาเกอะญอดั้งเดิม เพื่อเก็บไว้เรียนรู้ เผื่อช่วยเปลี่ยนแปลงคนอื่นได้ เพราะว่าปกาเกอะญอสมัยก่อนจะอยู่กับครอบครัวมากกว่าออกไปทำงาน เงินทองไม่ค่อยจำเป็น ปลูกผักปลูกพืชเลี้ยงหมูเลี้ยงไก่กิน อยู่กับครอบครัว แต่ตอนนี้วิถีชีวิตเปลี่ยนไป จะเรียนและทำงานอย่างเดียว คนในชุมชนห่างเหินกันไม่เหมือนแต่ก่อน

­