“กลุ่มเยาวชนฮักนะเชียงยืน” จังหวัดมหาสารคม ประกอบด้วยนาย ธีระวุฒิ ศรีมังคละ นางสาวศิริลักษณ์ สงคราม และอนุชา ฆ้องแก้ว นักเรียนมัธยมศึกษาชั้นปีที่ 5 โรงเรียนเชียงยืนพิทยาคม เพราะอยากแก้ปัญหามลพิษดิน
ปัญหาที่เราพบคือ ดินมีปัญหาเสื่อมโทรมจากการใช้สารเคมี เลยคิดแก้ปัญหาให้คนในชุมชน แต่เมื่อได้ลงพื้นที่สำรวจก็ยิ่งพบว่าพื้นที่ ที่ทำเกษตรสารเคมีถึงจะเป็นการเกษตรที่อันตราย แต่ปัญหาคือชาวบ้านไม่สามารถเลิกการทำการเกษตรแบบนี้ได้ เพราะเป็นอาชีพหลักที่ใช้สร้างรายได้ให้กับครอบครัว เราเลยเปลี่ยนจุดประสงค์ใหม่จากเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะเป็นการแก้ปัญหามลพิษใน ดิน มาเป็นการสร้างความตระหนักให้ชาวบ้านรู้จักป้องกันตัวในการใช้สารเคมีแทน
สำหรับกิจกรรมที่กลุ่มฮักนะเชียงยืนทำมี 3 กิจกรรมด้วยกันคือ 1.กิจกรรมเพื่อนบอกเพื่อน โดยเราจะสร้างเครือข่ายให้กับกลุ่มเยาวชนของเราเอง มีแกนนำหลักทั้งหมด 10 คน และสร้างเยาวชนเครือข่ายซึ่งเป็นนักเรียนในโรงเรียนเชียงยืนวัฒนาคมระดับ ชั้นมัธยมศึกษาอีก 78 คน และเครือข่ายในระดับประถมศึกษาในโรงเรียนบ้านแบกอีกส่วนหนึ่ง โดยกิจกรรมเพื่อนบอกเพื่อนนั้นจะเป็นการจัด “ค่ายเพื่อนบอกเพื่อน” ซึ่งในค่ายนี้จะเป็นการแนะนำคุณและโทษของสารเคมี ทำให้เยาวชนในเครือข่ายของรู้จักและตระหนักที่จะกลัวสารเคมี กิจกรรมที่ 2 คือ “ค่ายรักบ้านเกิด” ที่จัดให้กับเยาวชนในพื้นที่บ้านแบก เพื่อสร้างความตระหนักในลักษณะเดียวกัน แต่จะสอนวิธีการเก็บดินมาตรวจ โดยนำตัวอย่างดินในชุมชนที่เป็นปัญหามาตรวจที่สำนักงานพัฒนาที่ดินจังหวัด ขอนแก่น และนำผลที่ได้ไปเจ้าของที่ดินรับรู้เพื่อให้เขาตระหนักรู้ว่าดินของเขา เสื่อมโทรมลงมากน้อยเพียงใด โดยในวันสรุปโครงการได้มีการเรียนเชิญผู้ใหญ่บ้าน อบต. และพยาบาลวิชาชีพที่รับผิดชอบในตำบลนาทอง มาเปิดเวทีเสวนาร่วมกันเกี่ยวกับปัญหาในชุมชน ผลเสียที่เกิดขึ้น จนสรุปได้ว่าผลเสียมีสองด้านหลักๆ คือในการทำเกษตรที่ใช้สารเคมีจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ โดยมีพยาบาลที่เขารับผิดชอบร่วมยันว่าหากสารเคมีสะสมในระยะยาวจะส่งผลต่อ สุขภาพร่างกายอย่างไร และวิถีชีวิตของชาวบ้านจะเปลี่ยนไปอย่างไร
สำหรับกลุ่มเยาวชนที่ร่วมทำโครงการนี้หลักๆ จะมีอยู่ประมาณ 10 คน ขณะนี้พวกเรากำลังรับสมัครน้องๆ เพิ่ม ช่วงนี้เราเพิ่งจะสรุปโครงการเสร็จ มีการเปิดเวทีเสวนา แสดงละคร โดยพวกเราเขียนบทเองเพื่อสร้างความตระหนักให้ชาวบ้านได้รู้จักโทษของสารเคมี จากการทำเกษตร
“กิจกรรมทั้งสองค่ายคือที่จัดขึ้น เน้นไปที่กิจกรรมสันทนาการและ การให้ความรู้โดยวาดแผนภาพ ให้ดูวีดิโอ เพื่อให้เด็กที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิดความประทับใจ รักถิ่นฐานวัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อมของตัวเอง ทำให้เขาอยากจะรักษาสิ่งนี้ให้อยู่กับชุมชนของเขาต่อไป”
อย่างไรก็ตามเป้าหมายสูงสุดที่กลุ่มตั้งไว้คือ “ตลาดเขียว” อยากจะให้มีตลาดปลอดสารพิษขายกันเองในชุมชน อยากให้ชุมชนมีสิ่งที่จะเป็น “ทุน” ที่ปลอดสารพิษ ซึ่งตอนนี้ตลาดเขียวเป็นแค่ความฝัน พวกเรายังไปไม่ถึง ตอน นี้ทำได้แค่สร้างความตระหนักให้กับชาวบ้าน ปัญหาตอนนี้คือชาวบ้านยังตระหนักไม่พอถึงพิษภัยของสารเคมี เราพยายามทำให้ชาวบ้านมีความรู้ความเข้าใจ แต่สุดท้ายชาวบ้านจะคิดได้ไหมก็ขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคลว่าเขาจะมีความตระหนัก ในชีวิตของตัวเองมากน้อยแค่ไหน
สำหรับบทเรียนที่พวกเราได้รับจากการทำโครงการ นี้คือ การทำงานเป็นกลุ่ม แต่ก่อนไม่เชื่อว่าการทำงานเป็นกลุ่มจะทำให้พวกเราทำงานได้สำเร็จลุล่วง แต่พอหลังจากเข้ามาทำโครงการนี้ ได้มีการทำงานเป็นกลุ่มทำให้พวกเราต้องมีความสามัคคี มีความเชื่อใจกัน และให้เกียรติกันเท่านั้นถึงจะทำงานจึงสำเร็จลุล่วงได้
อย่างน้อยที่สุดโครงการนี้ได้สร้างเยาวชนให้มีจิตใจรักสิ่งแวดล้อม และมีเยาวชนที่กล้าที่จะก้าวลงมาทำในสิ่งๆนี้ ถ้าไม่มีโครงการดีๆ แบบนี้ก็จะไม่ทำให้พวกเราก้าวมาทำตรงนี้