"พลังเยาวชน พลังสังคม" ครั้งที่ 1 "ร่วมสร้างประเทศไทย...ด้วยการให้"
เยาวชนเป็นวัยที่มีพลังสร้างสรรค์ และมีศักยภาพ การเปิดพื้นที่ทางสังคมให้พวกเขาได้มีโอกาสเรียนรู้ ปฏิบัติ หรือสร้างสรรค์กิจกรรมตามถนัด จะเป็นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้มีความสามารถและแบ่ง ปันความรู้ให้กับผู้อื่นได้ ตลอดจนเป็นพลังทางสังคมที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต
มูลนิธิสยามกัมมาจล จับมือ 11 องค์กรพันธมิตร
จัดงาน “พลังเยาวชน พลังสังคม” ครั้งที่ 1 “ร่วมสร้างประเทศไทย...ด้วยการให้”
เครือข่ายเยาวชนทั่วประเทศร่วมแสดงพลังการให้ที่ยิ่งใหญ่ 9-11 ต.ค.นี้
เยาวชน เป็นวัยที่มีพลังสร้างสรรค์ และมีศักยภาพ การเปิดพื้นที่ทางสังคมให้พวกเขาได้มีโอกาสเรียนรู้ ปฏิบัติ หรือสร้างสรรค์กิจกรรมตามถนัด จะเป็นการพัฒนาศักยภาพของเยาวชนให้มีความสามารถและแบ่ง ปันความรู้ให้กับผู้อื่นได้ ตลอดจนเป็นพลังทางสังคมที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศชาติในอนาคต

เพื่อเป็นการ “เปิดพื้นที่ทางสังคม” ให้เยาวชนได้แสดงผลงานจากความคิดสร้างสรรค์ และการทำงานซึ่งจะทำให้เห็นถึงพลังด้านบวกในการพัฒนาตนเอง และสังคม มูลนิธิสยามกัมมาจล ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) จึงได้ผนึกกำลังร่วมกับเจ้าภาพร่วมทั้ง 11 องค์กร คือ มูลนิธิสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), กระทรวงพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์, ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย
(สกว.), สยามพารากอน, สยามเซ็นเตอร์, สยามดิสคัพเวอรี่, หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK park) และองค์กรภาคีเครือข่ายพัฒนาเยาวชน 88 องค์กร จัดงานมหกรรม “พลังเยาวชน พลังสังคม” ครั้งที่ 1
“ร่วมสร้างประเทศไทย...ด้วยการให้”
ระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2552 โดยคณะกรรมการจัดงาน ได้จัดงานแถลงข่าวขึ้นใน วันอังคารที่ 22 กันยายน เวลา 15.00 น. ณ ลานกิจกรรมเอเที่ยม สยามเซ็นเตอร์ ชั้น 1
การจัดงานครั้งนี้มี ผู้บริหารองค์กรเจ้าภาพร่วมจัด มาร่วมบอกกล่าวถึงความร่วมมือในการทำงาน หลายท่านด้วยกัน ได้แก่ ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช กรรมการธนาคาร และกรรมการกิจกรรมเพื่อสังคม ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) รองประธานกรรมการ มูลนิธิสยามกัมมาจล และผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร, เพ็ญพรรณ จิตตะเสนีย์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการเรียนรู้ และสุขภาวะองค์รวม สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), อุษณี กังวารจิตต์
ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริม และพิทักษ์เยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์, ศิริเพ็ญ อินทุภูติ ผู้บริหารสายการตลาดและประชาสัมพันธ์
สยามเซ็นเตอร์ สยามดิสคัฟเวอรี่ สยามพารากอน และ เอสคลับ คลับเยาวชนสยามเซ็นเตอร์, ทัศนัย วงศ์พิเศษกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานอุทยานการเรียนรู้
(TK PARK), ฉัตรวิชัย พรหมทัตตเวที ผู้อำนวยการ หอศิลปวัฒนธรรมแห่ง
กรุงเทพมหานคร และ รัชฏะ ศรีบุญรัตน์ ประธานสภาเด็กและเยาวชนแห่ง
ประเทศไทย
ศ.นพ.วิจารณ์ พานิช กล่าวว่า มูลนิธิฯ มีนโยบายหลักคือ “การต่อยอดพัฒนาเยาวชน” ภายใต้วิสัยทัศน์ “สร้างจิตอาสาในสังคมไทย ผ่านการพัฒนาเยาวชนและชุมชน” ด้วยเห็นความสำคัญของเยาวชนซึ่งเป็นวัยที่มีพลังสร้างสรรค์ที่จะเติบโตไป เป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต การจัดงานดังกล่าวจึงเหมือนเป็นต้นทางที่สร้างการรับรู้ เรียนรู้ การยอมรับของสังคม อันจะนำไปสู่การเกิดเครือข่ายการสนับสนุนการเรียนรู้ และเห็นคุณค่าของพลังเยาวชนของสังคมไทย ซึ่งความสำเร็จทั้งหลายที่จะเกิดขึ้นนั้นต้องมีการร่วมมือกันระหว่างองค์กร ต่างๆ เพื่อผลักดันให้เยาวชนได้พัฒนาตนเอง

“เราร่วมมือกันจัดงานนี้ขึ้นเป็นครั้งแรก เพื่อเปิดพื้นที่ทางสังคมให้เยาวชนได้แสดงผลงานที่เกิดจากความคิดสร้างสรรค์ และการทำงาน ทำให้สังคมไทยได้มองเห็น มิติพลังทางบวกของเยาวชน เห็นศักยภาพ หรือพลังทางบวกของพวกเขา จนเกิดแรงบันดาลใจที่จะสนับสนุนการเรียนรู้ความสำเร็จร่วมกันขององค์กรพัฒนา เยาวชนและกลุ่มเยาวชน เพื่อนำไปสู่การเกิดเครือข่ายการทำงานพัฒนาเด็กและเยาวชน ทั้งในระดับองค์กรและระดับกลุ่มเยาวชน และเด็กเหล่านี้จะนำศักยภาพที่มีอยู่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน และสังคมมากขึ้นต่อไป” ศ.นพ.วิจารณ์ กล่าว
เพ็ญพรรณ จิตตะเสนีย์ เผยถึงประเด็นหลักของการจัดงานในครั้งนี้ว่า เน้นในเรื่องพลังของการให้ คือ สิ่งที่เยาวชนมีให้ต่อคนอื่นและสังคม เพราะเราควรส่งเสริมให้เด็ก พัฒนาศักยภาพที่เกิดประโยชน์กับตัวเอง และคิดถึงประโยชน์ของผู้อื่นๆไปพร้อมๆ กัน เยาวชนที่มาร่วม งานมีหลายกลุ่ม ซึ่งสามารถมีส่วนในการให้ต่อสังคมได้ทั้งนั้น เช่น บางกลุ่มมีความถนัดด้านดนตรี ด้านละคร ก็ให้คำแนะนำน้องๆ ในสิ่งเหล่านี้ได้ กลุ่มที่เป็นอาสาสมัครก็อาจพาน้องๆ ไปทำกิจกรรมที่โรงพยาบาล เป็นต้น

“พลังของเยาวชน จะมีผลต่อสังคมในทางที่ดี เพราะเครือข่ายเยาวชนมีหลายกลุ่มที่อาจทำงานในเรื่องเดียวกัน แต่อยู่กันคนละที่คนละภาค การจัดงานนี้จึงเป็นเวทีให้พวกเขามาเจอกัน มาแลกเปลี่ยนความ สามารถ ซึ่งเราหวังว่าในอนาคตพวกเขาจะเป็นกลุ่ม เป็นองค์กรที่รวมตัวกันนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปทำประโยชน์ต่อสังคม ถ้าเราช่วยให้เด็กมีการพัฒนาทางบวก อย่างบางเรื่องที่เขาทำแต่ผู้ใหญ่มองว่าไร้สาระ เช่น เล่นดนตรี เล่นเกม หรือการเรียนรู้โดยไม่เข้าห้องเรียน อยากให้มองว่าไม่ใช่สิ่งผิด ไม่ได้ทำร้ายใคร เราจะสนับสนุนให้เขาใช้พลังตรงนี้ให้มีประโยชน์ต่อตนเองหรือคนอื่น การจัดงานครั้งนี้ก็จะเป็นการดึงพลังทางบวกของเยาวชนมาให้คนทั่ว ไปได้เห็น ซึ่ง สสส. จะให้การสนับสนุนเต็มที่สำหรับการสร้างศักยภาพของเด็กผ่านองค์กร โรงเรียน หรือหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนา” เพ็ญพรรณ กล่าว

นอกจากผู้ใหญ่ใจดีแล้ว งานนี้ยังมีเยาวชนคนเก่งมาร่วมด้วย รัชฏะ ศรีบุญรัตน์ ประธาน สภาเด็กฯ กล่าวว่า เป็นโอกาสดีที่ตัวแทนเยาวชนหลายร้อยเครือข่ายทั้งระดับอำเภอ ระดับจังหวัด จะได้ใช้กลไกของสภาเด็กฯ มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นหรือเรียนรู้ว่าจะนำพลังเยาวชนของเครือข่ายต่างๆ ไปรับใช้สังคมได้อย่างไร โดยสภาเด็กฯ จะทำหน้าที่พูดคุย ประสานงานกับเครือข่ายเยาวชนทั้งหลายเช่น กลุ่มที่ทำประเด็นต่างๆ กลุ่มอาสาสมัคร ที่มาร่วมกันสร้างแรงบันดาลใจเพื่อนำไปทำงาน โดยจะนำเสนอนโยบายเพื่อร่วมงานกับภาครัฐ หรือช่วยให้กลุ่มเครือข่ายได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้อง เพื่อจะได้ไปทำงานในพื้นที่ต่อไป

“สำหรับ ปัญหาสำคัญของเยาวชน ที่สภาเด็กฯ เห็นว่าผู้เกี่ยวข้องควรดูแลอย่างจริงจังคือ การหาโมเดลหรือไอดอล ที่เป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กและเยาวชน เพราะปัจจุบันเราไม่มีใครเป็นแบบอย่างที่ดีในสังคมเลย วัยรุ่นไทยหันไปหลงค่านิยมผิดๆ ในเรื่องความสวยความหล่อเป็นหลัก และไปเลียนแบบ เราจึงอยากปลูกฝังให้เยาวชนให้ความสนใจกับผู้ที่ทำประโยชน์ต่อส่วนรวม โดยเน้นไปที่วิธีคิด และต้องการทำให้เครือข่ายทั้งหลายเป็นองค์กรที่มีการเรียนรู้ร่วมกัน ผมคาดหวังสิ่งที่จะเกิดขึ้นจากงานนี้ อย่างแรกคือ เป็นพื้นที่ให้วัยรุ่นที่เป็นแกนนำเครือข่ายมาแลกเปลี่ยนความคิดว่าจะเชื่อม ต่อกันยังไง เพราะในสังคมมีหน่วยงานต่างๆ เยอะ แต่ไม่ค่อยได้เชื่อมต่อกัน เราจะมาช่วยกันคิดว่าจะทำงานร่วมกันได้ยังไง ข้อสองคือ เราจะได้มีโอกาสตะโกนดังๆ กลางใจเมืองว่า ยังมีเยาวชนที่ต้องการแสดงพลังในการทำประโยชน์ให้สังคมอยู่ตรงนี้” ประธานสภาเด็กฯ กล่าว
นอกจากนี้ ในงานแถลงข่าวฯ ยังมีกิจกรรมบางส่วนให้ชมเป็นการเรียกน้ำย่อยก่อนที่จะได้ไปชมกันเต็มๆ ในวันงานจริงอีกด้วย อาทิ การแสดงโนราห์เชิด โดย เจมส์ จตุรงค์ จันทระ, ร่วมพูดคุยกับตัวแทนเยาวชน ในหัวข้อ “เรามีพลัง...เราคือพลัง” โดย หม่อง ทองดี :
ไร้ สัญชาติ แต่ไม่ไร้พลัง, ศศิศ จิตรรังสรรค์ : นักดนตรีคลาสสิคมุ่งสู่ความเป็นเลิศ,นวรัตน์ แววพลอยงาม : ใช้ศิลปะพลิกฟื้นวิถีชุมชน, จตุรงค์ จันทระ : ใช้โนราห์พัฒนาชีวิต, ปีย์ชนิตว์ เกษสุวรรณ : นักวิทย์ คิดนอกกรอบ
, ศิริวัฒน์ ฤทธาภัย : พิทักษ์
สิ่งแวดล้อมมุมมองใหม่พีรพัทธ์ นันนารารัตน์ : สร้างเกมส์ อย่างสร้างสรรค์ ธีรวัฒน์ เพ็ญวิไลกุล ทีม iRAP_PRO : แชมป์หุ่นยนต์กู้ภัย

ในงานมหกรรม “พลังเยาวชน พลังสังคม” ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9-11 ต.ค.2552 มีกิจกรรมที่น่าสนใจเป็น 4 ส่วน คือ โซนนิทรรศการ นำเสนอเรื่องราวความสำเร็จของเยาวชนตัวอย่าง ที่แสดงให้เห็นถึงความสามารถ และพลังของเยาวชน ในด้านต่างๆ อาทิ ด้านวิชาการ ศิลปะ วัฒนธรรม ดนตรี กีฬา สิ่งแวดล้อม การมีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น รวมไปถึง
เยาวชนพิเศษ (ด้อยโอกาส/ พิการ) อีกทั้งมีการเปิด ตลาดนัดจิตอาสา เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้มาร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาง่ายๆ ที่ใช้เวลาไม่มากนัก อีกทั้งช็อปปิ้งโปรแกรมอาสาสมัครของ
หน่วยงานต่างๆ ที่รวบรวมมากว่า 50 กิจกรรม
ส่วนที่สอง คือ การเสวนาเพื่อ ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์งานด้านการพัฒนาศักยภาพเยาวชน อาทิ ยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนเรื่องเยาวชนกับป่า 2009,เล่นเกมอย่างเทพ ทางออกเด็กติดเกม , มอง พ.ร.บ.เด็ก แบบเด็กๆ ,เลี้ยงลูกอย่างไรให้มี (แวว) อัฉริยะ
เป็นต้น

ส่วนที่สามเป็น การแสดงหลากหลายรูปแบบความบันเทิงของเยาวชน อาทิ การแสดงดนตรีคลาสสิค ของวงนักดนตรีคลื่นลูกใหม่ 60 คน, การแสดงดนตรีของกลุ่มดนตรีโคตรอินดี้ และวรรณสิงค์ โชว์,การแสดงหมอลำ,ลิเกฮูลู,การฟ้อนเจิง และกลองสะบัดชัย ฯลฯ

ส่วนที่ 4 คือ กิจกรรมเวิร์คช็อป ซึ่งจัดสรรมาเพื่อให้เยาวชนสมัครเข้าร่วมพัฒนาทักษะด้านตามความชอบ อาทิ เทคนิคการวาดการ์ตูน,สร้างเกมเมกเกอร์ 7 และ 3 D,อ่าน เขียน เรียนรู้ชีวิต การทำหนังสั้น การเขียนบทละคร และดนตรีคลาสสิค และอีกมากมาย ซึ่งเยาวชน หรือผู้สนใจสามารถเข้าไปดูรายละเอียด และลงทะเบียนสมัครเข้าร่วมกิจกรรมล่วงหน้าได้ที่ www.okkid.net หรือ www.scbfoundation.com

ร่วมสัมผัส พลังแห่งการให้ ที่ยิ่งใหญ่ของเยาวชนจากทั่วประเทศ ได้งานมหกรรม “พลังเยาวชน พลังสังคม”
ครั้ง ที่ 1 “ร่วมสร้างประเทศไทย...ด้วยการให้” ระหว่างวันที่ 9-11 ตุลาคม 2552 ณ สยามดีสคัฟเวอรี่, สยามเซ็นเตอร์, หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร, สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (TK Park) และลาน Sky walk