เหตุอุทกภัยครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศไทยตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2554 มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบครอบคลุมหลายจังหวัด ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง จนลุกลามถึงกรุงเทพฯและปริมณฑล ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต และทรัพย์สินของประชาชนเป็นจำนวนมาก เหตุการณ์ภัยพิบัติในครั้งนี้ยังส่งผลต่อวิกฤติอาหาร น้ำดื่ม และพลังงานที่กระจายตัวไปยังจังหวัดใกล้เคียง ถึงแม้ว่าน้ำจะไม่ได้ท่วมก็ตาม ความช่วยเหลือที่เข้าไปคงไม่เพียงพอต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น

ทางมูลนิธิโกมลคีมทองซึ่งมีเครือข่ายเด็กค่ายอาสาในมหาวิทยาลัยต่างๆทั่ว ประเทศ และกลุ่มสลึง โครงการดนตรีพลังเพลง พลังปัญญา (Triple H Music)  ได้มีการจัดคอนเสิร์ตระดมทุนขึ้นในวันที่ 8-10 ตุลาคม 2554 ณ ลาน MBK Center โดยความช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้นอยู่ที่จังหวัดชัยนาท อยุธยา ลพบุรี สิงห์บุรี หลังจากนั้นสถานการณ์น้ำมีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ขยายผลมาสู่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จึงมีการขยายงานต่อเนื่องเพื่อบรรเทาภัยที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีการตั้งศูนย์ให้ความช่วยเหลือที่ หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ (สวนโมกข์ กรุงเทพฯ) ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2554 โดยใช้ชื่อว่า “ศูนย์คนรุ่นใหม่ใจอาสา เพื่อผู้ประสบภัย”  ชื่อภาษาอังกฤษ คือ Generation of Volunteer (GEN-V) ซึ่งมีเครือข่ายสนับสนุนการดำเนินงาน ได้แก่ ท่านพระอาจารย์ ว.วชิรเมธี (สถาบันวิมุตตยาลัย), หอจดหมายเหตุพุทธทาส อินทปัญโญ, มูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน (ประเทศไทย), เครือข่ายพุทธิกา, เครือข่ายตลาดสีเขียว, มูลนิธิสุขภาพไทย, สหทัยมูลนิธิ, มูลนิธิคุ้มครองเพื่อผู้บริโภค, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  (สสส.) กลุ่มบ้านน้ำเค็ม ธนาคารไทยพาณิชย์ และภาคีเครือข่ายต่างๆ ศูนย์คนรุ่นใหม่ใจอาสาเพื่อผู้ประสบภัย ได้มีการดำเนินภารกิจในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม  ซึ่งมีการเปิดรับบริจาคสิ่งของเครื่องใช้ เครื่องอุปโภค-บริโภค  จากผู้มีจิตศรัทธา  แล้วส่งต่อให้กับภาคีเครือข่ายที่ทำงานในพื้นที่ประสบภัย

หลังจากวันที่ 27 ตุลาคม 2554 สถานการณ์น้ำเริ่มเข้ามาในกรุงเทพฯ เพิ่มมากขึ้น จากที่ศูนย์พักพิงและช่วยเหลือผู้ประสบภัยธรรมศาสตร์ รังสิต ต้องอพยพผู้ประสบภัย และศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ดอนเมือง(ศปภ.)  เริ่มมีระดับน้ำท่วมสูงขึ้น จึงมีการประเมินสถานการณ์ว่า ศูนย์คนรุ่นใหม่ฯ  ที่ดำเนินการอยู่ที่สวนโมกข์ กรุงเทพฯนั้น เป็นพื้นที่เสี่ยง รวมถึงเริ่มเกิดภาวะการระดมเครื่องอุปโภคบริโภคได้ลดน้อยลงจากสถานการณ์น้ำ ท่วมที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น   จึงมีการพิจารณาอพยพย้ายศูนย์กลางการระดมของบริจาค ไปยังโรงเรียนศรัทธาสมุทร จังหวัดสมุทรสงคราม ภายใต้การประสานงานกับเครือข่ายภาคประชาชนในจังหวัดสมุทรสงคราม  และยังเล็งเห็นถึงช่องทางการระดมความช่วยเหลือและการคมนาคมที่สะดวกในการส่ง ต่อความช่วยเหลือไปยังพื้นที่ต่างๆ  นอกเหนือจากนี้ยังมีการประสานงานไปกับเครือข่ายเด็กค่ายสร้างสุข มูลนิธิโกมลคีมทอง ในแต่ละภูมิภาคเพื่อจัดตั้งศูนย์ระดมเครื่องอุปโภคบริโภคตามภูมิภาคต่างๆ เช่น ภาคใต้ จัดตั้งศูนย์ที่ม.หาดใหญ่, ภาคอีสานจัดตั้งศูนย์ที่จ.นครราชสีมา , ภาคเหนือจัดตั้งศูนย์ที่จ.เชียงใหม่ เป็นต้น 

เมื่อสถานการณ์น้ำเริ่มลดลง ทาง Gen-V ก็ยังเข้าไปช่วยเหลือและติดตามพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งแต่ละพื้นที่ก็ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมมิใช่น้อย ทั้งอาคารบ้านเรือน ข้าวของเครื่องใช้ สถานที่สำคัญ เช่น วัด โรงเรียน สถานีอนามัย สถานที่ต่างเหล่านี้จำเป็นต้องได้รับการฟื้นฟูโดยเร็ว ดังนั้น Gen-V จึงมีการนำเสนอโครงการเพื่อขอรับทุนสนับสนุนกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการ สร้างเสริมสุขภาพ(สสส.)และมูลนิธิสยามกัมมาจล  ในการทำงานในพื้นที่ต่อเนื่องในส่วนของการฟื้นฟูหลังน้ำลด เพื่อบรรเทาทุกข์ของชุมชนที่ได้รับผลกระทบ และคิดว่า “งานอาสาสมัคร” สามารถสร้างคนรุ่นใหม่ให้มีจิตอาสาและมีประสบการณ์ที่จะรับมือกับภัยพิบัติ ในอนาคต จากปรากฎการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ จะเห็นได้ว่า คนรุ่นใหม่ได้ลุกขึ้นมาเป็นอาสาสมัครอย่างล้มหลาม อาสาสมัครเหล่านี้อยากจะใช้เวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดจากหน้าที่การงานและการ เรียน เพื่อมาแบ่งเบาทุกข์ให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ด้งนั้น วิกฤตการณ์ในครั้งนี้ จึงเป็นโอกาสที่ดีที่จะสร้างคนเหล่านี้ เพื่อสร้างสำนึกที่ดีต่อสังคมและพัฒนาระบบงานในการจัดการภัยพิบัติให้มี ประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น