นายสุติ คงเผื่อน
ครู
ตำแหน่งที่ได้รับในโครงการต่างๆ
ประวัติและผลงาน

              ด้วยการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์นั้น  ผมคิดว่าเป็นเรื่องของการนำสิ่งที่มีอยู่รอบตัวเรา มาใช้ให้เกิดประโยชน์  และทุกคนมีความเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์ที่ไม่สามารถปฏิเสธได้  ผมโชคดีมาก ที่ได้อยู่ในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในชุมชนที่ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม  นักเรียนส่วนใหญ่ก็เป็นลูกชาวนา  ลืมตาขึ้นมาทุก ๆ เช้าก็สัมผัสกับกลิ่นท้องไร่ท้องนา  จึงเป็นสิ่งที่ง่ายสำหรับการพูดคุยกับนักเรียน ถึงการปลูกพืชผักเลี้ยงชีวิตประจำวัน


             วันหนึ่ง  ผมได้พานักเรียนเดินสำรวจรอบ ๆ  โรงเรียน  พบว่า  บริเวณใต้ต้นไม้มีการทับถมของใบไม้จนกลายเป็นปุ๋ยหมักที่ดี  ผมและนักเรียนได้ลองคุ้ยดูใต้กองใบไม้เหล่านั้น  ดินมีความร่วนชุ่มชื้นมาก  มีไส้เดือนอาศัยอยู่  จึงคิดในใจว่าถ้าเรานำไปปลูกต้นไม้คงงามมาก  และอีกอย่างก็คิดถึงแนวพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 
ถึงการดำเนินชีวิตแบบพอเพียง  เกิดความคิดว่าเราคงต้องเริ่มสอนให้นักเรียนรู้จักความพอเพียงด้วยการนำสิ่งที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์  และได้ประโยชน์จากสิ่งที่ทำ  และที่สำคัญต้องเสียค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด  หรือไม่เสียค่าใช้จ่ายเลย  จึงได้พูดคุยกับนักเรียนถึงการทำพืชผักสวนครัว  สำรวจว่าที่บ้านของนักเรียนมีพืชผักสวนครัวอะไรบ้าง  ช่วยกันนำมารวมกัน
เพื่อจัดทำสวนผักสวนครัว  ได้ออกแบบการเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียงโดยเน้นการปลูกพืชสมุนไพร  และให้นักเรียนทำโครงงานสำรวจพืชสมุนไพรรักษาสุขภาพและสิ่งแวดล้อม  จากนั้นให้นักเรียนนำเสนอโครงงานโดยให้นักเรียนพูดคุยถึงสมุนไพรต่างๆ ว่าที่บ้านนักเรียนมีอะไรบ้าง  และนำมาใช้อย่างไร  นักเรียนส่วนใหญ่บอกว่าพ่อแม่นำมาทำเป็นอาหาร  บางครั้งก็นำมากินรักษาโรค  ที่บ้านของนักเรียนมีการปลูกพืชสมุนไพร  แต่เป็นสมุนไพรในครัวเรือน  นักเรียนฝึกปฏิบัติปลูกพืชสมุนไพรที่โรงเรียน  ใช้ชื่อว่า  “สมุนไพรสร้างสุขภาพชีวิต  เศรษฐกิจพอเพียง”  โดยนักเรียนมีการศึกษาค้นคว้า  ชื่อสมุนไพร  สรรพคุณสมุนไพร  การนำไปใช้ ค้นพบค่าใช้จ่ายที่ลดลง(เปรียบเทียบค่าใช้จ่าย) โดยที่นักเรียนได้กินอาหารเป็นยา ปลอดภัยจากสารเคมี  ปลูกเอง  กินเองภายในครัวเรือน  ไม่ต้องซื้อพืชผักจากตลาด  เช่น  เมื่อก่อนซื้อตะไคร้  5  บาท  ปัจจุบันลดค่าใช้จ่ายลงไปไม่ต้องเสียเงิน 5 บาท ค้นพบความภูมิใจ  นักเรียนรู้สึกตื่นตาตื่นใจ  สมุนไพรบางชนิดนักเรียนไม่เคยเห็น พอได้มาปลูกร่วมกันก็ได้เห็น และรู้ถึงความมหัศจรรย์ของสมุนไพร  ที่พวกเขาไม่เคยคิดสมุนไพรจะมีประโยชน์อย่างมาก ค้นพบการพึ่งตนเองในครัวเรือน ที่ตนและผู้ปกครองละเลยไป โดยสมุนไพรที่มีอยู่ในบ้าน  แต่กลับมองข้ามไปไม่ได้ใส่ใจ  เช่น  ปวดท้องก็ไปหาหมอ  ทั้งๆที่ในบ้านก็มีขมิ้นซึ่งแก้ปวดท้องได้  จึงพึ่งตนเองด้วยสมุนไพร  ลดการไปหาหมอ


              นอกจากนี้ยังค้นพบรู้ประมาณตน  รู้จักการดูแลสุขภาพ  กินอาหารเป็นยา  ใช้สมุนไพรในบ้าน  ปลูกเอง รู้เหตุผลที่ใช้ตัดสินใจ  นักเรียนศึกษาและได้ปลูกพืชสมุนไพร  เรียนรู้สรรพคุณ  เมื่อพบว่าตนเองเจ็บป่วยหรือมีอาการผิดปกติก็สามารถรู้ได้ว่าใช้สมุนไพรชนิดใดรักษา  ตัดสินใจได้ถูกต้องตามสาเหตุของความผิดปกติของร่างกาย และในวันต่อมา  นักเรียนก็ช่วยกันทำสวนพืชผักสวนครัว  โดยใช้เวลาว่างแต่ละวัน  นักเรียนมีความสุขในการทำงานร่วมกัน  ระหว่างที่นักเรียนร่วมกันทำงาน  ได้สอดแทรกความรู้ให้นักเรียนได้เข้าใจถึงประโยชน์ที่ได้รับ  การนำไปใช้ในชีวิตประจำวัน  เช่น  ปุ๋ยที่ใช้ไม่ต้องซื้อ  พอพืชผัก เจริญเติบโต  มีผล  เราสามารถเก็บรับประทานได้  โดยไม่ต้องไปซื้อจากตลาด  เป็นการลดรายจ่ายให้กับครอบครัวของนักเรียน  ขอเพียงให้เรามีความขยัน  มีความอดทน  นักเรียนมีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบการจัดทำสวน  โดยใช้ไม้ไผ่ทำเป็นซุ้มให้พืชผักขึ้นไปสวยงาม  สอบถามนักเรียนแล้วว่าจะนำไปทำที่บ้านบ้าง  จะได้ไม่ต้องให้พ่อแม่ซื้อผักสวนครัว  ซึ่งสวนเล็ก  ๆ  ที่นักเรียนช่วยกันทำ  มีผักสวนครัวมากกว่า  10  ชนิด


              ผมมีโอกาสได้ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติมถึงประโยชน์ของพืชผักสวนครัว  จึงได้รู้ว่าพืชผักสวนครัวเป็นพืชสมุนไพรที่มีคุณประโยชน์อย่างมหาศาล  เป็นทั้งอาหารและเป็นยารักษาโรค  ในปัจจุบันจึงได้สอนให้นักเรียนได้รู้ถึงสรรพคุณของสมุนไพรไทย  ด้วยการจัดทำสวนสมุนไพรสร้างสุขภาพชีวิตเศรษฐกิจพอเพียง  อาจมีคำถามว่า  ทำไมจึงต้องเป็นสวนสมุนไพร  เหตุผลก็คือ  สมุนไพรที่นำมาปลูกนั้นสามารถนำมาเป็นอาหารได้  บำรุงสุขภาพ  และใช้เป็นยาสมุนไพรได้  เราใช้พื้นที่ไม่มากในการปลูกพืชสมุนไพรและพืชผักสวนครัว  แต่มีการแบ่งให้เป็นสัดส่วน ให้สวยงาม  เพียงเท่านี้เราก็ได้พืชผักสวนครัว  พืชสมุนไพรที่มีหลายชนิด  ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง “มีความสุข  มีความสามัคคี  มีความรับผิดชอบ  อยู่อย่างพอเพียง”