กันต์พิมุก ไชยกาอินทร์
แกนนำเยาวชน Active Citizen จ.น่าน
ประวัติและผลงาน

นายกันต์พิมุก ไชยกาอินทร์ (ข้าวโอ๊ต)

ปัจจุบัน : กำลังศึกษาอยู่ชั้นปีที่ 2 สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ คณะบริหารธุรกิจ สาขาการจัดการสินค้าสมัยใหม่ ­

ความโดดเด่น/ความสามารถพิเศษ : 

1. การเป็นประธานเครือข่ายเด็กและเยาวชนจังหวัดน่าน

2. การออกแบบกิจกรรมเพื่อพัฒนาเด็กและเยาวชน

3. การถอดบทเรียนการเรียนรู้

4. การสื่อสารเพื่อนำเสนอ


          ข้าวโอ๊ต กันต์พิมุก ไชยกาอินทร์ จบมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนศรีสวัสดิ์วิทยาคาร จังหวัดน่าน เป็นนักกิจกรรม เริ่มต้นจากการทำกิจกรรมธนาคารขยะในโรงเรียน จากนั้นขยายจากงานโรงเรียนสู่ชุมชนด้วยโครงการเกี่ยวกับมลพิษในน้ำ และจากชุมชนข้าวโอ๊ตร่วมทำเครือข่ายเด็กและเยาวชนจังหวัดน่าน เป็นการทำงานร่วมกับเพื่อนๆ ในจังหวัดน่าน ที่จะผนึกพลังสนับสนุน ให้คำปรึกษา ให้กำลังใจ เพื่อนเยาวชนที่ทำโครงการย่อยในชุมชน ทั่วทั้งจังหวัดน่าน ข้าวโอ๊ตยืนยันว่าที่ผ่านมา ที่ได้ทำงานรู้สึกสนุก รู้สึกดีและผลลัพธ์ของงานออกมาเป็นรูปธรรมทำให้ข้าวโอ๊ตรู้สึกภูมิใจ

          จากเดิมที่ทำโครงการย่อยในชุมชน ข้าวโอ๊ตเป็นตัวแทนของกลุ่มเข้าร่วมโครงการเครือข่ายเด็กและเยาวชนจังหวัดน่าน เขาเห็นโอกาสในการพัฒนาตัวเอง เขาได้พัฒนาภาวะผู้นำ ทักษะการพูด ทักษะการคิดวิเคราะห์ วางแผน การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และสัมพันธภาพเชิงบวกกับเพื่อนๆ การพัฒนาตัวเองของข้าวโอ๊ต ส่งผลต่อการเรียนในห้องเรียน เขากล้าแสดงออก เสนอตัวเป็นตัวแทนในการนำเสนองาน สามารถจับใจความสำคัญเพื่อสื่อสาร เห็นภาพรวมการนำเสนอ เพราะได้ทำความเข้าใจหัวข้อ สามารถอธิบายเพิ่มเติมตามความเข้าใจ ไม่ใช่ท่องบทเพื่อการสื่อสาร สามารถประเมินสถานการณ์ล่วงหน้า เพื่อวางแผนการแก้ไข ในภาวะที่มีความเสี่ยง เพื่อทำให้งานเป็นไปตามผลลัพธ์

          ข้าวโอ๊ตไม่หยุดพัฒนาตัวเอง สังเกตการณ์ทำงานของคนรอบข้าง ดูว่าใครใช้เครื่องมืออะไร และนำมาฝึกฝนพัฒนาตนเอง เช่นในงาน IT ข้าวโอ๊ตจะดูว่ามีโปรแกรมอะไรใหม่ๆ ที่สามารถมาสนับสนุนการทำงานให้สะดวกขึ้น เขาจะเรียนรู้เพื่อนำมาใช้

         ช่วงแรกข้าวโอ๊ตเป็นเพียงสมาชิกของกลุ่มแต่ประธานกลุ่มลาออกเนื่องจากเหตุผลส่วนตัว ข้าวโอ๊ตจึงได้รับการโหวตจากเพื่อนๆ ให้มารับตำแหน่งประธานเครือข่ายเด็กและเยาวชน เขารู้ดีว่า การรับตำแหน่งในช่วงมัธยมศึกษาปีที่ 6 เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ต้องแบ่งเวลาอ่านหนังสือ ทำการบ้าน ทำงานโรงเรียน เขารู้สึกท้าทายมาก ในช่วงแรกที่รับตำแหน่ง เขาไม่รู้ว่าจะทำตัวอย่างไร แต่เขาคิดว่าหัวหน้าไม่ใช่คนค่อยสั่งใครต่อใครแน่นอน จึงทำตัวปกติ เป็นเพื่อนที่ดี รับฟัง และรับผิดชอบต่องานที่ทำ

          ข้าวโอ๊ตประทับใจในพลังเครือข่าย การทำงานกับเพื่อนทำให้เขาพบว่าการให้ไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อได้ร่วมกันพัฒนา ช่วยเหลือลงแรงทุกครั้ง จะได้เพื่อนและเครือข่ายเพิ่ม เมื่อไปลงอีกชุมชน เพื่อนใหม่ก็จะไปร่วมด้วยช่วยกัน เพราะเขาเห็นว่าการไปสนับสนุนกันได้ทั้งงานที่เป็นรูปธรรม ได้มิตรภาพ และได้เครือข่ายต่อยอด ทำร่วมกันดีกว่าทำคนเดียว

          บทบาทผู้นำของข้าวโอ๊ต ด้วยความที่ทำงานเครือข่ายเพื่อนสมาชิกจึงอยู่ต่างอำเภอ นัดหมายกันยาก เขาพยายามหาวันที่คนจำนวนมากมาได้ จากนั้นจะบันทึกให้คนที่ไม่มาอ่าน หรือใช้วิดีโอคอลในการประชุม ข้าวโอ๊ตบอกว่าเพื่อนๆ รู้สึกดีที่ได้ติดตามข่าวสารทัน และรู้สึกไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง หลายครั้งที่เพื่อนวัยรุ่นสื่อสารกันไม่เข้าใจ ข้าวโอ๊ตจะทำหน้าที่ประสานความสัมพันธ์ โดยรับฟังทีละคน มองหาว่าเกิดอะไรขึ้นและให้ทุกคนใจเย็นเพื่อมองไปที่เป้าหมายของงาน

          เคยมีบ้างที่ข้าวโอ๊ตเหนื่อย ท้อ โทษตัวเองว่าทำไม่ดีพอ อยากจะเลิกจากสิ่งที่ทำ แต่เมื่อมองหน้าที่ ความรับผิดชอบ และหันไปมองเพื่อน ๆ เขาพบว่า “เวลาที่ผมท้อ สิ่งแรกที่ขึ้นมาในสมองของผมก็คือเพื่อน ที่เขายังทำโครงการอยู่ เขายังอยู่ตรงนั้น คนอื่นเขาก็ท้อแต่เขาไปต่อได้ แล้วทำไมเราถึงไปต่อไม่ได้ และถ้าเราทิ้งเขาไป เขาจะไปต่ออย่างไร” ความเป็นเพื่อนในเครือข่ายหล่อหลอมให้ข้าวโอ๊ตมีพลังและอำนาจภายในที่ผลักให้เขาก้าวข้ามเวลาที่ยากๆ ของตัวเอง

           ปีนี้ข้าวโอ๊ต กำลังไปศึกษาต่อที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ เขาใฝ่ฝันอยากเป็นนักบริหารธุรกิจ มีแบรนด์ของตัวเอง เขาอยากเป็นผู้บริหารที่ดี และทำให้คนในทีมมีรายได้เพิ่มขึ้น มีความสุขในการทำงาน ข้าวโอ๊ตคิดว่าเมื่อคนทำงานกับเขามีความสุข เขาก็จะมีความสุขไปด้วย