­

ประวัติความเป็นมา

มูลนิธิกองทุนการศึกษาเพื่อ การพัฒนา (EDF) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ.2530 โดยมีพันธกิจในการแก้ไขปัญหาความยากจน การพัฒนาการศึกษา และการส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประเทศ โดยได้ดำเนินจดทะเทียนอย่างถูกต้องตามกฎหมายแห่งราชอานาจักรไทยเป็นองค์กร สาธารณกุศลลำดับที่ 255 มีวัตถุประสงค์เพื่อดำเนินงานจัดสรรทุนการศึกษาและดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพ ชีวิต ให้แก่เด็กนักเรียนด้อยโอกาสและโรงเรียนในพื้นที่ห่างไกลของภาคตะวันออก เฉียงเหนือ
ปัจจุบัน EDF มีโรงเรียนที่อยู่ภายใต้โครงการทุนการศึกษาทั้งสิ้น 3,600 โรงเรียน ใน 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีเด็กนักเรียนยากจนได้รับทุนการศึกษาต่อเนื่องในระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ไปแล้วทั้งสิ้นมากกว่า 200,000 คน

­

วิสัยทัศน์

ช่วยเหลือเด็กและเยาวชนผู้ ด้อยโอกาสให้สามารถได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างโอกาสในการพัฒนาศักยภาพของเด็กและเยาวชนให้สูงที่สุดและกลับมา พัฒนาถิ่นฐานบ้านเกิดของตนเอง

­

พันธกิจ

• แก้ไขปัญหาความยากจน
• พัฒนาการศึกษา
• ส่งเสริมความเข้าใจระหว่างประเทศ เพื่อการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนด้อยโอกาส

­

วัตถุประสงค์การดำเนินงาน

• เพื่อ ช่วยเหลือเยาวชนที่สำเร็จการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 3 และต้องการศึกษาต่อในระดับชั้นสูงขึ้น แต่ครอบครัวไม่สามารถที่จะสนับสนุนให้เรียนต่อได้ ด้วยสาเหตุความยากจน โดยไม่เน้นเรื่องการมีผลการเรียนดี
• ส่งเสริมให้เยาวชนได้พัฒนาความเชื่อมั่นและความสามารถของตนเอง เพื่อช่วยเหลือครอบครัวและชุมชนของตนเองต่อไปได้ตามความเหมาะสม
• ส่งเสริมให้เยาวชนเกิดความรัก ความสนใจ และความรู้ในการใช้ทรัพยากรต่างๆ ที่มีอยู่เพื่อพัฒนาท้องถิ่นของตนต่อไป
• EDF เป็นองค์กรสาธารณกุศลไม่แสวงหาผลกำไร และไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง

­

ผู้บริหารองค์กร

• พันเอกสมคิด ศรีสังคม ประธานกรรมการมูลนิธิฯ
• คุณเทรุมะสะ อาคิโอะรองประธานกรรมการมูลนิธิฯ
• คุณอุดร ตันติสุนทร กรรมการ
• คุณชาติชาย เย็นบำรุง กรรมการ
• คุณศักดา ศรีสังคม กรรมการ
• คุณนาถฤดี นาครวาจา์ กรรมการและเลขานุการ
• คุณพูนสิน ศรีสังคม กรรมการและเหรัญญิก
• คุณสรรเพชร นิลรัตน์ กรรมการผู้จัดการ

­

รูปแบบการบริหารจัดการ

มูลนิธิ กองทุนเพื่อการศึกษา มีโครงสร้างองค์กรคือ กรรมการผู้จัดการ เป็นผู้บริหารสูงสุดของมูลนิธิฯ และมีทีมงานบริหาร 3 ฝ่าย คือ ฝ่ายระดมทุนการศึกษา ฝ่ายประสานงานโครงการ และฝ่ายบริหาร มีหน้าที่กำหนดวัตถุประสงค์ นโยบาย และแผนการดำเนินงานของมูลนิธิฯ โดยให้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินงานของมูลนิธิฯ แก่คณะกรรมการมูลนิธิฯ สำหรับการให้ทุนการศึกษานั้นจะเป็นการทำงานระหว่าง EDF กับโรงเรียน โดยมีคณะกรรมการกองทุนการศึกษา ซึ่งสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ทั้ง 59 เขต ใน 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือร่วมพิจารณาด้วย

­

เงื่อนไขความสำเร็จขององค์กร

• สามารถ สร้างโอกาสทางการศึกษาให้เด็กยากจนในพื้นที่ชนบทห่างไกลของ 19 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศมากกว่า 200,000 ทุน ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายกว่า 3,600 โรงเรียน
• จัดกิจกรรมอื่นๆ เพื่อให้ผู้สนับสนุนทุนสามารถ มอบของขวัญ (สิ่งจำเป็นในการศึกษาและดำเนินชีวิตของเด็กด้อยโอกาส)
• ช่วยให้เด็กด้อยโอกาสในสังคมมีความเท่าเทียมกันในด้านการศึกษา สามารถพัฒนาตนเอง และครอบครัวให้มีชีวิตที่ดีขึ้นได้
• ได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างดีจากหลายๆ หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชน ทั้งในและต่างประเทศ
• ช่วยแบ่งเบาภาระของภาครัฐในการสนับสนุนทุนการศึกษาของเด็กยากจน
• เป็นส่วนหนึ่งในการผลักดันให้คนในสังคมเกิดความเท่าเทียมกัน อย่างน้อยที่สุดในด้านการศึกษา
• มี ความคิดสร้างสรรค์ในการนำเสนอโครงการรูปแบบใหม่ๆ นำเสนอผู้สนับสนุนทุน และความหลากหลายของโครงการทำให้มูลนิธิฯ สามารถสร้างแรงจูงใจและความร่วมมือในการสนับสนุนทุน โดยเฉพาะจากบริษัทขนาดใหญ่
• บุคลากร ในมูลนิธิฯ มีความรู้ความเชี่ยวชาญในด้าน CSR ทำให้การคิดโครงการใหม่ๆ สามารถตอบสนองต่อนโยบาย CSR ของธุรกิจเอกชน ที่สำคัญยังบรรลุเป้าหมายสูงสุด คือ “การช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทางการศึกษา”
• บุคลากรมีเป้าหมายเดียวกันและเป็นเป้าหมายที่ชัดเจนในการช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาส
• ทุกๆ ฝ่ายในองค์กรมีส่วนในการช่วยคิดโครงการใหม่ๆ เพื่อเสนอต่อแหล่งทุน
• บุคลากรในองค์กรดำเนินงานด้วยใจมากกว่าการหวังผลตอบแทน
• ทุกๆ โครงการที่มูลนิธิฯ ดำเนินงาน ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เน้นผลลัพธ์ที่สามารถทำได้จริง และมีกิจกรรมต่อเนื่องในการสานความสัมพันธ์ระหว่างเด็กและเยาวชนที่ได้รับ ทุนกับผู้สนับสนุนทุนทุกๆ ประเภท (ทั้งรายบุคคลและองค์กร)
• มีการสำรวจข้อมูลเบื้องต้นของผู้ที่จะรับทุน โดยการลงพื้นที่จริง และมีกระบวนการติดตามประเมินผลโครงการเป็นระยะๆ
• มีผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิฯที่เป็นชาวต่างชาติ (ญี่ปุ่น) ทำให้สามารถระดมทุนได้ทั้งภายในและนอกประเทศ
• มีช่องทางหลากหลายให้ผู้ที่มีจิตเมตตาได้ร่วมงานกับมูลนิธิฯ
• เป้า หมายขององค์กรคือการสร้างสรรค์สิ่งดีๆ ให้กับสังคม ทำให้บุคลากรในองค์กรเกิดความภาคภูมิใจในผลงานกันเกิดจากการทำงานของตนเอง เป็นแรงผลักดันให้มุ่งมั่นในการทำงานเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร
• ได้ รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากหลายๆ หน่วยงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาภาคตะวันออกเฉียงเหนือในการ ลงพื้นที่สำรวจข้อมูลเด็กและเยาวชนผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา
• บุคลากร ส่วนใหญ่ มีอายุการทำงานหลายปีตั้งแต่ 7-20 ปี เกิดการสั่งสมองค์ความรู้ในการทำงาน เฉพาะด้าน และเป็นความเชี่ยวชาญอันสำคัญขององค์กร
• เน้น การทำโครงการให้ทุนที่ยั่งยืน เช่น เมื่อมีการให้ทุนเด็กและเยาวชนไปแล้วจะไม่ถือว่าจบสิ้นหน้าที่ของมูลนิธิฯ หากแต่ยังติดตามเด็กต่อไป ไม่ทอดทิ้ง พยายามหาโครงการอื่นๆ ที่จะช่วยเหลือเด็กด้านอื่นๆ ต่อไป เช่นโครงการของขวัญ (ชุดนักเรียน เครื่องเขียน) ที่ผู้สนับสนุนทุนสามารถมอบให้อีกปีละ 2 ครั้ง

­

องค์ความรู้จากการดำเนินงาน

• องค์ความรู้ด้านCSR
• การประชาสัมพันธ์โครงการ
• การประสานงานกับแหล่งทุนทั้งในและต่างประเทศ
• การค้นหาเด็กผู้ด้อยโอกาส
• การติดตามประเมินผลโครงการ
• การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างผู้รับทุนกับผู้สนับสนุนทุน