มูลนิอันดามัน
จัดตั้ง: 8 พ.ย. 2558
ข้อมูลองค์กร

­

ประวัติความเป็นมา

• ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ เวลา ๐๗.๕๙ น. เกิดแผ่นดินไหวในพื้นมหาสมุทรอินเดีย นอกฝั่งตะวันตกเกาะสุมาตรา ความรุนแรง ๙.๓ ริกเตอร์ คลื่นยักษ์ใช้เวลาเดินทางจากจุดที่เกิดแผ่นดินไหวถึงจังหวัดภูเก็ต ๑๑๒ นาที และทยอยเข้าถึงทั้ง ๖ จังหวัดอันดามัน ไปถึงสตูลที่สุดท้ายด้วยเวลา ๒๖๖ นาที

• พื้นที่ประสบภัยพิบัติอยู่ใน ๖ จังหวัด รวม ๒๔ อำเภอ / กิ่งอำเภอ ๗๘ ตำบล ๒๙๒ หมู่บ้าน จังหวัดพังงาประสบภัยรุนแรงที่สุด รวมเสียหาย ๕๔,๖๗๒ คน ๑๒,๐๖๘ ครอบครัว บ้านเสียหาย ๖,๗๙๙ หลัง พื้นที่การเกษตร ๒,๓๘๙ ไร่ เรือประมงขนาดใหญ่ ๑,๒๒๒ ลำ เรือประมงขนาดเล็ก ๓,๔๒๖ ลำ เรือท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ๒๔๑ ลำ เรือท่องเที่ยวขนาดเล็ก ๓๑๓ ลำ

• วันที่ ๒๖ – ๒๗ ธันวาคม ๔๗ องค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ ภาคประชาสังคม และเพื่อนมิตรส่วนกลาง ส่งคนลงไปประจำชุมชน เริ่มต้นการรวมคน ตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว

• ๒๘ ธันวาคม ๔๗ คณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนภาคใต้ สถาบันพัฒนาองค์กรชุมชนสำนักงานปฎิบัติการ
ภาคใต้ โครงการพัฒนาชุมชนเป็นสุขที่ภาคใต้ สมาพันธ์ชาวประมงพื้นบ้านภาคใต้ กลุ่มเพื่อนอันดามัน โครงการวิจัย
เชิง ปฎิบัติการชีวิตสาธารณะ ท้องถิ่นน่าอยู่ที่ภาคใต้ รวม ๖ องค์กรร่วมจัดตั้ง เครือข่ายความร่วมมือฟื้นฟูชุมชนชายฝั่งอันดามัน (Save Andaman Network : SAN ) ขึ้นเป็นองค์กรรวมพลังฟื้นฟูกอบกู้ชุมชน โดยการหนุนเสริมและเป็นองค์กรร่มของมูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และเพื่อนมิตรจากทั่วประเทศ เช่น เครือซิเมนต์ไทย กองทุนไทยพาณิชย์เพื่อผู้ประสบภัย ซึ่งได้
ดำเนินงานร่วมกันต่อเนื่องถึงปัจจุบัน

• หลังจากก่อตั้งได้หนึ่งเดือนได้มีการจัดวางระบบองค์กร ระบบการปฎิบัติงาน และระบบการเงินบัญชี โดยความช่วยเหลือจากอาสาสมัครภาคธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์ภัทรจำกัด (มหาชน) และ Ernst & Young Services limited

• ในด้านกฎหมายและสิทธิชุมชน SAN ได้ร่วมกับสภาทนายความ มูลนิธิชุมชนไท ศูนย์กฎหมายมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
เครือข่ายสลัมสี่ภาค จัดตั้ง ศูนย์กฎหมายและสิทธิชุมชนอันดามัน เป็นองค์กรประสานงานกลางเพื่อดำเนินการช่วยเหลือด้านสิทธิและกฎหมาย

• เดือนมีนาคม ๒๕๕๒ เครือข่ายความร่วมมือฟื้นฟูชุมชนชายฝั่งอันดามัน ได้จัดตั้งเป็น มูลนิธิอันดามัน

­

­

วิสัยทัศน์

แนวคิด การฟื้นฟูชุมชนโดยการริเริ่ม คิด วางแผน และดำเนินการพัฒนาโดยชุมชน และเป็นไปเพื่อพัฒนาความสามารถของชุมชนในการปกครองตนเองและจัดการกับอนาคต ของชุมชนได้

กระบวนการ มุ่งเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน หนุนช่วยการจัดตั้งกลุ่มองค์กรชุมชน และเสริมศักยภาพให้สามารถเป็นหลักในการพัฒนาชุมชน และนำปัญหาต่างๆที่มีอยู่ในชุมชนมาสู่การแก้ไขอย่างเป็นระบบ ทั้งนี้โดยให้ความสำคัญกับการนำหลักการทางศาสนา และวัฒนธรรมท้องถิ่นมาเป็นหลักในการดำเนินการ

จุดมุ่งหมาย การพัฒนาที่ยั่งยืน คือ ชุมชนมีความเข้มแข็ง มีความเป็นประชาธิปไตย และธรรมาภิบาล มีกองทุน และกลุ่มธุรกิจที่ชุมชนบริหารเองเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ และการสร้างวินัยทางการเงิน ชุมชนมีการดูแลรักษาและใช้ประโยชน์ทะเลและทรัพยากรชายฝั่งอย่างยั่งยืน



พันธกิจ

ผลการดำเนินงานฟื้นฟูชุมชนที่ผ่านมา

• คลื่นสึนามิ ณ ชายฝั่งอันดามัน 26 ธันวาคม 2551 ชุมชน 418 ชุมชนประสบภัย ระดับเสียหายรุนแรงจำนวน 47 ชุมชน เสียหายบางส่วนจำนวน 360 ชุมชน และไม่ได้รับความเสียหาย 11 ชุมชน

• SAN ร่วมกับผู้สนับสนุนและองค์กรภาคีความร่วมมือ ดำเนินการฟื้นฟูชุมชนชายฝั่งจำนวน 121 ชุมชน เป็นชุมชนที่ได้รับความเสียหายรุนแรงจำนวน 22 ชุมชน ได้รับความเสียหายเฉพาะเรือและบ้านเรือนบางส่วน 99 ชุมชน โดยจัดตั้งอู่ซ่อมสร้างเรือชุมชนจำนวน 36 อู่ ดำเนินการซ่อมสร้างเรือประมงพื้นบ้าน จำนวน 1,570 ลำ สนับสนุนการจัดหาเครื่องมือประมงทดแทนที่เสียหายจำนวน 1,650 ราย เครื่องยนต์เรือ 541 ราย ซ่อมสร้างบ้านจำนวน 377 หลัง

• ด้านการพัฒนาอาชีพและกลุ่มเศรษฐกิจชุมชน ได้เกื้อหนุน การพัฒนากลุ่มเศรษฐกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ประกอบด้วยการสนับสนุนและพัฒนาระบบการบริหารจัดการกลุ่มกองทุนหมุนเวียน ชุมชน 23 กลุ่ม ใน 23 ชุมชน
มีสมาชิกรวม 975 คน กลุ่มออมทรัพย์ 20 กลุ่ม สมาชิก 1,405 คน กลุ่มอาชีพ 22 กลุ่ม สมาชิก 689 คน แพปลาชุมชน 5 แพ สมาชิก 76 คน ซึ่งเป็นแหล่งรับซื้อขายสัตว์น้ำที่เป็นธรรม

• ด้านการจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ดำเนินการสนับสนุน ๕๓ ชุมชน จัดการระบบนิเวศน์ทะเลร่วม ๑๑ เขตนิเวศน์ คลอบคลุมป่าชายเลน หญ้าทะเล ปะการัง และการกำหนกฎชุมชนในการทำการประมงทะเลอย่างยั่งยืน ในจังหวัดสตูล ตรัง กระบี่ พังงา ภูเก็ต

• ด้านกฎหมายและสิทธิชุมชน ได้เกื้อหนุนชุมชนผู้ประสบภัยให้สามารถอยู่อาศัยในที่ดินเดิมได้ในทุกชุมชน ที่เอกชนและรัฐใช้โอกาสสึนามิทำลายบ้านขับไล่ชุมชนออกจากที่ดินทำกินเดิม รวม ๖ ชุมชน และปลูกสร้างบ้านใหม่ที่ได้รับความเสียหายครบ
ทุกหลังรวม ๑๐๙ หลัง

• เจรจากับรัฐจัดหาที่ดินใหม่ให้กับชุมชนซึ่งประสงค์จะย้ายจากชายฝั่งที่เสี่ยงภัยจำนวน ๒ ชุมชน และช่วยสร้างบ้านใหม่จำนวน ๑๑๓ หลัง

• ให้ความช่วยเหลือด้านกฎหมายและการดำเนินคดีในศาล 25 พื้นที่ 28ชุมชน เป็นคดีความที่สิ้นสุดแล้วในปี ๕๐-๕๑ จำนวน 217 คดี โดยมีการเจรจากับเอกชนคู่กรณีตกลงจัดสรรที่ดินอยู่ร่วมกัน ปัจจุบันมีคดีที่อยู่ในระหว่างการดำเนินคดีในชั้นศาล จำนวน 335 คดี หรือ 420 ราย และอยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ 6 คดดำเนินการฟ้องต่อศาลปกครองนครศรีธรรมราช 2 คดีใน 2 ชุมชน เป็นการอุทธรณ์คำสั่งของเจ้าพนักงานของรัฐ และกรณีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบด้วยกฎหมาย

­

งบประมาณการดำเนินงานฟื้นฟูชุมชนจากปี ๒๕๔๘ ถึง ปัจจุบัน ใช้งบประมาณรวม ๑๗๐ ล้านบาทโดยมีองค์กรหลักประกอบด้วย มูลนิธิเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เครือซิเมนต์ไทย สภาธุรกิจตลาดทุนไทยและสมาคมตลาดหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร องค์การไดเร็ครีลีฟ อเมริกา องค์การออคเฟมประเทศเบลเยียมและอังกฤษ องค์การเอคชั่นเอด กองทุนไทยพาณิชย์เพื่อผู้ประสบภัย


การดำเนินงานในปัจจุบัน

กลุ่มเป้าหมาย


จังหวัดสตูล ๑๒ หมู่บ้าน
จังหวัดตรัง ๒๑ หมู่บ้าน
จังหวัดกระบี่ ๖ หมู่บ้าน
จังหวัดภูเก็ต ๘ หมู่บ้าน
จังหวัดพังงา ๘ หมู่บ้าน


รวม ๕๖ หมู่บ้าน ประกอบด้าน ๘ แผนงาน

1. แผนงานอบรมและศึกษาดูงานแนวคิดการพัฒนา
2. แผนงานศึกษา พัฒนาระบบบัญชีธุรกิจชุมชนและจัดทำคู่มือบัญชีการเงินชุมชน
3. แผนงานพัฒนาระบบบริหารจัดการกลุ่มเศรษฐกิจชุมชน
4. แผนงานศึกษาระบบตลาดสัตว์น้ำ ดำเนินการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบที่จังหวัดสตูล
5. แผนงานศึกษาผลิตภัณฑ์ชุมชน การพัฒนาระบบแปรรูปสัตว์น้ำ
6. สนับสนุนการจัดตั้งกลุ่มธุรกิจชุมชน
7.แผนงานเชื่อมประสานการพัฒนาระบบบัญชีการเงินและธนาคารชุมชน
8. การสนับสนุนทุนชุมชนที่ต้องการทุนดำเนินธุรกิจเพิ่มเติมในรูปการร่วมทุน
9. การเตรียมความพร้อมเผชิยภัยธรรมชาติ
10.การสนับสนุนกระบวนการเรียนรู้ การจัดตั้งกลุ่ม และกิจกรรมทางสังคมของกลุ่มเด็กและเยาวชน


ทำงานและระบบทีมงาน

มูลนิธิอันดามัน มีผู้ปฎิบัติงานรวม ๒๓ คน แบ่งเป็นทีมย่อย ๗ ทีม ประกอบด้วย

1. สำนักงานกลาง รวม ๔ คน
2. ทีมพื้นที่จังหวัดตรัง ๗ คน
3. ทีมพื้นที่จังหวัดกระบี่ คนทำงานชุมชน ๒ คน
4. จังหวัดภูเก็ต-พังงา ๓ คน
5. จังหวัดสตูล ๕ คน
6. ทีมพัฒนาระบบเตือนภัยและการเตรียมความพร้อม ๒ คน
7. ทีมศูนย์กฎหมายทนายอาสาสมัคร ๑ คน